Chereads / ิฺBangkok in a Sense the memory of passed / Chapter 8 - มันไม่ใช่ของจริง

Chapter 8 - มันไม่ใช่ของจริง

ทัตสึจิ มินาโมะโตะพาอีเลฟเวนท์ยืนดูสร้อยไข่มุกสีดำเส้นหนึ่ง ที่ๆ พวกมันวางอยู่ในตู้กระจกและพวกมันยังอยู่ใกล้กับตู้ๆ กระจกที่เก็บดาบสั้นวากิซากิภายในบริเวณห้องเก็บรวบรวมของสำคัญของตระกูล

สร้อยไข่มุกสีดำสนิทที่กำลังถูกวางอยู่บนผืนผ้ากำมะหยีสีแดงสด และขนาดความยาวของสร้อยเส้นนี้ความยาวน่าจะสัก 11 นิ้วครึ่ง และเส้นผ่าศูนย์กลางของไข่มุกดำทุกเม็ดก็ราวๆ สิบมิลลิเมตรเป็นอย่างน้อย และมิหนำซ้ำสร้อยไข่มุกสีดำทุกๆ เม็ดยังคงเปล่งแสงทอประกายวูบวาบราวกับเป็นของใหม่อยู่เลย

และความรู้สึกวูบแรกทีทัตสึจิได้สัมผัสมันก็คือ !

" มันคือโศกนาฏกรรม !!! "

" ...ที่เลวร้าย !! " ทัตสึจิรู้สึกผิดหวังทุกๆ ครั้งที่เฝ้ามองสร้อยไข่มุกเส้นนี้

"หึ !!! " แต่ทว่าก็มีเพียงเสียงหัวเราะเย้ยยันของตัวเองในลำคอของอิเลฟเวนท์ที่ต่างทยอยดังออกมาจนคับห้องเก็บของ ๆ มินาโมะโตะ

ทัตสึจิที่ได้แต่แอบมองอิเลฟเวนท์อยู่อย่างเงียบๆ แม้ว่าภายในจะมีคำถามเป็นหมื่นล้านคำถามก็ตาม แต่เธอก็ทำเพียงมองและคอยยิ้มเยาะ !

" เป็นเพราะพวกมัน !!! " อิเลฟเวนท์จด ๆ จ้องๆ เข้าไปในตู้กระจก

" ฉันถึงต้องเดินทางกลับมาสู่เส้นทางในอดีต ! "

" ที่แสนเลวร้าย !!! " และเนื้อเสียงที่ราวฟังแล้วเศร้าจับจิตของเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าทัตสึจิกลับมองมันและไม่เห็นด้วย

" อดีต ! มันก็เป็นแค่..."

"อดีต !!! " ทัตสึจิที่ยังคงไม่เห็นด้วยกันอย่างถึงที่สุด และเขาก็เห็นเธอที่ทำได้เพียงเบือนหน้าหนี และอิเลฟเวนท์ที่ทำท่าทีคอยจะเดินเข้าหาภาพแขวนอุกิโยะ

อิเลฟเวนท์ยอมละสายตาออกจากตู้เก็บสร้อยพวกนั้น และเธอยังหันไปหาภาพแขวนของแม่สายน้อยไร้เดียงสาที่แขวนอยู่ใกล้ๆ เธอมองภาพๆ นั้น และจดๆ จ้องๆ คอยมองหญิงสาวที่ออกมายืนกางร่มตากหิมะรออยู่ที่ปลายสะพานอยู่ได้ และแววตาของสาวน้อยช่างไร้เดียงสาที่ฝั่งใจของพวกเธอมาจนถึงป่านนี้

" แวบแรกที่ได้มองเห็นอดีตของ..."

"ตัวเอง !!! "

" เจอกันหนแรก ! "

" ก็...ที่ ศาลเจ้าอาซามะ !!! " และน้ำเสียงที่พึงรำพัน

" และก็...ในงานประเพณีอุตางะตะ "

" เธอ...ช่างเป็นเด็กสาวที่สดใสมากมายเหลือเกิน " อิเลฟเวนท์ที่มองเพียงภาพแขวนถึงกับต้องยอมพูดเรื่องเก่าในอดีตชาติขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

และทัตสึจิที่คอยเหลียวมองรูปแขวนพวกนั้นตาม ๆ กันไป แต่อย่างไงซะเขาก็รู้สึกชอบภาพเขียนอุกิโยะของสาวงามที่กำลังดีดพิณโกโตะอยู่ที่ใกล้ๆ นั่นมากกว่า

" แต่ว่า "

" เธอคนนี้ก็สวยใช้ย่อยซะเมื่อไหร่ "

" ลีลาการโบกสะบัดดีดพิณญี่ปุ่นของเธอ ! ที่....."

" ดูกี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนอยากกลับไปนอนฝันถึง !!! "

" ถ้าหากว่าเป็นฉันบ้างละก็ !! "

" ฉันคงจะไม่มีวันแอบไปมีภรรยาคนอื่น !!! "

" เก็บไว้อีกเป็นแน่ " ว่าแต่ทัตสิจิก็เพียงพูดเปรียบเปรยถึงความรู้สึกที่แสนจะธรรมดาๆ ของพวกผู้ชาย

" หึๆ !!! " เสียงหัวเราะในลำคอของอิเลฟเวนท์ยังคงส่งเสียง และบางทีเธอที่ก็เผลอพยักหน้าให้กับทึตสึจิ

" ก็เพราะว่า "

" ผู้หญิงคนนั้น เธอ..มันไม่ใช่ ! "

" คนที่น่ายกย่องหรือว่า น่าเชิดชูเอาซะเลย! "

" มันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย !! " เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ให้ทัตสึจิฟังก็เพราะว่า เวลาที่...ความทรงจำในอดีตที่แสนเจ็บปวดจากอดีตคอยย้อนกลับมา ก็คือ..เวลาที่ต้องสบตาของแม่สายน้อยวัยสิบหกมันยังคงทำให้เธอเสียใจบาดลึกจวบจนถึงเวลาในโลกปัจจุบันนี้ได้

อิเลฟเวนท์แม้ว่าใจก็อยากจะรีบเดินหนีกลับออกไปจากห้องนี้ ว่าแต่ว่าเธอนั้นก็รู้ตัวเองดีว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ และตอนนี้เธอที่ทำได้ก็แค่หันไปยืนมองที่ประตูห้องเก็บของ

และทัตสึจิที่ยังคงมองตามและรู้เท่าทัน

" คุณไม่เป็นไร ! แน่นะ !!! " ทัตสึจิที่ต้องถามเพราะรู้สึกเห็นใจ และแม้ว่ามีบางครั้งที่ก็พยายามจะคอยสังเกตรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของพวกเธอพวกนั้น

เธอส่ายหน้าให้กับทัตสึจิ

" ฉันเลือกอะไรมากไม่ได้นักหรอกนะ มินาโมะโตะ " น้ำเสียงของอิเลฟเวนท์ที่จริงจังนั้นพลอยที่จะทำให้ทัตสึจิตระหนก

ทัตสิจิที่กำลังเฝ้ามองอิเลฟเวนท์หันไปมองที่ฉากประตูกั้นห้องหนังสือภายในห้องเก็บของ ๆ ของตัวเอง และอิเลฟเวนท์ที่กำลังพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องหนังสือของเขาจริงๆ เพราะฉะนั้นเขาถึงต้องรีบเดินตามเธอไป

อีเลฟเวนท์เดินอ้อมฉากบานพับสีขาวซีด ๆ ในห้องเก็บของมินาโมะโตะ และเดินตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือเตี้ยๆ ของญี่ปุ่นที่เป็นไม้สนทาทับด้วยน้ำมันสนสีดำขัดเป็นเงา เธอนั่งขัดสมาธินั่งลงบนเบาะสีเทาคล้ำ ๆ ที่เคยเป็นที่นั่งของมินาโมะโตะ

มิหนำซ้ำเธอยังต้องคอยกวาดสายตาบนโต๊ะหนังสือของมินาโมะโตะที่เหมือนๆ จะมีกระดาษสีขาว ๆ บางๆ กางอยู่เกือบเต็มพื้นที่ของโต๊ะญี่ปุ่น และพู่กันจีนเปื้อนหมึกที่ยังคงถูกใช้งาน

" ทัตสึ...จิ !! " และเธอที่รู้สึกขอบคุณทัตสึจิทันทีที่เห็นพวกมัน

ทัตสึจิที่คอยนั่งลงบนเบาะที่ฝั่งตรงกันข้าม และดูเหมือนเขายังจำเป็นต้องเสียสละเบาะของตัวเองให้กับอิเลฟเวนท์ซ้ำๆ

" เธอคงอยากที่จะกลับมาจับพู่กันอีกแล้ว ! ละสินะ ! "

" จริงไหม !! " ทัตสึจิปลอบใจอิเลฟเวนท์โดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องพูดอย่างนั้นออกมา แต่ในขณะที่กำลังมองอิเลฟเวนท์หันไปสนอกสนใจกับแท่งฝนหมึกและพู่กันจีนของตัวเอง จนกระทั่งต้องคว้าแท่งฝนหมึกมาคอยถือไว้

อิเลฟเวนท์เห็นความพยายามของทัตสึจิที่ชายหนุ่มอายุราวๆ รุ่นพ่อที่อยากจะช่วยฝนหมึกให้กับเธอ และคอยนั่งมองพวกเขาที่ตั้งตกตั้งใจฝนหมักอย่างระเอียดอยู่ตรงกันข้าม

" ตั้ง...15 ปี !! "

" ตั้ง 15 ปี !!! "

" ที่ฉันน่าจะเรียกคุณว่า ท่านประธานทัตสึจิ มินาโมะโตะ แห่ง Holding & Industrial อันยิ่งใหญ่ !!! " และเธอก็คอยปลอบใจทัตสิจิไปพลางๆ

" ฮ่าๆๆ " เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของทัตสึจิที่กำลังดังลั่นห้องขั้นมาแทนที่ความเงียบกริบที่หาสาเหตุไม่ได้ และด้วยการที่ทัตสึจิชอบความตรงไปตรงมาของฟูจิวาระ

" ก็แล้วมันจะแตกต่างกันตรงไหน "

" ก็ในเมื่อ "

" เธอก็ยังเป็นเธอคนเดิมอยู่วันยังค่ำ !!! " ทัตสึจิปฏิเสธข้อต่อรอง

" และก็ใช่ว่าฉัน ! "

" จะถือเรื่องอายุเป็นเรื่องที่สำคัญกันซะเมื่อไหร่ ฟูจิวาระ !! " และมิหนำซ้ำทัตสึจิที่ยังคงให้เกียรติซึ่งกัน

อิเลฟเวนท์พยักหน้าสองสามครั้งก่อนที่จะก้มมองกระดาษสีขาว ๆ ที่ว่างเปล่าที่กางอยู่ตรงหน้าด้วยฝีมือของทัตสึจิ มินาโมะโตะที่เตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว

" สงคราม....ครั้งสุดท้ายในชีวิต !! " เธอยังคงรำพึงรำพันถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อมองเห็นภาพในอดีตคอยซ้ำไปและซ้ำมาอยู่ในหัวซ้ำๆ

และจนกระทั่งทัตสิจิต้องรีบเร่งหันมาหยิบพู่กันกลับขึ้นมา และจิ้มปลายพู่กันลงบนแท่นหมึกอย่างช้าๆ และช่วยยืนมันให้ถึงมือ และเธอที่รับพวกมันไว้อย่างเต็มใจ และก็ความคิดแรก ๆ ของทัตสึจิเกิดขึ้นในชั่วขณะหนึ่ง

ก็คือ... อีเลฟเวนท์ต้องการจะเขียนอะไรลงไปในที่กระดาษแผ่นนั้น และเขาที่ยังคงเฝ้ามองลีลาการโบกสะบัดปลายพู่กันของคนที่ชื่อฟูจิโนะ ฮานะ ฟูจิวาระอยู่แล้วจริงๆ

แต่ในขณะที่ทัตสึจิยังคงคอยเฝ้ามองคนๆ หนึ่งกวัดแกว่งพู่กันจีนราวกับถือมีดดาบกวัดแกว่งในสนามรบของเขา และทันทีเพียงไม่กี่อึดใจอิเลฟเวนท์ก็ส่งพู่กันจีนคืนกลับมา

ทัตสึจิรีบร้อนยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับพู่กันในมือของฟูจิวาระ และทัตสึจิที่ไม่ทันระวังตัวประดิษประดอยเก็บพู่กันด้ามนั้นมากไปกว่าการหันไปชำเลืองมองที่กระดาษแผ่นนั้นและคว้ามันอ่านในทันทีทันใด

" ยาม...ที่มีลมพัดใบไผ่ "

"ความทรงจำ...ที่หายไป "

" แต่เสียงกระซิบ...ที่ยังคงอยู่ " !! ทัตสึจินั่งอ่านกระดาษแผ่นนั้นที่พวกมันเขียนด้วยตัวอักษรจีนโบราณ ตัวอักษรจีนโบราณสีดำสนิทที่ยังคงเขียนหวัดๆ อย่างรีบเร่งเช่นเดิม

ว่าแต่ว่าทัตสึจิตัดสินใจวางกระดาษแผ่นนั้นคืนกลับไปลงบนโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง และมิหนำซ้ำเขาที่ยังต้องหันกลับมา และคอยนั่งมองกิริยาท่าทางของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าว่าจริงๆ แล้ว ตอนนี้เธอเป็นใครกันระหว่างฟูจิวาระ หรือว่า อิเลฟเวนท์คนที่เคยรู้จัก

เสียงถอดถอนหายใจของคนที่อยู่ตรงหน้าทัตสิจิ พวกมันทำให้เกิดคำถามกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

" สงคราม..! " และทัตสึจิที่ยังคงตั้งคำถาม

" ครั้งสุดท้ายของเธอ.. "

" มัน คงจะเป็นสงครามประเภทที่...ต้อง ! "

" ฝืนใจน่าดู " ทัตสึจิพยายามจะตั้งคำถาม และในขณะเดียวกันก็พยายามนั่งคุกเข่าในท่าทีที่สำรวมมากขึ้น

แต่เธอที่มีเพียงรอยยิ้มจางๆ ให้กับทัตสิจิ

" มันก็น่าแปลกจริงๆ นั่นแหละ ! " และตอบคำถามอย่างไม่มั่นอกมั่นใจ

อิเลฟเวนท์ยังคงคอยพยายามที่จะคิดให้หนักก่อนที่ตอบคำถามของทัตสิจิไปๆ มาๆ วนเวียนอยู่อย่างนั้น และสุดท้ายสิ่งที่เธอคิดได้ตอนนี้ก็มีเพียง

... ทำไม....คน ๆ หนึ่ง ! สามารถ....ทำให้ฝ่ามือ ที่...เคยรู้สึกเย็นเหมือนน้ำแข็ง ... อุ่น !!! ขึ้นมาได้ !!!

เสียงผ่อนลมหายใจเข้าออกผ่อนสั้นสลับยาวของอิเลฟเวนท์ ทุกๆ ครั้งทัตสึจิที่แทบจะนับครั้งได้

" ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ! " และทัตสึจิยังต้องมาคอยนั่งเห็นอกเห็นใจ

" ฟูจิวาระ !!"

" เธอเอง ! ก็เคยเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำศึกสงครามมาจนนับไม่ถ้วน !! "

" เธอเอง ! ก็ยังเคยชนะในศึกสงครามมาแล้วเป็นร้อยเป็นพันครั้ง !!! "

ทัตสึจิที่หยุดคิดไปชั่วครู่ และพอยิ่งเห็นอิเลฟเวนท์และเห็นความเจ็บปวดที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ ภายใต้ลูกนัยน์ตาสีดำของเธอที่กำลังสั่นไหว.

" หิน..ก้อนนั้น ! ที่เธอเอง...ก็รู้ว่า มันหนัก "

" แล้ว..มันเป็นเพราะอะไร ! "

" คนอย่างเธอ ถึงได้หวาดกลัว ! " เพราะว่าเขาไม่อยากต้องเห็นเธอต้องมาคอยเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ทั้งๆ ที่มันก็ไม่เกิดประโยชน์ และเธอก็น่าจะรู้ดีที่สุด

รอยยิ้มจางๆ ของอิเลฟเวนท์ที่ยังคงอยู่และสลับไปมากับดวงตาที่สั่นไหว แต่ในที่สุดเธอก็ยอมรับออกมาอยู่ดี

" ฉัน ! มันก็คงจะเป็นได้แค่....."

" คนที่ขี้ขลาด !!! "

ทัตสึจิที่ทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้ แต่ว่าก็ยังไม่เห็นด้วยกับเธอไปซะทั้งหมดอยู่ดี

" ฟูจิวาระ ! "

" หินก้อนนั้น "

" ตอนนี้มันไม่ได้แค่ถูกวางทับเอาไว้ที่ตรงหน้าอกของคุณ !!! "

" แต่ว่ามันอาจจะกำลังคอยทุบอยู่ที่กลางดวงใจของคุณเองซ้ำ ๆ จนก่อให้เกิดเป็นรอยแผล"

" รองประธาน... The Empire Group " ทัตสึจิฝืนใจพูดคำ ๆ นั้นออกมา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าก็มันคงไม่ได้ช่วยอะไร แต่ก็ยังตัดสินใจที่จะพูดให้อิเลฟเวนท์ฟังต่อ

" การที่เธอเองพยายามที่จะฝืนโชคชะตาให้ได้ !แต่ก็ใช่ว่า...."

" มันจะทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน ! น้อยลงไป !!!! "

" อีเลฟเวนท์ ! " เขาที่ก็คงจะบอกกันได้เพียงเท่านี้จริง ๆ

อิเลฟเวนท์คอยนั่งฟังทัตสึจิให้คำแนะนำอยู่อย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ยอมที่จะเอ่ยปากตอบอะไรออกไป ทั้ง ๆ ที่ทุก ๆ ครั้ง เธอเองก็อยากจะตะโกนออกไปดังๆ เพื่อที่จะคอยห้ามทัตสึจิไม่ให้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น

แต่ว่ามันก็คงจะไม่มีประโยชน์ !!!! อีกต่อไปแล้ว...