บทที่ 16่
"ไม่ได้สูดอากาศด้านนอกนานเท่าไหร่เเล้ว" ชายชราเเหงนหน้ามองขึ้นฟ้า สูดกลิ่นอันบริสุทธิ์ของอากาศ ทว่ากลิ่นคาวเลือดกลับดับฝันของเขาทันที ดวงตาที่ราวกับปลาตายเพ่งมองรอบๆ อย่างพินิจ หัวใจของชายชราพลันบีบรัดทันทีที่พบว่า มีซากศพมากมายนอนเกลื่อนอยู่ในพื้นที่ที่ตนอยู่
"เกิดอันใดขึ้น เหตุไฉน ผู้คนถึงได้ล้มตายมากมายเช่นนี้" ชายชรากวาดตามองไปพบเด็กน้อยหลายคน ก็อดอุทานขึ้นมาเสียไม่ได้ "กระทั่งเด็กยังไม่เว้น โหดเหี้ยมจริงๆ"
"นี่คือผู้คนในจวนสกุลข้าเองผู้อาวุโส" เฉินตงรีบบอกกล่าวออกไป
ชายชราได้ยินก็ผงะเล็กน้อย ขมวดคิ้วเค้นความทรงจำที่เรือนลางของตน กระทั่งทราบว่าที่เเห่งนี้คืออันใด ก็ถอนหายใจออกมา
"มีของดีเก็บรักษาไว้ หากปกป้องมันไม่ได้ย่อมนำมาซึ่งภัยพิบัติ เเละเป็นภัยพิบัติยากจะเลี่ยงจริงๆ " ชายชรามองซากศพอย่างเวทนา ทำให้เฉินตงงุนงง อะไนหรือมีของดี สกุลเฉินมีของดีเก็บไว้หรือ?
"เจ้าคือ เฉินตงสินะ" ชายชราหันมาถามเฉินตง เขารีบพยักหน้ารับทันที
"ตัวข้านั่น มีนามว่า เฉินซานซัว นับว่าเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเฉิน" ชายชรากล่าวออกมา ทำให้เฉินตงลงไปคุกเข่าเเละคำนับอีกฝ่าย เฉินซานซัวไม่ทันได้ปรามอีกฝ่ายก็โขกศีรษะเสียเเล้ว ทำเอาเขาอึดอัดไม่น้อยทีเดียว กระนั้นยามที่เฉินตงเงยหน้าขึ้น สีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนไปดั่งผู้เฒ่าที่มองลูกหลาน
"หลานเฉินตง คำนับผู้อาวุโส"
"ยืนขึ้นเทิด"
เฉินตงลุกขึ้นยืน เฉินซานซัวมองรอบๆ
"คงต้องเก็บกวาดเสียก่อน" มือขวาโบกไป พลังฟ้าดินถูกควบคุมให้หมุนวน ซากศพพวกนั้นต่างนอนเรียงรายบนลานกว้างอย่างเป็นระเบียบ
ฝ่ามืขวาพลิกหงายขึ้น พลังชี่ควบเเน่นเเละกลั้นเป็นเปลวเพลิงสีเเดงฉาน เเละโยนออกไป
ร่างเหล่านั้นลุกไหม้ในทันที
เฉินตง นิ่งงัน สงบนิ่งให้กับผู้คนที่ล้มตาย ทว่าหัวใจของเขากลับไม่มีความเปลี่ยนเเปลง จนไม่เเสดงออกใดๆ เนื่องจากไม่ได้สนิทกับสกุลเฉินเลย.....
ขี้เถ้ากลุ่มใหญ่ถุกหอบเข้ามา เฉินซานซัวใช้พลังของตนกวาดเอาขี้เถ้าเหล่านั้น รวมไว้ที่ไหใบหนึ่งที่ใหญ่ เฉินตงค้นเจอในโรงครัวของจวน
ปากไหถูกปิดด้วยผ้าไหมชั้นดี ที่ฉีกมาจากเศษซากของเรือนที่พังทลาย
เฉินซานซัวอุ้มไหไว้ ดวงตาที่ราวกับปลาตาย บัดนี้เเจ่มเเจ้งชัดเจน มีชีวิตชีวาขึ้นมามากขึ้น สภาวะบางอย่างกลายเป็นหมอกปกคลุมทั่วร่าง จยากคาดเดาขั้นพลังของเขาได้ ทว่าที่บอกได้คือ คนผู้นี้เเข็งเเกร่งอย่างมาก ไม่รู้ว่าถูกขังอยู่คุกของสกุลเฉินได้อย่างไร
ระหว่างอยู่ในภวังค์ของความคิด เฉินตงก็ถูกมือของชายชราจับลงที่ไหล่
"เฉินตง นับเเต่นี้ เจ้าคือ ประมุขของสกุลเฉิน"
คำกล่าวนี้ทำทำเอาเฉินตงตะลึงงัน เขาคิดปฏิเสธ เเต่เฉินซานซัวกลับส่ายหัว เพ่งมองไปยังร่างของเฉินตง
"ไม่คาดว่าเจ้าจะเป็นคนธรรมดา ตันเถียนยังตีบตัน ทว่าเส้นทางข้างหน้าช่างยากเย็นนัก ยุทธภพล้วนเต็มไปด้วยอันตราย เเละบททดสอบที่คร่าชีวิตเจ้าได้ทุกเมื่อ นับเเต่นี้ข้าจักดูเเลเจ้าเอง ด้วยชีวิตของข้า"
เฉินส่ายหน้าให้ รีบเเย้งขึ้นทันที "ผู้อาวุโสเฉิน ท่านมองเเค่เปลือกนอก ข้านั่นไมได้อ่อนเเออยางที่ท่านคิดหรอก บนตัวข้ามีพลังขุมหนึ่งอยู่ในร่างกาย อีกทั้งยังสามารถพัฒนาได้"
เเน่นอน เขาไม่อาจใช้พลังมารออกไปได้ ใครจะรู้ว่าเฉินซานซัวคิดอันใดอยู่ หากรูสว่าเขาเป็นผู้ฝึกตนสายมาร ไม่ใช่ว่าปลิดชีพเขาทันทีหรอกนะ เฉินตงจึงขบคิดพลางสำเเดงพลังของร่างหยินหยางออกมา เเน่นอนมันยังปลดปล่อยออกมาได้มากนัก เนื่องจากยังไม่มีเวลาศึกษาอย่างจริงจัง
เฉินซานวัวสัมผัสถึงได้ความผันผวนของฟ้าดิน เขาตกตะลึง พลันเพ่งมองร่างของเฉินตง บนร่างของเด็กผู้นี้มี มีพลังเเฝงอยู่ไม่น้อย
"เจ้าครอบครองร่างพิเศษ?"
เฉินตกผงกหัวให้ทันที เเต่ไม่กล่าวอันใดอีก
"ดีๆ สวรรค์ยังคงไม่ทอดทิ้งเจ้า....." ดวงตาชายชราคล้ายกับรู้สึกโล่งอก ขณะเดียวกันเฉินตงยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่จริงใจเเผ่ออกมา จากสัญชาตญาณ ชายชราคนนี้ ควรค่าเเก่การเชื่อถือ