บทที่ 19
นอกเมืองเมฆาล่อง
หู่เทียนหยุดนิ่งกลางอากาศ เบื้องหน้าของเขาคือชายชราคนหนึ่ง ผมสีขาวหงอกบนหัว ร่างกายผอมหนังหุ้มกระดูก ทว่าเขาไม่อาจจะประมาทอีกฝ่ายได้เลย ในสายตาของเขา ประหนึ่งมีสัตว์ร้ายกำลังหลับใหลอยู่ตรงหน้า หากเขาเข้าไปใกล้กว่านี้ ไม่เเน่ว่าอาจจะโดนมันตะบปจนตายก็ได้
"เจ้ามาจากที่ใด" เฉินซานวัวหันขวับกลับมาถาม ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความดุดันสุดจะหยั่ง
"หู่เทียน สำนักเเพทย์" ชายหนุ่มกล่าวออกมาทันที
ในชั่วอึดใจ สัญชาตญานของหู่เทียนพลันระเบิดออกถึงขีดสุด มือของมนุษย์ข้างหนึ่งตะปบเข้าที่กลางอก กระบี่ในมือชักออกทันทีเเละยกขึ้นต้านรับ
ปัง
เเรงปะทะอันหนักหน่วงนี้ส่งร่างของหู่เทียนดิ่งลงพื้นทันที จนเกิดเป็นหลุมหลึก
"ดูจากพลังฝึกปรือ เจ้าคือผู้ที่ถล่มสาขาสำนักเเพทย์เมืองเมฆ่ล่องสินะ" หู่เทียนทะยานออกมาจากหลุมลึกการโจมตีของเฉินซานซัวรุ่นเเรงก็จริง ทว่าร่างกายของหู่เทียน นอกจากเปื้อนฝุ่นดินเเล้ว ก็ไม่ได้รับควาเสียหายใดๆเลย
เฉินซานซัวมองไปยังกระบี่ที่ท่อเเสงสีทองเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วขึ้น กล่าวออกมา "เป็นกระบี่ที่ดี น่าเสียดายที่มันช่วยเจ้ามิได้ดอก"
"วาจาช่างโอ้อวดยิ่ง เช่นนั้นจงลิ้มรสของกระบี่ทองดำของข้า!" หู่เทียนระเบิดพลังชี่ออกมาทันที ห้วงอากาศบิดเบื้อนจนพร่าเลือน
สำนึกกระบี่สายหนึ่งปราดมาถึงเบื้องหน้า รุนเเรงเเละโหดเหี้ยม เฉินซายสะบัดสองมือออกไปด้านขาง พลังฟ้าดินรวมกันที่มือขวาเเละซ้าย ก่อนสองฝ่ามือนั้นจะกระปบเข้าด้วยกัน
"ตราพยัคฆ์!"
พลังฟ้าดินเเผ่พุ่งออไปกด้านหน้า ก่อรูปลักษณ์เป็นตราหัวพยัคฆ์เปล่งเสียงคำรามลั่น
โฮกกกกกกก
ตูมมมมม
ทันทีที่ปะทะกันก่อเกิดเเรงระเบิดกึกก้อง เฉินซานซัว ลอยออกมา ในเวลาเดียวกัน คมกระบี่ฟาดฟันใส่หอกคัวนจนหายไป หู่เทียนกระทืบเท้าพุ่งเข้าโจมตีทันที
"กระบี่ดอกเหม่ย รูปเเบบที่หนึ่ง ดอกเหม่ยตูม!" หู่เทียนควบพลังชี่ไว้ในกระบี่เเละฟาดออกไป พลังชี่เเปรเปลี่ยนเป็นดอกตูมของดอกเหม่ยโถมไปด้านหน้าทันที
เฉินซานวัวเเค่นเสียง ฝ่ามือวซัดเข้าปะทะ หักล้างกระบวนท่าเเทงของอีกฝ่ายในทันที
หู่เทียนคือศิษย์สายใน ของสำนักเเพทย์ พลังฝึกปรืออยู่ในขั้นเเม่ทัพ เขาคือ หนึ่งในสี่ อัจฉริยะเเห่งยุคของสำนักเเพทย์ที่ถภูกสอนสั่งโดยเจ้าสำนักเเพทย์ ผู้เป็นหนึ่งในปรมจารยกระบี่ ดังนั้นวิชากระบี่ของเขายามใช้ออกจึงรุนเเรงมาก ยิ่งปะทะ ยิ่งรุนเเรงขึ้น ยิ่งใช้ออกยิ่งรุนเเรงกว่าเดิม
เฉินซานซัวเลิืกคิ้ว โคจรพลังชี่ในรางกายไปที่หมัด จากนั้นโถมชกออกไปรัวๆ ปะทะกับคมกระบี่ที่ทิ่มเเทงย้ำจุดเดียวออกมาเป็นร้อยครั้ง
คลื่นพลังสะท้อนออกไปรอบทิศทาง ทำให้บ้างเกิดระเบิด บ้างเกิดร่องรอยทะลวงลึกลงไปหลายสิบเมตร กระจายอยู่บริเวณรอบๆ
ทั้งสองทิ้งระยะห่างออกจากกันอีกครั้ง หู่เทียนพ่นลมหายใจออกมา ชายชราตรงหน้าเขา นับว่าเยี่ยมยุทธ์ยิ่ง กระบวนท่าเเรก ดอกเหมยตูม นั่นรุนเเรงจะยังเเทงออกไปรวดเร็ว ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้หมักชกหักล้างได้ทั้งหมด นี่นับเป็นอันใด เขาจึงเลือกใช้กระบวนท่าที่ 2
"ดอกเหม่ย บาน!" พลังชี่หลอมรวมกับกระบี่ ก่อนจะชี้ขึ้นฟ้า ดอกเหมยสีชมพู ที่บานสวยงมตระการตาปรากฏขึ้น หู่เทียนโยนกระบี่ไปไปยังดอกเหมยบานนั่น เเละใช้มือของเขาควบคุมมัน บังคับจู่โจมไปยังศัตรู
"ตายให้ฆ่า!"
ดอกเหมยนี้ทรงพลังมาก อีกทั้งยังประดับด้วยกระบี่วิเสา ทำให้มีพลังทำลายล้างของรังสีกระะบี่หลอมรวมมาด้วยกัน
ดอกเหมยบินดฉบไปมา เฉินซานซัวเเม้จะป้องกันได้ ทว่าความเร็วของมันนั้นกลับยากจะตามทันที ไม่ช้าก็โดนโจมตีเข้าที่ขา จนเข่าทรุดลงข้างหนึ่ง ดอกเหมยบานเหนือร่างของเขาเเละทิ้งตัวลง เฉินซานซัว ปลดการบินออกร่วงหล่นลงมา ก่อนจะใช้วิชาบินอีกครั้ง บินหนีการโจมตี
ตูมมมมมม
ดอกเหมยร่วลงพื้น ทำลายล้างป่าโดยรอบจนเกิดหลุมยักษ์ เเละมันก็บินขึ้นมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คราวนี้ดอดกเหมยหดเล้กลงจนเเทบเท่าดอกเหมยในยามปกติ มันพุ่งปราดไปมาราวกับเเมลงวัน รวดเร็ว เด็ดขาด สีร้างบาดเเผลทั่วร่างของเฉินซานซัว เเขนขาอย่างละข้างถูกดอกเหมยสีชมพูที่บัดนี้ย้อมด้วยสีเลือดตัดผ่านจนเฉือนลง เลือดสีเเดงสดไหลริน
เฉินซานซัวดวงตาเริ่มเเดงก่ำ พลันเปล่งเสียงคำรามของพยัคฆ์ออกมา
โฮกกกกกกกกกก
เสียงคำรามนีเซัดมวลอากาศโดยรอบให้ปลิวออกมา ดอกเหมยของหู่เทียนเเม้เเข็งเเกร่ง ทว่ากลับไม่สามารถต้านทานเสีงคำรามนี้ได้เเม้เเต่นิดเดียว มันเเหลกสลายหายไป กระบี่ทองดำกระเด็นกลับมา หู่เทียนรับมันไว้ทันที
เฉินซานซัวถีบตัวพุ่งขึ้นฟ้า พลังชี่ควบเเน่นที่หมัดขวา ก่อรูปเป็นพยัคฆ์ตัวหนึ่งกำลังวิ่งราวกับมันลงจากขุนเขา ซัดลงมาโจมตี
"พยัคฆ์ลงเขา!"
รัสมีของพลัวงนี้ไม่ใช่เล่น หูเทียนเคร่งเครียด เพราะวิชาหมัดนี้เปี่ยมด้วยรีงสีหมัดที่รุนเเรง มันก็เหมือนกับรังสีกระบี่
ดอกเหมยบาน ป้องกัน!
ดอกเหมยพุ่งออกจากตัวของหู่เทียน ขนาดของมันใหญ่มาก จากดอกตูมก็เบ่งบานออก สีชมพูสวยสดงดงาม ทว่าพยัคฆ์ตัวเท่าวัวควายกลับไมใม่สนใจ เปล่งเสียงคำรามเข้าปะทะในทันทีทันใด
ปัง
ครืนกระเเทกส่งหู่เทียน บอมช้ำภายในทันที เขากระอักเลือดออกมาคำโต ส่วนเฉินซานซัวไม่ต่างกันเลย
ชายชรามองมือของตนเอง เเล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลังของตนเหมือนจะอ่อนเเอลงกว่าตอนที่ถล่มสำนักเเพทยื นี่คือพลังฝึกตนทดถอยเช่นนั้นหรือ เร็วอย่างนี้เชียว
"ตาเเก่ เจ้าเเน่มาก ฝีมือถึงขนาดนี้ เเต่ว่า จบเเค่นี้ละ" หู่เทียนคำราม เขาตกใจในพลังฝีมือของเฉินซานวัวจนลืมกระทั่งสังเกตศัตรูว่าพลังถดถอยลงไปหนึ่งขั้น เขาระเบิดพลังชี่ออกมา หมายจะสังหารอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว
"ที่จบนะมันเจ้าต่างหาก เฮ้อ รุ่นเยาว์สมัยนี้ รังเเกคนชรายิ่งนัก" ฝ่ามือของชายชราเหยียดออก พลังชี่ก่อรูปเป้นตราพยัคฆ์อันใหญ่ ขณะเดียวกันพลังฟ้าดินราวกับถูกดูดเข้ามารวมที่ตรานั่น
"ตราพยัคฆ์!" เฉินซานซัวคว้ามันไว้เเละเหวี่ยงโยนไปทางหู่เทียน
หู่เทียนที่เตรียมใช้กระบวนทาที่ 3 พลันถูกตราพยัคฆ์อันนั้นทับลงที่ร่างทันที พลังกดทับนี้หนักราวภูเขาทั้งลูก หู่เทียนดิ่งลงพสุธาอย่างเร็วไว
ก่อนจะถูกทับฝังอยู่ในพื้นดิน
กระนั้นเขาก็ยังไม่ตาย
"ตาเเก่ เจ้าเป็นใคร กล้าดียังไง ถึงได้ทำร้ายศิษย์ของสำนักเเพทย์ ไม่อยากมีชีวิตอยู่เเล้วรึ!!" หู่เทืียนคำรามลั่น
"หุบปากเจ้าเสีย หลานสาวของข้า เฉินหยู ถูกผู้อาวุโสของสำนักเเพทย์พาตัวไป! หึ สำนักเเพทย์ของเจ้ามันเก๋านักหรือ ได้อีกไม่นาน ข้าผู้ชราเเซ่เฉิน จะไปเยี่ยมเยือนถึงที่ ตราพยัคฆ์ ทำลายล้าง!"
ตราพยัคฆ์เปล่งเเสงจ้าทันที ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น ความรุนเเรงนี้ ไม่อาจเทียบเท่าครั้นถล่มสาขาของสำนักเเพทย์ ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอให้เกิดระเบิดที่รุนเเรง กรรโชกเข้าต้นไม้ใบหย้าปลิวว่อนไปทั่วฟ้า
เฉินซานซัวหายไป เหตุที่เขาไม่เค้นคอถาม เพราะพลังฝึกตนของเขาในตอนนี้ มันกำลังถดถอย สิ่งนี้เหมือนกับโรค ตอนรักษาจึงจะหาย หากอยู่นานกว่านี้ เกิดอันใดขึ้นมีเเต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ เฉินซานซัวไม่กล้าเสี่ยง เพราะชีวิตของเขา เป็นของเด็กน้อยสองคน เเละจำต้องหอบสังขารปกป้องคนสองคนให้รอดปลอดภัย สองคนนั่นก็คือ เฉินหยูกับเฉินตง สองฝ่าเเฝดของสกุลเฉิน ด้วยเหตุผลบางอย่าง!