อีเลฟเวนท์เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่บริเวณก้อนหินขนาดใหญ่ ที่เขียนคำว่าอะไคชิซันคังที่เขียนด้วยอักษรจีนสีดำซีด ๆ กลางดึก และมิหนำซ้ำฝนฟ้าที่ไม่เคยเป็นใจในช่วงหัวค่ำในกรุงโตเกียว และพวกมันได้พัดพามาถึงที่อะไคชิซันเรียวกังของตระกูลโคบายาชิ และเธอที่ตัดสินใจขับรถมาเพียงลำพังเพื่อพักผ่อนเรียวกังถึงฮายากาว่า
อิเลฟเวนท์ที่ตอนนี้คอยเดิน ๆ ไปตามทางปูด้วยด้วยหินขัดก้อนขนาดกลางบ้าง และเล็กบ้างสลับกันไปมาตามทางเดินและคอยลัดเลาะไปตามต้นสนสามใบต้นใหญ่ๆ และเธอที่ก็ต้องเดินผ่านต้นบอนไซภูเขา และรวมถึงได้กลิ่นของดอกไม้จางๆ ที่ยังช่วยส่งความสดชื่นผ่านมาตามสายลมในช่วงกลางดึก ตะเกียงหินเก่าๆ สูงบ้าง เตี้ยบ้างที่ยังจะคอยช่วยส่งแสงอยู่เป็นเพื่อนกันไปตลอดทาง และก็อีกทั้งแสงไฟฟ้าจากที่บริเวณตึกของอะไคชิซันคัง และดวงไฟอีกหลายๆ ดวงที่เล็ดลอดจากภายในห้องพักแขกก็ยังพอที่จะส่องออกมาให้เห็น เธอหยุดเดินในขณะที่มองเห็นผู้ชายสวมชุดยูกะตะสีน้ำเงินเข็มๆ และเขาก็ยืนหันหลังอยู่ที่ริมแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่กำลังคอยไหลผ่านอย่างช้าๆ หลังอะไคชิซันเรียวกัง
" ขอโทษ...ที่ทำให้รอคะ "
" คุณนากามุระ " อิเลฟเวนท์โค้งเล็กให้กับผู้ชายสวมชุดยูกะตะคนนั้น และเขาที่เหลียวหันกลับมาทันที
" ทำไม ! "
" เธอถึงชอบทำให้ฝนตกอยู่เรื่อย ฟูจิวาระ !! " ผู้ชายสูงวัยคนที่ไปตามไทระ มาซายูกิให้ไปพบที่ห้องทำงานเมื่อหัวค่ำกำลังหันมายืนคุยอยู่กับเธอ
" ขอโทษค่ะ !" เธอยังโค้งและก้มหัวเล็กน้อย
" ที่ทำให้ทุก ๆ คนต้องพลอยลำบากเพราะฉัน " และยังพยายามแสดงความนอบน้อมไม่หยุดหย่อน
" หืม.... !!! " ผู้ชายที่อิเลฟเวนท์เรียกชื่อว่า นากามุระ และเขาที่แอบถอนหายใจอยู่ตรงหน้า
" ฟูจิวาระ "
" ถ้า...เธอไม่อยากให้พวกเราลำบาก "
" ก็ช่วยทำให้! "
" มาซายูกิสมหวังสักที..." นากามุระขอร้อง
อิเลฟเวนท์ที่พยายามหันมามองและสบตากัน
" โคบายาชิ !! " และเธอที่หันมาเรียกนามสกุลของพวกเขา
" ฉัน เคยสัญญาว่าจะไม่มีวันทอดทิ้ง.. มาซายูกิ ! "
" และให้เขา ! ต้องอยู่อย่างเดียวดาย "
" เพราะฉะนั้น ! ฉันยังคงจำสัญญาของเราได้ไม่มีวันลืม ! " แต่เธอที่ก็ไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้
และนากามุระที่เผลอยิ้มจนเห็นฟัน และยังจะเหลียวหันกลับไปมองสายน้ำที่ไหลผ่านในตอนกลางคืน และพวกเขาที่ยังคอยทอดสายตาออกไปไกลๆ
" คืนที่.... พ่อของยูกิจัง !! "
" มาพาตัวของ มาซายูกิไป " และนากามุระที่ก็ยังจะเผลอคิดจนเสียงดัง และอิเลฟเวนท์ที่ก็ไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจ
" ท่านเอง ! "
" ก็เสียใจมากที่ต้องทำแบบนั้น ! " เธอตอบกับนากามุระ
หืม... เสียงถอดถอนลมหายใจของนากามุระ โคบายาชิที่ยังคงมีให้ได้ยินกันอีกหลายครั้ง
" สึบากิ ! ร้องไห้จะเป็นจะตายจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด " และบางทีเขาเองก็ยังต้องคอยซ่อนความเจ็บปวด
" ฉันต้อง..คอยดูและทะนุทนอมสึบากิ มาเกือบๆ สามสิบปี ! "
" จน..ถึงตอนนี้ "
" เพราะฉะนั้น.ฉันถึงไม่อยากเห็น สึบากิต้องมาผิดหวังเสียใจเรื่องที่..."
" ลูกชายเพียงคนเดียว "
"ต้องมาผิดหวังอีก..." นากามุระบอกกับเธออีกครั้ง
อิเลฟเวนท์ที่ยังคอยตั้งใจฟัง และยังคอยยืนเคียงข้างนากามุระมองทะลุผ่านสายน้ำในกลางดึกในยามที่สายฝนกลืนเข้าไปในกลีบเมฆ และแววตาที่ยิ้มแย้มก็ยังคงไม่เคยจางหายให้กับโคบายาชิของเธอ
" ตอนนั้น....ฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบห้า " เธอเล่า
" และ.. มาซายูกิก็เพิ่งจะอายุแค่สิบห้า "
" ตอนนั้น "
"ตอนที่ฉันกับมาซายูกิได้เจอกันครั้งแรก !" แต่ว่าคราวนี้เธอเล่าไปพร้อมๆ กับส่ายหัวเบาๆ
" มาซายูกิ ! ทั้งโกรธและเกลียดฉันเอามาก ๆ ที่รู้ว่า ! "
" เป็นเพราะฉันพ่อของยูกิ "
"ถึงต้องตาย...." และหลาย ๆ ครั้งสายตาของเธอได้เปลี่ยนกลายเป็นความเหงาและอ้างว้างให้โคบายาชิได้เห็น
" หึๆ " และนากามุระที่กำลังหัวเราะเยาะ
" แน่ละ !!! "
" ฟูจิวาระ ! "
" เธอนะมันเป็นที่หนึ่ง ! "
" เรื่องตัวซวย ! " นากามุระพยักหน้าเห็นด้วย และเขาก็ยังสังเกตเห็นรอยยิ้มของอิเลฟเวนท์ที่ค่อยๆ คลาย
" เอาจริงๆ แล้ว..." จนกระทั่งเขาที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า
" ทั้ง ฉัน กับ สึบากิ ! "
" ก็ไม่เคยอยากที่จะให้ มาซายูกิทำอะไรแบบนั้นเลยกันเลยสักนิดเดียว " และพยายามจะทบทวนวิธีของเธอ
" แต่ว่า...พอตอนที่ ฟูจิวาระ ! "
"เธอเองได้มาบอกกับพวกเรา ! ในตอนนั้น !!! "
" และตอนที่...เธอเล่าว่า ! " นากามุระที่คราวนี้หันมาคอยมองสบตากับอิเลฟเวนท์อย่างจริงๆ จังๆ และตั้งใจ
ว่าแต่ว่าสายตาของนากามุระที่ๆ ก็ไม่เคยมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้จริงๆ ได้เท่ากับความมั่นใจของอิเลฟเวนท์ที่อยู่ตรงหน้าของเขา เพราะว่าแววตาของอิเลฟเวนท์คนนี้ หรือแม้การมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเธอจำเป็นจะต้องใช้ชื่อย่าง ฟูจิวาระอีกคน แต่ถึงอย่างไงซะเธอก็ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน
" เราอยากที่จะมองเห็นอนาคตกันไปทำไม ! ก็ในเมื่อ...."
" สิ่งที่สำคัญที่สุด !!! "
" เรา...กำลังมองเห็นมันอยู่ตรงหน้า !!! " นากามุระก็แค่อยากที่จะเล่าให้เธอฟังอีกครั้ง และถึงแม้บางทีก็ยังอยากที่จะหวนกลับไปคิดถึงคืนวันเก่าๆ ที่ เคยปราศจากความเชื่อเดิม ๆ ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำความรู้จักับอิเลฟเวนท์ก็ตาม
อิเลฟเวนท์ที่ยังคอยมองโคบายาชิ นากามุระไม่ห่าง
" ตอนนั้นคุณเองก็เคยถามฉันเอาไว้ว่า "
" ทุกอย่าง...ที่ ! ฉันทำ "
" มันจะต้อง...อดทน มากถึงแค่ไหนกัน " เพราะฉะนั้นเธอถึงอยากจะพูดคุยกันอย่างเปิดเผยอีกสักครั้ง และในระหว่างที่โคบายาชิยังคงตั้งอกตั้งใจฟังคำเก่าๆ ของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และรอยยิ้มของโคบายาชิที่มีให้กับอิเลฟเวนท์ยังคงวนเวียน
" ใช่ !!! "
" ถูกต้อง !! " นากามุระพยักหน้าและยังคงยิ้มๆ ยอมรับ
" แต่ว่ายังไงๆ เธอเองก็สมควรที่จะหาเวลาพักผ่อนให้มันมาก ๆ "
" อิเลฟเวนท์ " และทั้งหมดทั้งมวลสุดท้าย นากามุระที่ยังแฝงความเป็นห่วงในฐานะผู้อาวุโสกว่ากับเธอ
แต่ว่านากามุระที่ก็เพียงได้มองเห็นคนบางคนที่ยังคงแสแสร้งแกล้งยิ้มแย้ม และพยายามจะแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง
อิเลฟเวนท์ที่ยังคงทำแค่เพียงฝืนยิ้มแย้ม และในขณะเดียวกันก็คอยแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าในยามที่พายุแสนจะทรมานเพิ่งพัดผ่าน และเธอที่กำลังชวนให้โคบายาชิที่คอยเป็นเพื่อนเฝ้ามองก้อนเมฆหลังวันคืนฝนตกที่แสนจะโหดร้ายผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ
และถ้าจะให้โคบายาชิทายใจอิเลฟเวนท์ตอนนี้ และเท่า ๆ ที่สังเกตอาการและแววตาของเธอเข้าให้แล้ว เวลานี้...เธอคงเพียงแค่เห็นท้องฟ้าที่เปล่งประกายอยู่บนท้องฟ้าก็เท่านั้น
อิเลฟเวนท์ที่แหงนคอรอยคอยมองดวงพระจันทร์ดวงโตๆ กับกลุ่มดาวอีกหลายกลุ่มใหญ่ๆ ที่คอยแต่จะมารวมกัน
" มาซายูกิ ! " และพวกเธอที่นึกถึงไทระน้อยๆ
" เขาจะต้องมีความสุข " เธอบอกกับโคบายาชิอย่างแผ่นเบา แต่ก็มีบางครั้งที่พูดออกไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่ตัวเองพูดถึงก็ตามที
แต่ทว่าน้ำเสียงที่ไร้ความแข็งแรงของฟูจิวาระ หรือ อิเลฟเวนท์ก็ช่าง ! พวกมันกำลังทำให้นากามุระรับรู้ถึงความลำบากใจของพวกเธอขึ้นมาไม่น้อย
บริเวณรอบบ่อน้ำพุร้อนทีอะไคชิซันคังที่จะทำให้คนที่แช่ออนเซนได้มองเห็นเทือกเขาแอลป์เจแปนตอนใต้อย่างสวยงามได้ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืน และสายลมเย็นๆ ที่กำลังพัดเอื่อยๆ เข้ามาแตะอยู่ที่ปลายยอดของต้นสนสามใบนับร้อยต้น ตั้งแต่หลังเรียวกังของอะไคชิซันไปจนกระทั้งทางข้ามฝั่งแม่น้ำมิโนบุ และก็กลิ่นหอมเย็น ๆ ของบ่อน้ำพุร้อนกลิ่นคล้าย ๆ ดมกลิ่นน้ำฝน..ที่ผ่านการกลั่นกลองมาเป็นอย่างดี
กลิ่นหอมของน้ำอุ่นๆ ราวๆ 45 องศา ที่พอเหมาะพอเจาะ กลิ่นหอมของน้ำในบ่อน้ำพุร้อน ที่เหมือนของกลิ่นก้อนหินขนาดใหญ่...ถูกฝนชะล้างให้สะอาดอยู่ตลอดเวลามาหลายพัน ๆ ปี..
แต่ว่าอีเลฟเวนท์กำลังมวยผมที่ยาวถึงกลางหลังของตัวเองกลับขึ้นมาไว้กลางกระหม่อม และปักด้วยปิ่นไม้ไผ่ทาด้วยสีดำนั่งอยู่ในบ่ออนเซ็นภายในอะไคชิซันเรียวกังในตอนกลางคืน และเธอยังคงนั่งหลับตา และคอยสูดดมกลิ่นของน้ำพุร้อนสลับผัดเปลี่ยนการสูดลมหายใจเข้าออกผ่อนสั้นยาวสลับกันไปเป็นระยะสลับกันไปมา และจนกระทั้งเธอได้ยินเสียงของผู้คนร้องไห้ !!!! เสียง...การร้องขอชีวิต !!! และเสียงของการ...อ้อนวอนต่อชีวิต ..สอดแทรกเข้ามาที่โสตประสาททั้งห้า
หัวใจของอิเลฟเวนท์ที่ค่อยๆ ขยับเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวในสิ่งที่เคยได้ยินขึ้นมาเป็นร้อยครั้ง.. และน้ำตาที่เหมือนจะล้นเขื่อนออกมาเสียให้ได้ แต่นั่นมันก็คงเป็นเพราะความอ่อนไหวและลังเลของตัวเองที่ยังต้องเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มพวกนั้น
และฉาบความอ่อนแอไว้ภายใต้แววตาที่เย่อหยิ่งจองหอง และอวดดี...ของเธอ
และเธอยังคงนั่งหลับตา และอีกครั้งหนึ่งที่เธอเริ่มจะได้ยินเสียงสายลมพัดแรงเพียงเพราะการตวัดปลายดาบในคืนวันนั้น !!!!
ในคืนวันที่.....ปลายดาบของตัวเอง !!! ได้....พัดพาความชั่วร้ายให้ออกมาเข่นฆ่า....ผู้คนนับเป็นพัน ! พัน !!! ด้วยความ.....เคียดแค้น...
พายุโหมกระหน่ำที่เกิดขึ้นได้ด้วยเพียง.....ตัวเองได้ตวัดดาบ !!!! ให้กับ ความ....เห็นแก่ตัว !!!
เสียงสวดอ้อนวอน...ของผู้คนเหล่านั้นในท่ามกลางป่าไผ่ขนาดใหญ่ แต่ที่ดังกว่า...ก็คือเสียงของคมดาบที่คอยแต่จะเชือดเฉือนเนื้อของคนเป็นพัน ๆ นั่น.....
ท้องฟ้าในค่ำคืนนั้น....จากที่เคยมืดมิดไร้แสงสว่างจากดวงจันทร์เพียงสิ่งเดียว จน...พวกมันได้กลายเป็นผืนฟ้าที่.... ถูกฉาบไหลนองเต็มไปด้วยเลือด !!!!!
และ....ผู้หญิงร่างเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะนอนตายจมกองเลือด อยู่ที่....แทบเท้าของตัวเองนั้น !!! วิญญาณ..ของผู้หญิงคนนั้น.....
มัน !!! กำลังจะกลับมาสู่....อ้อมอกของตัวเองอีกครั้ง !!!!!
อีเลฟเวนท์พาร่างกายที่เปลือยเปล่าขึ้นมาจากบ่อน้ำพุร้อนใต้หลังคาไม้ขัด และเธอก็รีบก้มหยิบเอาชุดยูกะตะสีน้ำเงินเข้มที่ทำมาจากผ้าไหมยกขึ้นมาคลุมร่างกายเอาไว้และผูกมันด้วยเชือกที่เป็นผ้าสีเดียวกันพันรอบเอวอย่างลวกๆ หลวมๆ
ครืด...ด !!
อิเลฟเวนท์รีบร้อนเลื่อนบานประตูฟุสุมาทึบ ๆ และก็ยังต้องรีบร้อนเดินกลับเข้าไปในห้องพัก ทำราวกับว่าพยายามจะหนีอะไรบางอย่าง แต่ทว่าทันทีที่เธอเพิ่งจะเดินผ่านเข้ามาข้างในห้องพักเพียงไม่กี่ก้าว
เธอต้องหยุดเดิน และรีบเอามือขึ้นมาดึงคอเสื้อยูกะตะที่เปิดกว้างจนเห็นเนินอก
" นี่ถามจริง !! "
" คุณ !! "
" ไม่รู้จักคำว่า...มารยาท ! บ้างหรือยังไง !!! " และเธอก็รีบหันหลังไปมองฮัน ยูซอง เพราะว่าเขากำลังยืนกอดอกอยู่ในห้องพัก
ฮัน ยูซองที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร และเขายังปรายหางตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกด้วย
" คนที่...เป็น สามีภรรยากัน !! "
" ไม่เห็นจะจำเป็น !!! " เขายิ้มกริ่มและมิหนำซ้ำยังเดินดุ่มๆ เข้าไปหาแบบไม่ให้เธอได้ตั้งตัว และแม้ว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนจะเลือกสวมชุดยูกะตะที่เหมือนๆ กัน
" หยาบคาย !!! " เธอเบือนหน้าหนีและพยายามจะถอยห่าง แต่ว่าฮัน ยูซองที่คอยเดินตามและขวางไว้
" อิเลฟเวนท์ ไม่ใช่สิ ! " ในขณะที่เขายืนขวางและพยายามจะลวนลามเธอด้วยสายตาไปพร้อมๆ กัน
" คุณฟูจิโนะฮานะ ฟูจิวาระ " และเขาก็คอยแต่จะเดินเข้ามาพูดใกล้ๆ จนกระทั่งเห็นเธอพยายามจะหาทางหนีทีไล่
" ทำไม !! "
" คุณถึงไม่จับผมขังเอาไว้ซะเลยละ !!! " เขาตั้งใจประชด
อิเลฟเวนท์ที่กำลังถูกฮัน ยูซองเดินต้อนซะใกล้จะจนมุม และแม้อีกเพียงไม่กี่ก้าวที่ตัวเองจะถอยจนถึงพนังห้องเข้าให้แล้วจริงๆ
" ก็ถ้าฉันทำได้ !!
" ฉันก็คงจะทำ !! " แต่เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้ และตอนนี้สายตาทั้งคู่ก็กำลังหันมาสบกันพอดี
และในขณะที่เธอที่ถูกต้อนจนหลังพิงพนังกำแพง แต่ว่าเขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดแค่นี้ และไม่ใช่แค่ร่างกายที่จะผลักใสเข้าหาเธอ แต่ว่าริมฝีปากเขาด้วยเช่นกัน
" แล้วทำไม ! "
" คุณ..ถึงไม่รีบทำ !!! " เขาประชดอีก
ฮัน ยูซองไม่เพียงประชดด้วยคำพูดเท่านั้น และแม้แต่สายตาและท่าท่างของเขาก็กำลังประชดประชันเธออยู่ด้วยการอยากจะขย้ำ
" คุณมาทำอะไรที่นี้ !!! " เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องพยายามใจดีสู้เสือเอาไว้ก่อน !
" หึ หึ !!!! " เสียงหัวเราะเยาะเย้ยในลำคอขอฮัน ยูซอง ช่างน่าฟังอำมหิตสำหรับเธอน่าดู
" พ่อของฉัน ! " และคำพูดที่ราบเรียบของฮัน ยูซองที่ฟังเย็นชาพอๆ กลับลมหายใจที่พ่นออกมาจนจะกลายทำให้เธอเป็นน้ำแข็งก็ได้
" ท่านประธานฮัน วังซอง !! "
" เป็นลูกค้าวีไอพีที่นี้ !! "
" อย่าบอกนะว่า...คุณเองกำลังแกล้งทำเป็นไม่รู้ ! " และเขาก็พยายามบีบคั้นเธอทั้งคำพูดและสายตา
อิเลฟเวนท์หลบสายตาของฮัน ยูซองได้เพียงชั่วครู่ก็เท่านั้น แต่ภายในหัวก็คิดที่จะหาทางหลบเลี่ยงเขาให้ได้ แต่ถ้าหากเธอก้าวเท้าถอยอีกเพียงก้าวเดียว สิ่งที่เธอรู้ก็คือ ฮัน ยูซองอาจจะจู่โจมเข้าที่ตัวของเธอทันที และมันคงจะต้องเป็นอย่างที่เธอเคยเห็น !
เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องยอมเปลี่ยนวิธีและพยายามที่จะเปลี่ยนคำพูดที่เคยคิดที่จะพูดเอาไว้
" แล้วยังไง !!!! " แต่สุดท้ายเธอก็พูดคำเดิมเพราะไม่มีทางเลือก !
" ระหว่างเรา...สองคน !! " เขาที่ยังต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
" ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบังเอิญมากมายเหลือเกินซะจริง ๆ " เขาแอบอมยิ้มและหยุดมองอิเลฟเวนท์ที่กำลังยืนตัวสั่นเทิ้มไม่เหมือนยอดนักวิเคราะห์คนเก่งอีกต่อไป
เธอสะบัดหน้ามองไปทางอื่น เพราะหัวใจของเธอที่เต้นแรงจนพลอยทำให้เนื้อตัวสั่นๆ ตามไปด้วย
" รองประธานฮัน !!! " เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องหาเกลี่ยกล่อม
" ถ้าหากว่า..คุณหมดธุระกับฉันแล้ว !! "
" ก็..กรุณากลับไปที่ห้องพักของคุณดีกว่า ! " และนี่คือการขอร้องด้วยวิธีของอิเลฟเวนท์
เขาที่ไม่ได้เชื่อฟังคำพูดขอความเห็นใจจากเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับขยับริมฝีปากเข้าหากันจนชนิดแทบที่ว่า...ลมหายใจของพวกเธอที่กำลังร้อนระอุเขาก็ยังได้สัมผัส
" มาซายูกิ !!! "
" คงยังไม่รู้เรื่องนี้ !! สินะ ! " และการกระซิบที่แผ่วเบาผ่านช่องริมฝีปากเล็ก ๆ ของพวกเธอที่สั่นระริก
เธอเบือนหน้าหนีริมฝีปากของเขาทันที และพยายามจะใช้มือผลักเข้าที่แผงหน้าอกของฮัน ยูซอง แต่ว่าเขากลับเข้ามาคว้าทั้งตัวของเธอเอาไว้
ฮัน ยูซองดึงอิเลฟเวนท์เข้ามาสู่อ้อมกอดได้อย่างง่ายดาย และในขณะที่เธอพยายามจะต่อสู้ดิ้นรน
" มาซายูกิ !! " เธอฝืนทำเสียงแข็งใส่ และพยายามสบตาของเขาไว้
" ไม่ใช่ ! คนหัวโบราณ !!! " เธอเถียง !!
" งั้นเหรอ !!! " เขาจ้องตากันและจงใจถามกันอีกครั้ง
" ถ้าอย่างนั้น...พรุ่งนี้เช้า !! "
" มาซายูกิ ! คงจะไม่แปลกใจอะไร !! "
" ถ้าหากว่า..เขาเห็นผมอยู่บนเตียงกับ คุณ..ฟูจิวาระ " เขากระชับกอดเธอจนแน่น และจนรู้ว่าอิเลฟเวนท์ตัวสั่นสะท้านอยู่จริงๆ จนบางทีเขาก็อยากจะเห็นใจ
" ฮัน ยูซอง !!! " และน้ำเสียงสั่นๆ ในเวลาที่เธอเอ่ยชื่อของเขาออกมา
" คุณไม่ใช่ ! คนแบบนั้นนะ !! " และจนกระทั่งเธอเป็นฝ่ายยอมเอ่ยปากขอร้อง แต่ทว่าร่างกายมันกลับสวนทางก็เพราะว่า เป็นร่างกายที่คุุ้นเคย
แต่ทว่าทันทีที่เขาได้ยินคำขอร้องจากเธอ ความต้องการเอาชนะมันก็แทบจะพังทลายย่อยยับลงไปต่อหน้า และมันยังทำให้เขาต้องยอมถอยห่างออกจากเธอออกมาเรื่อยๆ
" จะออกไปได้หรือยัง " อิเลฟเวนท์ขอร้องด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและบวกกับความกลัวฮัน ยูซองจนตัวสั่น
และสิ่งนั้นมันกำลังทำให้คนยืนอยู่ใกล้ๆ เธอเห็นใจ และเขาที่ยอมฝืนใจตัวเองมากสักเท่าไหร่ที่จะยอมก้าวเท้าถอยหลังออกมาจากเธอ
ฮัน ยูซองแม้จะต้องกล้ำกลืนและอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่เขาพยายามจะทำกับเธอ แต่ท้ายที่สุดหัวใจของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นที่จะทำร้าย และในที่สุดเขาต้องเป็นฝ่ายยอมล่าถอยออกจากห้องของเธอไปอย่างง่ายดาย
อิเลฟเวนท์รีบร้อนปิดบานประตูเลื่อนโซจิทันที่ฮัน ยูซองออกจากห้องของเธอไปแล้ว แต่ว่า ขาที่ยังคงสั่นๆ จนไม่กล้าแทบที่จะขยับหนีออกไปไหนได้ และน้ำตาที่ก็แทบจะกักเก็บเอาไว้ไม่อยู่
แต่ทว่าเธอยังคงจำเป็นที่จะต้องกล้ำกลืนพวกมันเอาไว้ต่อไป..ด้วยความอดทนอีกเป็นร้อยๆ พัน ๆ ครั้ง ...