Chereads / ิฺBangkok in a Sense the memory of passed / Chapter 16 - ก่อนคำสารภาพ

Chapter 16 - ก่อนคำสารภาพ

" ไง !! "

และคำทักทายด้วยภาษาเกาหลีที่เริ่มทยอยดังออกมาจากหลังตู้กระจกจำลองเมืองนาโกย่าสมัยโบราณหลาย ๆ ร้อยปี

" รู้มั้ย !! " แต่ว่าอิเลฟเวนท์ก็ไม่ได้หันไปมองเขา

" ทำแบบนี้ ! เขาเรียกว่า ไม่มีมารยาท " และยังพาลหาเรื่องพวกที่ชอบแอบฟัง

อิ แทวอนยอมจำนวนด้วยหลักฐานจนต้องยอมเดินออกมาจากหลังเมืองจำลองที่อยู่ติด ๆ กับฉากกั้นลายเสือโคร่ง

" อะไรกัน "

" ผมก็แค่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย ! ก็เท่านั้น !!! " และเขาสวมชุดยูกะตุสีเดียวกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่มาร่วมงานเดินเข้ามายืนใกล้ๆ เธอ

" แล้วนี้... อิเลฟเวนท์ "

" คุณสั่งสอนอะไรคุณหนูฮง ! เธอไปบ้าง !! "

อิเลฟเวนท์ส่ายหัวเบาๆ

" เปล่าสักหน่อย " และปฏิเสธ

" อย่ามาโกหกน่า.... " อิ แทวอนที่ไม่เชื่อคำแก้ตัวของพวกเธอ และยังหันมาพูดเรื่องที่อิเลฟเวนท์พูดกับฮง ฮเยจีเมื่อกี้ให้ฟัง

" ฉันเพิ่งจะได้ยินเธอพูดถึงท่านประธานฮงขึ้นมาหยก ๆ นะห๊า..."

" อีเลฟเวนท์ ! " เขาพลางพูดไปและยิ้มเยาะ

" เปล่าน่า... !! " แต่เธอยังปฏิเสธอิ แทวอนซ้ำๆ

" และฉันก็ไม่ได้คิดที่จะขู่คุณหนูฮงเธอเลยด้วย " เธออมยิ้ม และพวกเขาถึงกับต้องคอยยิ้มตาม

อิ แทวอนถึงกับขนาดถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ต่อหน้ากันไปเลยทีเดียว แต่อิเลฟเวนท์ที่กำลังจะเดินหนีไปจนต้องรีบเดินตาม

" อิเลฟเวนท์ " จนกระทั่งน้ำเสียงที่ฟังดูค่อนข้างจะซีเรียสของเขา จนเธอต้องรีบหันมาและสังเกตสีหน้าของพวกเขา

" ว่า ! " และเธอก็ไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดขนาดนี้ของอิ แทวอนมาก่อน

" ผู้หญิงรัสเซียคนนั้น !! " และเขาก็หันมารับสารภาพอย่างไม่ค่อยจะเต็มปากเต็มคำ

" คือว่า...เธอ !!! " และนัยน์ตาที่เศร้าอยู่แล้วกลับเศร้าลงไปอีกของอิ แทวอน

" เสียใจด้วย !!! " และเธอก็ปลอบใจทันทีที่สังเกตเห็นความผิดหวัง และก็ยังรับรู้ได้ชั่วขณะนั้นเลยว่ารู้ว่า เวลานี้อิ แทวอนคงเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงชาวรัสเซีย

" หึ ! " แต่ทว่าน้ำเสียงหัวเราะเยาะตัวเองของอิ แทวอนกลับดังขึ้นมาแทน

" เอาจริง ๆ "

" ฉันน่าจะเชื่อเธอตั้งแต่เจอกันที่รัสเซียเมื่อคราวก่อน อิเลฟเวนท์ " และอิ แทวอนยังคงทำหน้าตาผิดหวังมากขึ้นๆ

" เมื่อวาน ผู้หญิงคนนั้น ! "

" เธอ...ถูกพวกผู้ก่อการร้ายจับตัวไปและก็ถูกฆ่าทิ้ง ! " และเผลอๆ อิ แทวอนยังจะต้องคอยหลบสายตาของอีเลฟเวนท์ไปพลางๆ

" ทั้ง ๆ ที่...เธอไม่ใช่สายลับของพวกรัสเซียเลยด้วยซ้ำ !!! " แต่ว่าเผลอๆ ที่บางครั้งบางทีน้ำเสียงที่สั่นเครือของพวกเขาก็เริ่มจะมีปะปนให้ได้ยิน

อิเลฟเวนท์ตัดสินใจหยุดเดินและหันกลับไปมองหน้าเขา และคอยเอื้อมมือเข้าไปจับที่หัวไหล่ แต่ว่าเธอกลับไม่ได้มองหน้าของอิ แทวอนตรงๆ เพราะว่าเธอกำลังมองข้ามหัวไหล่มองไปทางด้านหลัง

" เธอจะต้องรู้ !!! " เธอมองอิ แทวอนและยังต้องฝืนยิ้มให้

" และฉันก็กำลังคิดว่า....."

" เธอเองก็ไม่ได้ ! โทษคุณ !!! " คำพูดของอิเลฟเวนท์ที่คอยปลอบประโลม แต่ว่าเธอก็ยังไม่สามารถที่จะละสายตาจากด้านหลังของอิ แทวอนได้ทันที

และเขาก็พยายามที่จะยิ้มออกมาให้ได้

" ฉันรู้ !! " อิ แทวอนพยายามที่จะปลอบใจตัวเอง เพราะว่าไหนๆ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว และพวกเขาคงจะไปช่วยอะไรผู้หญิงรัสเซียคนนั้นเอาไว้ไม่ได้แล้ว

เพราะฉะนั้นในระหว่างที่อิ แทวอนพยายามที่จะทำใจเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงคนสนิท ในระหว่างนั้นเธอที่ก็เลยหันมาจัดแจงชุดยูกะตะของพวกเขาให้เรียบร้อย

อิเลฟเวนท์พยายามจะเข้าไปปลอบใจของอิ แทวอนก็ด้วยการช่วยทำให้พวกเขาดูดีขึ้นอีกนิดๆ หน่อยๆ

" อันที่จริง.....ก็ ! " และเธอก็พยายามจะสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของอิ แทวอนใกล้ๆ

"..ดูไม่เลวเลยนะ ! แบบว่า !! "

"เชอะ !!! " อิ แทวอนถึงต้องคอยเบือนหน้าหนีห่างๆ จากอิเลฟเวนท์ออกมา ก็เพราะว่าที่ๆ เธอพยายามจะทำตัวเป็นแม่งานคอยเจ้ากี้เจ้าการ แต่ว่าเขาก็ยังไม่ลืมที่จะหันมาล้วงเอาของในกระเป๋าเสื้อออกมาและยื่นกล่องกำมะหยีสีน้ำเงินยาวๆ เล็ก ๆ ให้กับเธอ

" อะนี่ ! "

" ของขวัญวันเกิด ! รับไปสิ !! " อิ แทวอนยื่นของขวัญให้อิเลฟเวนท์ แต่ว่าเธอก็ยังแสดงรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์กลับมาหาเขาอีกแล้วจนได้

" ให้...ปากกา ! เนี้ยนะ !!! " น้ำเสียงประชดประชันและลีลาที่ไม่ยอมยื่นมือออกไปรับของขวัญจากมือของอิ แทวอนง่ายๆ

"เห้อ..... " และเขาถึงกับเบือนหน้าหนีกันอีกรอบ

" รู้แล้วยังจะมาถาม !! "

" ให้ตาย !!! "

" ทำไมน่า.... "

" ทำไม ! ฉันถึงต้องถูกคนอื่นคอยบังคับให้มาเจอกับเธออยู่เรื่อย !!! " เพราะฉะนั้นเขาถึงได้หงุดหงิดก็เพราะความเจ้าลีลาของอิเลฟเวนท์อยู่อีกเหมือนเดิม

ครึ้ม !!!...ครึ้มๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงกลองไทโกะดังเหมือนเสียงฟ้าผ่าและยังทยอยดังออกมาเรื่อยๆ จากหลังฉากกั้นบานพับที่ปลายสะพานฮิโรอิจำลองสะพานข้ามแม่น้ำมินะ เสียงกลองบรรเลงจากบรรดาผู้ชายรูปร่างดีทั้หมด 11 คน และทุกคนก็สวมกางเกงฮากาม่าสีเขียวหัวเป็ดและสวมเสื้อกีสีดำสะพายกลองไทโกะกลองสองหน้าแบบโบราณของญี่ปุ่น

เหล่าบรรดาผู้ชายผู้ที่แสดงฝีมือตีกลอง และทุกๆ คนกำลังเพลิดเพลินกับการเล่นกลองไทโกะทยอยเดินกลับขึ้นมาบนสะพานข้ามแม่น้ำมินะจำลองที่หน้าปราสาทสีขาว และจอแอลอีดีที่ฉายภาพแม่น้ำมินะสีใสสะอาด และกลีบดอกของซากุระสีขาวอมชมพูและกลีบของดอกบ๋วยสีชมพูอมขาวที่ ๆ มีทั้งของแท้และก็ของเทียมที่ถูกลมโชยให้ร่วงหล่นลงมาอยู่ที่บนหน้าจอ แสดงภาพอันตระกาลตาไปทั่วทั้งคะมะกุระเมืองจำลองหน้าปราสาท และแสงไฟจากดวงไฟสปอร์ตไลท์พากันเจิดจ้าส่องข้ามผ่านไปๆ มาๆ สลับระหว่างสะพานข้ามแม่น้ำและสะพานจำลอง ให้ดูเปรียบเสมือน

แม่น้ำมินะนี้ ! ซึ่งไหลตกลงมาจากเทือกเขาซุกุบะในแคว้นทาชิ.. .ไหลรวมกับน้ำบนเทือกเขาคันทาชิในแคว้นฮิทาชิตะวันตก.....จนรวมกันกลายเป็นแม่น้ำลึก.. เหมือนดั่ง...กับความรักที่สุมสรวงของฉัน....

...ที่....ทับถมลึกมากขึ้นเรื่อยๆ

ครึ้ม ! ครึ้ม ๆๆๆๆ !! ครึม !!!

เสียงกลองที่คล้ายดั่งเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังผ่านข้ามแม่น้ำมินะมา และเสียงอึกทึกครึกโครมของกลองญี่ปุ่นโทโกะในยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า...เสียเต็มประดา

เสียงอึกทึกเวลานี้ ! มันช่าง....ฟังดูราวๆ เหมือนเสียงฟ้าร้องที่ทะเลาะอยู่กับสายลม !!! ครึ้มแรกฟ้าร้องคำรามเหมือนเสียงเตือน ครึ้มรัวๆ เสียงฟ้าผ่าที่เพียงต้องการร้องคำรามคอยเจรจาอยู่กับ สายลม ว่า....ขอให้เจ้ายอมจำนนเสียเทิด.....

....ครึ้ม !!! ต่อ ๆ มา... เหมือนท้องฟ้าจะแผดเสียงร้องดังกึกก้องขึ้นๆ ไปเสียอีก...เช่นนี้ว่า ... เบื้องบนนี้เป็นของข้า !!!!

..... เจ้าเอย....เจ้าสายลมน้อย ๆ ที่ไร้ตัวตนเช่นเจ้า !!!

.....ไฉนเลย...สายลมจึงไม่เจียมตัว !!!!

และบรรดานักตีกลองฝีมือเยี่ยมที่พากันพัดโบกสะบัดท่อนไม้ไผ่กระทบกันกับกลองญี่ปุ่นโบราณค่อยๆ คืบคลานห่างออกจากสะพานแห่งสายลมมา จวบจนกระทั่งเหล่าศิลปินนับสิบเอ็ดคนที่แขวนกลองพาดบ่าและพากันเดินผ่านข้ามมาเพื่อที่จะคอยทักทายเหล่าผู้คนนักชื่นชมศิลปะก็เพราะว่ามีเหล่าแขกท่านผู้มีเกียรติจำนวนเป็นร้อยๆ รวมทั้ง สื่อมวลชนหลายแขนงที่ก็ต่างพากันตบเท้าเข้าแถวนั่งรออยู่ริมสองฝั่งข้างทางของเมืองคะมะกุระจำลองอยู่จนเกือบเต็ม

นักธุรกิจจากต่างประเทศราว ๆ นับยี่สิบถึงสามสิบที่ต่างพาสวมชุดในแบบวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเพื่อเข้ามานั่งรอชมงานศิลปะที่คาดว่าน่าตื่นตาตื่นใจและเร้าใจ และก็บรรดานักข่าว นักหนังสือพิมพ์อีกนับหลายสิบก็พากันเข้ามาตั้งกล้อง และเข้ามาจับจองพื้นที่ตามซอกลืบตามร้านค้าในเมืองคะมะกุระ และต่างฝ่ายที่ต่างพยายามจะคอยเบียดเสียดยัดเยียดกันไป ๆมาๆ ระหว่างพื้นที่ใต้ต้นซากุระบ้างและต้นสนสามใบบ้าง เพื่อหาพื้นที่ในการัวชัตเตอร์คอยชื่นชมงานศิลปะชั้นเยี่ยมของบรรดา Si…^am !!!

และรวมถึงนักแสดงอีกหลายสิบชีวิตที่แสดงเป็นคนในเมืองคะมะกุระจำลอง ทั้งหญิงชายสวมชุดญี่ปุ่นโบราณก็เข้าถึงบทบาท พ่อค้า แม้ค้า เจ้าของเรียวคังคะมะกุระ คนขายน้ำชา คนขายบะหมี่ และคนเฝ้าศาลเจ้าอาซะมะ

และแถวม้านั่งยาว ๆ ที่ ๆ ก็พากันเรียงราวต่อกันมาตั้งแต่ตีนสะพานสายลม มาจนกระทั่งเรื่อยๆ จนสุดทางเดินหินศิลาแลงของเมืองคะมะกุระจำลองในเทศกาลอุตางะตะ และผู้คนที่ตางพากันตบเท้าเข้ามารอเยี่ยมชมศิลปะประเพณีก็ยังสวมชุดกิโมโนสวย ๆ และชุดยูกะตะผ้าฝ้ายเนื้อดีขึ้นไปยืนรอชื่นชมความงามอยู่ที่ระเบียงไม้ซุงชั้น 2 ของเรียวกังคะมะกุระ จนกระทั่งแสงไฟสปอร์ตไลท์สีแดงๆ ฟ้า ๆ อีกนับหลายสิบดาว ต่างก็พากันสาดส่องไปที่บริเวณด้านหน้าของคะมะกุระคังจนเจิดจ้าขึ้นมาในพริบตา...

พริบตาเดียว ! เวทีทรงกลมดูคล้ายกับกลองไทโกะอันใหญ่มหึมานำออกมาวางตั้งอยู่ตรงหน้าคะมะกุระคัง และบุรุษเพียงหนึ่งเดียวก็สวมชุดยูกะตะสีน้ำเงินคมเข้มที่มาอวดโฉมพร้อมกับซอสามสามซามิเซ็งของ..เขา และบุรุษเพียงหนึ่งเดียวดายยังคอยนั่งอยู่บนเบาะดั่งเดิมของญี่ปุ่นมีพนักพิงสีแดงสดปักลวดลายดอกอายาเมะสีม่วงคอยบรรเลงเสียงซามิเซ็ง

บุรุษหนุ่มรูปงามสูงโปร่งและก็ยังจะสันทัดวาดลวดลายดีดพิณสามสายซอมิเซ็งด้วย " บาชิ " ลักษณะคล้าย ๆ กับพัดเซนโซะพัดญี่ปุ่นที่ต้องคลี่ออกมาเวลาใช้ แต่เป็นพัดสำหรับดีดซอซามิเซ็งแท้

และ....เสียงเพลงบรรเลงของซอซามิเซ็งที่เพียบพร้อม....ของบุรุษหนุ่มรูปงาม !!!

ที่บรรยาย....ถึง ! พร่ำพรรณนา...ถึง ! และอ้อนวอน...ถึง.....คุณสายลมเพลมพัด !!!!

เสียงเพลงบรรเลงซามิเซ็งที่ชวนให้จิตนาการ ถึงในค่ำคืนที่หญิงสาวและชายหนุ่มอยากจะออกมาเต้นรำกันในคืนวันงานประเพณีอุตางะตะ บริเวณที่ลานหน้าศาลเจ้าอาซะมะแทบสิ้นใจ...

....เพื่อที่พวกเขาจะได้ออกมาและเต้นรำหาคู่ไปพร้อมๆ กับการเหยียบและย้ำดอกบ๋วยและซากุรุที่ร่วงโรยไปตามทางเดินให้เปรียบเสมือน.ชีวิตวัยหนุ่มสาวที่พร้อมจะก้าวเดินไปตามเส้นทางที่โรยด้วยกลีบ....ซากะรุ

และแล้วก็ถึงเวลาที่บรรดาเหล่านางแบบและก็บรรดานายแบบนับราว ๆ เกือบห้าสิบชีวิต ที่ ๆ ก็ต่างทยอยเดินข้ามสะพานสายลมและทำหน้าที่ไปพร้อม ๆ กับ...เสียงเพลงบรรเลงซามิเซ็ง

" Natural atlas " ที่มีความหมายโดยคร่าว ๆ ใน...ค่ำคืนของ วันราตรีเสมอนี้ ว่า " ธรรมชาติ....ล้วนมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง " ...

และนี้ก็คือ ผลงานของ Si…^am ! ในค่ำคืนในย่านถิ่นจำลองกำเนิดประวัติศาสตร์เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ในสมัยยุคคะมะกุระอันเฟื่องฟู....

.....ทั้งศิลปะ ทั้งสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นที่เริ่มพัฒนาจากจีนมาเป็นในรูปแบบของตัว และทั้งในยุคคะมะกุระที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองจนถึงขั้นขีดสุดในสมัยคะมะกุระตอนกลางไปเรื่อย จนกระทั่งราวๆ เกือบยุคเปลี่ยนสมัยยุคมุโระมะจิ

เสื้อยืนแขนสั้นคอกลมในยุค 70 แต่งสกรีนลวดลายบนผ้าค้อทตอลและผ้าสเวสเตอ์ ให้เป็นสถานที่สำคัญในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ อดีต....จนถึง...ปัจจุบันท่ามกลาง

เสื้อยืดคอกลมผับแขนสีสันพาสเทล อย่าง เขียวมิ้นต์ สีฟ้าเบบี้บลู และชมพูที่สกรีนลวดลายเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบทั้ง 5 และภาพศาลเจ้า

อีกทั้ง...สนามกีฬาโอลิมปิคที่ญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าภาพ โตเกียวโดม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณและสถานที่สำคัญต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น

เสื้อยือคอกลมแขนสั้นในยุค 70 ของ Si…^am ! ที่สวมคู่กันกับ ระหว่างของผู้หญิงสวมกับ Culottes กางเกงกระโปรงสีพื้น และ Maxi skirt กระโปรงลายเลยเข่าสีพื้น และรองเท้าส้นแบนสีเมทัลลิค

Si…^am ที่ออกแบบเครื่องประดับเป็นกำไลแขนอันใหญ่แบบ Charm Bracelet ประดับตกแต่งด้วย ทับทิมอัด หินอัด และกำไลแบบ Link bracelet กำไลสแตนเลสอันใหญ่

และส่วนของสุภาพบุรุษที่มาพร้อมกัน กับ กางกาง Baker pants กางกางขาตรงในยุค 70 ทันสมัยด้วยกระเป๋าตัดแปะ และรองเท้า Tassel loafers รองเท้าแบบสวมหนังกลับมีพู่ห้อยหนังกลับ

และ Si…^am ก็ยังออกแบบ หมวกชาลี สำหรับบรรดาสุภาพบุรุษ หมวกชาลีที่ใช้วัสดุจำพวกประเภท ผ้ากอซ และผ้าฝ้ายสีพื้นเข้มเคลือบพลาสติก

ถัดมา... Si..^am ในรูปแบบ Real Suit

ชุดสูทวัยทำงานทั้งสุภาพบุรษและก็ทั้งสุภาพสตรี แบบเสื้อ Boat neck เสื้อรูปทรงคอปาดเฉียง ๆ ของสุภาพสตรีสีพาสเทลทับด้วยแจ็กเก็ตทำงานปรกติสีพื้น เสื้อ Y- shirt เสื้อเชิ้ตแบบ Wide clllar ที่มุมเสื้อชี้ออกด้านข้างมากกว่าปกติ แต่ก็ยังคงเน้นลวดลายรูปทรงเลขาคณิตสีรุ้งที่คอปกเสื้อ

Si…^am & Cleric shirt atlas เสื้อคเลริคเสื้อเชิ้ตที่ปกคอเสื้อกับแขนเสื้อตัด กับ สีเสื้อเชิ้ตสีพาสเทลโทนฟ้าน้ำทะเล และโทนสีขาวเขม่า กับ กางเกงขาตรงสกีนลายดอกไม้เอาไว้ที่กระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งอย่างไม่พิถีพิถัน

Si…^am Reality Suit for men ของสุภาพบุรุษ โดยรวมจะสวมเสื้อเชิ้ตเกือบๆ ทุกแบบคู่กัน กับ กางกาง Chino pants กางเกงชิโนที่ดูคล้าย ๆ กับ กางเกงสแลคแต่ไม่มีจีบด้านหน้าขาตรงสีพาสเทลเน้น สีเบบี้บลู

Si…^am & Shoe atlas ฝั่งของสุภาพบุรุษที่เน้นสวมรองเท้าแตะแบบสาน วัสดุที่ใช้หนังลูกวัวเทียม และส่วนฝั่งของคุณสุภาพสตรีก็จะเป็นประเภท Chunky heels รองเท้าสั้นเตี้ยตัน

Si…^am ! Guru Casual shirt l เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีพาสเทลที่เน้นใช้ผ้า อย่าง ผ้าลินิน ผ้าแคนวาส ผ้าคอตตอล และผ้าอายเลท เน้นการตัดเย็บที่ไม่ต้องการให้สมส่วน และแขนเสื้อยาวที่สามารถพับแขนและกระดุมสกรีนลายดอกไม้ใบหญ้า

และ Si…^am & Feminine one piece flower เดรสสั้นสำหรับคุณสุภาพสตรีสีสันหวานๆ พาสเทล ตัดเย็บด้วยผ้าชนิดเดียวกันกับเสื้อเชิ้ต Casual

Feminine one piece flower สกรีนลวดลายของดอกไม้ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นลงไปเน้นเฉพาะที่เป็นกระโปรง ดอกโอคินะงุสะดอกไม้คล้ายบัดเตอร์เค้กรสเผือกพิมพ์ลายบนเดรสกระโปรงสีชมพูพาสเทล หรือว่า ดอกคินเซ็นกะ เรียกง่ายๆ ว่า แมรี่โกลด์ ดูเผิน ๆ เหมือนเบญจมาสพิมพล์ลายบนเดรสสีเหลืองอ่อน

Female & Sleeveless เสื้อสลีฟเลสเสื้อแขนกุดสีพื้นเข้มๆ สกรีนด์ลายสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโตเกียว ถนนย่านชินจุกุ ห้าแยกชิบูย่า ร้านราเม็งในตำนาน ร้านเบเกอรรี่ชื่อดังในย่านฮาราจุก

เสื้อสลีฟเลสแขนกุด...ที่ สวมทับมากับกางเกงประเภท Roll- up กางกางพับขาติดติดกระดุมเพ็นท์ลายตารางสีรุ้ง และก็กางเกงประเภท Cropped pants สีพาสเทลลายดอกขายาวแบบทั้งสี่ส่วนและห้าส่วนึ

Backpack Natural atlas เป้สะพานหลังที่เน้นสีเขียว น้ำเงิน เทา และสีแดง กระเป๋า Hobo กระเป๋าสะพายไหล่ทรงกลมมนสกรีนลายดอกไม้ต่างๆ

กระเป๋าสะพายข้างทรงขนมจีบทรง Bucket และกระเป๋าสะพายข้างกลมมนแบบ Saddle สกรีนลายลวดลายของต้นไม้ใบไม้ทีมีในประเทศญี่ปุ่น และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของประเทศ

หมวกทรงฝักทอง หมวกทรงขนมเค้ก และก็หมวกชาลีผ้ากำมะหยีสีสด ที่ ๆ มี ทั้ง สีเขียวใบไม้ สีครามน้ำทะเล สีแดงใบเมเปิ้ล และสีชมพูซากุระ

เหล่าบรรดานางแบบนายแบบนับเกือบๆ ห้าสิบ ที่ดูราวๆ เหมือนกับว่า พวกเหล่านางแบบของ Si…^am ทุกๆ คนต่างยังคงพากันเดินเล่นสลับกันขวักไขว่ไปตามทางเดินหินศิลาแลง และยังคอยเที่ยวชมอยู่ในย่านเมืองเก่าคะมะกุระในตำนาน ที่ๆ มีแต่ต้นไม้ดอกไม้บานเต็มสวนสวยสะพรั่ง ทางเดินหินศิลาแลงที่เคยสะอาดสะอ้านช่วงเย็นๆ เวลานี้.... หมู่มวลของกลีบดอกบ๋วย ดอกซากุระที่พัดไหวปลิวล่องลอยมาตามสายลมจนเกลื่อนพื้นที่ปูด้วยหินศิลาแลง

และที่แห่งนี้ ก็คือ...แคทวอร์ก

เสียงบรรเลง...ซามิเซ็งที่ก็ยังคงคอยอยู่และก้องกังวานสลับกันไปกับเสียงปรบมือ !!!!

ซามิเซ็ง....เสียงของซอสามสายของญี่ปุ่นจาก...บุรุษไร้นาม

ที่.. !! เขาคนนั้นเล่นซอสามสายให้ฟังเหมือนราว กับ ว่า...พวกมันไม่อยากให้.....สายลมพัดเอากลีบดอกซากุระ...ผสมผสานระหว่าง.....กลีบบ๋วยร่วงหล่นลงมาสู่...ผืนดิน

มีพบ....มีพรากจาก....

มีรัก..... มีไม่รัก.....

มีความอดทน.....ไร้ซึ้งความอดทน....

ซามิเซ็ง.....ที่ยังคงบรรเลงเสียงเพลงอ้อนวอนขอธรรมชาติ เฉกเช่น สายลมพัดลมเพ ! เสียงของสายลม..ที่พัดไปกระทบต้นสนสามใบ ก็คือ....ต้นไม้

เสียงของสายลมพัด...ยามกระทบดอกบ๋วย ก็คือ.....ต้นบ๋วย

เสียงของสายลมพัด...ที่ยามกระทบดอกซากุระ ก็คือ....ต้นซากุระ

มัน....น่าแปลกนะ

...ที่....มีชีวิต...อยู่....

...ภายใต้...ต้นซากุระ...

แม้อีก....หนึ่ง.....ค่ำคืนราตรีเสมอ !!!

เรา....ก็ยังคงมีชีวิตอยู่.

ท่ามกลาง....ซากุระ !!

อีเลฟเวนท์พยายามจะแอบเงยหน้ากลับขึ้นไปมอง ที่ๆ ระเบียงของคะมะกุระคังอยู่ครั้งคราว ในขณะที่เธอยืนอยู่ใต้ต้นวีสทีเรียจำลอง 2 ต้น ที่หน้าศาลเจ้าอาซะมะ ในช่วงตลอดเวลาของการเดินแฟชั่นโชว์ และบรรดาผู้คนที่เข้ามาเสพศิลปะดินแดนโบราณแห่งคะมะกุระที่ได้พ้นผ่านมาเพียงเจ็ดถึงแปดร้อยปีกว่า ๆ เป็นของแถมให้ทุกคนไปอย่างฟรีๆ

แต่ว่าที่หน้าระเบียงไม้ของคะมะกุระคังแถวที่นั่งที่ดีที่สุด บรรดาพวกเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ ทั้งอี แทวอน ซอ ฮเยมี หรือแม้แต่ พวกเจ้าหน้าที่ของ NISS อย่าง ยู ฮีวอน ที่ๆ พวกเขาทุกคนกำลังพากันนั่งเรียงๆ กันอยู่ที่นอกระเบียง

และก็มาซายูกิที่ ๆ ยังคอยยืนอยู่ที่หน้าระเบียงฝั่งริมสุดฝั่งหนึ่งของคะมะกุระ และก็มินาโมะโตะ อาซามิคอยนั่งอยู่ใกล้ๆ และยุน แจอินที่แอบออกมาเดินเตร็ดเตร่

ครอบครัว ของ ฮิ ซาโต้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น ภรรยาน้อยคนล่าสุด กับ บรรดาลูกๆ ทั้งหญิงและชายอีก 3 คน ที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งด้านหน้าโรงละครคาบูกิลูกชายคนโตของซาโต้ ที่ๆ ก็ไม่ได้อยากจะสวมชุดสูท หรือว่า ชุดยูกะตะผ้า แต่ทว่า..หันมาสวมชุดกิโมโนในแบบที่ตัดเย็บแบบร่วมสมัยสีส้มสดพิมพ์ลายใบเมเปิ้ลสีแดงๆ ผูกโอบิและเครื่องประดับโอบิมากชิ้น ลูกสาวคนเล็กของซาโต้ อายุราว ๆ 5 ขวบ แต่งตัวทันสมัยเหมือนเด็กชาวญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป แต่ทว่า..พี่สาวอายุ 19 ปี ของเธอก็กลับสวมชุดสูทสีขาว ๆ ของพวกผู้ชาย !

และ..ภรรยาน้อยของผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ที่ๆ พวกเธอก็ยังคงเลือกสวยชุดราตรียาว และเปิดเนินอกกว้างสีเขียวเข้ม และสามีของเธอซาโต้กำลังปรึกษาหารือกันอย่างหน้าตาเคร่งเครียดอยู่กับท่านรองนายกรัฐมนตรีของประเทศ อย่างยามะดะ อิเกดะ อยู่ที่หน้าบริเวณโรงละครคาบูกิ

และเพื่อนของเธอที่เป็นถึงหมอศัลแพทย์ติดอับดับต้น ๆ ของเอเชีย ป่านนี้... เพื่อนหมอของเธอก็คงจะโดนพวกบรรดาสาว ๆ ของ Si…^am รุมจิกหัวใช้กันอยู่ที่ด้านหลังของเวทีเดินแบบ

และก็ฮง เยจีนั่งอยู่แถวที่นั่งเก้าอี้บนริมระเบียงของเรียวคังคะมะกุระอยู่ด้วยกันกับว่าที่คู่หมั้น ฮัน ยูซองรองประธานของ The Empire Group ที่เอาแต่ยืนอยู่ที่ริมฝั่งของระเบียงของเรียวคังอยู่อีกมุมหนึ่งและยังอยู่ตรงกันข้ามกับ ไทระ มาซายูกิ

แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฮง เยจีที่ไม่รู้ว่า ทำไม ! และเพราะอะไรเสียงเพลงของซอสามสายญี่ปุ่นบ้าๆ พวกนั้น พวกมันมีแต่จะคอยรั้งให้ตัวของเธอต้องคอยแต่ที่จะรู้สึกไร้ตัวตนขึ้นมาอย่างกะทันหันขึ้นมาได้ และก็ยังที่จะมีความรู้สึกริษยาเล็ก ๆ พวกนั้น ที่มันกำลังเกิดขึ้นก็เพราะว่าสาเหตุที่ได้ยินพวกมัน !!!