ทัตสึจิ มินาโมะโตะพาอีเลฟเวนท์ยืนดูสร้อยไข่มุกสีดำเส้นหนึ่ง ที่ๆ พวกมันวางอยู่ในตู้กระจกและพวกมันยังอยู่ใกล้กับตู้ๆ กระจกที่เก็บดาบสั้นวากิซากิภายในบริเวณห้องเก็บรวบรวมของสำคัญของตระกูล
สร้อยไข่มุกสีดำสนิทที่กำลังถูกวางอยู่บนผืนผ้ากำมะหยีสีแดงสด และขนาดความยาวของสร้อยเส้นนี้ความยาวน่าจะสัก 11 นิ้วครึ่ง และเส้นผ่าศูนย์กลางของไข่มุกดำทุกเม็ดก็ราวๆ สิบมิลลิเมตรเป็นอย่างน้อย และมิหนำซ้ำสร้อยไข่มุกสีดำทุกๆ เม็ดยังคงเปล่งแสงทอประกายวูบวาบราวกับเป็นของใหม่อยู่เลย
และความรู้สึกวูบแรกทีทัตสึจิได้สัมผัสมันก็คือ !
" มันคือโศกนาฏกรรม !!! "
" ...ที่เลวร้าย !! " ทัตสึจิรู้สึกผิดหวังทุกๆ ครั้งที่เฝ้ามองสร้อยไข่มุกเส้นนี้
"หึ !!! " แต่ทว่าก็มีเพียงเสียงหัวเราะเย้ยยันของตัวเองในลำคอของอิเลฟเวนท์ที่ต่างทยอยดังออกมาจนคับห้องเก็บของ ๆ มินาโมะโตะ
ทัตสึจิที่ได้แต่แอบมองอิเลฟเวนท์อยู่อย่างเงียบๆ แม้ว่าภายในจะมีคำถามเป็นหมื่นล้านคำถามก็ตาม แต่เธอก็ทำเพียงมองและคอยยิ้มเยาะ !
" เป็นเพราะพวกมัน !!! " อิเลฟเวนท์จด ๆ จ้องๆ เข้าไปในตู้กระจก
" ฉันถึงต้องเดินทางกลับมาสู่เส้นทางในอดีต ! "
" ที่แสนเลวร้าย !!! " และเนื้อเสียงที่ราวฟังแล้วเศร้าจับจิตของเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าทัตสึจิกลับมองมันและไม่เห็นด้วย
" อดีต ! มันก็เป็นแค่..."
"อดีต !!! " ทัตสึจิที่ยังคงไม่เห็นด้วยกันอย่างถึงที่สุด และเขาก็เห็นเธอที่ทำได้เพียงเบือนหน้าหนี และอิเลฟเวนท์ที่ทำท่าทีคอยจะเดินเข้าหาภาพแขวนอุกิโยะ
อิเลฟเวนท์ยอมละสายตาออกจากตู้เก็บสร้อยพวกนั้น และเธอยังหันไปหาภาพแขวนของแม่สายน้อยไร้เดียงสาที่แขวนอยู่ใกล้ๆ เธอมองภาพๆ นั้น และจดๆ จ้องๆ คอยมองหญิงสาวที่ออกมายืนกางร่มตากหิมะรออยู่ที่ปลายสะพานอยู่ได้ และแววตาของสาวน้อยช่างไร้เดียงสาที่ฝั่งใจของพวกเธอมาจนถึงป่านนี้
" แวบแรกที่ได้มองเห็นอดีตของ..."
"ตัวเอง !!! "
" เจอกันหนแรก ! "
" ก็...ที่ ศาลเจ้าอาซามะ !!! " และน้ำเสียงที่พึงรำพัน
" และก็...ในงานประเพณีอุตางะตะ "
" เธอ...ช่างเป็นเด็กสาวที่สดใสมากมายเหลือเกิน " อิเลฟเวนท์ที่มองเพียงภาพแขวนถึงกับต้องยอมพูดเรื่องเก่าในอดีตชาติขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
และทัตสึจิที่คอยเหลียวมองรูปแขวนพวกนั้นตาม ๆ กันไป แต่อย่างไงซะเขาก็รู้สึกชอบภาพเขียนอุกิโยะของสาวงามที่กำลังดีดพิณโกโตะอยู่ที่ใกล้ๆ นั่นมากกว่า
" แต่ว่า "
" เธอคนนี้ก็สวยใช้ย่อยซะเมื่อไหร่ "
" ลีลาการโบกสะบัดดีดพิณญี่ปุ่นของเธอ ! ที่....."
" ดูกี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนอยากกลับไปนอนฝันถึง !!! "
" ถ้าหากว่าเป็นฉันบ้างละก็ !! "
" ฉันคงจะไม่มีวันแอบไปมีภรรยาคนอื่น !!! "
" เก็บไว้อีกเป็นแน่ " ว่าแต่ทัตสิจิก็เพียงพูดเปรียบเปรยถึงความรู้สึกที่แสนจะธรรมดาๆ ของพวกผู้ชาย
" หึๆ !!! " เสียงหัวเราะในลำคอของอิเลฟเวนท์ยังคงส่งเสียง และบางทีเธอที่ก็เผลอพยักหน้าให้กับทึตสึจิ
" ก็เพราะว่า "
" ผู้หญิงคนนั้น เธอ..มันไม่ใช่ ! "
" คนที่น่ายกย่องหรือว่า น่าเชิดชูเอาซะเลย! "
" มันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย !! " เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ให้ทัตสึจิฟังก็เพราะว่า เวลาที่...ความทรงจำในอดีตที่แสนเจ็บปวดจากอดีตคอยย้อนกลับมา ก็คือ..เวลาที่ต้องสบตาของแม่สายน้อยวัยสิบหกมันยังคงทำให้เธอเสียใจบาดลึกจวบจนถึงเวลาในโลกปัจจุบันนี้ได้
อิเลฟเวนท์แม้ว่าใจก็อยากจะรีบเดินหนีกลับออกไปจากห้องนี้ ว่าแต่ว่าเธอนั้นก็รู้ตัวเองดีว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ และตอนนี้เธอที่ทำได้ก็แค่หันไปยืนมองที่ประตูห้องเก็บของ
และทัตสึจิที่ยังคงมองตามและรู้เท่าทัน
" คุณไม่เป็นไร ! แน่นะ !!! " ทัตสึจิที่ต้องถามเพราะรู้สึกเห็นใจ และแม้ว่ามีบางครั้งที่ก็พยายามจะคอยสังเกตรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของพวกเธอพวกนั้น
เธอส่ายหน้าให้กับทัตสึจิ
" ฉันเลือกอะไรมากไม่ได้นักหรอกนะ มินาโมะโตะ " น้ำเสียงของอิเลฟเวนท์ที่จริงจังนั้นพลอยที่จะทำให้ทัตสึจิตระหนก
ทัตสิจิที่กำลังเฝ้ามองอิเลฟเวนท์หันไปมองที่ฉากประตูกั้นห้องหนังสือภายในห้องเก็บของ ๆ ของตัวเอง และอิเลฟเวนท์ที่กำลังพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องหนังสือของเขาจริงๆ เพราะฉะนั้นเขาถึงต้องรีบเดินตามเธอไป
อีเลฟเวนท์เดินอ้อมฉากบานพับสีขาวซีด ๆ ในห้องเก็บของมินาโมะโตะ และเดินตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือเตี้ยๆ ของญี่ปุ่นที่เป็นไม้สนทาทับด้วยน้ำมันสนสีดำขัดเป็นเงา เธอนั่งขัดสมาธินั่งลงบนเบาะสีเทาคล้ำ ๆ ที่เคยเป็นที่นั่งของมินาโมะโตะ
มิหนำซ้ำเธอยังต้องคอยกวาดสายตาบนโต๊ะหนังสือของมินาโมะโตะที่เหมือนๆ จะมีกระดาษสีขาว ๆ บางๆ กางอยู่เกือบเต็มพื้นที่ของโต๊ะญี่ปุ่น และพู่กันจีนเปื้อนหมึกที่ยังคงถูกใช้งาน
" ทัตสึ...จิ !! " และเธอที่รู้สึกขอบคุณทัตสึจิทันทีที่เห็นพวกมัน
ทัตสึจิที่คอยนั่งลงบนเบาะที่ฝั่งตรงกันข้าม และดูเหมือนเขายังจำเป็นต้องเสียสละเบาะของตัวเองให้กับอิเลฟเวนท์ซ้ำๆ
" เธอคงอยากที่จะกลับมาจับพู่กันอีกแล้ว ! ละสินะ ! "
" จริงไหม !! " ทัตสึจิปลอบใจอิเลฟเวนท์โดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องพูดอย่างนั้นออกมา แต่ในขณะที่กำลังมองอิเลฟเวนท์หันไปสนอกสนใจกับแท่งฝนหมึกและพู่กันจีนของตัวเอง จนกระทั่งต้องคว้าแท่งฝนหมึกมาคอยถือไว้
อิเลฟเวนท์เห็นความพยายามของทัตสึจิที่ชายหนุ่มอายุราวๆ รุ่นพ่อที่อยากจะช่วยฝนหมึกให้กับเธอ และคอยนั่งมองพวกเขาที่ตั้งตกตั้งใจฝนหมักอย่างระเอียดอยู่ตรงกันข้าม
" ตั้ง...15 ปี !! "
" ตั้ง 15 ปี !!! "
" ที่ฉันน่าจะเรียกคุณว่า ท่านประธานทัตสึจิ มินาโมะโตะ แห่ง Holding & Industrial อันยิ่งใหญ่ !!! " และเธอก็คอยปลอบใจทัตสิจิไปพลางๆ
" ฮ่าๆๆ " เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของทัตสึจิที่กำลังดังลั่นห้องขั้นมาแทนที่ความเงียบกริบที่หาสาเหตุไม่ได้ และด้วยการที่ทัตสึจิชอบความตรงไปตรงมาของฟูจิวาระ
" ก็แล้วมันจะแตกต่างกันตรงไหน "
" ก็ในเมื่อ "
" เธอก็ยังเป็นเธอคนเดิมอยู่วันยังค่ำ !!! " ทัตสึจิปฏิเสธข้อต่อรอง
" และก็ใช่ว่าฉัน ! "
" จะถือเรื่องอายุเป็นเรื่องที่สำคัญกันซะเมื่อไหร่ ฟูจิวาระ !! " และมิหนำซ้ำทัตสึจิที่ยังคงให้เกียรติซึ่งกัน
อิเลฟเวนท์พยักหน้าสองสามครั้งก่อนที่จะก้มมองกระดาษสีขาว ๆ ที่ว่างเปล่าที่กางอยู่ตรงหน้าด้วยฝีมือของทัตสึจิ มินาโมะโตะที่เตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว
" สงคราม....ครั้งสุดท้ายในชีวิต !! " เธอยังคงรำพึงรำพันถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อมองเห็นภาพในอดีตคอยซ้ำไปและซ้ำมาอยู่ในหัวซ้ำๆ
และจนกระทั่งทัตสิจิต้องรีบเร่งหันมาหยิบพู่กันกลับขึ้นมา และจิ้มปลายพู่กันลงบนแท่นหมึกอย่างช้าๆ และช่วยยืนมันให้ถึงมือ และเธอที่รับพวกมันไว้อย่างเต็มใจ และก็ความคิดแรก ๆ ของทัตสึจิเกิดขึ้นในชั่วขณะหนึ่ง
ก็คือ... อีเลฟเวนท์ต้องการจะเขียนอะไรลงไปในที่กระดาษแผ่นนั้น และเขาที่ยังคงเฝ้ามองลีลาการโบกสะบัดปลายพู่กันของคนที่ชื่อฟูจิโนะ ฮานะ ฟูจิวาระอยู่แล้วจริงๆ
แต่ในขณะที่ทัตสึจิยังคงคอยเฝ้ามองคนๆ หนึ่งกวัดแกว่งพู่กันจีนราวกับถือมีดดาบกวัดแกว่งในสนามรบของเขา และทันทีเพียงไม่กี่อึดใจอิเลฟเวนท์ก็ส่งพู่กันจีนคืนกลับมา
ทัตสึจิรีบร้อนยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับพู่กันในมือของฟูจิวาระ และทัตสึจิที่ไม่ทันระวังตัวประดิษประดอยเก็บพู่กันด้ามนั้นมากไปกว่าการหันไปชำเลืองมองที่กระดาษแผ่นนั้นและคว้ามันอ่านในทันทีทันใด
" ยาม...ที่มีลมพัดใบไผ่ "
"ความทรงจำ...ที่หายไป "
" แต่เสียงกระซิบ...ที่ยังคงอยู่ " !! ทัตสึจินั่งอ่านกระดาษแผ่นนั้นที่พวกมันเขียนด้วยตัวอักษรจีนโบราณ ตัวอักษรจีนโบราณสีดำสนิทที่ยังคงเขียนหวัดๆ อย่างรีบเร่งเช่นเดิม
ว่าแต่ว่าทัตสึจิตัดสินใจวางกระดาษแผ่นนั้นคืนกลับไปลงบนโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง และมิหนำซ้ำเขาที่ยังต้องหันกลับมา และคอยนั่งมองกิริยาท่าทางของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าว่าจริงๆ แล้ว ตอนนี้เธอเป็นใครกันระหว่างฟูจิวาระ หรือว่า อิเลฟเวนท์คนที่เคยรู้จัก
เสียงถอดถอนหายใจของคนที่อยู่ตรงหน้าทัตสิจิ พวกมันทำให้เกิดคำถามกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
" สงคราม..! " และทัตสึจิที่ยังคงตั้งคำถาม
" ครั้งสุดท้ายของเธอ.. "
" มัน คงจะเป็นสงครามประเภทที่...ต้อง ! "
" ฝืนใจน่าดู " ทัตสึจิพยายามจะตั้งคำถาม และในขณะเดียวกันก็พยายามนั่งคุกเข่าในท่าทีที่สำรวมมากขึ้น
แต่เธอที่มีเพียงรอยยิ้มจางๆ ให้กับทัตสิจิ
" มันก็น่าแปลกจริงๆ นั่นแหละ ! " และตอบคำถามอย่างไม่มั่นอกมั่นใจ
อิเลฟเวนท์ยังคงคอยพยายามที่จะคิดให้หนักก่อนที่ตอบคำถามของทัตสิจิไปๆ มาๆ วนเวียนอยู่อย่างนั้น และสุดท้ายสิ่งที่เธอคิดได้ตอนนี้ก็มีเพียง
... ทำไม....คน ๆ หนึ่ง ! สามารถ....ทำให้ฝ่ามือ ที่...เคยรู้สึกเย็นเหมือนน้ำแข็ง ... อุ่น !!! ขึ้นมาได้ !!!
เสียงผ่อนลมหายใจเข้าออกผ่อนสั้นสลับยาวของอิเลฟเวนท์ ทุกๆ ครั้งทัตสึจิที่แทบจะนับครั้งได้
" ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ! " และทัตสึจิยังต้องมาคอยนั่งเห็นอกเห็นใจ
" ฟูจิวาระ !!"
" เธอเอง ! ก็เคยเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำศึกสงครามมาจนนับไม่ถ้วน !! "
" เธอเอง ! ก็ยังเคยชนะในศึกสงครามมาแล้วเป็นร้อยเป็นพันครั้ง !!! "
ทัตสึจิที่หยุดคิดไปชั่วครู่ และพอยิ่งเห็นอิเลฟเวนท์และเห็นความเจ็บปวดที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ ภายใต้ลูกนัยน์ตาสีดำของเธอที่กำลังสั่นไหว.
" หิน..ก้อนนั้น ! ที่เธอเอง...ก็รู้ว่า มันหนัก "
" แล้ว..มันเป็นเพราะอะไร ! "
" คนอย่างเธอ ถึงได้หวาดกลัว ! " เพราะว่าเขาไม่อยากต้องเห็นเธอต้องมาคอยเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ทั้งๆ ที่มันก็ไม่เกิดประโยชน์ และเธอก็น่าจะรู้ดีที่สุด
รอยยิ้มจางๆ ของอิเลฟเวนท์ที่ยังคงอยู่และสลับไปมากับดวงตาที่สั่นไหว แต่ในที่สุดเธอก็ยอมรับออกมาอยู่ดี
" ฉัน ! มันก็คงจะเป็นได้แค่....."
" คนที่ขี้ขลาด !!! "
ทัตสึจิที่ทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้ แต่ว่าก็ยังไม่เห็นด้วยกับเธอไปซะทั้งหมดอยู่ดี
" ฟูจิวาระ ! "
" หินก้อนนั้น "
" ตอนนี้มันไม่ได้แค่ถูกวางทับเอาไว้ที่ตรงหน้าอกของคุณ !!! "
" แต่ว่ามันอาจจะกำลังคอยทุบอยู่ที่กลางดวงใจของคุณเองซ้ำ ๆ จนก่อให้เกิดเป็นรอยแผล"
" รองประธาน... The Empire Group " ทัตสึจิฝืนใจพูดคำ ๆ นั้นออกมา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าก็มันคงไม่ได้ช่วยอะไร แต่ก็ยังตัดสินใจที่จะพูดให้อิเลฟเวนท์ฟังต่อ
" การที่เธอเองพยายามที่จะฝืนโชคชะตาให้ได้ !แต่ก็ใช่ว่า...."
" มันจะทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน ! น้อยลงไป !!!! "
" อีเลฟเวนท์ ! " เขาที่ก็คงจะบอกกันได้เพียงเท่านี้จริง ๆ
อิเลฟเวนท์คอยนั่งฟังทัตสึจิให้คำแนะนำอยู่อย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ยอมที่จะเอ่ยปากตอบอะไรออกไป ทั้ง ๆ ที่ทุก ๆ ครั้ง เธอเองก็อยากจะตะโกนออกไปดังๆ เพื่อที่จะคอยห้ามทัตสึจิไม่ให้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น
แต่ว่ามันก็คงจะไม่มีประโยชน์ !!!! อีกต่อไปแล้ว...