Chereads / ิฺBangkok in a Sense the memory of passed / Chapter 19 - กรรมติดจรวด

Chapter 19 - กรรมติดจรวด

ดาบคะตะนะขนาดความยาวราว ๆ 3 ชะกุฟักดาบทำด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ตีขึ้นรูปเป็นเกล็ดนกวิหคเพลิงยักษ์ กระบังมือหรือโลหะกลมๆ ที่ด้ามจับก็ยังตีด้วยแผ่นทองคำแท้ขึ้นรูปเป็นวิหคเพลิงกางปีก และที่ด้ามจับคะตะนะที่พันประดับด้วยผ้าไหมอิโต้สีทองๆ พันกันเป็นเกลียว และปลายของด้ามจับของดาบก็ตีแผ่นทองจนขึ้นรูปเป็นหัวพญานกวิหคเพลิงประดับด้วยอัญมนีหยกสีอำพันอยู่ที่ดวงตา แต่พวกมันกลับถูกวางอยู่บนพื้นไม้ติดกับบ่ออนเซ็น

เพราะอีเลฟเวนท์ในสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่า และเธอยังคงนั่งในบ่ออนเซ็นของเรียวคังเล็กๆ ที่วะกะยะมะในตอนรุ่งเช้า สภาพร่างกายของเธอหลังจากเจอกับพายุฝนบนภูเขานะชิซังจนเนื้อตัวซีดเซียว และก็มีจุดสีม่วงคล้ำๆ ทั่วร่างกายยกเว้นที่ใบหน้า

และก็ดวงตาที่ปิดลงไม่ค่อยจะสนิทสนิท ทั้งๆ ที่ผ่านการอดหลับอดนอนมาเกือบๆ ยี่สิบสองชั่วโมงปาเข้าไปแล้ว แต่ว่าทำยังไงๆ ภายในจิตใจ และภายในหัวสมองก็ยังพลอยแต่ที่จะว้าวุ่นและเป็นกังวลไม่ยอมจบสิ้น

และอีกทั้งบริเวณตามข้อมือนิ้วมือที่ปวดลามไปจนถึงเส้นเอ็นในกระดูก กระดูกขาที่ปวดจนไม่สามารถจะนั่งขัดสมาธิได้นาน บริเวณหลังของเธอยังต้องคอยนั่งพิงกับขอบบ่ออนเซ็น กับอุณหภูมิของน้ำแร่ธรรมชาติกำลังอุ่นพอดี แต่ฝ่ามือที่ดูเหมือนจะยังไม่สามารถกำมือได้สนิทได้ภายในทันที

ลมหายใจเข้า ออกที่สั้นยาวและถี่ๆ ของตัวเอง บางครั้งลมหายใจสั้นก็ขาด และบางครั้งที่ลมหายใจออกก็ยาวไม่คงที่ เพราะความเหน็ดเหนื่อยที่แสนจะเนิ่นนานในสภาพร่างกายที่ไม่เคยพร้อมมาโดยตลอดในชีวิต

และอิเลฟเวนท์ยังคอยตั้งใจพยายามทำให้ได้กับการนั่งอยู่นิ่งๆ โดยไม่คิดถึงเรื่องอื่นใด นอกซะจากพยายามสูดลมหายใจเข้าออกในขณะที่ยังคงตื่น..

แต่ทว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งความพยายามที่ยังคงล้มเหลว เพราะเหตุการณ์ภาพต่างๆ ที่พากันพรั่งพรูกันออกมาฉายอยู่ต่อหน้าต่อตาซ้ำๆ วนเวียน

สิ่งเหล่านั้นมันยังคงปรากฏการณ์ซ้ำๆ โดยที่ไม่เคยเปลี่ยนอะไรได้เลย และยิ่งคิดที่จะพยายามลองที่จะเปลี่ยนมันเปลี่ยนอนาคต

แต่ทว่าภาพเดิม ๆ ที่ชัดเจนกว่าก็ยังจะเข้ามาแทนที่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะต้องพยายามเปลี่ยนสักเท่าไหร่

ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าก็ยังคงเป็น " ภาพเดิม" ภาพในอดีตที่แสนยาวนานและเนิ่นนานเกินนับไหว ระหว่าง ไทระ มาซายูกิ ! เธอ !! และ ฮัน ยูซอง !!!!

กับ....ภาพอดีตที่กำลังจะหวนมาเกิดขึ้นในปัจจุบันอันแสนสั้น ระหว่าง ฮัน ยูซอง ! เธอ !! และก็ ไทระ มาซายูกิ !!!

ไทระ มาซายูกิ ภาพอดีตราวๆ เก้าร้อยปีตอนนั้นที่...เขายังเป็นเพียงยอดหญิงแห่งคะมะกุระ ผู้เชี่ยวชาญในเพลงดาบญี่ปุ่นและบทกวีอันลือเลื่อง....

....ยอดหญิงแห่งคะมะกุระที่ยอมทอดกายเตรียมตัวตายคั่นกลางหมู่มิตร ! เพื่อหมายมั่นตั้งตารอว่า ชาย..ผู้เป็นศัตรูที่รักจะกลับคืนบ้าน !!

แต่ไฉน !!

บุรุษ..ที่เป็นที่รักยิ่งของยอดหญิงของคะมะกุระผู้เลอโฉม บุตรสาวของผู้นำรัฐบาลบะคุฟุอันยิ่งใหญ่ต้องขอยอมตาย

... ยอมปกป้องกระสุนปืนเพียงเพื่อชายผู้เป็น..ศัตรู เช่น เธอ !!!!

ตัวเองในตอนนั้น.. ! อัศวินบุรุษที่เห็นแก่ตัวแห่งเนียวทาชิแคว้นฮิทาจิ ลวงล่อหญิงสาวดินแดนคะมะกุระให้เล่นรักเพื่อแย่งชิงกลศึกใหญ่

การตายของท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ในวัยเริ่มสู่ความเป็นอิสตรีเต็มตัว ที่..ไม่เคยทำให้ตัวเองในยามนั้นหลั่งน้ำตาให้..

และตัวเองในยามนั้นที่ก็ยังหันหลังกลับไปยังบ้านเกิดและโผเข้าซบอกหญิงทรามแห่งแคว้นโออุมิ หญิงงามที่เป็นเพียงโสเภณีข้างทาง !!!

โสเภณีข้างทาง...ในโรงน้ำชามิกิโอะเซซัง...ร่ำเรียนวิชารำพัดได้ช่ำชอง เป่าขลุ่ยและดีดพิณได้ฉ่ำจิต เสียงเพลงและศิลปะพื้นๆ

ที่..ตัวเองในยามนั้นหลงรักจนยอมสละชีวิตให้ ! ได้.....

โสเภณีออดอ้อนอรชนข้างทางผู้หลงทาง.....ฮัน ยูซอง ก็คือ..ผู้หญิงคนนั้น ! ในเวลานั้น !!!!

แต่ทว่าเป็นเวลาราวๆ เก้าร้อยปีแล้ว แต่ว่ากรรมก็เหมือนจะเป็นไฟรนก้นตามตัวเองออกมาจากคะมะกุระตามมาติดๆ

เมื่อ..หญิงโสเภณีข้างทางผู้หลงทางกลับถูกตาต้องใจเจ้าเหนือหัว ตัวเองในยามนั้นที่ต้องยอมเฉือนใจและยอมฉีกหัวใจตัวเองทิ้ง เพียงเพื่อพาผู้หญิงที่ไร้ค้าอยู่แล้วและมีชีวิตอยู่แค่เพียงได้อยู่กับคนที่ตนรักไปหมอบให้ กับ นาย...ผู้เป็นเจ้าชีวิต !!!

....ช่วงเวลาอันแสนสั้น.. ในยามที่โสเภณีไร้ค้าพ้นจากปลายดาบของตัวเอง ดาบวากิซากิของเจ้าเหนือหัวที่หล่อนเจ้าใช้แทงร่างล้มลงไปนอนใต้ผืนฝ่าเท้า...เจ้านายเหนือหัว

...เลือด...ที่สาดกระเซ็นของหญิงสาวงามที่ไร้ค้าเอ่อไหลนองท่วมปฐพีแคว้นฮิทาจิ...!!! เหลือไว้แต่เพียง..คำสาปแช่งให้แด่...อัศวินบุรุษผู้เป็นทาสคงความซื่อสัตย์จนกลายเป็นคนขี้ขลาด !!!!

อีเลฟเวนท์ที่ต้องค่อย ๆ ลืมตากลับขึ้นมา เพราะว่าอาการเจ็บแปลบๆ ที่กลางทรวงอกมันกำลังเกิดขึ้น และเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งนับไม่ถ้วนตั้งแต่ที่เจอหน้าของ ฮัน ยูซอง ครั้งแรกที่เกิดคดีในเกาหลีใต้เมื่อ 2 ปีก่อน

ฝ่ามือที่เริ่มอุ่นขึ้นเพราะน้ำร้อนในบ่ออนเซ็น ฝ่ามือที่กลับต้องคอยเอื้อมกลับขึ้นมาและกุมที่ทรวงอกของตัวเองเอาไว้ให้เหมือนกับการประคบ อาการเจ็บปวดแปลบ ๆ ที่ก็เกิดขึ้นบ่อยซะจนอาการของมันยิ่งเพิ่มพูนกลายเป็นความเสียดแทงจากชั่วระยะหนึ่งก็ค่อยทุเลาแต่จนมาเดี๋ยวนี้อาการเจ็บปวดแปลบๆ ที่กลางทรงงอก พวกมันต้องกินเวลาเนิ่นนานเกือบๆ ครึ่งค่อนนาทีกว่าถึงจะหาย

พนักงานหญิงแก่ๆ ของเรียวกังคอยทำตัวเก้ ๆ กังๆ ในขณะที่พวกเธอถือชุดยูกะตะผ้าฝ้ายสีฟ้านำมาวางไว้ให้ที่ข้างบ่ออนเซ็น และพนักงานหญิงแก่ๆ ยังต้องคอยมานั่งคุกเข่าลงใกล้ ๆ กับบ่ออนเซ็นของอิเลฟเวนท์ที่ยังคงนั่งแช่น้ำพุร้อนอยู่เพียงคนเดียวลำพัง ในเวลาใกล้ๆ เกือบจะหกโมงเช้าของวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ และท่าทางที่ค่อนข้างจะสำรวมในขณะเข้ามาทักทาย

" หลวงพ่อ ! จากศาลเจ้าคุมะโนะ "

" ท่านบอกว่า ต้องการพบคุณ !!! " พนักงานของเรียวคังได้เข้ามาแจ้งข่าว และพวกเธอก็ได้จัดแจงชุดยูกะตาวางให้ใกล้ๆ และจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินออกไปเงียบๆ แต่พนักงานในวัยชราที่ก็อดจะเหลียวหันกลับมามองจนกระทั่งที่ได้แอบสังเกตเห็นด้วยว่า เธอมีสีผิวที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัดจากที่ๆ เคยมีรอยจุดคล้ำตามร่างกายก่อนหน้า ว่าแต่ว่าพอถึงตอนนี้กลับดูเหมือนจะกลับคืนสู่สภาพปรกติ สีผิวตามร่างกายดูเปล่งปลั่งขึ้นได้ในชั่วพริบตา และสีผมดำขลับและม้วนเกล้าไว้เหนือท้ายถอยที่ดูเป็นมันเงา ลำคอที่ยังคงพยายามเชิดไว้ ขนตาที่ทอดยาวออกไปไกลแสนไกลพอเห็นประกายวิบวับของหยดน้ำเกาะอยู่ลาง ๆ แก้มน้อย ๆ สีชมพูอมแดงๆ ที่มีหยดเหงื่อคอยประพรหมขึ้นมาบ้างแล้ว ริมฝีปากที่ยังหดอยู่ที่น่าจะเกิดจากเพราะร่างกายภายในที่ยังไม่ค่อยจะอุ่นดี

และก็มือฝ่ามือของเธอเหมือนว่าจะคอยใช้ประคบประหงมกลางทรวงอกซะจนไม่มีที่ว่าจะยอมวางลงได้อย่างง่ายดาย

ในห้องโถงเล็กๆ ที่มีไว้ใช้เพื่อสำหรับพิธีชงชาของเรียวกังเล็กๆ บริเวณใกล้กับตีนเขานะชิซังของจังหวัดวะกะยะมะในประเทศญี่ปุ่น บานประตูโซจิกั้นห้องสีขาว ๆ รอบด้าน และบานประตูเข้าออกฟุสุมะที่ใช้กระดาษสาสีขาว ที่เหมือน ๆ กันทางฝั่งทิศตะวันตก

โต๊ะไม้สนญี่ปุ่นทาทับด้วยสีธรรมชาติขนาดราวๆ หนึ่งเมตรคูณหนึ่งเมตรครึ่ง ที่ตั้งอยู่ตรงกลางภายในห้องประกอบพิธีชงชา และก็ยังพรั่งพร้อมไปด้วยเตาและอุปกรณ์ประกอบพิธีชาชงอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อม

งานภาพเขียนอุกิโยะร่วมสมัยเพียงภาพ ๆ เดียวกำลังถูกแขวน อยู่ที่พนังด้านทางทิศตะวันตกของห้องประกอบพิธีชงชา

งานภาพเขียนอุกิโยะภาพ ๆ หนึ่ง ที่..บอกเล่าเรื่องราวของ เหล่าบรรดาชายหนุ่มหญิงสาวห่มนุ่งชุดยูกะตะสีสันงดงามลงเล่นน้ำ ที่น้ำตกนะชิ !

ทิวทัศน์ของน้ำตกนะชิในสมัยนั้นเวลานั้น หน้าผานะชิซังที่ดูราวๆ เหมือนสูงเสียดแทงทะลุก้อนเมฆไปจนได้ สายน้ำที่ไหลแรงแต่ก็ยังดูเร้าใจและสดชื่น และต้นสนสามใบที่โตรายล้อมทั่วทั้งภูเขานะชิซัง และก็ต้นไม้ที่ขึ้นใกล้ ๆ กับแอ่งน้ำตกเบื้องล่าง ต้นซากุระบริเวณริมฝั่งตลอดทอดแนวยาว

เพราะฉะนั้นพระภิกษุหนุ่มชาวญี่ปุ่นรูปหนึ่งที่ยังคอยนั่งขัดสมาธิรออยู่ที่บนเบาะสีดำ ภายในห้องประกอบพิธีชงชาเล็ก ๆ ของเรียงกังแห่งนี้ก็เพื่ออดทนรอ

ครืด.....

พนักงานของเรียวกังผู้หญิงวัยชราเข้ามาเปืดประตู และอิเลฟเวนท์ก็ได้สวมชุดยูกะตะสีฟ้ากำลังเดินขึ้นบนเสื่อทาทามิที่ใช้ปูรองลาดเอาไว้ทั่วห้อง แต่กลับเดินเข้ามาและนั่งคุกเข่าบริเวณหลังเบาะนั่ง และเธอก็นำดาบคะตะนะวางลงและก้มลงกราบพระ

อิเลฟเวนท์ตั้งใจที่จะก้มกราบพระอย่างเรียบร้อย และเธอจึงหันมานั่งขัดสมาธิอยู่หลังเบาะ เพราะฉะนั้นพนักงานหญิงชราจึงต้องค่อยๆ เดินชันเข่าเข้ามาและเก็บเบาะรองนั่งของเธอกลับออกไป

" ขอโทษ.. ที่ ! "

" ต้องพลอยทำให้ทุกๆ คนต้องมาคอยเดือดร้อน เพราะฉัน " อิเลฟเวนท์ต้องคอนโน้มตัวลงและยังคอยเอามือประสานกันเอาไว้บนตักต่อหน้าพระภิกษุ

แต่ถึงอย่างนั้นพระภิกษุอายุราวๆ ยี่สิบต้น ๆ ที่พอเงยหน้ากลับขึ้นมาก็ยังต้องอดแปลกใจและสงสัย เพราะว่าคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้านั้นกลับเป็นสตรีจริงๆ และยังมาพร้อมกับดาบเล่มนั้นด้วยจริงๆ

" คงต้องอดทนกับมันมากสินะ !!! " พระภิกษุหนุ่มพูดจาสำรวมได้เข้ามาพูดคุยกับเธอ และบ่อยครั้งที่ พระภิกษุหนุ่มชาวญี่ปุ่นต้องคอยนั่งแอบชำเลืองไปที่บริเวณหลังฝ่ามือของบุคคลปริศนาบนหน้าผานะชิ

" ราวๆ ยาม 3 "

" จู่ๆ ก็เกิดมีแสงสว่างจ้าที่ด้านหลังของศาลเจ้าคุมะโนะ นะชิ ที่น้ำตก !!! " พระหนุ่มอธิบายสาเหตุที่ต้องการจะพบเธอ

อิเลฟเวนท์ยังคงนั่งสำรวมและสงบนิ่ง

" คง ต้องขอประทานโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ !!! " และน้อมรับผิด

พระหนุ่มแสดงรอยยิ้มเล็กๆ ที่พอใจ แต่ทว่าพอมองลงไปที่ดาบคาตะนะข้างกาย

" อาตมา เป็นลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสคนก่อน " และพระหนุ่มที่เหมือนจะรีบร้อนแนะนำตัวก็เพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด

" ก่อนที่...เจ้าอาวาสคนก่อนท่านจะมรณะภาพ ! ท่านอาจารย์เคยเล่าให้อาตมาฟังว่า ! " และหลายครั้งเวลาที่พระหนุ่มพูดจาก็อดจะสังเกตอากัปกิรียาของฝ่ายตรงข้าม

" ในคืนวันเปลี่ยนฤดู คืนที่..กลางวันและกลางคืนเสมอกัน !! "

" ในค่ำคืนนี้ของทุก ๆ ปี ท่านเองมักที่จะฝันถึง "

" ...ที่หน้าผาของน้ำตกนะชิมีประกายแสงสีทองสว่างประกายเจิดจ้า.. "

" กับกลีบดอกฟูจิ ร่วงหล่นสู่...สายน้ำเลือด !!! "

" ท่านเจ้าอาวาสคนเดินฝันเช่นนี้ทุก ๆ ปี ก่อนที่จะสิ้นลม " และนี่ก็เป็นสาเหตุที่พระหนุ่มต้องการออกมาหาคำตอบ

และเธอที่มาถึงตอนนี้ก็ได้แต่คอยมองลงต่ำพร้อมๆ กับต้องพยักหน้ายอมรับถึงสามครั้ง

" หลวงพ่อ ! คงจะผนวชตั้งแต่เด็กๆ "

" และตั้งแต่เล็กๆ ก็มีโรคประจำตัวมาโดยตลอด !! "

" เหมือน...ฉัน !!! " แต่ว่าเธอก็เต็มใจที่จะเล่าเพื่อให้คำตอบแก่พระหนุ่ม

และทันที่พระภิกษุหนุ่มได้ยินก็เกิดรอยยิ้ม และหัวใจที่รู้สึกอิ่มเอิบขึ้นมาทันทีทันใด

" พระอาจารย์ของหลวงพ่อ ! ท่านค่อนข้างที่จะมีความฝันที่แม่นย้ำ "

" มาโดยตลอดเช่นกัน ! " พระหนุ่มยิ้มแย้ม

แต่ว่าเธอยังสำรวมกาย วา ใจ ในขณะที่ยังต้องคอยมองภาพที่ซ้อนอยู่ตรงหน้า

" อันที่จริง !!! " และเธอจึงค่อยให้คำตอบ

" จริง ๆ แล้ว... หลวงพ่อเองก็น่าจะเคยฆ่าชีวิตคน ! มามากพอสมควร !!! " และรอยยิ้มที่มุมปากก็ยังปรากฏให้เห็นต่อหน้าภิกษุ

" แต่ว่า..ก็คงจะน้อยกว่าฉันไปหลายเท่า !! "

" เพราะฉะนั้น..ในอดีต"

"ที่...เราต่างฝ่ายต่างเคยทำร่วมกันไว้ ! "

" เห็นทีว่า...มันกำลังใกล้จะจบลงเร็ว ๆ นี้ " และเธอก็โน้มตัวลงอีกครั้ง และก็พยายามหันมองไปทางพระภิกษุหนุ่มอย่างสำรวม

พระหนุ่มที่พอรู้ตัวก็หลบสายตา แต่ว่ามือไม้กลับไม่ยอมอยู่นิ่งๆ จนต้องคอยกุมมือกันเอาไว้

" ท่านรู้บ้างหรือไม่ว่า... เรา !! "

" รอ... ! ที่จะเห็นสิ่งที่พระอาจารย์บอกเอาไว้มาเกือบๆ ยี่สิบปีทีเดียว !

"

" ตอนนั้น อาตมาเองยังไง ๆ ก็คิดว่า น้ำตกนะชิ "

" พวกมันจะกลายเป็นน้ำตกสีเลือด !! "

" เป็นไปได้ยังไง !! " พระหนุ่มเล่าพลางแสยะยิ้มพลาง

" แต่ถึงยังไง ! ที่มาวันนี้ ! "

" ก็เพียงเพื่อ...อยากจะที่กล่าวคำขอโทษ !! "

" และ.. อยากที่จะขอร้อง !!! " และแววตาที่ดูเหมือนจะรู้สึกผิด เพราะความเข้าใจผิดว่าคนๆ นั้นจะต้องเป็นบุรุษเพศเท่านั้น

" แต่ว่า...เราเอง "

" ก็ไม่รู้หรอกว่าพวกมันจะมีอยู่จริงที่ข้างล่างนั้น จริงๆ หรือไม่ !!! " และพระภิกษุหนุ่มยังคงตั้งหน้าตั้งตาอธิบาย

เพราะฉะนั้นเธอก็เลยยิ่งผงกหัวขึ้นๆ และยอมรับอีกสักครั้ง และรอยยิ้มที่มุมปากที่มีให้ก็เพื่อยืนยัน

" ฉันไม่เคย..."

" คิดที่จะ....."

" งมดาบทั้งหมด 17 เล่ม ! พวกนั้นขึ้นมา "

" เพื่อที่จะ "

" บอกกับโลกว่า...ทุก ๆ คนก็ทำได้ ! และทำได้สำเร็จดี !!! แบบนั้น !!! " และเธอก็ยังยอมรับว่าสิ่ง ๆ นี้ไร้ประโยชน์

" หลวงพ่อ !! เป็นช่างตีดาบที่ดีมากๆ หลวงพ่อเองก็สมควรที่จะได้รู้ !!! " แต่ว่าที่ยังไงๆ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะยอมเปิดเผยความลับในอดีตระหว่าง พระหนุ่มรูปนี้กับเธอ

และพระหนุ่มที่รู้ตัวอีกทีก็มือไม้เริ่มเย็นเฉียบ

" ฉัน..เป็นช่างตีดาบ !!! " พระหนุ่มเปล่งคำอุทาน

" ฉัน ! เป็นช่างตีดาบ !! " และพระหนุ่มที่เอาแต่เปล่งวาจา

เธอยังคงพยักหน้าและคอยช่วยยิ้มๆ แบบเดิม

" ดาบ..เล่มแรกของฉัน !!! " และในขณะที่พวกเธอก้มมองลงไปที่ดาบ และภาพในอดีตก็ยังผุดขึ้นมาซ้ำ ๆ เป็นภาพระหว่าง ตัวเอง กับ พระภิกษุญี่ปุ่นรูปนี้ ซึ่งก็ยังเป็นผู้ที่ไม่เคยย่างกรายออกห่างประเทศญี่ปุ่นไปไหนเลยแม้แต่สักครั้งเดียว

" สมัยนั้น !!! "

" ฉัน เป็นเพียงลูกชายของคนเลี้ยงวัว ! ที่อยู่ติด ๆ กับ บ้านของท่าน !!! "

" หมายถึง...ท่านเจ้าอาวาสคนก่อน ! พระอาจารย์ของท่าน !! " เธอที่พอมาถึงตอนนี้ก็ยังพลอยที่จะอดหัวเราะเบาๆ ออกมาด้วยไม่ได้

" รีดนมวัวได้มา !! ฉันก็เอาน้ำนมไปขาย !!! "

" เนื้อตัวมอมแมม ! เพราะแอบไปเล่นดินเหนียวของช่างตีดาบข้างๆ บ้าน !!! "

"จนกระทั่ง...เกิดสงคราม !!! "

" คนงานที่โรงตีเหล็กเหมือนจะไม่พอ !!! "

" แม่ !!! นางรำขี้เมาในโรงละครคาบูกิ !!! "

" ลูกชาย... ที่จำหน้าพ่อแท้ ๆ ของตัวเองไม่ได้ !! "

" พ่อแท้ ๆ ตาย พ่อเลี้ยงที่เป็นเพียงคนเลี้ยงวัวก็ขายฉัน ! ให้ไปเป็นคนงานที่โรงงานหลอมเหล็ก !!! "

"หึๆ"

เธอถึงกับหัวเราะเบาๆ ที่พอเห็นภาพซ้ำ ๆ พวกนี้ทีไรก็ยังต้องคอยแสร้งยิ้ม ทั้งๆ ที่น้ำในดวงตาก็ยังต้องพลอยกลั้นตาม ๆ ไปด้วย

" ลูกสาว.. ช่างตีดาบ !!! สอนให้ฉันเขียนหนังสือ "

" ตลกมากจริง ๆ "

" เรา..อยู่ด้วยกัน ! จนกระทั่ง...ฉันได้ถูกคัดเลือกให้ไปเป็นทหาร "

" เพราะว่า..ต้องฝึกหนัก !!! "

" ลูกสาวของช่างตีดาบก็เลยต้องกลายเป็นว่า ...ต้องแอบหนีออกไปหากันอยู่บ่อย ๆ "

" แต่ว่า...พอเสร็จสิ้นสงคราม ! ก่อนที่... พวกเราสองคนจะได้แต่งงานกัน !!! รัฐบาลในสมัยนั้นก็ดันมายึดโรงงานหลอมเหล็กเล็ก ๆ นั้นไป "

" พ่อของเธอเสียใจมาก ! จนต้องตรอมใจตาย... !!! "

" ลูกสาวของเขา ! เข้าใจผิดว่า...ฉัน ยอมให้พวกทหารมายึดโรงงานตีดาบของพ่อไป ! และเธอก็โกรธมาก !!! "

" กว่าที่...จะอธิบายให้เธอเข้าใจ !!! "

" วันนั้น !!! ฉัน..ก็กลายเป็นขุนศึกแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ ! มีชื่อเสียงเกริกไกร !!! บรรดาผู้หญิงพากันห้อมล้อม ! ลูกท่านหลานเธอคอยล้อมหน้าล้อมหลังจนเต็มไปหมด !!! "

" เป็น..ชีวิตหนุ่มสาวที่ต้องเผชิญกับความรักที่...ทรมานทุกๆ รูปแบบจริง ๆ " เธอเล่าให้พระหนุ่มฟัง

และทั้งๆ ตัวเองก็ยังอดนึกแปลกใจ กับ เรื่องราวความรักของ ตัวเอง กับ ฮัน ยูซองในยุคสมัยนั้นได้ดีขึ้นมาในทุก ๆ ครั้ง

และไม่น่าเชื่อว่าพอถึงตอนนี้ ความชุ่มชื่นหัวใจ ระหว่าง พวกเธอสองคนมันจะยังคงอยู่มาจนถึงป่านนี้ !!!!

"หึๆๆๆ "

เสียงหัวเราะเบาๆ ของพระภิกษุชาวญี่ปุ่นที่กำลังทยอยดังตามขึ้นมาให้ฟังอยู่เรื่อยๆ เป็นระยะๆ

" อันที่จริง...ก็ไม่ได้ยากที่จะเดาสักเท่าไหร่ !!! "

" แต่ก็คงจะต้องขอเดาว่า....คุณ !!! "

" คุณเองในตอนนั้นก็น่าจะสร้างความปั่นป่วนให้กับบรรดาสาว ๆ พวกนั้นเอาไว้มากจริงๆ " และพระหนุ่มที่ร่วมวงสนทนาเรื่องราวในอดีต

" เกิด..เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาและฝีมือดี !! "

" แล้ว...ไม่ทราบว่า คุณ "

เออ... !!!

" คุณ..จำความรู้สึกเป็นชาย แบบว่า !!! "

" พวกมัน...แตกต่างกันตอนนี้ ! ที่...เป็นอยู่นี้บ้างไหม !!! " แต่พระหนุ่มที่ก็หนีความสงสัยเรื่องนี้ไปไม่พ้น !

"อืม..... !!! "

เธอที่พยายามนึกแล้วนึกอีก และคอยมองภาพอดีตซ้ำ ๆ

" ก็เป็นแบบนี้แหละ ! "

"กระทำ..กับ สตรีเอาไว้มาก "

" พอ..ได้เกิดมาเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็รู้สึก !!! "

" จริงๆ ใช่ไหม !!! "

" เรื่องจริง !!! หรือว่า...กำลังถูกทดสอบ ! อีกแล้ว !!! " เธอก็เลยได้แต่พูดและยิ้มๆ

" ฉันเอง...ก็คงไม่อาจที่จะปฏิเสธ ! หลวงพ่อไปได้หรอกนะค่ะว่า !! "

" ฉันเองก็เคยนึกถึงบ่อยๆ ในตอนที่..ตัวเองตอนที่เป็นผู้ชาย ! แล้วก็...แอบย่องเข้าไปหา หญิงสาวคนรักในห้องนอนดึก ๆ ดื่นๆ "

" สมัยนั้น !! " และเสียงแอบถอนหายใจบ้างเป็นบ้างครั้งบางคราวของ ๆ เธอเองที่พอมีให้ได้ยิน

" อาจเป็นเพราะว่า..ฉันในตอนที่เป็นผู้ชายคิดว่า ! ถ้า...หากยังขืนปล่อยผู้หญิงของฉันเอาไว้แบบนี้ !!! "

" มีหวัง ! คงจะมีสักวักที่...ความเป็นชายของฉัน !!! อาจจะถูกพวกผู้หญิงที่พากันห้อมล้อมพรากกันเอาไปซะ..จนไม่เหลือคำว่า..ความรัก !!! "

" คือ..อะไร !! ยังไง !! "

" เพราะฉะนั้น ! ฉันก็เลยต้องใช้วิธีนั้นกับเธอ !!!!! "

" และมันก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลดี !! ได้ผลดีจริงๆ " เธอคราวนี้พลอยแต่ที่จะนั่งส่ายหัวไป ๆ มาๆ ให้กับตัวเอง

และพระหนุ่มที่ก็มีเผลอ ๆ ยิ้มอย่างไม่สำรวม

" นั่นก็แสดงว่า....เธอ รักคุณมาก "

" เพราะว่า..ไม่มีผู้หญิงคนไหน !! ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำและยังจะรักคุณมากจนป่านนี้หรอก " และมิหนำซ้ำพระหนุ่มยังคล้อยตาม

" คุณโชคดี ! ที่..เธอยอมให้อภัยคุณ !"

" เพราะ..ความรัก !!! " เธอตอบก็เพราะรู้คำตอบของพระหนุ่มอยู่ก่อนแล้ว

และพระหนุ่มก็ดูยินดี แม้ในขณะที่ยังเกิดความลังเลสงสัย

" ความสุข..ของพวกคุณ 2 คน ! "

" ในตอนนั้น.. คงจะสุกงอมดี !! " พระหนุ่มตั้งคำถามต่อไป

เธอผงกหัวเบาๆ

" ของขวัญในคืนวันแต่งงานของเรา !!! "

" เธอ..นำดาบเล่มสุดท้ายในชีวิตที่พ่อเธอทำไว้ ! มาหมอบให้ก่อนที่จะต้องออกไปรบในวันรุ่งขึ้น !" และยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ว่า

" การที่....ได้นอนกอดกับผู้หญิงคนรักทั้งคืน ! ก่อนที่จะออกไปรบ !!! "

" มัน..เป็นอะไรที่ไม่ต้องสรรหาคำบรรยาย !!! "

" รุ่งเช้า....เธอตัดเส้นผม แล้วก็..นำมันมาพันทักทอที่ด้ามจับดาบแทนเชือก !!! " เธอมองเห็นภาพ ๆ นั้นในหัวได้ดีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

" แต่ว่า..ก่อนที่จะประกอบฝาครอบด้ามจับของดาบคะตะนะเล่มนั้นกลับลงไปใหม่ "

" เมอุมิ !!! "

เธอหันมาสบตากับพระหนุ่ม และเอ่ยชื่อของลูกสาวของเขา

พระหนุ่มพยักหน้าทันที

" ลูกสาวของเราในตอนนั้น " พระหนุ่มตอบ

และเธอก็ยังหันมาและเล่าต่อไป

" เธอ..ได้ใช้พู่กันเขียนเอาไว้ที่หนังลูกวัว..ตรงฝาครอบด้ามจับคะตะนะเล่มแรก !"

.... แม้ค่ำคืนนี้...ข้ายังคงเดียวดาย !

....แต่ภายในหนึ่งห้องดวงใจนี้....ยังคอยบินไปสู่อ้อมอกเจ้า...มิมุระ ! และชื่อจริงๆ สมัยที่เป็นบุรุษเพศชาย คาซามุโต้ มิมุระ " เธอยังคงจำชื่อตัวเองได้ดี แต่จนแล้วจนรอดเมื่อต้องมาคอยพูดถึงอดีตตัวเอง หัวใจก็เหมือนจะแหลกสลายอยู่เหมือนกัน

" เข้า..ห้องหอเพียงคืนเดียว..."

" แต่ต้อง...เป็นหม้ายไปจนตลอดชีวิต !!" และน้ำเสียงที่มันยังค่อยๆ เบาลง

และพระภิกษุหนุ่มที่ทำได้แค่เพียงนั่งฟัง และเผลอๆ บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นการกดดันตัวเองของดอกฟูจิ โนะ ฮานะ ดอกไม้ที่นั่งอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว กับคน ๆ หนึ่งที่ต้องต้องผ่านควาทรงจำกับความปวดร้าวมาเป็นร้อยๆ พัน ๆ ครั้ง ๆ เป็นใคร..ก็คงทนเจ็บปวดกับอดีตซ้ำๆ ได้มีไม่มากนักหรอก

เพราะฉะนั้นพระหนุ่มถึงได้หันไปสนใจที่ดาบคาตะนะ ที่ก็ไม่รู้ว่าเนื้อมืออันบอบบางจะถือมันให้แข็งแกร่งเห็นทีก็คงลำบาก

" คนๆ เดียว "

" แต่สามารถ !! มี...ดาบนิฮองโดะครอบครองได้มากถึงตั้ง 17 เล่ม !!! " และความอยากรู้ที่ไม่สิ้นสุดของพระภิกษุ

และเธอก็หันไปหยิบดาบนำมาวางบนโต๊ะน้ำชา

" ดาบคะตะนะเล่ม...ที่สอง ! " และค่อยๆ ชัดดาบออกมาจากฟักอย่างระแวดระวังนำมาวางลงตรงหน้าคนที่เคยเป็นเจ้าของทั้งสองคน จนปรากฏเห็น

คมดาบที่ทำมาจากเหล็กเนื้อดีส่องแสงประกายของคมดาบที่คมกริบ

" รอย...รักหักสวาท

...พสุธา..พรากนางเพียงหนึ่งในดวงใจ

....เสียงสะอื้นเรียกหา...ดวงใจข้าแตกสลาย " และพวกเธอเองก็ตั้งใจเพ่งลงไปจิฮาดะ หรือว่า ลวดลายของคมดาบตรงหน้า

" เมื่อก่อน...จะพยายามที่จะสลักความทรงจำที่มีต่อเธอเอาไว้ ! ที่...."

" ด้ามจับ.. ! "

" ก่อนที่จะนำ..ฟุชิ ! ฝาครอบด้ามจับประกอบกลับลงไปใหม่ ! " เธอเล่าให้พระหนุ่มโดยไร้ความตะกุกตะกักใดๆ จนกระทั้งเอื้อมมือเข้าไปถอดฝาครอบด้ามจับที่มีรูปสัญลักษณ์ของหัวนกวิหคเพลิง

และพระภิกษุหนุ่มที่มองเห็นเธอกำลังถอดประดาบอย่างช่ำชองแม้ว่าจะเพิ่งเคยเห็น และฝาครอบด้ามจับสีทองๆ ขึ้นลวดลายประกบเป็นหัวนกทั้ง 2 ชิ้น ที่ๆ เพิ่งจะถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้า และบทกลอนที่ ๆ เธอเพิ่งจะเอ่ยออกมาที่ก็ยังคงจะปรากฏอยู่อย่างชัดเจน ที่... บริเวณด้านจับที่เป็นเหล็กถูกตีจนบี้แบน !

ตัวหนังสือแกะสลักตัวอักษรภาษาจีนโบราณ และ ตัวอักษรคะตะนะที่ผสมกัน !!!

แต่ว่าพระหนุ่มถึงกับลืมตัวและยังจะรีบเอื้อมมือเข้าไปจับดาบจนเมื่อมองเห็นลวดลายต่างๆ ของดาบคะตะนะเล่มนี้

" ดาบ...ปลายดาบสันโค้งแต่แคบ !! " พระหนุ่มเอ่ยถึงกรรมวิธีตีดาบอย่างช่ำชองเหมือนๆ กัน

" การตีดาบ ด้วยวิธี.. โคะมะรุ !!! "

" จิฮาดะ !! ลวดลาย..ที่เกิดจากการตีเหล็กทบกันไปมา !!! "

"...ราวกับเหมือน ภูเขา...ที่สลับซับซ้อน !!! " พระหนุ่มที่เล่าสู่กันฟัง

" และยังคงรับรู้ได้ถึง...เสียงลมพัดแรงๆ บนภูเขา ! " เธอพูดเสริม และอดสังเกตพระหนุ่มด้วยไม่ได้ ในตอนที่พวกเขาจับดาบที่เคยเป็นของตัวเอง

และพระหนุ่มที่ยังเอาแต่ถือดาบ และเธอก็โน้มตัวยอมรับอีกครั้ง

" ดาบคันทาชิ ! ของ..สำนักดาบตีไร " และเธอก็ยังยอมรับสิ่งที่พระหนุ่มพูดขึ้นมาทั้งหมด

" ดาบ..ที่เป็นสมบัติของตระกูลโยชิมัทสึ !!! " พระหนุ่มที่ตอบทันทีทันใด

เธอเงียบเมื่อได้ยินชื่อนี้ และมีบ้างครั้งที่จะต้องแอบกล้ำกลืนความรู้สึกเจ็บปวดเล็ก ๆ ที่เหลืออยู่ลงไป

แต่พระหนุ่มกลับยืนยันที่มาที่ไปของดาบราวกับมองเห็น

" ดาบสำคัญที่ ! หายสาบสูญไปนาน "

" ดาบ !!! ที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะหามันเจอได้ที่ไหน !!! "จนกระทั่งพระหนุ่มรู้สึกเย็นวูบวาบไปทั่วทั้งอายตนะทั้งหก !

เพราะว่าดาบคาตะนะที่ตนถืออยู่ พวกมันยังคงมีตำนานต่างๆ ของดาบคะตะนะเล่มนี้ !!!!

และมันมีเยอะมากมายเสียยิ่งกว่า.... ใครจะรู้ว่า ความจริง !! ของดาบเล่ม ๆ นี้มันยังคงมีจริง !

อยู่หรือ....ไม่มี !!!!!