เวลาหกโมงตรงในตอนเช้า ผู้คนทยอยเข้าหอคอยไปยืนรอที่ชั้นที่สิบหน้าบานประตูยักษ์สูงกว่าสิบเมตร ไม่นานข้อความและหน้าจอก็ปรากฏขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้คนภายนอกได้มองเห็นเหล่าวีรบุรุษที่ทยอยกันขึ้นไป ด้านหน้าปรากฏร่างกายของหนึ่งร้อยสามเสาหลักทุกคน ตามด้วยผู้นำตระกูลและผู้นำกิลด์ต่างๆ
เยว่ชิงฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นหลงจือหยาง หัวใจที่ว้าวุ่นสงบลงช้าๆ เจ้าตัวยกมือกุมที่หน้าอก อธิษฐานให้ทุกคนพิชิตชั้นที่สิบลงได้และขอให้หลงจือหยางไม่บาดเจ็บ
"หือ"ธนูเงาดำปรากฏขึ้นตรงหน้า มีกระดาษใบหนึ่งเสียบมา เยว่ชิงขมวดคิ้วก่อนจะเห็นตราประทับกิลด์ของหลงจือหยาง ก็รีบแต่งตัวและตรงไปยังกิลด์ซึ่งเป็นทิศทางที่เกอเกือบร้อยคนกำลังมุ่งตรงไป
"โอ้โห้ คนเยอะจริงเชียว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นคนเก่งๆใกล้ๆแบบนี้ โดยเฉพาะท่านหลงจือหยาง"ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมสงครามใหญ่ แต่เป็นครั้งที่สามที่เขาออกล่า
"ท่านหลงจือหยางไม่ได้ยืนฝั่งตระกูลหลงแสดงว่านำทัพกิลด์สินะ"คนด้านหลังๆที่นั่งกองรวมกันก็เริ่มพูดคุย
"น่าอิจฉาจริง ตระกูลก็เป็นอันดับหนึ่งในประเทศ แทบติดอันดับต้นๆของโลกอีก ไหนจะกิลด์ของตัวเองที่อยู่อันดับหนึ่งของโลก"
"จะน่าอิจฉาจริงเหรอ ได้ยินมาว่าอีกฝ่ายเอาใจเกอของตัวเองถึงกับสร้างกิลด์รองรับเฉพาะเกอเชียวละ"
"ใช่ๆนั่นหมายความว่าทรัพยากรจะถูกใช้โดยเกอ แล้วคนในกิลด์จะไม่เดือดร้อนรึไง ถ้ามีกิลด์ยื่นข้อเสนอให้มากกว่าละ"
"แต่คนส่วนใหญ่ในกิลด์เป็นคนที่ท่านหลงจือหยางชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กเลยนะ คนพวกนั้นคงไม่ออกแน่นอน"เจ้าตัวแย้งออกมา เพราะตั้งแต่หลงจือหยางอายุสิบห้าก็ใช้เงินเลี้ยงดูเด็กกำพร้าและอุปการะบุรุษไว้เป็นจำนวนมาก
"ก็เฉพาะคนอื่นๆที่เข้าร่วมเพราะชื่อเสียงของกิลด์นะสิ"ชายอีกคนชักฉุน ใช่ว่าจะมีคนจงรักภัคดี โดยเฉพาะคนที่เข้าร่วมใหม่ๆ แค่มีข้อเสนอที่มากกว่าก็ติดปีกกันแล้ว
"เรื่องจริงเหรอวะ นึกว่าเป็นเรื่องตลก น้องแกก็ได้บัตรนี่"เจ้าตัวหันไปหาเพื่อน ไม่ใช่เรื่องเล็กเพราะทุกการเคลื่อนไหวของหลงจือหยางย่อมเป็นที่จับตามอง และการที่บัตรบินว่อนทั่วโลกและมีเกอได้รับบัตรนั้น
"ใช่ พ่อฉันตัดมันออกจากตระกูลไปแล้ว เลี้ยงเสียข้าวสุกมานาน น่าเสียดายที่มันเอาไปได้แค่น้อง เพราะแม่มันยังอยู่เป็นปลิงครอบครัวกูอยู่"และหลายๆครอบครัวต่างก็ตัดทิ้งทันที ถ้าไปไม่รอดก็ไม่คิดจะรับคืน แถมยังย่อยอำนาจของกิลด์อันดับหนึ่งอีก ใครบ้างจะไม่อยากเป็นใหญ่
ขนาดกิลด์อันดับสองยังให้คนในกิลด์ตัดขาดกับเกอที่ได้บัตรเลย เพราะในบัตรมีการบอกชัดเจนถ้าครอบครัวไม่ดีจงตัดทิ้ง ตกต่ำไม่กลับไป แต่ถ้าครอบครัวดีก็พากันไปพักในเขตหอพักตำหนักเทพอสูร ภายในสถานที่กิลด์หมื่นดาบของหลงจือหยาง
ลองคิดเล่นๆว่าหนึ่งคนต้องใช้หินวิญญาณคนละหมื่นและมีหลายร้อยคน หลงจือหยางจะเอาทรัพยากรมาจากไหนมากมายเพื่อเลี้ยงดู มีแต่ทำให้คนในกิลด์ไม่พอใจและแตกหักก่อนจะมีคนบางส่วนทยอยออกมา
แล้วคนเหล่านี้จะไปที่ไหนเล่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมาชิกกิลด์อันดับหนึ่งของโลก กิลด์อื่นๆย่อมยื่นมิตรไมตรีให้อีกฝ่ายไม่น้อย และงานนี้ต้องรวบรวมทรัพยากรให้ได้มากที่สุด
หลงจือหยางรับฟังเงียบๆแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ตอนนี้จิ้งจอกน้อยคงไปถึงตำหนักเทพอสูรเรียบร้อยและสมาชิกกว่าร้อยคนคงมาถึงทั้งหมดแล้ว เมื่อคิดว่าตัวเองไม่ต้องกังวลถึงภายนอก ก็หันมาสนใจคนด้านในโดยเฉพาะตระกูลหลง
"หนูฟางเซียนน้าไม่เจอหนูแป๊บเดียว สวยขึ้นอีกแล้ว"ฟางเลี่ยงหรูลูบผมหลานสาวของตัวเองก่อนจะจ้องไปที่หลงจือหยางเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ารวมกับสตรีคนอื่นๆมองไปที่จุดจุดเดียว
"คุณน้า เรื่องที่พี่หลงทำ มันจริงเหรอคะ"ฟางเซียนก้มหน้าทำท่าเสียใจ ราวกับถูกแย่งสามี เมื่อคนงามน้อยอกน้อยใจเป็นธรรมดาที่ผู้ชายหลายคนอยากจะเข้ามาโอ๋
"คือ...จริงจ๊ะ แต่น้าไม่ทางยอมรับคนอื่นนอกจากหนูแน่นอน"ถ้าหลงจือหยางรอดไปได้ แต่นั่นคือสิ่งที่เธอไม่ได้พูดออกมา
หลงจือหยางเห็นทุกการกระทำจึงทำเพียงขยับริมฝีปากเพื่อบอกคนในเงา ก่อนที่ทุกคนจะยืนขึ้นและก้าวขาเข้าไปด้านใน
{ ผู้เข้าร่วมท้าทายหอคอยชั้นที่สิบ ไม่สามารถกลับออกไปได้ตราบใดที่บอสยังไม่ตาย ผู้ที่พิชิตจะได้รับสินสงครามตามสมควร อีกสิบนาทีเตรียมการปะทะ}
[ติ้ง!!! แจ้งเตือนระดับสูง มิติผันผวน ระบบอนุมัติการผ่านภารกิจที่สาม กำลังส่งมอบรางวัลภารกิจ โปรดใช้pointยกระดับทันที]
" ภารกิจที่ 3 เสร็จสิ้น
รางวัลภารกิจ POINT:10
รางวัลภารกิจ1:ก้นสวย [ระดับเพชร]
รางวัลภารกิจ2:จมูกโด่ง 0.1มิลลิเมตร "
"ยกระดับระบบ"เยว่ชิงรับรู้ถึงความร้อนรนในน้ำเสียงของระบบ เจ้าตัวจึงยืนนิ่งสายตาสอดส่องเกอนับราวๆหนึ่งร้อยสองคน แต่ละคนกำลังลงทะเบียนข้อมูลของจิตวิญญาณ โดยแยกออกระหว่างสัตว์อสูรในตำนานกับสัตว์อสูรโบราณ
และลงทะเบียนที่พักและครอบครัว สำเนาถูกตัดออกจากครอบครัวเดิม และทุกคนก็แยกย้ายเพื่อไปพักผ่อนก่อนจะประชุมกันอีกทีหลังจบสงครามในชั้นที่สิบ เพราะเยว่ชิงอยากจะรอให้หลงจือหยางได้มาพูดคุยด้วย
[กำลังทำการยกระดับ โปรดรอ]
เยว่ชิงยืนรอนิ่งๆก่อนจะเลิกคิ้วหนึ่งข้างเมื่อเกอคนอื่นๆยังรวมตัวกันครบ มีเพียงคนในครอบครัวที่พามาด้วยขึ้นไปพักผ่อน โชคดีที่หลงจือหยางทิ้งคนของเขาเอาไว้เพื่อช่วยเหลือ
"ตามสบายเลยนะทุกคน เราจะพูดคุยกันหลงจบสงคราม"เกอคนอื่นๆพยักหน้าเพราะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่แผ่ออกมาเช่นเดียวกับที่เกาเทียนเย่เคยสัมผัส
"เรามาดูการทำสงครามกันเถอะ"เมื่อทุกคนหันไปสนใจสงครามที่จะเริ่มในอีกสองนาที เยว่ชิงก็พรู่ลมหายใจเมื่อระบบส่งเสียงกลับมา
[ระบบยกระดับสำคัญ โฮสต์สามารถตรวจค่าสถานะตัวเองได้ เพียงเอ่ยสเตตัส]
"สเตตัส"เยว่ชิงเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนที่จะมีตารางสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้น
<สเตตัสผู้ใช้งานระบบ:เยว่ชิง
จิตวิญญาณ:จิ้งจอกขาวเก้าหาง
ระดับปฐพี (E) สีฟ้า ปรากฏสองหาง
ค่าเสน่ห์...กดเพื่อดูเพิ่มเติม
ความสามารถพิเศษ....กดเพื่อดูเพิ่มเติม
POINT:0 >
{ยินดีต้อนรับมนุษย์ทุกคนที่เข้ามาท้าทาย แต่พวกแกต้องจบสิ้นในวันนี้}ก่อนที่เยว่ชิงจะถามระบบว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงในหอคอยก็ปรากฏขึ้นพร้อมกองทัพกระต่ายสองแสนตัว รวมทั้งบอสกระต่ายตัวใหญ่ยักษ์สูงเจ็ดเมตร
{ในเมื่อพวกแกมาอยู่ที่นี่กันหมด แล้วใครจะปกป้องคนด้านนอกกันละ}กระต่ายตัวใหญ่เอียงคอก่อนจะคลี่ยิ้มสยดสยอง มันชูลูกแก้วสีแดงก่อนจะบีบจนแตกละเอียด จากนั้นภาพด้านนอกหอคอยก็ปรากฏ
"ดันเจี้ยน!!!"กลุ่มคนร้อยสามเสาหลักตะโกนออกมาพร้อมกัน สามปีที่ผ่านมาไร้ดันเจี้ยน แต่ตอนนี้มันกลับมาเพราะพวกเขาท้าทายบอสชั้นที่สิบ ไม่ว่าทางไหนก็ถูกปิดประตูเพื่อให้มวลมนุษยชาติต้องตาย
"ด้านนอกจะเป็นยังไงบ้าง เราออกไปด้านนอกไม่ได้"
"ครอบครัวของฉันยังอยู่ข้างนอกนั่น"
{แปะๆใจเย็นๆก่อนมนุษย์ ฉันให้โอกาส ใครก็ตามที่จิตวิญญาณอยู่ระดับราชาขึ้นไป สามารถติดต่อคนภายนอก แต่ได้แค่คนเดียวเท่านั้น}
มีเพียงยี่สิบสี่คนเท่านั้นที่อยู่ระดับS โดยอันดับหนึ่งคือหลงจือหยาง ตามด้วยสมาชิกร้อยสามเสาหลักหลายสิบคนและผู้นำตระกูลกับผู้นำกิลด์คนอื่นๆ
{ว่าไง ฉันให้พวกแกได้เอ่ยลาครอบครัวเชียวนะ ดูสิ อีกไม่นานดันเจี้ยนก็จะแตก สัตว์ด้านในก็จะออกอาละวาด}
"ขอแค่แกตายก็จบ"ชายวัยกลางคนบ้าคลั่ง เมื่อโลกภายนอกยังมีบุตรชายสุดน่ารักของเขาอยู่ เจ้าทะยานเข้าไปก่อนจะมีดาบขวางเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าอาณาเขตคลื่นเสียง
"ผม...ขอบคุณครับท่านหลงจือหยาง"มองมองปลายเท้าหัวใจก็ตกที่ตาตุ่ม หากเข้าไปในอาณาเขตของมัน เขาคงตายทันทีเพราะแรงกดดัน
"ทุกคนต่างก็ห่วงคนข้างนอก พวกคุณควรมีสติให้มาก เราจัดการพวกมันไม่ง่ายขนาดนั้น ฉันต้องการติดต่อเยว่ชิง"
หลงจือหยางเป็นคนแรกที่เชื่อมต่อกับเยว่ชิง ก่อนจะเห็นหน้าจอสี่เหลี่ยม แน่นอนว่าคนทั่วโลกต่างก็เห็นฉากนี้ และได้รับรู้ว่าคนแบบไหนที่หลงจือหยางให้ความสำคัญ
"ผมฝากด้านนอกด้วยนะครับและที่สำคัญอย่าบาดเจ็บ"หลงจือหยางทำได้เพียงส่งกำลังใจ เขารู้ดีว่าจบสงครามในเวลาหนึ่งชั่วโมงไม่ได้ ตราบใดที่คลื่นเสียงของพวกมันยังเป็นอุปสรรค โดยเฉพาะความสามารถของบอสประจำชั้นที่สิบ
"ผมรู้ครับ ด้านนอกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา อย่าห่วงเลยครับผมจะไม่บาดเจ็บแน่นอน"คนอื่นๆที่ได้ยินต่างก็ทำสีหน้าปลาตาย เกอจะช่วยอะไรได้ในสงคราม นอกจากวิ่งไปตาย
{ฮี่ๆเรามาดูเหตุการณ์ด้านนอกก่อนดีกว่า}กระต่ายโยกหัวอย่างดีใจ ถ้าคนข้างนอกตายพวกมันก็จะคลุ้มคลั่ง ฆ่าง่ายขึ้นและสนุกขึ้น พวกมนุษย์จะต้องตายทั้งหมด
ตู้มมมม!!! เสียงภายนอกระเบิดขึ้นตามด้วยเสียงคำรามของสัตว์อสูร เยว่ชิงโบกมือก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอก โดยมีสมาชิกกิลด์หมื่นดาบราวสิบชีวิตและเกออีกหนึ่งร้อยกว่าคน หลงจือหยางมองตามภาพเหล่านั้นด้วยหัวใจสั่นระรัว
{ดันเจี้ยนไร้ระดับได้แตกออก ผู้ที่พิชิตสงครามดันเจี้ยนจะได้รับสินสงครามตามความเหมาะสม}
"เมื่ออยู่ในสงคราม จงหาราชาของพวกมัน ใครที่มีจิตวิญญาณสัตว์ปีกบินบนฟ้าออกไปตามหาทีนะครับ"เยว่ชิงโบกหางขาวๆของตัวเอง มองฝูงสัตว์อสูรวิ่งออกมาจากเกท คนอื่นๆต่างวิ่งหนีแตกฮือไป เหลือเพียงคนไม่ถึงสองร้อยคนที่เข้าร่วม
"ครับ"เสียงตอบรับคำสั่งดังสนั่นคนแรก พวกเขาเดินทางมาที่นี่เพราะรู้ดีว่าความสามารถของพวกเขาคืออะไรตามการถ่ายทอดความทรงจำ นอกจากบางคนจะหนีจากขุมนรก ยังมีโอกาสเลื่อนระดับ ถึงแม้จะไม่มากแต่พวกเขาคาดหวังชีวิตที่ดีขึ้น
หากตายตอนนี้ก็ไม่เสียใจ เพราะพวกเขาได้ก้าวเท้าออกไปถึงข้างหนึ่งแล้ว
หนึ่งในนั้นแปลงร่างเป็นอินทรีทองก่อนจะโบยบินขึ้นฟ้า ตามด้วยพีกาซัสและสัตว์อสูรตนอื่นๆที่โบยบินขึ้นบนฟ้าไปหลายสิบตัว
"จิวอิง อย่าฝืนตัวเอง ถ้าเราหลุดการควบคุมคนทั้งโลกอาจจะตาย"จิวอิงพยักหน้าก่อนจะวิ่งมุ่งไปทางซ้าย ส่วนเกาเทียนเย่ที่เห็นแบบนั้นก็แยกไปทางขวา คอยสั่งการเป็นระยะ
เกอคนอื่นๆแปลงกลายเป็นสัตว์อสูรในสภาพพร้อมรบ โดยมีคนในกิลด์ของหลงจือหยางคอยช่วยเหลือ
[ภารกิจฉุกเฉิน
1.กำจัดสัตว์อสูรทุก 10ตัวรับ 1 point
2.กำจัดราชาดันเจี้ยน 1,000 point
3.พิชิตดันเจี้ยนไร้ระดับภายในหนึ่งชั่วโมง ยกระดับความงามระดับเพชรหนึ่งอย่าง (เลือกเอง) ]
"แม่งเอ่ย พูดห่าอะไรวะ คนทั้งโลกจะตายงั้นเหรอพวกมันสิตายก่อน อั๊ก"ด้ามของดาบกระแทกเข้ามุมปากจนเลือดไหล เจ้าตัวยกมือกอบกุมบาดแผลมองไปที่หลงจือหยางอย่างเครียดแค้น
"หุบปาก แล้วรอดู"ทุกคนต่างสงบนิ่งเมื่อรู้ดีว่าเข้าต่อสู้กับกระต่ายตอนนี้ยังไม่ได้ มันยืนรอคอยพวกเขาให้เห็นความตายของมนุษย์คนอื่น ให้พวกเขาสิ้นหวังมากขึ้น และทำให้ตระหนักรู้ ว่าดิ้นรนไปสุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี
"แกกำลังหลงมัน"คนในตระกูลหลงต่างชี้หน้า ซึ่งแน่นอนว่าคนอื่นๆเห็นด้วยแต่ไม่อยากแย้ง ไม่งั้นอาจจะโดนเหมือนน้องชายต่างมารดาของหลงจือหยางที่เลือดกลบปากตั้งแต่ยังไม่เริ่มตีกับกระต่าย
"ผมไม่เลือกคนไม่ทัดเทียมตัวเองหรอกนะ นอกจากเยว่ชิงเกอและสตรีคนอื่นไม่มีใครเหมาะกับผมทั้งนั้น เลิกฝันไปได้เลย"หลงจือหยางตวัดสายตาคมเข้มไปที่สตรีคนอื่นๆเพื่อให้รู้ไว้ว่าเขาไม่มีวันเลือก
"นายเร่งทำงานหนักเพราะรู้อยู่แล้ว"เสวียนอวี้เลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นหลงจือหยางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย
"สัญชาตญาณมันบอก"ทุกการกระทำของเขาผ่านการคำนวณมาเป็นอย่างดี ส่งบัตรให้เกอคนอื่นๆแจ้งถึงการตัดขาดกับครอบครัวที่ไม่ดี นัดรวมตัวในวันเข้าหอคอย ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะเกิดสงครามสองด้านไหม
และพอมันเกิดมาจริง ก็แค่ให้ทุกคนได้เห็นว่าจิ้งจอกน้อยของเขา ใครก็ห้ามรังแก
หวังเพียงว่าเด็กน้อยจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่งั้นเขาคงโกรธตัวเองมากแน่ๆ