บอสกระต่ายในชั้นที่สิบมองเห็นฝูงอสูรหลายพันตัวออกจากประตูดันเจี้ยนบริเวณหน้าหอคอยก็ยิ้มเยาะ มันโบกมือเบาๆแล้วส่งภาพเหล่านั้นไปทั่วทั้งโลก อีกไม่นานผืนแผ่นดินจะอาบย้อมไปด้วยเลือด มันจะยืนมองใบหน้าสิ้นหวังของพวกมนุษย์และกลืนกินโลกใบนี้
ตั้งแต่จำความได้ สัตว์อสูรทุกตัวในหอคอยจะถูกควบคุมด้วยเสียงเสียงหนึ่ง และเสียงเหล่านั้นพูดอยู่เสมอว่าให้ฆ่ามนุษย์ทิ้งแล้วพวกเขาจะเป็นอิสระ แต่ถ้าควบคุมความสิ้นหวังของมนุษย์ได้มากเท่าไหร่ ผลตอบแทนก็ยิ่งสูงตามไปด้วย
คนในหอคอยได้แต่ยืนมองโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อบอสกระต่ายสร้างอาณาเขตแรงกดดันเอาไว้ ทำให้พวกเขาได้แต่ยืนรอเฉยๆ ใบหน้าของแต่ละคนหดหู่อย่างมาก บางคนเชื่อไปแล้วว่าเกอเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานได้ โดยเฉพาะจำนวนที่ต่างกันเกินไป
แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ขอบคุณ ที่เกอเหล่านั้นออกมาสู้
"แกว๊กกกกก"เสียงคำรามลั่นบนท้องฟ้า ด้านบนเป็นนกอินทรีทองสะบัดปีกปะทะเข้ากับสัตว์อสูรตรงกลาง จากนั้นสัตว์อสูรบางตัวขยับเข้าใกล้เพื่อปกป้องบางอย่าง
"ฝากด้วยนะครับ"เยว่ชิงตะโกนบอกกับเกาเทียนเย่ก่อนจะมุ่งตรงไปด้านหน้า มีราชาย่อมมีแม่ทัพคู่กายที่คอยปกป้อง
"ไม่ต้องห่วง เกอทุกคนอยู่ในอาณาเขตคลื่นเสียงของฉัน มันใจว่าเอาชนะได้ค่อยออกไปปะทะ สู้ไม่ได้ให้ถอยกลับมา"
"ครับ"พวกเขาอยู่ในร่างสัตว์อสูร ยืนอยู่รอบๆ เกาเทียนเย่ที่ขยายร่างใหญ่ยักษ์เป็นเต่าภูเขาลาวา เท้าข้างหนึ่งกระแทกลงพื้นก่อนจะกางอาณาเขต เต่ายักษ์อ้าปากก่อนจะมีลูกไฟสีแดงออกมาสองลูกจากนั้นก็พุ่งทะยานไปด้านหน้า
ตู้มมมมมม เกาเทียนเย่ที่ยกระดับจิตวิญญาณมาจนถึงระดับE สามารถปล่อยลูกไฟออกมาได้สองลูก เนื่องจากไม่เคยลองมาก่อนก็จัดครั้งแรกจนเต็มแรง แน่นอนว่าพื้นดินหายไปจนเป็นทางลากยาวและมันกินพื้นที่ป่าไปเล็กน้อย
เต่ายักษ์ยกขาหน้าชี้ไปที่รอยแยกสองทางก่อนจะเอียงคอหันมามองสมาชิกน้อยใหญ่แล้วถาม
"ฉันต้องจ่ายค่าซ่อมไหม พอดีไม่มีเงิน"เกาเทียนเย่รู้สึกแย่เล็กน้อย ก่อนจะยืนนิ่งๆ กลางอาณาเขตอย่างเดียว ต่อไปนี่ฉันเกาเทียนเย่คนนี้มีหน้าที่สั่งอย่างเดียว โจมตีไม่ได้แล้ว
"...."คนของกิลด์หมื่นดาบอีกสิบชีวิตต่างก็กระโดดไปด้านหลัง พวกเขาต่างยกมือกุมหน้าอก ไม่แปลกใจที่นายท่านของพวกเขาให้ยกหินจิตวิญญาณให้เกาเทียนเย่ไป
"เป็นไปไม่ได้"นอกจากเสียงของบอสกระต่ายจะดัง ยังมีเสียงของครอบครัวบางครอบครัวที่ตัดขาดจากเกอเหล่านี้ไป พวกเขาเลือกจะทำลายข้าวของและกล่าวโทษหลงจือหยางที่วางแผนเอาไว้ โดยไม่ได้โทษตัวเองเลยแม้แต่น้อยที่ละเลยความรู้สึกของเกอเหล่านี้ไป
"ไม่จริง"น้ำเสียงในหอคอยที่หลายคนพูดออกมาพร้อมกันอย่างยอมรับไม่ได้ บางตระกูลไล่เกอออกไปเพราะไร้ประโยชน์ที่จะดูแล ส่วนบางคนก็ยอมรับไม่ได้ ที่หลังจากนี้เกอจะมีสถานะเท่าเทียม โดยเฉพาะความคิดจากสตรี
พวกเขาเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด ผู้ชายหลายคนจับจองพวกเขาไว้ แต่ต่อไปนี้มันจะไม่เหมือนเดิม หนึ่งในนั้นคือคนทั้งโลกยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างหลงจือหยางและเกอนั่น
ทางฝากฝั่งจิวอิง เยว่ชิงก็กำชับคนที่มีอาวุธประเภทเครื่องดนตรีคอยส่งเสียงปลอบประโลมจิตใจ คนสนิทของหลงจือหยางคืนหนึ่งในนั้น พวกเขามีกันสามคนที่มีจิตวิญญาณอาวุธประเภทเครื่องดนตรี
เสียงดนตรีดังปลอบประโลมจิตใจถูกส่งไปที่จิวอิง เจ้าตัวหันไปมองก่อนจะเห็นชายชุดดำปิดบังใบหน้าสามคนก็ก้มหัวขอบคุณ จากนั้นทุกคนก็เห็นภาพสีขาวดำทรงกลมหมุนวนขนาดใหญ่ มันแยกออกเป็นปลาสองตัวสีขาวดำ
"กลืนวิญญาณหยิน"ละอองสีดำพวยพุ่งออกจากลำตัว สัตว์อสูรที่วิ่งเข้ามาระเหยไปกับอากาศ พวกมันกรีดร้องเสียงดังบางส่วนวิ่งหนีกลับไปที่เดิมเพื่อจะเข้าไปในดันเจี้ยน
"หืม เลื่อนระดับ"จิวอิงเป็นคนเดียวที่ยังไม่สามารถขึ้นระดับEได้ พอเลื่อนระดับสำเร็จ อาณาเขตพลังหยินก็พวยพุ่งออกไปมากขึ้น
เยว่ชิงหันกลับไปมองก่อนจะถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ หวังว่าเด็กน้อยที่น่ารักของเขาจะควบคุมตัวเองได้
"มะ...ไม่จริง จิตวิญญาณนั่น"ชายวัยกลางคนทรุดเข่าลง หากจิวอิงได้เห็นคงบอกได้ทันทีว่านี่คือบิดาที่ขับไล่จนเขากลายเป็นเด็กกำพร้า ผู้คนในบริเวณนั้นรู้ว่าเขาเป็นตัวต้องสาปไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนขว้างปาสิ่งของใส่
"คุณพี่"ภรรยาคนใหม่เข้าประคอง
"หุบปาก ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันคงไม่ไล่ลูกฉันออกไป"สุดท้ายหลายครอบครัวก็จบลงแบบนี้ โดยโทษไปที่สังคมรอบข้างที่เลือกปฏิบัติมาตั้งแต่แรก จนลืมโทษตัวเองที่เลือกจะขับไล่ลูกแท้ๆของตัวเองจากบรรทัดฐานของสังคม
"แกรู้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดจะบอกพวกผู้อาวุโสร้อยสามเสาหลักเลยรึยังไง"
"แหม่ๆ พูดง่ายไปมั้งลุงก็เห็นๆ กันอยู่ ว่าคนที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส หยิ่งในพลังตัวเองขนาดไหน คิดจริงๆ เหรอว่าจะรับฟัง"โจวกวางรุ่ยยิ้มเยาะ ขนาดเขาตอนแรกยังคิดว่าหลงจือหยางมันบ้าเลย ยอมรับฝีมือก็ตอนที่เห็นจิวอิงแสดงฝีมือนั่นแหละ
อีกอย่างของดีแบบนี้...ใครจะบอก
"โฮกกกกก"สิงโตผู้เป็นราชาของดันเจี้ยนรับรู้ถึงคลื่นพลังจิตสังหารที่ตรงมา ในสายตาของมันปรากฏมนุษย์ผู้หนึ่งที่มีหูและหางสีขาวโผล่ ในฐานะราชาแห่งสรรพสัตว์มันไม่ยินยอมการดูหมิ่น มนุษย์ต้องยำเกรงต่อมัน ไม่ใช่ท้าทาย
"โอ้โห้ ตัวใหญ่แหะ"เยว่ชิงไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงแต่เขากำลังสั่นอยู่ โชคดีที่มีระบบกรอกหูว่าทำเพื่อหลงจือหยาง ไม่งั้นเขาอาจจะหันหลังกลับไปฟ้องจิวอิงให้มาช่วย
[อย่ากังวลโฮสต์ เนื่องจากระบบได้อัพเกรดสำเร็จ สามารถใช้ร่างเทพอสูรจิ้งจอกเก้าหางได้เพิ่มอีกสองนาที เป็นห้านาที กวาดมันโลด เพื่อผู้ชายท่องไว้]
เยว่ชิงฮึบสู้ก่อนจะแปลงร่างเป็นจิ้งจอกสีขาวสูงหนึ่งเมตร เมื่อปรากฏหางที่สองลำตัวก็ขยายเป็นสองเมตร
"ขอให้ปลอดภัย"หลงจือหยางพูดขึ้น ฝ่ามือกำแน่นชื้นไปด้วยเหงื่อ ยิ่งเห็นภาพในหน้าจอว่าจิ้งจอกน้อยขยายร่างถึงเก้าเมตร สูงกว่าราชาดันเจี้ยนก็ยิ่งใจเต้นระรัวมากขึ้น
"โฮกกกกกกก"เสียงคำรามลั่นจากเหล่าเกอที่อยู่ในสนามรบเงยหน้าขึ้นคำรามเสียงดังข่มขวัญคู่ต่อสู้เมื่อพลังเทพอสูรกระจายโดยรอบสนามรบ
ในขณะที่สัตว์อสูรในดันเจี้ยนพวกมันก็ส่งเสียงคำรามกลับมาเมื่อราชาของพวกมันกำลังท้าทายตัวตนเทพอสูร
ภาพเบื้องหน้ากำลังทำให้คนทั้งโลกใจสั่นสะท้าน พวกเขาหวาดกลัวต่อกองกำลังที่ถือกำเนิดใหม่ บางครอบครัวที่เป็นเกอทั้งหมดได้แต่กอดกันทั้งน้ำตา ในที่สุดพวกเขาก็มีวันนี้
วันที่ไม่ต้องก้มหน้าเวลาเดิน ไม่ต้องทนฟังเสียงกระทบกระเทียบ พวกเขาต่างอวยพรให้เกอเหล่านั้นมีชัย เสียงตะโกนโห่ร้องดังไปทั่วทั้งโลกและภาพเหล่านี้ทำให้บอสกระต่ายขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
มันต้องสิ้นหวัง ไม่ใช่มีความหวังกัน มนุษย์โลกแม่งป่วย....
"กรึ่งเทพอสูร พวกมันต้องการให้เราตายทั้งหมด น่าเสียดายแทนพวกมันจริงๆ เพราะพวกเรามีเยว่ชิง ไม่งั้นก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้"หลงจือหยางพูดขึ้นหลังจากที่เขาเจอเยว่ชิงก็เริ่มศึกษาเหล่าสัตว์อสูร จนรู้ได้ว่าระดับความสูงของร่างกายสามารถกะระดับได้ อย่างบอสกระต่ายอาจจะอยู่ระดับAหรือS
ถึงแม้จะอยู่ระดับเดียวกัน แต่มนุษย์ยังเสียเปรียบในเรื่องของกำลังพล เชิงพื้นที่และสภาพอากาศของสนามรบอยู่ดี
"นายมองออก"โจวกวางรุ่ยยกมือเกาหัว สหายเขามองออกแต่ตัวเขามองไม่ออกสักอย่าง
"ใช่ สิงโตตัวนั้นสูงราวๆ แปดเมตรน่าจะอยู่ระดับราชาหรือจักรพรรดิ เทียบเท่ากึ่งเทพอสูร ในขณะที่ตอนนี้เยว่ชิงอยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์หรือเทพอสูร"หลงจือหยางพูดเสียงดังเพื่อให้คนในเงามืดได้รู้ว่าจิ้งจอกน้อยของเขาไม่สามารถกำจัดได้ง่ายอย่างที่คิด อาจจะช่วงหนึ่งที่พวกเขาไม่เคลื่อนไหว แต่ไม่ใช่ตลอดไป
ในเมื่อครอบครัวเขายังคิดจะกำจัดเขาที่อยู่ในตารางอันดับหนึ่งของบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในโลกได้ กับเยว่ชิงที่มีเงื่อนไขในการใช้พลังนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทางเดียวที่จะหลุดพ้น พวกมันต้องตายหรือไม่ก็พวกเขาที่ต้องแข็งแกร่งมากที่สุดในโลกนี้แทน
"ตู้มมม"เยว่ชิงยกเท้ากระทืบลงไป ราชาสิงโตกระโดดถอยไปด้านหลัง มันคำรามสั่งการให้แม่ทัพของมันโจมตีเยว่ชิงก่อน สิงโตอีกสามตัวกระโดดขึ้นกางกรงเล็บและกระโจนเข้าหาจิ้งจอกตรงหน้า
เยว่ชิงหมุนหางทั้งเก้าก่อนจะแทงผ่านลำตัวของพวกมัน ส่วนหางที่เหลือกวาดแทงสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ที่ถอยออกไปแต่ยังอยู่ในรัศมีที่หางของเยว่ชิงยังยืดไปได้
"มีดีแค่นี้"เยว่ชิงเอ่ยกับราชาสิงโตก่อนจะสะบัดปลายหางโยนศพสิงโตตัวอื่นๆ ลงพื้นตรงเท้าของราชาสิงโต
"กรรซ์ โอหังนักมนุษย์ ข้าต่างหากคือราชา แน่จริงก็เข้ามา"ราชาสิงโตพูดอย่างท้าทาย มันคอยสอดส่องรอบๆ วางแผนการล่าอย่างแยบยล มันไม่ยอมตกเป็นรองมนุษย์แน่
"ไม่ได้ หลงจือหยางบอกว่าห้ามบาดเจ็บ แกนั่นแหละที่เข้ามา"เยว่ชิงนั่งลงกับพื้น หรี่ตามองอย่างจับพิรุธ สิงโตตัวนี้กำลังวางแผน ถ้าเขาเข้าไปก่อนเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ เพราะแบบนั้นรอให้มันเข้ามาแล้วเอาหางฟาดจะดีกว่า
"แกสิเข้ามา"สิงโตถลึงตาใส่ มนุษย์มันไม่โง่สิงโตจะแย่เอาได้
"ไม่"เยว่ชิงยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง จิ้งจอกสีขาวส่ายหน้าโบกหางทั้งเก้าไล่ฟาดสัตว์อสูรตัวอื่นๆ จากนั้นก็ฟังเสียงแจ้งเตือนpointดังขึ้นต่อเนื่อง
"....."นี่คือความเงียบจากผู้คนทั้งโลก โดยมีหลงจือหยางยืนกุมขมับเอาไว้ เด็กน้อยของเขาซื่อตรงมากๆ ....น่ารักจริงๆ
[โฮสต์เอาหางฟาดมันจากนั้นก็กัดคอ สัตว์อสูรตัวอื่นๆ เป็นคะแนนนะ] ระบบจะปล่อยผลประโยชน์เหล่านี้ไปได้ยังไง
"โอ้ จะเข้าไปก่อนก็ได้"เยว่ชิงยืนขึ้น สิงโตค่อยๆ ย่อตัวอย่างระวัง หางแรกของเยว่ชิงฟาดเข้าที่กลางลำตัวแต่สิงโตกระโดดหลบพ้น หางที่สอง สาม สี่เลยฟาดลงรัวๆ
ถึงแม้สิงโตจะว่องไวขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถสู้ได้กับหางทั้งเก้าที่มีจำนวนเยอะ สุดท้ายก็พลาดเมื่อหนึ่งหางฟาดเข้าที่หลังเต็มๆ จนมันกระอักเลือดออกมา เยว่ชิงใช้หางพันร่างของมันเอาไว้แล้วกระทืบเท้าปลิดชีพ ร่างของสิงโตแหลกไม่มีชิ้นดี
{ขอแสดงความยินดีกับผู้พิชิตดันเจี้ยนไร้ระดับได้สำเร็จ กำลังประมวลผล}
{ผู้ที่สังหารบอสของดันเจี้ยนจะได้รับต่างหูหนึ่งคู่ ต่างหูแต่ละข้างสามารถสื่อถึงกันได้ โดนเคลื่อนย้ายร่างกายจากอีกคนไปที่อีกคน เป็นการเคลื่อนย้ายไปหาคู่ของตัวเองยามที่ตกอยู่ในอันตราย ไอเทมประเภทคู่}
{ผู้ที่เข้าร่วมสงครามดันเจี้ยนไร้ระดับ ทุกคนจะได้รับกำไลขอมือแบบสุ่มฟื้นฟูจิตวิญญาณหรือรักษาอาการบาดเจ็บ}
{หลังการพิชิตบอสชั้นที่สิบลงได้ ทุกท่านสามารถตรวจค่าสถานะความแข็งแกร่งได้จากระดับ และการถือกำเนิดดันเจี้ยนทั่วทุกมุมโลก ในดันเจี้ยนจะซ่อนไอเทมระดับต่างๆ เอาไว้}
เสียงประกาศดังขึ้นพร้อมการหายไปของดันเจี้ยน เกอนับร้อยคนโห่ร้องอย่างดีใจ พวกเขาได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีใครตาย ต้องขอบคุณเกาเทียนเย่ที่ให้สัตว์อสูรประเภทปีก ลากคนเจ็บมากองรวมกันในอาณาเขต
แถมยังได้รับไอเทมระดับAไว้ในครอบครองคนละหนึ่งชิ้น เกาเทียนเย่คืนร่างก่อนจะมองกำไลสีขาวแบบฟื้นฟูจิตวิญญาณก่อนจะร้องเยสในใจ
หากมีเจ้านี้ด้วยระดับนี้ เขาสามารถยิงลูกไฟเพิ่มมาได้อีกหนึ่ง ส่วนทางฝั่งจิวอิงเป็นกำไลสีเขียวรักษาอาการบาดเจ็บ เจ้าตัวโอนเอนเพราะร่างกายสูญเสียพลังงานไปมาก เยว่ชิงที่รีบวิ่งมาก็นอนลงปล่อยให้จิวอิงนอนทับตัว
จิ้งจอกน้อยคืนสภาพเหลือสองหางก็แบอุ้งเท้าปรากฎต่างหูรูปหยดน้ำสองอัน เป็นไอเทมระดับSชิ้นแรกของโลก จากนั้นก็นอนหลับไป
เกาเทียนเย่ที่เดินมาหาก็ส่ายหัว มองหน้าจอที่หลงจือหยางติดต่อกับเยว่ชิงเอาไว้ก่อนจะเอ่ย
"ทางฝั่งนี้ชนะแล้ว ผมจะดูแลคนเหล่านี้ให้เอง"เพราะนอกจากยิงลูกไฟไปสองลูก เกาเทียนเย่ก็ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว เพราะงั้นไม่เหนื่อย มีเวลาเก็บซากเพื่อนร่วมทีมที่นอนสลบได้
"ขอบคุณ"หลงจือหยางเอ่ยเบาๆ ใบหน้าผ่อนคลายประดับไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นจิ้งจอกน้อยปลอดภัย ก่อนจะปิดการสื่อสารแล้วยกมือขึ้น ชายในชุดดำหลายสิบชีวิตก็ยืนด้านหน้า
"ไปกัน ฉันต้องรีบกลับไปทำอาหารให้จิ้งจอกน้อยอีก"นั่นคือคำสั่งของหลงจือหยาง พวกเขาแทบกระอักเลือด ถ้ามีคนทำลายอาณาเขตบอสกระต่ายได้ ทำไมไม่ทำ
แน่นอนว่าหลงจือหยางต้องตอบว่า เปิดทางให้กับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเกอน้อย จบสงครามนี้ไปเยว่ชิงจะกลายเป็นเกอเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถยืนเคียงคู่กับหลงจือหยางได้
เสียงที่ได้ยินจะมีเพียงคำว่าเหมาะสมและคู่ควร นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจให้กับจิ้งจอกน้อย ยังสามารถลดเสียงดูถูกดูแคลนของคนอื่นได้อีก ไม่ว่าทางไหนคนที่ได้ประโยชน์ก็คือหลงจือหยาง
เด็กน้อยมั่นใจ เขาก็พาเด็กน้อยไปเที่ยวได้ กำไรเห็นๆ