Chereads / ิฺBangkok in a Sense the memory of passed / Chapter 11 - มีแพ้ก็ย่อมมีชัยชนะ

Chapter 11 - มีแพ้ก็ย่อมมีชัยชนะ

เสียงหัวเราะกับเสียงไชโยโห่ร้องของบรรดาแฟนเบสบอลที่ชนะการทายผลพนันบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ช่องรับทำนายผลเพื่อรอต่อแถวมารับเงินรางวัล และอิ แทวอนก็คือหนึ่งในบรรดาแฟนเบสบอลที่เป็นหนึ่งในผู้โชคดีกับการทายผลการแข่งขันครั้งนี้

แต่ว่าอิ แทวอนกำลังเดินคอตกคอยถือโพยเข้ามาต่อแถวเพื่อรอรับเงินรางวัลๆ ที่แทบจะไม่ใช่ของพวกเขาจริงๆ ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เงินลงทุนทายผลการแข่งขันก็ยังเป็นเงินที่ต้องยอมควักเนื้อตัวเองอีกด้วยซ้ำ

อิเลฟเวนท์ที่คอยยืนล้วงกระเป๋ารออิ แทวอนกับคนอื่นๆ อยู่ที่ประตูทางออกของสนาม และเธอที่ก็เอาแต่ยิ้มร่าแก้มปริ และมิหนำซ้ำเธอยังคอยโบกไม้โบกมือทำท่านับเงินให้อิ แทวอนเอาเงินเดิมพันมาแบ่งกันใช้ซะ

" หน้าเลือดสมคำร่ำลือซะจริงๆ " เสียงบ่นอุบอิบของอิ แทวอนบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ขึ้นเงินภายในสนามเก่าแก่ของญี่ปุ่น

แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแถวที่อิ แทวอนเข้ามาต่อแถวเพื่อรอรับเงินรางวัล และซอ ฮเยมี กับ ยุน แจอินที่ก็ต่อแถวไม่ใกล้ไม่ไกลสักเท่าไหร่ และพวกเธอก็ยังคอยที่จะโบกไม้โบกมือตื่นเต้นด้วยความดีใจ อิ แทวอนพยายามจะหันไปค้อนอิเลฟเวนท์อีกหนึ่งครั้งใหญ่ๆ ก็เพราะว่าเธอที่ทำให้พวกเขาได้เงินรางวัล

" เชื่อเธอเลย ! " อิ แทวอนยืนบ่นอยู่อย่างนั้นในขณะที่รับเงินรางวัลก้อนใหญ่ แต่ก็ยังจะคอยเอาเงินเป็นฟ่อนๆ ไปยื่นให้

อิเลฟเวนท์รีบเดินเข้าไปรับเงินจากมืออิ แทวอนอย่างว่องไว แต่ว่าอิ แทวอนกลับหันไปเป็นกังวลเรื่องอื่นมากกว่า

" ปล่อยเค้าไปเถอะ ! " อิเลฟเวนท์ที่พอเห็นหน้าเป็นกังวลของอิ แทวอน และยิ่งหันไปเจอเจ้าหน้าที่ซอ ฮเยมีที่กำลังลากลูกชายของท่านประธาน KRM industrial อย่าง ยุน แจอินให้ห่างๆ ออกไปจากพวกเขา

" ให้เวลาเขาอีกสักหน่อยหนึ่งเถอะ !!! " และเป็นอิ แทวอนที่เป็นฝ่ายหันไปขอร้องให้แทนเจ้าหน้าที่หรือเพื่อนร่วมงาน

" แจอิน ! "

"เขาเสียใจมากจริงๆ สำหรับเรื่องของ Tea Rose ! " และยังบอกถึงเหตุผลว่า ทำไม ! ท่าทีของยุน แจอินถึงได้แสดงท่าทีโกรธและเกลียดชังอิเลฟเวนท์มากมายขนาดนี้

และเธอที่ก็แค่ฝืนยิ้มๆ ในขณะที่ยู ฮีวอนกำลังเดินเข้ามาสมทบและคอยโบกเงินรางวัลเป็นฟ่อนๆ ใหญ่กว่าของอิ แทวอนซะอีก

อิเลฟเวนท์ที่รีบยื่นมืออกไปรับให้ไว

" มันต้องแบบนายนี่แหละ ฮีวอน ! " เธอขอบคุณ

และยู ฮีวอนที่คอยแต่จะหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขในตอนที่เห็นเงินเป็นปึกๆ ในมือ

" เพราะรุ่นพี่แทวอน แท้ ๆ " ยู ฮีวอนหันไปชื่นชมยินดีกับพวกของเขา

" เพราะถ้าไม่อยากนั้นพวกผมคงไมได้เข้ามาดูการแข่งขันฝีมือระดับขั้นเทพเทพแบบนี้แน่ ๆ " ยู ฮีวอนเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับอิ แทวอนทันทีเพราะคิดว่าเป็นคนนำโชคลาภมาให้

อิ แทวอนที่ถึงกับต้องหันไปค้อนอิเลฟเวนท์อีกครั้งใหญ่ๆ

" เพราะฉันจริงๆ นั่นแหละ ! " อิ แทวอนประชดคนบางคนที่เอาแต่ยืนนับเงินจนแทบไม่หวาดไม่ไหวใกล้ๆ

อิเลฟเวนท์ที่ได้สนใจคำพูดของพวกอิ แทวอนเลยด้วยซ้ำ และยังรีบหยัดเงินทั้งหมดใส่ในกระเป๋ากางเกงจนตุงไปหมด แต่ก็ยังพอหลงเหลือเศษเงินเล็ก ๆ ในมือ และเธอที่หันไปยื่นให้กับอิ แทวอนและยิ้มๆ

" ค่าเบียร์ ! " เธอบอกกับพวกเขาทุกคน แต่ในระหว่างนั้นหางตาของเธอยังคงมองเห็นใครบางคนที่หลบอยู่บริเวณแถวๆ กำแพงแถวๆ นี้

" พวกเราออกไปไปหาอะไรกินกันดีกว่า " ยู ฮีวอนดีใจที่ได้เงินรางวัลก้อนใหญ่จนเขาอดใจไม่ได้ที่จะใช้มันอย่างมือเติบ

แต่ซอ ฮเยมีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ที่ก็กลับเฝ้ามองพวกของเธอรวมทั้งอิเลฟเวนท์ ที่ ๆ เธอดูจะสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ของตัวเองมากจนเกินไปหรือเปล่า

และยุน แจอินที่แทบจะไม่หันไปมองหน้าของอิเลฟเวนท์เลยด้วยซ้ำและยังคอยแต่จะเดินออกจากตรงนั้นไปอย่างเงียบๆ และซอ ฮเยมีที่เป็นรีบตามยุน แจอินที่กำลังเดินออกไปที่ประตูของสนาม

อีเลฟเวนท์คอยยืนมองพวกของอิ แทวอนและทุก ๆ คนที่ทยอยพากันขึ้นรถและออกไปจากสนามเบสบอลกันไปแล้ว และเธอกำลังล้วงเอาโทรศัพท์กลับออกมาจากกระเป๋าเสื้อและกดเบอร์โทรที่ไม่ระบุชื่อ

" ฉันเองก็อย่างที่บอก ! "

" ถ้า..คุณยังต้องการอยากที่จะได้ของ !!! "

" ก็จง ! ช่วยทำตามที่ฉันขอร้อง !!! " แต่ว่าในขณะที่ปลายสายพยายามเหมือนจะต่อรองอะไรบางอย่างอยู่

" ฉัน ! ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลของฉัน "

" ในตอนนี้ ! "

" ทำตามที่ฉันบอก ! "

" แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอย่างได้ "

" ก็จะสมหวัง ! " อิเลฟเวนท์รีบร้อนวางสายก็เพราะว่า ใครบางคนที่เธอสังเกตเห็นตั้งแต่เข้ามาในสนาม และพวกเขาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสะกดรอยตาม

อีเลฟเวนท์กำลังก้าวเท้าเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ของเส้นทางเดินป่า และเธอยังเดินลัดเลาะไปตามต้นไม้น้อยใหญ่ และต้นหญ้าที่กำลังสูงใหญ่รายล้อมภายในเขตอุทยานแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อของภูเขาว่า ภูเขาเท็นโจ แต่ว่าในระหว่างทางเดินมาจากจุดชมวิวบนยอดเขาคาชิคาชิ หรือจุดชมวิวที่สวยที่สุดในย่านนี้

เธอที่หยุดเดินและหันมาปัดเศษหญ้าบนเสื้อวอร์มสีขาวปนสีเหลืองๆ อมส้ม และเธอยังต้องคอยปัดเศษหญ้าที่ติดกางเกงยีนส์ที่มีรอยขาดเล็ก ๆ ตรงหัวเข่า และยังต้องสลัดหญ้าภูเขาที่ติดมากับรองเท้าผ้าใบสีขาว และยังคอยขยับเป้ใบเล็ก ๆ สีดำที่หลังให้เรียบร้อยก่อนจะเดินตามทางเดินเขาต่อไป

เธอเดินลัดเลาะไปตามทางเดินป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น ที่ๆ อยู่ระหว่างเทือกเขาเท็นโจและทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ

และบริเวณอุทยานก็ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ผลัด และสวนใหญ่ยังเป็นต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้น ต้นแปะก๋วยนับพัน ๆ ต้น ต้นเมเปิ้ลหลากหลายสายพันธ์นับเป็นหมื่นๆ ดอกซากุระหลากหลายสายพันธ์ที่กำลังเริ่มผลิดอก และต้นบ๋วยที่กำลังออกดอกสีขาวอมชมพูสะพรั่งตามสองข้างทาง และต้นหญ้าหลายหลายสายพันธ์ ที่ ๆ ก็พากันชูช่อปกคลุมไปทั่งทั้งผืนป่า ต้นสนสามใบที่มีตะไคร้น้ำเกาะจนดูเขียวขจีกันจนไปหมด เฟิร์น พืชตระกูลต่ำอีกนับหลายร้อยสายพันธุ์ที่กำลังเติบโตอย่างสวยสดงดงามไปทั่วทั้งผืนป่า เสียงของนกร้องเสียงต่าง ๆ ที่พอจะได้ยินเสียงร้องเรียกของพวกมันอยู่บ้าง และพวกมันบางตัวก็ยังพอมีให้เห็นในขณะที่บินโฉบต้นต้นสามใบนับพันๆ ปีไปมา

อิเลฟเวนท์ยังตั้งอกตั้งใจเดินไปตามเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท่าทายในการเดินเขา และมีบางช่วงก็ยังเป็นทางเดินที่ลาดชันจวน ๆ จะเกือบถึงที่ตีนเขา แต่ว่ามิหนำซ้ำอุณหภูมิในเดือนช่วงเดือนมีนาคม ในเวลาบ่ายแก่ๆ ก็น่าจะสักประมาณไม่เกิน 20 องศา

แต่ทว่าสำหรับ...เธอแล้วก็ยังเป็นอุณหภูมิที่หนาวเกินไปต่อร่างกายของตัวเองอยู่ดี...

และยิ่งตอนบ่ายแก่ๆ นักท่องเที่ยวที่ยังพอมีให้เห็นๆ ประปราย แต่ก็ใช่ว่าจะหนาแน่นไปซะทุกจุดของการเดินเขา

และแม้ว่าร่างกายภายนอกของเธอที่ค่อนข้างเหนื่อยและอ่อนล้า แต่ทว่าภายในร่างกายอย่างเส้นเลือดและหัวใจกลับถูกกระตุ้นด้วยการออกกำลังด้วยการเดินประเภทนี้ได้ดีทีเดียว เพราะฉะนั้นเธอถึงหยุดพักในขณะที่ใกล้จะเดินถึงจุดเริ่มต้นของการเดินเขา

" ดี ! ขึ้นบ้างไหม !! " มาซายูกิ ไทระรีบเดินเข้าหาอิเลฟเวนท์ในขณะที่มองเห็นเธอทำท่าเหนื่อยหอบอยู่ใกล้ๆ ทางเดินขึ้นเขา

เธอเงยหน้าเล็กน้อยกลับขึ้นมองมาซายูกิ

" ก็..เหนื่อยดี !! " เธอตอบและพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่ไม่ใช่เสียงหอบเหนื่อย

และมาซายูกิที่แอบยิ้ม

" ถ้าอย่างงั้นก็เอาเถอะ แต่ว่า ! "

"ทุกคนกำลังรออยู่ !!! "

และมาซายูกิที่คอยแต่จะยื่นมือออกไปรอเธอ แต่ทว่าอิเลฟเวนท์กลับเลือกที่จะเดินผ่านไป

รอยยิ้มที่ค่อย ๆ หดหายไปของมาซายูกิครั้งแล้วครั้งเล่า และก็คงจะเป็นเพราะความเคยชินของตัวเขาเองไปซะแล้ว

มาซายูกิเปลี่ยนมาสวมชุดยูกะตะสีน้ำเงินที่ถูกปักด้วยดิ้นเงินขึ้นเป็นลวดลายดอกใบเมเปิ้ล และยังต้องรีบร้อนคอยเลื่อนเปิดบานประตูฟุสุมะ

" ฟูจิวาระ !!! " สึบากิกำลังรีบร้อนถือห่อผ้าไหมสีดำขนาดใหญ่เดินกลับเข้าไปในห้องพักของพวกเธอ

" รีบมาดูอะไรทางนี้หน่อย ! เร็วเข้า !! " และมิหนำซ้ำสึบากิยังกระตือรือร้นและรีบวางห่อผ้าไหมสีดำของตัวเองวางลงไปบนโต๊ะไม้ญี่ปุ่นเตี้ยๆ ภายในห้องๆ ที่มีภาพวาดของสงครามเก็มเป

เพราะฉะนั้นอิเลฟเวนท์ที่ต้องรีบร้อนวางสายโทรศัพท์

" ค่ะ "

" สึบากิ !! " เธอที่รีบเดินมาหาสึบากิ และนั่งลงใกล้ๆ พวกเธอ และสึบากิก็ยังรีบร้อนแกะห่อผ้าไหมสีดำของพวกเธอค่อย ๆ คลี่ออกมา

" นี่เป็น.. .." สึบากิรีบร้อนเข้ามาบอกกับเธอ

" ชุดกิโมโนของฉันเอง !! " สึบากิพูดไปยิ้มไปในขณะที่หยิบเอาชุดกิโมโนสีแดงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

" คือว่า... "

" ทั้งฉันเอง และก็นากามุระ "

" พวกเราสองคนคงจะไม่ได้ไปร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของยูกิจังเค้า !! "

" ในอีกสองวันข้างหน้านี้ ! ด้วยไม่ได้ !! " สึบากิบอกกับอิเลฟเวนท์พลางและหันไปยิ้มให้กับมาซายูกิพลาง

" เพราะฉะนั้น ฉันเองก็เลยอยากที่จะยกชุดกิโมโนชุดนี้ให้กับเธอ !! "

" ฟูจิวาระ !! " และสึบากิยังพูดด้วยความเต็มใจอย่างสุดซึ้ง

อิเลฟเวนท์ที่หันกลับมานั่งขัดสมาธิแทนการนั่งคุกเข่าเป็นเวลานาน และแม้สายตาจะดูลังเลน้อย ๆ ของตัวเอง

" แต่ว่า..! " เธอที่ไม่ทันจะปฏิเสธ

" รับไปเถอะ !!! " แต่ว่าสึบากิก็พยายามรบเร้า

"ยังไงก็....กรุณา ! รับมันเอาไว้ด้วยเถอะนะ ฟูจิวาระ !! " และพยายามจะขอร้องเธอให้รับของพวกนั้นไว้ให้ได้

มาซายูกินั่งฟังอยู่ใกล้ๆ กับแม่ของเขาอยู่เงียบ ๆ แต่ทว่าเขาเองก็ยังอดที่จะชื่นชมชุดกิโมโนสีแดงพวกนั้นไม่ได้ก็เพราะว่ามันเหมาะกับเธอมากจริงๆ และถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะคอยพยายามเข้าไปรบเร้า

สึบากิพยายามเหลือเกินคอยโน้มนาวใจเธอ

" มาซายูกิของฉันบอกว่า ! "

" งานเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของ Si…^am หนนี้นะ ! "

" ฟูจิวาระ ! "

" เธอเองก็อุตส่าห์ช่วยออกแนวคิดที่จะให้ยูกิจัง !! "

" ได้จัดงานในสวนของปราสาทนาโกย่า ที่..ไอจิ !! " สึบากิเหลียวหันมองหน้าของเธอไป ๆ มา ๆ สลับกับลูกชาย

" ฟูจิวาระ "

" ถึงยังไงซะ ! "

" ฉันเองก็แค่อยากจะให้เธอได้ลองหัดสวมชุดกิโมโนสำหรับผู้หญิงชาวญี่ปุ่น แบบผู้หญิงคนอื่นๆ ดูบ้าง ! "

" ไหนๆ เธอเอง "

"..ก็อยากที่จะจัดเวทีการเดินแบบในครั้งนี้ ! ให้เหมือน !! "

" พวกสาว ๆ ได้เดินเล่นอยู่ในงานประเพณีอุตางาตะ "

" ในสมัยยุคคะมะกุระเมื่อสมัยกว่าแปดร้อยปีที่แล้ว ! แบบนั่นด้วยนั่นนะ !! " แต่ทว่าสึบากิในขณะที่ตั้งใจอธิบายก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงเรื่องที่..ฟูจิวาระจะสามารถที่จะจำลองเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในสมัยนั้นได้จริงๆ

" ขอบคุณค่ะ !!! " เธอปฏิเสธสึบากิไม่ลง

"หึๆๆ " ว่าแต่ว่าเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอของมาซายูกิที่เผลอมีแต่จะดังออกมา

" คุณแม่ครับ "

" สงสัยว่า...คุณแม่คงจะต้องช่วยสอนเธอใส่ชุดกิโมโนพวกนี้ให้กับเธอใหม่ "

" แล้วละครับ " และมาซายูกิที่เอาแต่ยิ้มกับยิ้ม และคงเป็นเพราะรอยยิ้มของพวกเขาที่ทำให้เธอหันมาทำตาขวางๆ

" ก็มันเป็นเรื่องจริง !! " และก็เถียงเธอออกไปแบบนั้น

อิเลฟเวนท์ยังคงใช้หางตาคอยปรามมาซายูกิไม่ยอมหยุด และถึงแม้สึบากิจะพยายามคะยั้นคะยอให้เธอยอมใจอ่อน

แต่ว่าสึบากิก็ยังคอยแต่จะคลี่ชุดกิโมโนสีแดงๆ ผืนนั้นออกมาให้อย่างภาคภูมิใจ

" ชุดกิโมโนสีแดงเลือดนก ที่.. ปักลวดลายของดอก.... "

" ..อายาเมะ ! "

" สีเหลืองและสีม่วงสด " และมิหนำซ้ำ...สึบากิที่ยังจะอุตส่าห์เอาแต่หันมาตั้งหน้าตั้งตาอธิบายที่มาที่ไปของดอกไม้ที่ปักอยู่บนชุดกิโมโนชุดสีแดงของ..ตัวเอง ว่า

หนนั้นในฤดูน้ำหลาก...ดอกไม้ที่แข็งแรงและต้านกระแสน้ำได้ดีก็คงจะมีแต่ดอกพวกนั้นที่พลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในดงหญ้าตอนที่น้ำกำลังท่วม....แต่โชคยังดี ! ที่...โคบายาชิคว้าจับต้นของดอกอายาเมะไว้ได้ทันท่วงที ! เพราะถ้าหากคว้าพวกมันช้าอีกสักหน่อย.....กระแสน้ำคงได้พัดพาหญิงสาวสึบากิหายวับจมไปกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก.....ในคืนที่พ่อของมาซายูกิพยายามจะฆ่าลูกชายของตัวเอง "