เอี๊ยด…ครืด..
กลิ่นเค็มของเกลือและไม้อับชื้นช่วยดึงสติความนึกคิดที่ล่องลอยไปไกลกลับมา เสียงของไม้ที่เสียดสีและคำพูดพึมพำของผู้คนดังแว่วเลื่อนลอยไปในพื้นที่ที่ไร้แสงอาทิตย์ ความรู้สึกของละอองน้ำจากม่านหมอกที่ลอยผ่านร่างกายทำให้เกิดความรู้สึกเย็นถึงกระดูก
นี้มันอะไร
เกิดอะไรขึ้น
ฉันคือใคร? ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?
'...ผู้มาจุติ...จากแดนอื่น...'
ลืมตาไม่ได้ขยับตัวไม่ได้ทั่วทุกส่วนของร่างกายด้านชาเหมือนกับรูปปั้น ทำได้แค่หายใจเข้าออกและฟังเสียงรอบตัวเท่านั้น
ความฝัน นี้คือความฝันซินะ ก่อนหน้าหน้านี้เขายังนอนหลับอยู่บนเตียงอยู่เลย
'...กุญแจ...บุตรแห่ง...'
'เจ้า...มองเห็น'
'...นำมา..เป็นไปได้'
สัมผัสของไม้ที่มีบนผิวหนังช่างดูเหมือนจริงเกินกว่าจะเป็นเพียงแค่ความฝัน เสียงกระซิบและบทเพลงแปลกประหลาดดังผสมไปมาจนน่าปวดหัว แผ่วเบาเลือนรางจนไม่สามารถรับรู้ถึงเนื้อหาของเสียงพวกนั้นได้ด้วยซ้ำ ความหนาวเย็นของหมอกโดยรอบเคลื่อนตัวผ่านร่างกายอย่างช้าๆ จนชวนขนลุก
[อัล....ย์]
นั้นเสียงอะไร
[อัลเลย์]
ใคร? ใครกันที่กำลังเรียกชื่อของผมอยู่
[ลองมองดูสิ]
!!!
ความหวาดกลัวสุดขีดพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของวิญญาณ เสียงหัวใจในอกเต้นดังรัวเหมือนกับกำลังจะหลุดออกมาเลือดจำนวนมากถูกสูบฉีดไปทั่วร่างกายของตน เสียงกระซิบรอบตัวยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความเจ็บปวดคล้ายโดนเศษแก้วร้อนจัดฝังไปในสมอง
อะไร!! นั้นมันอะไร!!
เสียงนั้นเป็นแค่เสียงมนุษย์ผู้ชายธรรมดา ออกจะดูอ่อนโยนมากเสียด้วยซ้ำ แต่ร่างกายของเขากลับแสดงอาการต่อต้านอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดทำให้สมองที่เคยภูมิใจนักหนาสับสนจนเกินกว่าจะคิดอะไรออก ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงหอบและเสียงหัวใจเต้นดังก้องไปทั่วในโพรงหูแต่ก็ยังไม่สามารถกลบเสียงกระซิบเรียกหาพวกนั้นได้
[กุญแจ]
บางสิ่งบางอย่างในร่างกายกำลังหายไปทีละนิด ถูกสิ่งนั้นช่วงชิงไป
ไม่ นี่คือความฝัน
มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
กริ๊งงงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกที่คุ้นเคยดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว อัลเลย์ค่อยๆ ลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมามองสภาพแวดล้อมรอบตัว ก่อนจะพบว่าตอนนี้ตัวเขากำลังนอนอยู่บนพื้นพร้อมผ้าห่มที่ถูกลากลงมากองข้างล่าง
นี้...เราฝันร้ายจนนอนตกเตียงเลยหรือนี่
กินอาหารก็ครบ เข้านอนก็ตามเวลา ทำไมถึงปวดหัวได้ขนาดนี้
ความรู้สึกเย็นวูบวาบในหัวยิ่งทำให้ตัวเขาที่พึ่งตื่นนอนมึนเบลอกว่าเดิม
อัลเลย์ยกมือที่สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้มาจับหัวที่ยังคงมีอาการปวดอยู่ ก่อนจะพบว่าร่างกายของตนนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจนคล้ายกับว่าพึ่งอาบน้ำมาอย่างไงอย่างงั้น เมื่อลมจากแอร์พัดผ่านก็สร้างความรู้สึกหนาวเย็นคล้ายหมอกในความฝันไม่มีผิด
ความฝันแปลกๆ นั้นมันคืออะไร ความรู้สึกน่ากลัวนั่นก็สมจริงจนน่าใจหาย เมื่อความเจ็บปวดในหัวเริ่มหายไป ก็ได้แต่สะลึมสะลือล้างหน้าเตรียมตัวเพื่อไปทำงาน เพราะเดี๋ยวไม่นานก็คงจะลืมความฝันไร้สาระนั้นไป
"อัลเลย์ คุณนอนไม่หลับอีกแล้วใช่มั้ยคะ"
"ฮะๆ เห็นชัดขนาดนั้นเลยเหรอครับ"
อัลเลย์ อาโดนิส ชายหนุ่มวัย27ปี ผู้ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ธรรมดาในโลกที่แสนจะธรรมดา ทำงานเป็นวิศวกรข้อมูลของบริษัทหนึ่งที่ต้องตื่นตอนเช้าและกลับบ้านดึก5วันต่อสัปดาห์ แต่ในยามนี้กำลังประสบกับปัญหาฝันร้ายในทุกค่ำคืน เป็นฝันร้ายแบบเดิมซ้ำๆ วนเวียนกลับมาไม่รู้จบ
วันนี้เป็นวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งเมืองเต็มไปด้วยลูกโป่งหัวใจและสีแดงสดใสขนาดในที่ทำงานก็ยังมีการมอบดอกกุหลาบและช็อกโกแลตให้กันและกัน หนุ่มหล่อผมดำที่แผนกข้างๆ ก็ยังได้มากถึง 4 กล่อง
แต่ในวันแบบนี้ชายหนุ่มกลับเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว ผิวขาวซีดเซียวพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาทำให้ดูคล้ายกับผู้ป่วยที่หนีออกจากโรงพยาบาล ถึงจะใส่แมสกับแว่นตาปกปิดแต่ก็ยังมีหลุดบรรยากาศของความอ่อนแอออกมา
อัลเลย์เหม่อมองกาแฟในมือ มันเป็นสิ่งที่คอยยื้อชีวิตของตนไว้ ถึงจะไปพบแพทย์สักกี่คนก็ไม่มีใครที่สามารถรักษามันได้ นักจิตวิทยาบอกว่าการฝันซ้ำๆ บ่งบอกถึงความปรารถนาภายในจิตใจ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าความปรารถนาของตนจะไม่ผิดแปลกชาวบ้านแบบในความฝันแน่นอน
จากการฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็พอจะทำให้สามารถแยกแยะรายละเอียดบางอย่างได้เพิ่มมากขึ้น
ร่างกายของเขานอนอยู่บนพื้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าเนื้อหยาบเพื่อให้ความอบอุ่น การเคลื่อนไหวและความโคลงเคลงของพาหนะร่วมกับเสียงของคลื่นและกลิ่นทะเลทำให้สามารถอนุมานได้ว่าร่างกายของตนน่าจะนอนอยู่ภายในเรือไม้สักที่
นอกจากนั้นก็มีเสียงพึมพำพร้อมทำนองบางอย่างที่น่าจะเป็นเสียงเพลงที่ชวนให้งงงวยจนฟังไม่ออก ส่วนนี้ไม่ว่าจะใช้เวลาขบคิดเกี่ยวกับมันเท่าไหร่ก็ไม่สามารถตีความอะไรได้เพิ่มเติมอยู่ดี
ฟังไม่เข้าใจเหมือนไม่ใช่ภาษาในโลกนี้เลยสักนิด
อัลเลย์คลี่เนกไทออกเล็กน้อย ก่อนจะรู้ตัวว่าความรู้สึกอึดอัดเหล่านั้นไม่ได้มาจากเนกไท แต่มันติดอยู่ข้างในใจจนทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
"อัลเลย์ วันพรุ่งนี้คุณว่างหรือเปล่า" หญิงสาวตรงหน้าพูดถามขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น หล่อนเป็นสาวสวยประจำแผนกข้างๆ พวกเรามักจะเจอกันบ่อยครั้งเวลาที่เขาไปหากาแฟกินช่วงพักเที่ยง
"ขอโทษที พอดีพรุ่งนี้ผมมีนัดกับหมอน่ะ" ถึงตอนไปทุกรอบจะได้แค่ยามากินเพิ่ม โดยที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม
เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แต่ก็ต้องไปอยู่ดี
เพราะจิตสำนึกของเขาบอกว่าให้ทำอย่างนั้น
หญิงสาวทำหน้าเศร้าแต่ก็ยังคงน่ารักอย่างแปลกประหลาด ก่อนจะทำท่าตื่นเต้นเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก
"ช่วงนี้อัลเลย์มีปัญหาเรื่องการนอนหลับใช่มั้ยคะ พอดีฉันพอจะมีทริคบางอย่างจากที่บ้าน แม่มักจะทำแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันฝันร้าย"
"ขออนุญาตนะ" เธอนำปากกามาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะค่อยๆ คลี่มือขวาของอัลเลย์ออกจากกัน ไม่นานก็มีกากบาทเล็กๆ โผล่มาบนฝ่ามือของเขา
อุณหภูมิของร่างกายนั้นดูเป็นเรื่องแปลกใหม่และมือนั้นก็นุ่มมากเช่นกัน เขาจ้องมองผมสีดำของหล่อนด้วยความอึดอัด ไม่บ่อยนักที่จะได้อยู่ใกล้ชิดเพศตรงข้ามแบบนี้
"เชื่อกันว่ามันจะช่วยป้องกันฝันร้าย ปกติก็จะวาดก่อนนอน…อัลเลย์?"
"เอ่อ…ขอบคุณมาก" ตอนนี้ถึงได้รู้ตัวว่าตนจำชื่อของอีกฝ่ายไม่ได้ซ้ำ ด้วยเขินอายและรู้สึกผิดจึงไม่กล้าถามชื่อเธอตอนนี้
"ฉันหวังว่ามันพอจะช่วยได้บ้าง... แล้วก็อัลเลย์สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะคะ"
"ขอบคุณครับ" อัลเลย์ทำเพียงมองหญิงสาวตรงหน้าเดินจากไป ยืนคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจซื้อพิซซ่าแทนเค้กเพื่อไปฉลองวันเกิดที่ห้องของตน
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มานั่งมองพิซซ่าบนโต๊ะด้วยความเงียบเหงา นาฬิกาบนผนังก็แสดงเวลาว่าเหลืออีกไม่กี่นาทีก็จะกลายเป็นวันใหม่ ความรู้สึกเหมือนมีบางอย่างติดค้างในใจยังคงมีอยู่ตลอดเวลา เมื่อลองพยายามคิดถึงที่มาของความรู้สึกนี้ก็คล้ายมีม่านหมอกปิดบังเอาไว้จนนึกอะไรไม่ได้
อาการปวดหัวตรงขมับเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาพยายามจะนึกถึงความฝัน ทำได้แค่เอายาแก้ปวดที่มีอยู่มากินเพื่อบรรเทาความทรมาน เสียงหูแว่วคล้ายเสียงกระซิบในความฝันตามมาหลอกหลอนจนถึงโลกแห่งความเป็นจริง
ความมึนงงเข้าโจมตีจิตใจจนเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ได้แต่ปล่อยให้หัวตกลงไปตามแรงโน้มถ่วงจนสุดท้ายก็ได้แต่นอนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่สนใจพิซซ่าเย็นชืดที่กำลังนอนทับอยู่ด้วยซ้ำ
เจ็บ
มันร้าวไปหมดทั้งหัว ทั้งหน้าผาก เบ้าตา จมูก จนถึงฟัน
ทรมานกว่าทุกที
แต่ก็ไม่อยากนอนหลับ
เหมือนกับมีหนอนมากมายกำลังไต่ไปทั่วร่างกายของเขาชอนไชเข้าไปในกระดูกของตนกัดกินเข้าไปจนถึงไขสันหลัง นกพิราบนอกหน้าต่างจำนวนมากจ้องมองมาที่อัลเลย์ เป็นดวงตาสีดำใสเหมือนลูกแก้วดูไร้เดียงสาและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
คล้ายว่าอาการเพ้อของเขานั้นจะมีระดับสูงขึ้นจนตอนนี้สามารถมองเห็นว่าพวกมันกลายเป็นนกฮูกที่มีดวงตา3ดวง นกพวกนั้นใช้ดวงตาสีแดงแปลกประหลาดจ้องมองมาที่เขา อัดแน่นอยู่ข้างนอกไม่ต่ำกว่า30ตัวปิดกั้นจนมองไม่เห็นท้องฟ้า
ไอพวกนี้มันไม่มีอะไรให้ดูแล้วรึไง
น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น กลิ่นคาวคล้ายสนิมเกินขึ้นภายในจมูกพร้อมความรู้สึกถึงของเหลวที่กำลังไหลออกมา
หรือบางทีชีวิตของเขาจะถึงจุดจบเร็วกว่าที่คิด
แต่ยังอ่านหนังสือบทเพลงแห่งพระเจ้าไม่จบเลย...
ผมไม่ได้กลัวความตาย แต่กลับกลัวความลึกลับที่ไม่อาจเข้าใจได้
อาการปวดหัวและความอึดอัดในอกช่างทรมานเหลือเกิน เสียงหัวใจเต้นกับเสียงลมหายใจหอบดังสลับไปมาภายในหูของเขา มันนั้นติดอยู่ที่ปลายลิ้นแต่ก็พร่าเลือนเกินกว่าจะนึกออก อึดอัดจนเผลอเอามือขย้ำหน้าอกจนผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดง
วี๊ดดดด…..ปัง!!
ตึ้ง!!
ภายในวินาทีที่พลุดอกนั้นทะยานขึ้นไป ย้อมท้องฟ้าให้เติมเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม นาฬิกาก็ส่งเสียงแปลกประหลาดเป็นสัญญาณว่าเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว
ใช่ ใช่แล้ว
เหมือนมีใครเปิดม่านที่บดบังความคิดออก อัลเลย์จำได้ถึงความทรงจำที่ติดค้างอยู่ในใจ
ในวันนั้น...เราไม่ได้กลับบ้านทันที แต่กลับเข้าไปในร้านทำนายดวงปริศนาร้านนั้น
"มันคือไพ่ The Dream"
เสียงกระซิบมากมายรอบตัวเริ่มซ้อนทับกันจนกลายเป็นเสียงทุ้มเนิบช้า อัลเลย์มองไปยังผู้ชายแปลกหน้าตรงข้ามโต๊ะดูดวง ชายคนนี้สวมชุดสูทหางยาวสีดำพร้อมเสื้อกั๊ก ข้างในใส่เสื้อเชิ้ตปกสูงพร้อมเนกไทสีแดงสะดุดตา เข็มติดคอเสื้อรูปหัวนกฮูกบนปกเสื้อเชิ้ตด้านขวาสะท้อนแวววาวแยงตา น่าแปลกที่ใบหน้าของเขาช่างเลือนรางเกินกว่าจะนึกออก
"คุณมีความฝัน สายสัมพันธ์ และโชคชะตาบางอย่างที่แอบแฝงอยู่โดยที่ตัวคุณเองยังไม่รู้ตัว แล้วดูเหมือนจะมีโอกาสได้เดินทางไกลเร็วๆ นี้"
"คุณคือใคร"
ชายตรงหน้าเมินเฉยต่อคำถามของเขาทำเพียงแค่ส่งรอยยิ้มคุ้นเคยมาให้ และเพียงพริบตาก็เปลี่ยนไพ่ในมือให้กลายเป็นหนังสือบันทึกปกหนังเรียบๆ หนึ่งเล่ม พร้อมใช้ปากกาขนนกจดบันทึกบางอย่างลงไปในสมุดเล่มนั้น
"เดี๋ยวก่อน!!" ภาพตรงหน้าถอยห่าง เหมือนร่างกายถูกผูกติดอยู่กับเก้าอี้จนไม่สามารถลุกไปไหนได้ ทำได้แค่เพียงมองชายคนนั้นหายตัวไป หมอกหนาแพร่กระจายไปทั่วกลืนกินทุกอย่างจนอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเขายังคงนอนอยู่บนโต๊ะตัวเดิมในห้องนอนที่คุ้นเคย
นั่นไม่ใช่ภาพหลอนแน่ๆ
ชายคนนั้นคือใคร? เป็นมนุษย์ ปีศาจ เทพ หรืออะไรกันแน่
โลกที่เต็มไปด้วยหมอกนั้นคืออะไร
หากเพียงแค่คิดได้ไม่นานร่างกายก็ไม่อาจรับภาระได้ไหวอีกต่อไป ความเจ็บปวดในหัวทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เลือดสีแดงค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาพร้อมปรากฏจุดสีทองในลูกตาดำที่ขยับไปมาคล้ายสิ่งมีชีวิต อัลเลย์ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกตามร่างกายได้อีกต่อไป ทุกการหายใจก็ยากลำบากเพราะเลือดจำนวนหนึ่งที่ไหลเข้าไปในหลอดลม
เมื่อความตายมาเยือนจิตใจของเขากลับสงบลงอย่างแปลกประหลาด ในตอนสุดท้ายความเจ็บปวดทั้งหมดก็หายไป มีแค่ความง่วงนอนที่ค่อยๆ ครอบงำสติของชายหนุ่มไปจนหมด
นอนหลับไปในค่ำคืนที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย