"แล้วแบบนี้จะกล้ามองหน้าอีกฝ่ายได้ยังไง"เยว่ชิงยกมือปิดใบหน้าที่แดงเถือก พอคิดว่าจะมองหน้าอีกฝ่ายแล้วมีเรื่องลามกเกิดขึ้นในหัวก็แทบสลายร่างกายเป็นของเหลวแล้วมุดลงดิน
[ตรวจพบว่าโฮสต์ไม่มีความมั่นใจในการมองหน้าอีกฝ่าย ไม่เป็นไร ระบบจัดการให้]
" ภารกิจที่ 7
อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์~~~ โปรดสบสายตาให้ยาวนานเฉลี่ยรวมสิบนาที เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
ระยะเวลาที่กำหนด1:00:12:00:00
ระยะเวลาที่กำหนด2:00:00:10:00
รางวัลภารกิจ:ขอบตาเรียวหงส์ระดับเงิน "
[ภายในสิบสองชั่วโมง โฮสต์ต้องสบสายตากับหลงจือหยางเป็นเวลารวมทั้งสิ้น สิบนาที สู้ๆ]
"ยะ...แย่แน่"เยว่ชิงพึมพำในลำคอ ดวงตาแดงกล่ำเม้มริมฝีปากแน่น สบตากับคนคนนั้นเลยนะ สบตากันราวๆ สิบนาที เจ้าตัวยกมือขยุ้มเส้นผม ใครมันจะไปทำได้กัน ชอบมาแปดปีแค่สบตาเสี้ยววิก็เข่าอ่อนแล้ว ระบบรังแกกันเกินไปแล้ว
เจ้าตัวเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำแล้วก้มมองลูกรักที่เปื้อนพิษ ก่อนจะลงมือทำความสะอาดอย่างทะนุถนอมจากนั้นก็อาบน้ำหน้ากระจก มองก้นแฟบๆ ขาใหญ่ไม่มีส่วนโค้งเว้า
"ฮึบๆ อีกไม่นานก้นเราจะใหญ่"เจ้าตัวยกมือตบแก้มแปะๆ อย่างให้กำลังใจตัวเอง จากนั้นก็เช็ดตัวสวมเสื้อผ้าไปเข้าเรียน
คลาสแรกช่วงเช้าเป็นการวิเคราะห์นิสัยดุร้ายของกระต่าย นอกจากทิศทางการโจมตี ช่วงเวลากรีดร้อง ยังมีภูมิศาสตร์ในหอคอยแต่ละชั้นอีกด้วย บางจุดเป็นผืนทะเลทราย บางจุดเป็นป่าเขาเขตร้อน
นอกจากความอัตรายจากตัวอสูรกระต่ายเอง ยังมีความอันตรายจากภูมิศาสตร์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ
"นี่คือใจความสำคัญของการเรียนรู้จุดภูมิศาสตร์ จำเป็นต้องมีคนในตระกูลอาการิและคนที่เกิดมาพร้อมจิตวิญญาณประเภทเวทมนต์ นอกจากคทา ลูกแก้วก็ยังมีเสื้อคลุม หรือสตรีบางคนที่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ต้นพฤกษาชาติ ที่มีลำต้นขนาดใหญ่กิ่งก้านยาวไกลหลายร้อยเมตร ในระยะพื้นที่โดยรอบเจ้าของจิตวิญญาณ สามารถปรับอากาศจากแสบร้อนกลายเป็นสบายและบริสุทธิ์
ภูมิศาสตร์ไม่ใช่แค่เท้าของเราเท่านั้นที่ลำบาก ยังมีกลิ่นบางชนิดที่ไม่สามารถสูดดมเข้าไปได้ เช่นพื้นที่ลาวา เมื่อความร้อนถูกสูดดมเข้าร่างกาย ร่างกายจะสะสมโลหะ เลือดไหลง่ายและร่างกายอ่อนแรง
บางส่วนที่เป็นพื้นที่เป็นพิษ ต้องใช้ความสามารถของสตรีที่เกิดมาพร้อมจิตวิญญาณประเภทพิษ หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินเรื่องพิษล้างพิษนี่คือเหตุผลที่ทางเสาหลักให้ความสำคัญของสตรีเทียบเท่าบุรุษ"
"แล้วเกอละครับอาจารย์"ชายคนหนึ่งในห้องยกมือถาม ก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก ทำให้คนที่เป็นเกอในห้องต่างก็ก้มหน้าลง พวกเขาเข้าใจได้อย่างดีว่าตัวเองไม่มีความสามารถเทียบเท่าได้
อาจารย์ผู้สอนส่ายหน้าอย่างเอือมระอา คนแบบนี้มีทุกที่จริงๆ มันน่าตบให้กระโหลกหลุดติดมือ แต่ทำไม่ได้อาจารย์ทุกคนมีน่าที่สั่งสอนความรู้ ไม่ใช่จ้าวชีวิตที่จะกำหนดกฎเกณฑ์หรือลงมือตีเป็นการสั่งสอน
"จิตวิญญาณของเกอเป็นรูปแบบสัตว์อสูร ทางสภาเสาหลักได้รับเรื่องของเกอที่ขึ้นไปอยู่ระดับBได้ อย่างแรกครอบครัวนั้นร่ำรวยมากจึงซื้อหินวิญญาณให้ยกระดับ แต่การยกระดับแต่ละครั้งอาจจะใช้หินวิญญาณมากกว่าบุรุษหรือสตรีสามสี่เท่า
ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งใช้มาก อย่างระดับFไปEของเกอใช้หินวิญญาณราวๆ ร้อยก้อน แต่ของสตรีกับบรุษบางคนใช้แค่สิบก้อนเท่านั้น
เมื่อครอบครัวทุ่มเทไปเรื่อยๆ ก็พบว่าไม่คุ้ม เมื่อมีลูกคนใหม่เป็นบุรุษก็มุ่งเน้นไปที่ลูกคนเล็กแทน แต่ไม่ใช่ว่ารูปแบบสัตว์วิญญาณไม่แข็งแกร่งนะ
ในด้านสัญชาตญาณบุรุษและสตรีด้อยกว่ามาก ถ้าให้คนสามคน บุรุษ สตรีและเกอในระดับที่เท่ากัน คนที่จะตายคนสุดท้ายคือเกอ และคนที่จะตายก่อนคือสตรี
ที่ทางเสาหลักยังสร้างพื้นที่ฝึกซ้อมขึ้นมาเพราะเชื่อว่าดันเจี้ยนที่หายไปจะย้อนกลับมาอีกครั้ง และทางสมายังกลัวว่าพวกมันจะปรากฏหลังจากที่หลายคนเข้าไปในหอคอยพิชิตชั้นที่สิบ
แต่ตอนนี้เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้นโปรดจำไว้เมื่อเกิดสงครามขึ้นความแข็งแกร่งของระดับ บางครั้งเป็นเพียงขยะ
อย่างแรกคือจิตวิญญาณแข็งแกร่งแต่กำเนิด ความหลายหลาย การเชื่อมต่อของจิตวิญญาณ วิธีการยกระดับ และความเข้าใจในจิตวิญญาณของตัวเอง"อาจารย์เว้นระยะช่วงหนึ่งก่อนจะเปรียบเทียบให้เห็นโดยการยกตัวอย่าง
"บุรุษผู้หนึ่งมีดาบหนึ่งเล่ม สู้กับบุรุษคนหนึ่งมีดาบหมื่นเล่ม ใครมีสิทธิ์ชนะถ้าระดับเท่ากัน"จากนั้นก็ตามด้วยคำตอบของคนในห้องว่าคนที่มีหมื่นเล่มมีสิทธิ์ชนะ
"นี่คือความได้เปรียบด้านจิตวิญญาณ"
"ต่อไปสตรีผู้หนึ่งเป็นสายโจมตีสู้กับสตรีผู้หนึ่งเป็นสายป้องกันในระดับที่เท่ากัน ผู้ที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย คือคนที่ได้เปรียบด้านการเชื่อมต่อจิตวิญญาณจะเป็นผู้ชนะ"
"เกอก็เช่นกัน ในการต่อสู้หมาป่ามีโอกาสชนะแมลงปอ แต่ถ้าในการหลบหนีแมลงปอมีโอกาสรอดมากกว่า นี่คือข้อได้เปรียบทางด้านการเข้าใจในจิตวิญญาณ ว่าจิตวิญญาณของตัวเองเหมาะไหมถ้าจะสู้หรือเหมาะกับการหลบหนี
เพราะจิตวิญญาณของเกอมีสัญชาตญาณของสัตว์ ทำให้โอกาสรอดชีวิตมากกว่าบุรุษและสตรี อย่างเช่นการถูกลอบโจมตี สัตว์แต่ละตัวจะมีการเฝ้าระวังและหลบพ้นทีนี้เข้าใจแล้วเนอะ"จากนั้นหลายคนๆ ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
เมื่อเห็นแบบนั้นอาจารย์ก็บรรยายต่อ โดยคำพูดเหล่านั้นอย่างน้อยเกอในห้องก็หายใจสะดวกขึ้น ถึงจะสู้ไม่เก่งแต่พวกเขาหนีเก่งมาก
หลังจบคลาสแรกเยว่ชิงก็ถูกส่งไปถือถาดที่มีแก้วน้ำ เดินไปยังห้องประชุมเพื่อแจกน้ำ ส่วนคนที่เดินข้างๆ ก็เป็นจิวอิงที่ยืนยิ้มแฉ่งตามมาติดๆ
ในหอประชุมมีที่นั่งหลายพัน โดยรอบนอกมีอีกหลายหมื่น โดยมีหน้าจอหลายร้อยตัวเพื่อให้มองเห็นว่าประชุมที่ด้านในมีหัวข้ออะไรบ้าง มีการพูดคุยและวางแผนแบบไหน โดยแต่ละโต๊ะมีไมค์ติดอยู่เพื่อให้แต่ละคนกดและนำเสนอแนวทาง
เยว่ชิงเดินไปด้านในหอประชุม ก่อนจะมองไปยังตรงกลางสำหรับพื้นที่ร้อยสามเสาหลักและผู้นำแต่ละฝ่ายหรือผู้นำประจำตระกูล แน่นอนว่าตรงใจกลางย่อมมีตระกูลหลักอยู่ พอมองไปรอบๆ จึงไม่แปลกใจที่มีเกอรวมทั้งสตรียืนถือถาดน้ำแต่ดูเหมือนว่ากลุ่มของหลงจือหยางจะยังไม่เข้ามา
"ไปกันเถอะ"เยว่ชิงคว้ามือจิวอิงให้เดินไปแถมหน้าประตูทางเข้าห้องประชุมแทนก่อนจะถือถาดน้ำไว้ ผ่านไปหลายนาทีคนในภารกิจก็เดินตรงมาจากนั้นก็หยุดตรงหน้าของเยว่ชิงพอดี
[โอ๊ะโอ เริ่มจับเวลาแล้วนะโฮสต์จ้องให้นานที่สุด]
เยว่ชิงจับจ้องไปที่ดวงตาอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอย ดวงตาสีดำสนิทราวกับจ้องลงไปในหุบเหวลึกมันทั้งน่าหวาดกลัวจนใจสั่นแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง ไม่แปลกหากมีใครหลายคนยินยอมพร้อมใจกันกระโดดลงไปที่ก้นเหวแม้อาจจะไม่รอดชีวิตกลับมา
ฝ่ามือของหลงจือหยางจับที่แก้วพลาสติกเสร็จเรียบร้อยก็เดินจากไป ในขณะที่เยว่ชิงสติหลุดลอยไปแล้วโดยมีจิวอิงยืนขู่แง่งๆ กับมาเฟียหนุ่มที่ยักคิ้วก่อกวน เพราะช่วงเวลาที่เยว่ชิงเอาแต่จ้องตาอีกฝ่ายราวกับสติหลุดจิวอิงจะเข้าไปช่วยเรียกสติ
เป็นเหตุให้เสวียนอวี้จ้องเจ้าตัวน้อยราวกับเด็กมัธยมต้นตาเขม็ง แถมดวงตาวาววับของมาเฟียหนุ่มไม่ได้ทำให้กระต่ายตัวน้อยหวาดกลัวเท่าไหร่ถึงแม้จะขาสั่นนิดๆ ก็ตาม พี่ชายคนสนิทของเขากำลังโดนล่อลวงเขาต้องรีบช่วยเหลือ
เมื่อหลงจือหยางเดินจากไปเสวียนอวี้และกลุ่มเพื่อนก็หยิบน้ำคนละแก้วเดินตามหลงจือหยางไปประจำที่นั่ง
" ภารกิจที่ 7
อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์~~~ โปรดสบสายตาให้ยาวนานเฉลี่ยรวมสิบนาที เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
ระยะเวลาที่กำหนด1:00:10:40:36
ระยะเวลาที่กำหนด2:00:00:8:47
รางวัลภารกิจ:ขอบตาเรียวหงส์ระดับเงิน "
เพราะเสียงแจ้งเตือนจากระบบทำให้เรียกสติกลับมาพร้อมกับได้ยินเสียงคนสบถ "โอ้ย!ถ้ารู้ว่าวันนี้ท่านหลงจือหยางจะเอาน้ำหน้าทางเข้าละก็ ฉันไปยืนรอตรงนั้นดีกว่า"
"เอ้า เอาไป อารมณ์เสียซะจริง"หญิงสาวในชุดหรูหราราคาแพงยื่นถาดน้ำให้เกออีกคนที่ยืนอยู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
"ขอโทษนะครับแต่เป็นคุณเองที่อยากถือ กรุณาอย่างทำนิสัยแบบนี้"เกอคนนั้นบอกก่อนที่เพื่อนๆ เกอจะแบ่งเอาแก้วน้ำไปไว้ในถาด เพราะน้ำหลายสิบแก้วมันจะหนักพอตัว
"แล้วไงแกเป็นใครแล้วฉันเป็นใคร เป็นแค่เกอแท้ๆ มายืนที่นี่ได้เพราะเป็นคนใช้ไม่ใช่รึไง"แน่นอนว่าคำพูดนี้ทำให้เกอหลายคนตัวสั่นด้วยโกรธ หนึ่งในนั้นคือเยว่ชิง
"คุณพูดเกินไปแล้วนะ ไม่ใช่เพราะอยากอยู่ในสายตาผู้ชายรึไง ถึงได้มาแย่งถาดในมือเรา พอผู้ชายไม่แลถึงได้ทำกิริยาต่ำๆ แบบนี้"เกออีกคนที่ยืนข้างๆ พูดขึ้นอย่างไม่พอใจเหมือนกัน ส่วนต้นเหตุของเรื่องนะเหรอ นั่งไขว้ขาบนโซฟาสีดำอย่างหล่อเหลาสง่างามราวกับเทพเจ้า
"วอนซะแล้ว ฉันเป็นถึงหญิงสาวในตระกูลโซราเฟีย เกอต่ำๆ อย่างพวกแกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน"ก่อนที่ฝ่ามือของเจ้าหล่อนจะปะทะเข้าที่แก้มของอีกฝ่าย น้ำเสียงเหี้ยมโหดก็ดังออกจากปากหลงจือหยางก่อนที่ดาบเล่มหนึ่งจะลอยมาจนถึงคอของสตรีที่อ้างว่าเป็นโซราเฟีย
"หยุดพฤติกรรมนั้นซะ ถ้าอยู่เพื่อสร้างปัญหาก็ไสหัวออกไป"น้ำเสียงเรียบนิ่งของอีกฝ่ายทำให้คนที่ก้าวเท้าเข้ามาใหม่อย่างตระกูลโซราเฟีย นำโดยท่านหญิงโอลีเวีย อดีตตระกูลราชวงค์ประเทศG
ก่อนที่สาวงามหลายสิบคนจะเดินตรงมาใกล้กับที่นั่งหลงจือหยาง โดยไม่แม้แต่จะหยุดในที่เกิดเหตุ
"ขออภัยให้กับสตรีของตระกูลที่สามด้วยนะคะท่านหลงจือหยาง"สตรีผู้เพียบพร้อมโอลิเวียทำการขอโทษแทนผู้อื่น ถึงแม้คนผู้นั้นจะไม่ใช่สายหลักก็ตาม แน่นอนในสายตาบุรุษผู้อื่นย่อมมองว่าเป็นการแสดงความจริงใจ
แต่ระบบกลับส่งเสียงมาอีกอย่าง [โฮสต์ดูไว้นะ นี่คือคนไม่จริงใจ แทนที่จะขอโทษให้กับเกอคนที่จะโดนตบ แต่กลับมาขอโทษตัวจุดชนวน ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเข้าใกล้ฝ่ายชาย เหอะ คิดว่าระบบโง่รึไง] เยว่ชิงส่ายหัวอย่างระอา
"ออกไปจากห้องประชุมเสียลีอา เธอไม่ควรหาเรื่องใครถึงอีกฝ่ายจะเป็นเกอก็ตาม ฉันขอโทษแทนเธอด้วย"โอลิเวียพูดขึ้นส่วนเกอคู่กรณีที่ยืนคิ้วขมวดขบคิดประโยคที่ว่า 'อย่าหาเรื่องใครแม้อีกฝ่ายจะเป็นเกอก็ตาม' คำพูดแบบนี้แปลไปได้หลายทางแต่ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไปทางเหยียดหยามว่าเกอต่ำศักดิ์กว่าไม่ควรแม้แต่จะพูดคุย
เกอคนนั้นกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ย "ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เข้าใจว่าตระกูลใหญ่ๆ มีคนเยอะ การสั่งสอนเลยค่อนข้างหละหลวม ยังไงก็ดูแลคนในตระกูลดีๆ นะครับผมขอตัว"อีกฝ่ายเดินตรงไปยังทางออกส่วนเยว่ชิงก็เดินเข้าไปข้างหน้าโดยมีจิวอิงหน้าตาเหลอหลาตามมาติดๆ
" ภารกิจที่ 8
รวบรวมพันธมิตรผู้ที่เหมาะในการพิชิตหอคอย ท่านได้รับกลิ่นอายเทพอสูรจิ้งจอกเก้าหางตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นสัญชาตญาณของอสูรโบราณและอสูรในตำนานตัวอื่น แต่ไม่สามารถใช้ได้กับจิวอิง อสูรกายก่ำกึ่งสวรรค์และนรก
ไม่มีระยะเวลาที่กำหนด ไม่มีรางวัลภารกิจ "