พัคจินอูรีบร้อนเดินกลับเข้ามายังห้องพักของโรงแรมที่อยู่ติด ๆ กับห้องพักของชเวกียุล แต่ว่าคังจูวอนกับคังมินจุนก็ต่างคนก็ต่างง้วนอยู่กับคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ดักฟัง
คังมินจุนเดินถือหูฟังให้พัคจินอูทันทีที่เธอเดินกลับเข้ามาภายในห้องพัก
" ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับพี่ " คังมินจุนพยักหน้า และให้พัคจินอูสวมใส่หูฟังที่ตอนนี้กำลังเชื่อมต่อระบบดักฟังภายในห้องพักของชเวกียุล
พัคจินรีบร้อนถือหูฟังสวมทันที และพวกเธอยังนั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจในระหว่างที่ชเวกียุลกำลังพูดคุยและสนทนากับผู้หญิงไทยคนนั้น
" อรศิริ " พัคจินอูเรียกชื่อผู้หญิงไทยคนนั้นตามชเวกียุล และเสียงพูดจาหยอกล้อกันปกติระหว่างหญิงสาวและชายหนุ่ม
ตุบ !
คังมินจุนกับคังจูวอนตกใจที่อยู่ๆ พัคจินอูวางกระแทกหูฟังลงบนพื้นโต๊ะ และพวกสองคนก็ต่างพากันทำหน้าตาเลิ่กลักพากันทำตัวไม่ถูก
" พี่ครับ เป็นอะไรไป " คังมินจุนสงสัยเธอ ในระหว่างที่พวกเขาสองคนยังต้องคอยใช้หูฟังแอบฟังห้องพักข้างๆ
" พวกนายสองคนจัดการเรื่องนี้กันไปก่อน " พัคจินอูส่ายหัวเบาๆ และลุกขึ้นเดินตรงไปที่ประตู
" ฉันจะออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย " เธอบอกพวกเขา และก่อนที่จะเปิดประตูในระหว่างที่คังจูวอนจะเดินตามเธอไป
" ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกนะ " เธอบอกกับคังจูวอน และพวกเขาที่ยอมและปล่อยให้เธอออกไปข้างนอกเพียงลำพัง
หน้าคาเฟ่ 123 ซอเยอึนรีบวิ่งเข้ามาหยุดอยู่หน้าร้านกลางดึก และซอเยอึนที่พยายามมองเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อดูให้แน่ใจว่า ไม่มีใครตามเธอมาถึงที่นี้จริงๆ
" เยอึน ! " ฮวังอินซองรีบเปิดประตูร้านและวิ่งเข้ามาหา และพวกเขาก็ต่างพากันเหลียวซ้ายมองขวาก่อนจะพากันกลับเข้าไปภายในร้าน
ซอเยอึนล้มตัวลงนั่งบนโซฟาและถึงกับปาดเหงื่อ และก็โล่งใจที่วิ่งหนีคนพวกนั้นมาได้
" ฉันไม่เข้าใจพวกเขาเลยจริงๆ " ซอเยอึนบ่นอุบอิบ ในขณะที่เห็นฮวังอินซองเอาแต่กดโทรศัพท์ไปๆ มาๆ เดินอยู่ในร้าน
" ยังติดต่อพวกนั้นไม่ได้ใช่หรือเปล่า " ซอเยอึนตั้งคำถามและสงสัยเหมือนกับที่ฮวังอินซองสงสัยทั้งคังจูวอนและคังมินจุน แล้วก็พัคจินอู
ฮวังอินซองพยายามจะส่ายหน้าและยังเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ และพวกเขายังคอยก้มมองแต่โทรศัพท์
" พวกนั้นแอบหนีไปประเทศจีน "
" ยุนแจอีก็ยังหาตัวเธอไม่เจอตั้งแต่เกิดเรื่องทีสถานีรถไฟใต้ดิน " และน้ำเสียงที่รู้สึกผิดของซอเยอึนที่มีให้กับเพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งฮวังอินซองเอื้อมมือขึ้นมาจับไหล่ของเธอและบีบเบาๆ
" ถ้าพัคจินอูไม่พูดอะไร ก็แสดงว่า ยุนแจอีคงจะไม่เป็นอะไรมาก " และเขาก็ปลอบใจซอเยอึน และก็แอบหวังลึกๆ ว่า ยุนแจอีจะไ่ม่เป็นอะไรจริงๆ อย่างที่พัคจินอูบอก
แต่ซอเยอึนกลับชักไม่มั่นในและยังหันไปจับมือของฮวังอินซองมากุมเอาไว้
" พี่ค่ะ ! " และสายตาของพวกเธอที่มองกันเปลี่ยนไป
" บอกตามตรง ฉันไม่มั่นใจในตัวของวีไอพีเอาซะเลย "
" เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องที่สถานีรถไฟ และมีเจ้าหน้าที่ของไทยเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ "
" เอาจริงๆ ฉันก็แค่สงสัยว่า ทำไม ! พัคจินอู "
" เธอถึงได้ทำตัวแปลกๆ ไปอย่างไงก็ไม่รู้ " ซอเยอึนได้แต่คิดและสงสัยในตัวของพัคจินอู และพยายามจะหาคำตอบให้ได้
ฮวังอินซองก็เลยได้แต่พยักหน้าตาม เพราะสิ่งซอเยอึนสงสัย เวลานี้พวกเขาทุก ๆ คนก็สงสัยด้วยเหมือน ๆ กัน และอีกอย่างทั้งเธอและพวกสองพี่น้องคังหนีไปประเทศจีนในเวลาแบบนี้โดยไม่บอกใคร
พัคจินอูเพิ่งจะวางสายพี่ชายตัวเองที่โทรมาจากโรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ เธอหยุดดูโทรศัพทฺมือถือของตัวเองครู่หนึงก่อน แต่ทว่ามือไม้ของตัวเธอเองก็ดูเหมือนจะอ่อนแรงลงไปได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องหันไปมองรอบๆ บนดาดฟ้าของโรงแรมภายในเมืองซานหมิงประเทศจีน และเห็นแต่แสงไฟบนยอดตึกสูงห้อมล้อมเธอเต็มไปหมด และเธอที่ขึ้นมาอยู่บนยอดตึดดาดฟ้าของโรงแรมที่นี้มากกว่าชั่วโมงแล้วด้วยซ้ำ
" เพราะคนๆ นั้นอย่างนั้นสินะ ! " เธอพูดอยู่กับตัวเอง
พัคจินอูกำลังรีเพลย์ภาพความทรงจำในหัวตั้งแต่คราวครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสมือกับชเวกียุล และอีกครั้งที่เขาไปช่วยเธอเหลือจากวันที่ฝนตกหนักหน้าพระราชวัง และตั้งแต่วันน้ั้นจนถึงตอนนี้ภาพและสิ่งที่เธอเห็นในอดีตและอนาคตก็ดูเลือนลาง
" ประธานชเว กับ พี่มินแจ ! จะยังใช้วัคซีนเชย์รีสได้ยังไงก็ในเมื่อผลของวัคซีนยังไม่ชัดเจน" และเสียงของชเวกียุลก็ดังตามหลัง
" แล้วอีกอย่าง เธอเองไม่ใช่หรืออย่างไง ที่เป็นคนทำให้พวกเขาต้องติดเชื้อ " และเขาก็เดินเข้่ามาและเอาแต่โทษเธอ
พัคจินอูหันมาเผชิญหน้ากันทันที แต่ว่าเธอก็ยังต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้คอยซ่อนมันเอาไว้และมองชเวกียุลอย่างขอบคุณกลับไปมากกว่า
"เชื้อไว้รัส CD ห้าสิบ อาจจะไม่ได้แพร่กระจายจากที่นี้แน่ ๆ " เธอบอก
" และก็ไม่จริงที่เชื้อไวรัส CD ห้าสิบจะถูกลักลอบเอามาจากแล็ปของ MD " และเธอก็ยังคอยย้ำๆ บอกกับเขา
ชเวกียุลส่ายหัวเบาๆ และมองเธอด้วยความรู้สึกผิดหวัง
" เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆ ใช่ไหม พัคจินอู " เขาถามและมองเธออย่างตั้งใจฟัง แต่ว่าเธอก็เอาแต่หลบตา
" การมองเห็นอนาคตของเธอ กำลังมีปัญหาใช่หรือเปล่า "
" พัคจินอู ! " คำถามของชเวกียุลที่พยายามใช้น้ำเสียงราวๆ กับเป็นคำถามธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ระหว่างพวกเขาก็ต้องพยายามเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ทั้งคู่
" คุณนะ " พัคจินอูสูดหายใจเข้าลึก แต่ทว่าดวงตากลับดูสั่นไหวอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
" ไม่ใช่สิ "
" นายนะ ทำไมถึงได้อดทนได้มานานขนาดนี้กันนะ " และเธอก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาเผชิญสายตาของเขาอีกครั้ง และสายตาของชเวกียุลที่มองเธอเหมือนไร้ความรู้สึกและช่างว่างเปล่าซะเหลือเกิน
"เอาเข้าจริง ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่า นายกำลังทำงานให้ใครกันแน่ หรือว่าเป็นใครกันแน่ " เธอสบตาและตั้งคำถาม
" ชเวกียุล ! นายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน แต่ว่า"
" พัคจินอู ! " แต่เขาก็รีบพูดสวนขัดขึ้นมา ในขณะที่ตัวเองก็พยายามจะมองสบตาของเธอพร้อมกันไปด้วย
" เด็กผู้ชายคนที่เธอเคยช่วยเอาไว้ที่โรงพยาบาล ตอนเขาอายุแค่เก้าขวบ " และเสียงของเขาที่ก็เหมือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ
" จินอู ! เธอนะเก่งอย่างเดียวคือการจดจำเรื่องที่เจ็บปวด แต่ว่า "
" เธอเอง...ไม่เคยจดจำเรื่องราวที่น่าจดจำได้เลยจริง " เขาตัดพ้อและถึงกับเบือนหน้าหนีไปมองรอบๆ เพื่อสูดหายใจเข้าให้ลึก และทันทีก็หันกลับมาจ้องตาเธอเขม็งอีกที
"หยุดโกหกว่า เธอจำฉันไม่ได้ ได้แล้วนะ !! " น้ำเสียงตวาดของชเวกียุลพลอยทำให้พัคจินอูต้องสะดุ้ง และไม่นานมากเท่าไหร่หยดน้ำตาของเธอก็ไหลพราก
ฮวังอินซองเดินลัดเลาะตามตรอกทางเดินเล็ก ๆ บริเวณหมู่บ้านบนเนินเขาที่อยู่บนเกาะเล็ก ๆ ริมชายหาด และในขณะที่ซอเยอึนก็เดินเตร็ดเตร่แถวๆ ชายหาด
" ที่เราอุตส่าห์บินมาหกชั่วโมง ก็หวังว่าจะไม่คว้าน้ำเหลว" ซอเยอึนเอาโทรศัพท์มือถือของเธอแนบหูเอาไว้แทบจะตลอดเวลา และพยายามที่จะเหลียวมองซ้ายและขวามองไปรอบๆ ตัว
" ไม่หรอกน่า พวกเราต้องเจออะไรสักอย่างที่แน่ " ฮวังอินซองที่ก็ยังคุยโทรศัพท์กับซอเยอึนแทบจะตลอดเวลาเหมือนกัน
" ไม่อย่างนั้น พี่แทซันคงไม่ให้เรามาที่เมืองไทยแบบนี้หรอก " และฮวังอินซองก็ได้บอกเหตุผลที่พวกเขาสองคนต้องบินมาที่ประเทศไทยกระทันหันเพียงชั่วข้ามคืนหลังจากที่พี่ชายของพัคจินอูฟื้นและบอกกับพวกเขาเรื่องข้อมูลลัทธิแปลกๆ
" อาซาล่า " มิหนำซ้ำฮวังอินซองยังคอยนึกย้อนไปถึงตอนที่เขารีบไปโรงพยาบาลเมื่อคืนเพื่อไปเจอแทซันที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บสาหัสจากพวกคนปริศนาที่พยายามแอบตามพัคจินอูไปที่กองถ่าย และถ้าหากชเวกียุลไม่ไปเจอพัคจินอูที่หน้าพระราชวังเก่าป่านนี้เธออาจจะต้องถูกเปิดเผยตัวตนไปแล้วก็ได้
" พี่แทซัน " ฮวังอินซองยังคงหันไปคุยโทรศัพท์กับซอเยอึนต่อไป
" สงสัยคนพวกนี้ได้สักพักแล้ว ถึงได้แอบสืบอย่างลับๆ "
" แต่จะว่าก็ว่า คนพวกนั้นมีเป้าหมายอะไรในตัวจินอูกันแน่ ! " พวกเขาที่ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยในกลุ่มลิทธิที่มีชื่อแปลก ๆ จนพวกเขาต้องรีบออกมาตามหากลุ่มคนปริศนาพวกนี้ที่ประเทศไทย
" เห้อ.." เสียงถอนหายใจลากยาว ๆ ของซอเยอึนดังผ่านลำโพงโทรศัท์
" ถ้าจินอูไม่เข้าไปเกี่ยวข้องก้บประธานชเวอีกก็คงดี "
" เพราะถ้าไม่อย่างนั้นค่าเฟ่ 123 คงเป็นที่เกษียณของพวกเราจริง ๆ ไปแล้ว " น้ำเสียงบ่นพล่ามของซอเยอึนที่ๆ ก็พลอยทำให้ฮวังอินซองอดสงสัยในงานที่ทำอยู่จริงๆ ไม่ได้