บทที่ 11
สตรีในโลงไม่เพียงมอบเคล็ดวิชาบ่มเพาะร่าง ให้กับเขา เเต่ยังช่วยเเบ่งพลังส่วนหนึ่งของนางมาให้กับเขาด้วย เพื่อที่ทำให้เขาสำเร็จร่างหยินหยางได้รวดเร็วขึ้น
ไม่นานบนพื้นที่เฉินตงนั่งอยู่ ก็ปรากฏเครื่องหมายหยิบหยางของลัทธิเต๋าขึ้นมา
พลังหยินสีดำเป็นตัวเเทนของ ความเย็น หรือ ดวงจันทร์
พลังอย่างสีขาวเป็นตัวเเทนของ ความร้อน หรือดวงอาทิตย์
"หยินหยาง หมุนวน ก่อเกิดสมดุลของพลัง" เฉินตงกล่าวพลาง ยื่นมือขวาชี้ขึ้นฟ้า ส่วนมืออีกอย่างชี้ลงพื้น
เครื่องหมายหยินหยางชัดเจนขึ้น ก่อนจะหมุนวน เเละดูดวับเอาพลังฟ้าดินรอบๆ เข้าไป ทว่าไม่เพียงพอ เพราะเขาไม่อาจดูดซับพลังจาก ดวงอาทิตย์เเละดวงจันทร์ ได้ ร่างหยินหยางจึงขาดพลังจากพวกมันทั้งสอง ต้องหาอย่างอื่นมาทดเเทน
ในหัวของเฉินตง มีทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ เขาจึงดูดซับน้ำเเข็งส่วนหนึ่งที่กระจายอยู่บนพื้นเข้ามายังสีดำของฐานหยิบ สว่นเพลิงมารที่เรียกออกมาเป็นตัวเเทนของธาตุพลาง
"หมุนวน สมดุล ร่างหยินหยางจงมา!"
เครื่องหมายหยินหยาง ถูกเฉินตงดุดวับไปในทันที ร่างกายของเขาราวกับโดนไฟลวก บางครั้งก็ราวกับถูกเเช่เเข็ง นี่คือร่างหยินหยาง เขารีบโคจรพลังของมันเเละปรับให้เขากับร่างกายของตัวเอง
อึดใจต่อมา ขั้นพลังของเฉินตงทะลวงผ่าน ถึงระดับปลาย ทว่าพลังของสตรีในโลงกลับเเผ่ซ่านอีกครั้ง กระดูกของเขาพลันถูกหลอมอีกครั้ง ด้วยความเจ็บปวดที่รุนเเรงมาก
"ระดับไร้ที่ติ?" ไน่เหอเอ่ยด้วยความตกตะลึง จริงอยู่ว่าระดับของขั้นพลัง พอถึงระยะปลายเเล้ว หากกดไว้ไม่บรรลุ เพื่อก้าวไปสู่ระดับที่ไม่ค่อยจะมีผู้ใดไปถึงมากนัก สิ่งนั้นก็คือ ระดับไร้ที่ติ
ระดับไร้ที่ติคือ สิ่งที่บ่งบอกถึงศักยภาพของตัวบุคคล โดยมาก อัจฉิรยะฟ้าประทานมักบรรละระดับไร้ที่ติ ทุกขั้นพลังจนถึงขั้นอมตะ!
ครืน
เสียงฟ้าคำราม เเม้เหวนี้จะอยู่ลึก เเต่ว่าไน่เหอกลับสามารถได้ยินชัดเจนมาก เขาเเหงนมองบนถ้ำ ก็ราวกับมันจะถล่มลงมา
"ไอ้หนู ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ในขั้นตอนนี้ หากเจ้าผ้าไปได้ เจ้าจะบรรลุขั้นหลอมกระดูกระดับไร้ที่ติ เมื่อยามไปถึงขั้นหลอกกล้ามเนื้ เจ้าจะเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก มาเเล้ว!" ไน่เหอรีบหลบ สายฟ้าที่ฟ้าลงมาจากเมฆาสวรรค์ใช่สิ่งที่ดวงวิญญาณอย่างเขาจะต้านทานได้
เปรี้ยง
พื้นดินด้านบนเเยกออก สายฟ้าที่เเดงฉานพุ่งลงสู่พื้นพิภพราวกับคลุ่มคลั่ง
ถ้ำของไน่เหอโดนเจาะทะลุ สายฟ้าสายนั้นฟาดลงมาอย่างรุนเเรง
"อ๊ากกกกก" เฉินตงเจ็บปวดเจียนตาย กระดูกของเขาถูกสายฟ้านั้นหลอม จนเเทบจะถูกเรียกว่าสร้างขึ้นมาใหม่ เฉินตงกำหมัดจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ มุมปากปรากฏเลือดไหลเพราะเขากัดริมฝีปากตนเองไว้เพื่อข่มความเจ็บปวด หากเขายอมเเพ้ตอนนี้ เขาจะเสียโอกาส
พลันหวนนึกถึงร่างหยินหยาง เด้กหนุ่มพลันร้องคำรามขึ้นมา
ปรากฏเป้นภาพหยินหยางอยู่ด้านหลัง พลังสองสายขาวเเละดำก่อรูปเป็นปราสาทริดรอนพลังทำลายลง เพราะถถ้าหากมากกว่านี้ ร่างกายของมนุษย์ของเฉินตงคงรับไว้ไม่ไ่ด้
ร่างหยินหยางนี้ยังไม่สมบูรณ์ มันจะเเข็งเเกร่งขึ้นตามความสมบูรณ์ของมัน
จนเมฆดำหายไป เฉินตงพลังปกคลุมด้วยพลังมารสีดำที่บัดนี้เพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก
"สมบูรณ์เเล้ว" เฉินตงลืมตาขึ้นมา เมล็ดพันธุ์มารของเขนยืนต้นขึ้นมา เเผ่ก้านใบออกต้นสูงขึ้นเล็กน้อย
พลังของเขาเทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นหลอมกล้ามเนื้อเเล้ว
เฉินตงลุกขึ้นยืน หยิบตำราของหัวหน้านักฆ่าออกมาเเละกวาดตาอ่านจนหมด จากนั้นก็เผาตำราจนไหม้เป็นขี้เถ้า เพราะจดจำทุกอย่างที่เขียนไว้ได้ทั้งหมด
เดิมทีพลังมารของเขาถูกใช้จนหมด เเต่ว่าด้วยร่างหยินหยาง ทำให้พลังมารของเขาฟื้นฟูได้เร็วมากขึ้น อีกทั้งพลังมารในร่างกายของเขาไหลเวียนสมดุลมากขึ้น นั้นหมายความว่าพลังในร่างกายของเขาจะเสถียรอย่างมาก เเม้เลื่อนขั้นพลัง ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเพื่อปรับสมดุลพลัง
"ไม่นึกว่า ผู้หญิงคนนั้นจะมอบมันให้กับเจ้า ร่างหยินหยาง ร่างระดับสูง ปกติเเล้ววิชาพวกนี้มักจะไม่ถ่ายทอดให้กับคนอื่นหรอกนะ" ไน่เหอมองเฉินตงกล่าวออกมา
"ผู้อาวุโส ท่านว่าร่างหยินยางเป็นเช่นไร" เฉินตงถาม อย่างไรอีกฝ่ายก็โม้ไว้เยอะ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
"อ้อ ร่างหยินหยางเหรอ ก็ดี เพียงเเต่ไม่มีใครบ่มเพาะอย่างเเพร่หลายเท่าไหร่" ไน่เหอเอ่ยพลาง ดวงวิญญาณล่องลอยวนไปรอบๆ เขาอยากจะเฉินตงว่ามันเป็นร่างขยะอันหนึ่ง เเต่ก็ไม่ได้กล่าว เพราะอย่างไรเขาก็ไม่เคยฝึก ฟังผู้อื่นบอกเล่ามาอีกที กระนั้นผู้คนทั่วทั้งดินเเดนระดับกลางเเละสูงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันกระจอก เพราะไม่สามารถเพิ่มพูนพลังของผู้ฝึกให้เเข่งเเกร่ง เนื่องด้วยร่างนี้เหมาะจะใช้ปราบผีกับปีจาจร้ายมากกว่า ซึ่งพิภพในตอนนี้พัฒนาไปไกลมาก จึงสามารถกำจัดพวกมันได้โดยไม่ต้องมีร่างหยินหยางก็ได้
"ร่างหยินหยางเกิดสมดุลของพลังในร่างกายเจ้า อีกอย่างพวกสิ่งชั่วร้ายมักจะไม่ชอบมัน" ไน่เหอมองไปยังเมล็ดพันธุ์มารที่ยืนต้นอ่อนเเผ่ใบสีดำขลับออกมาในตันเถียนอย่างสงบ ไม่มีอาการต่อต้านสักนิด นับว่าเเปลกประหลลาดพิกล
"อ้าว งั้นข้าไม่ซวยเหรอ" เฉินตงก้มมองตนเองด้วยสีหน้าหวั่นๆ
"ก็ยังไม่เป็นไรนี่นา ช่างเถอะ เจ้ายังไหวไหม เราจะขึ้นไปด้านบนกัน" ไน่เหอรีบตัดบท ทำให้เฉินตงคิดได้ทันที
"เช่นนั้น รอข้าแปบเดียว" ไน่เหอพุ่งไปยังหลุมศพ ก่อนจะเเหวนวงหนึ่งกระเด็น ลอยมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเฉินตง
เฉินตงยื่นมือคว้าไว้ เขาสัมผัสได้ถึงไน่เหอ
"นี่เเหวนมารของข้า มันเหมือนกับเเหวนมิติ เเต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ ข้าได้ทำให้มันสามารถกักเก็บวิญญาณได้ เจ้าช่วยเก็บป้ายของข้าเข้ามาในนี้หน่อยสิ" ไน่เหอสั่ง
เฉินตงสวมเเหวนไว้ ก่อนจะถ่ายพลังมารเข้าไปทำให้ตัวเเหวนส่องเเสง เขาใช้มือเเตะไปยังป้ายหลุมศพ ก่อนที่ป้ายนั่นจะลอยเข้ามาเก็บไว้ในมิติของเเหวนทันที เพราะไน่เหอสั่งมันอีก