บทที่ 17
เฉินตงสำรวจข้าวของมีค่าเท่าที่จะเหลือในจวนมากองรวมกันไว้ เเล้วเดินไปเอาลูกปัดสีเเดงที่ฝังไว้ใต้เรือนของตนเองกับเสื้อผ้า จากนั้นเอาเข้าเเหวนมิติทั้งหมด เพราะเกรงว่าที่นี่คงอยู่ไม่ได้ ไน่เหอลงมือฆ่าพวกมือสังหารไปก่อนหน้านี้ อีกไม่นานคนสั่งการคงจะรับรู้ได้ว่าลูกน้องตนถูกจัดการหมด ต้องส่งคนมาที่นี่เเน่ ดังนั้นจะอยู่นานไม่ได้
มาถึงลานกว้างของจวนชายชรานาม เฉินซานซัวก็นำไหใส่ขี้เถ้าฝังไว้ เเละยกเอาศิาลาเเผ่นใหญ่สูงสองเมตรมาตั้งทับไว้ กิ่งไม้อันหนึ่งถูกคว้าขึ้นมา ก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศ กิ่งไม้โบกไปมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นคลื่นพลังพลันพุ่งเข้าหา เเผ่นศิลา ปรากฏตัวอักษร
'สุสานของสกุลเฉิน'
เขาร่อนลงพื้น พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นี่คงเป็นหลุมศพหรือป้ายวิญญาณกระมัง เฉินตงขบคิด ไม่ๆได้กล่าวอันใด ราวกับยืนสงบนิ่งให้เเก่คนที่ตกตายไป
"อาตง เจ้ามีอันใดติดค้างที่นี่หรือไม่" เฉินซานซัวเอ่ยขึ้น ขณะเพ่งสายตาไปยังทิศทางหนึ่ง หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที
"ผู้อาวุโส คือว่า....." เฉินตงเล่าเรื่องเฉินหยูให้กับเขาฟัง รวมถึงเรื่องสำนักเเพทย์ ชายชราฟังไป บรรยากาศรอบๆ กายเขายิ่งดูดันขึ้นเป็นเท่าตัว มีประโยคหนึ่งคำพ่นออกมาอย่างเดือดดาล "สามห้าวยิ่งนัก" ก่อนจะหันมาหาเฉินตงด้วยรอยยิ้มที่เเสนอบอุ่น
"อาตง มีผู้ฝึกตนสองคนกำลังมา เราต้องเเยกกัน ข้าจักไปสำนักเเพทย์ของเมืองเมฆาล่อวง ตามหาน้องสาวของเจ้า ส่วนอาตง เจ้าตงรีบไปที่นรกดำ เป็นไปได้ออกห่างจากเมืองเมฆาล่องให้มากที่สุด ข้าได้ทิ้งพลังของข้าส่วนหนึ่งไว้ที่ป้ายนี้" เฉินซานซัวควักป้ายหยกอันหนึ่งโยนมาให้ เฉินตงรับไว้เเละพลิกขึ้นดู มีอักษรตัว 'เฉิน' สลักไว้ อีกทั้งยังมีพลังชี่อันเเข็งเเกร่งขุมหนึ่งสถิตอยู่
เฉินซานซัวมองไปทางด้านที่สำนพเเพทย์สาขาเมืองเมฆาล่อง
"ป้ายหยกของประมุขสกุล อาตงนับเเต่นี้เจ้าคือ ประมุขของตระกูลเฉิน รุ่นที่ 4!"
เฉินตงอึ้ง เเละพยายามปฏิเสธ
"ข้าจะส่งพลังล่อพวกมัน พร้อมๆ กับไปที่สาขาสำนักเเพทย์"เเต่ชายชราส่ายหัว พลางเหินร่างพุ่งไปยังสาขาสำนักเเพทย์ทันที
เสียงหนึ่งลอยมาตามลม มีเพียงเฉินตงได้ยิน
"ข้ามีอันตรายถึงชีวิต จงใช้เลือดของเจ้ากระตุ้นป้ายหยก มันสามารถสังหารผู้ฝึกตนขั้นขุนนางลงมา ได้ในพริบตาเดียว เเละใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น หากพบเจออาหยู ข้าจะติดต่อผ่านป้ายหยก เก็บป้ายนั้นอย่าให้หายเป็นอันขาด"
เฉินตงยกมือคาราวะอีกฝ่าย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไน่เหอลอยออกมาจากเเหวน
"ผู้อาวุโสท่านฟื้นเเล้วเหรอ" เฉินตงดีใจมาก หากมีไน่เหอคอยช่วย เขาสามารถรอดชีวิตจากผุ้ฝึกตนที่เเข็งเเกร่งได้
"ข้าฟื้นมาครูหนึ่งเท่านั้น อีกเดี๋ยวจะกลับไปจำศีลต่อ นี่ป้ายวิญญาณของคนในจวนเจ้าหรือ" ไน่เหอมองไปยังป้านศิลาเเผ่นใหญ่สูงเกือบสองเมตร ก่อนจะส่งพลังส่วนหนึ่ง จากป้ายวิญญาณของตนเอง เข้าไปในเเผ่นสิลา
"ท่านทำอันใด" เฉินตงงุนงง
"ข้าเพียงทำให้มั่นใจว่า ที่นี่จะไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนคนตายได้" จากนั้นหันมามองที่เขา ไน่เหอร่ายพลังบางอย่างใส่ร่างของเฉินตง
"ไปเถอะ ข้าสร้างม่านพลังคุ้มกายเจ้าไว้ ในเวลาสองชั่วยาม ต่ำว่าขั้นขุนนางจะไม่สามารถสัมผัสถึงเจ้าได้" ไน่เหอบอก เเละกลับเข้าไปในเเหวน
เฉินตงมองป้ายวิญญาณ อีกครั้ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกจากจวนสกุลเฉินอย่างรีบร้อน
******
มาถึงสาขาของสำนักเเพทย์ เฉินซานซัวร่อนลงอย่างนิ่มนวล ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
ศิษย์ที่เฝ้าด้านหน้า เห็นท่าทางขึงขังของผู้เฒ่ารีบเข้ามารับหน้าทันที
"เอ่อ ผู้เฒ่าไม่ทราบว่า ท่านต้องการอะไร"
"หลานสาวข้าอยู่ด้านใน จงพานางออกมาเสีย ชื่อของนางคือ เฉินหยู" น้ำเสียงเปี่ยมด้วยพลัง ทำให้ศิษย์คนนั้นเหงื่อเเตกหน้าซีดเผือด รีบวิ่งเข้าไปด้านในทันที ครู่ใหญ่ก็ออกมาพร้อมกับบันทึกสักอย่าง
"ผู้เฒ่า ไม่มีคนชื่อ เฉินหยู เข้ารักษาเลยนะขอรับ" ศิษย์คนนั้นอ่านนักทึกในมือพร้อมกับบอกกล่าวออกไป
เฉินซานซัวนิ่วหน้า ความไม่สบอารมร์เเสดงออกมาเต็มที่ "เป็นไปไม่ได้ หลานข้าพึ่งพานางมาเมื่อหลายวันก่อน ผู้อาวุโสจงของที่นี่ยังรับนางไว้ในการดูเเลอยู่เลย"
"ผู้อาวุโสจงหรือ เออ ถ้าเป็นท่านผู้นั้น เขาพึ่งกลับไปยังสพนักเเพทย์เมื่อวันก่อนเองขอรับ เเต่เท่าที่ดู มีเพียงศิษย์ของเขาที่ติดตามเขากลับไป ไม่มีคนอื่นเลยนะขอรับ"
ได้ยินดังนั้นเฉินซานซัว ก็ถอนหายใจออกมาทันที
"ร่างสวรรค์ถูกค้นพบเร็วไป หรือว่าข้าออกมาช้าเกินไป"
จากคำกล่าวชัดเจนว่าเฉินซานซัวล่วงรู้วา เฉินหยู ครอบครองอันใด เเละยังรู้สะเอียดยิ่งกว่าพวกที่พานางไปเสียอีก
เฉินซานซัวหลับตาลง ก่อนที่พลังชี่ในร่างกายจะปะทุออกมา เเรงกดดันราวกับขุนเขาทั้งลูกกดทับลงมาทั่งบริเวณทันที
"ผู้ใดกล้ามาหาเรื่องที่สำนักเเพทย์" เสียงตะโกนดังออกมาจากด้านใน เเฝงเร้นด้วยพลังเเข็งเเกร่งสายหนึ่ง เฉินซานซัวโบกมือสลายพลังสายนั้นไป ก่อนจะซัดหนึ่งฝ่ามือใส่ศิษย์ตรงหน้า
ตูม
ร่างนั้นกระเด็นลอยไปด้านในกระเเทกเข้ากับตู้ใส่สมุนไพรจนพังครืนลงมา
ชายชราไม่พูดไม่จา ก้าวอาดๆ เข้าไปด้านในทันที
"ทำหลานสาวข้าหายไป เช่นนั้นก็ไม่ต้องมีอยู่อีกต่อไป" เฉินซานซัวเปล่งเสียงคำรามลั่น มันทรงพลังอำนาจจนสั่งคล่อนทั่วทั้งสาขาของสำนักเเพทย์
ร่างหนึ่งพุ่งออกมา ขวางกั้นไว้ เป็นผู้พิทักษ์ของที่นี่ ขั้นพลังอ่อนด้อยกว่าเฉินซานซัวไปหนึ่งขั้น
ผู้ฝึกตนขั้นเเม่ทัพ!
"ขอทานเฒ่า เจ้าช่างกล้านัก บังอาจทำร้ายศิษย์ของสำนักเเพทย์เรา" เขาว่าพลางเหลือบมองศิษย์ที่นอนนิ่งพลางเค้นพลังออกมา
พลังชี่อันเเข็งเเกร่งกำจายออกไปรอบๆ ราวกับลมหอบใหญ่ เฉินซานซัวไม่หวาดกลัว ก้าวไปด้านหน้า ใช้พลังชี่ของตนกำจายออกไปรอบๆ รัสมีพลังทั้งลอยปะทะกันจนเกิดเสียงระเบิด ทั่วทั้งสาขาสำนักเเพทย์เกิดรอยร้าวขึ้นทั่วอาคาร
"ถึงกับหักล้างพลังของข้า ยี่นู๋ ได้ ตาเม่านับว่าเจ้าเเน่มาก เเต่ว่า...." ผู้พิทักษ์ของสาขาสำนักเเพทย์เอ่ยไม่ทันจบ เฉินซานซัวพลันซัดหมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังชี่ออกไป
หมัดนี้ท่วงท่าปกติมิใช่พิศดารอันใด ทว่าพลังชี่ที่ห่อหุ้มนั้นไหลเวียนรุนเเรงมาก เพียงปะทะเข้ากับร่างของยี่นู๋ มันก็ปลิวในทันที
ปัง
ร่างนั้นทะลุกำเเพงของสำนักเเพทย์สาขาเมืองเมฆาล่องจนทะลุ ยี่นู๋ปีนออกมาจากซากอาคาร สีหน้าเดือดดาลถึงขีดสุด ระเบิดพลังชี่ออกมา จนก่อรูปเป็นยักษาตัวใหญ่สูงเท่าอาคารสำนักเเพทย์ พลันกระโดดขึ้นด้านบน เท้าขวาถีบลงมาอย่างเเรง ร่างยักษาพลันกระทืบเท้าลงมาเช่นกัน
"เเค่ขอทาน บังอาจนักนะ บาทาขยี้พสุธา!"
บาทาของยักษ์ดิ่งลงมาราวกับดาวตก เฉินซานซัวส่งเสียงฮึมฮัมออกมา สองมือวาดออกไปหมุนวน พลังชี่รวมกันเป็นตราประทับอันหนึ่งยาวหนึ่งเมตร เขาจับมันเเละยกขึ้นด้านบนค้ำไว้เหนือศีรษะ
ปัง
ตราประดับหยุดยั้งบาทาของยักษาไว้ พื้นใต้เฒ่าผู้เท้ายุบลงไปด้วยพลังอันเเข็งเเกร่งของยักษา เฉินซานซัวคำรามลั่น ผลักเท้ามหึมานั้นไปด้านข้าง
ตึง
ยี่นู๋ร่วงลงกับพื้นทันที
เฉินซานซัวทะยานเข้าหายี่นู๋ มือขวาเหยียดออก พลังชี่สีขาวรวมไว้ที่ฝ่ามือ เเละตบลงไปด้านหลังหนึ่งครั้ง
"ฝ่ามือพยัคฆ์คำราม"
โฮกกกกกก
เสียงพยัคฆ์คำรามลั่น บังเกิดเงาคล้ายเสือโครงสีขาวซัดเข้าใส่ร่างของยี่นู๋ที่นอนอยู่
"มือยักษา!"
ด้านยี่นู๋ สองมือผสานเข้าหากัน พลี่งชี่ก่อรูปเป็นมือขนาดใหญ่กุมร่างเข้าไว้ในฉับพลัน วิทยายุทธสายป้องกัน
ตูม
ทว่าพลังฝามือของเฉินซานซัวรุนเเรงยิ่งนัก ปกติขั้นเเม่ทัพจะมีเพียงราวสี่พันจินเท่านั้น ทว่าการโจมตีนี้ของเฉินซานซัวเหยียบหมื่นช่างได้เลย รอยฝ่ามือขนาดใหญ่ซัดลงบนพื้นดินจนยุบลงไปหลายสิบเมตร ส่วนยี่นู๋หรือ อยู่ใต้หลุมนั้นเเหละ เป็นตายไม่เเน่ชัด
"บังอาจทำเฉินหยูหายไป สำนักเเพทย์บัดซบ!!" เฉินซานซัวลอยขึ้นด้าน สองมือขมับไปมาพร้อมกับพลังชี่หลายสายก่อรูปร่างเป็นตรารูปร่างคล้ายกับหัวพยัคฆ์
"ตราประทับพยัคฆ์ขาว"
เฉินซานซัว ส่งตราประทับขนาดเท่าฝ่ามืออันหนึ่งลอยตกลงไปยังอาคารของสำนักเเพทย์
"ทำลาย!!!"
เสียคำรามของเฉินซานซัวดังลั่น พร้อมๆกับตราพยัคฆ์ที่ประทับลงบนอาคาร พรึบตานั้นมันก็เกิดระเบิดขึ้น
โฮกกกกกกกกกก ตูม
เสียงคำรามของเสือดังขึ้นก่อนจะเกิดการระเบิด มันไม่ได้รุนเเรงถึงขั้นเป่าทั้งเมืองทิ้ง เพราะเฉินซานซัวกดพลังของมันไว้เหลือเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ทว่าก็เพียงพอบดขยี้อาคารสาขาของสำนักเเพทย์ให้กลายเป็นซากได้สบายๆ
ศิษย์สำนักเเพทย์ตายเกลื่อน เฉินซานซัวผู้นี้ลงมือหนักมาก ก่อนจะเร้นกายหายไปจากเมืองเมฆาล่อง
เดิมทีทุกตระกูลควร ออกมาดู เหตุการณ์ใหญ่โตขนาดนี้ ทว่า น่าเสียดาย เมื่อวันก่อนเหล่าตระกูลใหญ่ ต่างพากันไปยังเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ ของขุมกำลังอำนาจในดินเเดนเเห่งนี้ สมาชิกตระกูลสำคัญล้วนไปหมด เหลือไว้เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นคอยดูเเล กว่าพวกเขาจะรู้เรื่อง ก็ปาไปสองชั่วยามเเล้ว