Chereads / EMPEROR's PATH เส้นทางจักรพรรดิ / Chapter 2 - บทที่ 2 นรกดำ

Chapter 2 - บทที่ 2 นรกดำ

บทที่ 2

นรกดำ คือชื่อของป่าโบราณ ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมันได้อย่างทั่วถึงมาก่อน เพราะที่นั่นอันตรายอย่างมาก อสูรในส่วนลึกของนรกดำ ล้วนมีอายุถึงร้อยปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งอสูรอายุร้อยปีนั้น นับว่าเเข็งเเกร่งอย่างมาก มันทรงพลังมากกว่าผู้นำตระกูล บิดาผู้นั้นของเฉินตง

เดินมาหนึ่งชั่วยาม เฉินตงก็มาถึงชายป่า นรกดำก็สมกับชื่อของมัน เพียงทอดสายตามองเข้าไปด้านใน ล้วนมืดมิด ราวกับว่าที่นั่น มีเเต่กลางคืนไม่มีกลางวันเลย

เฉินตงกลืนน้ำลายอึก ทำใจกล้าเเละย่างสามขุมเข้าไปในนรกดำ

สถานที่ : นรกดำ

มืด มืดมาก

สิ่งเเรกที่เฉินตงพบ เขาก้มมองพื้นเเละเงยหน้าสำรวจรอบๆ อย่างระเเวดระวัง ขณะเดียวกันสอดสองหาสมุนไพรตามพื้นไปด้วย ด้วยเพราะน้องสาวป่วย เขาจึงศึกษาตำราสมุนไพรมาบ้าง ทว่าตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกสนุมไพรหรอก ตราบใดที่เจอ ต่อให้มันมีพิษเขาก็จะเก็บไปขาย!

เฉินตงยังคงเดินต่อไป เข้าลึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งดวงตามองเห็นบางอย่าง

มันคล้ายกับดอกกุหลาบ ทว่ากลับมีสีเหลืองทอง พร้อมกับปลดปล่อยบางอย่างคลา้ายกับสายฟ้าออกมาที่ดอกของมัน

เฉินตงสำรวจรอบๆ ตั้งบนต้นไม้ พุ่มไม้ กระทั่งบนพื้น เมื่อไม่เห็นว่ามีสิ่งใดอยู่ ก็เคลื่อนตัวเข้าหาอย่างเชื่องช้าเเละใช้พร่าในมือตัดเข้าที่ลำต้นเล้กๆของกุหลาบสายฟ้า ที่เขาพึ่งจะตั้งชื่อให้กับมัน

ทว่าเพียงเเละคมมีดสัมผัสกับตัวลพต้น เฉินตงพลันถูกกระเเสไฟฟ้าดูดเข้าให้ เเต่เอาใช้เเรงค่อนข้างมาก ก่อนที่มีดพร้าจะกระเด็นหลุดจากมือ กุหลาบดอกนั้นก็ถูกตัดจนขาดร่วงกับพื้น

เฉินตงก้มมองมือที่สั่นเราะโดนซ็อตพลางใช้มืออีกข้างหยิกเเละตีบที่เเขนขวาที่ชาจนเเทบไร้ความรู้สึก ดอกกุหลายายฟ้าไม่ได้สีสดเช่นก่อนหน้า สายฟ้าที่มันปล่อยออกมาเองก็หายไปเช่นกัน คาดว่าสรรพคุณคงลดทอนไปมาก เเต่เฉินตงไม่ได้สนใจ เขามั่นใจว่าต่อให้ดอกมันเเห้งก็คงขายได้ สิ่งที่อันตรายมักจะมีค่า โดยเฉพาะสมุนไพร

เด้กหนุ่มนั่งพักครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบเอามีดพร้า เเละเก็บกุหลายสายฟ้าเข้าไปยังตะกร้าสาน เเล้วเดินทางต่อ

จนพบเจอเข้ากับลำธารสายหนึ่ง เฉินตงเเดิมคิดกินน้ำในลำธาร ทว่านึกในใจ ที่นี่ป่าทมิฬ ไฉนเลยน้ำในนี้กินได้โดยไร้พิษภัย จึงหยิกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำที่เตรียมขึ้นกระดกเเทน จากนั้นเดินเรียบลำธารไปทางตะวัน เพราะเขาไม่กล้าข้ามลำธารสายนี้ไป เเม้มันจะใสสะอาด เเต่เพียงเเค่มองลงไปด้วยตาเปล่า กลับเป็นเงาร่างของบางอย่างที่ไม่ชัดเจนอยู่ในน้ำ เฉินตงไเป็นคนธรรมดา เขาไม่เอาตัวไม่เสี่ยงเเน่นอน

ดอกกุหลาบสายฟ้า ปรากฏตามรายทาง เฉินตงตัดพวกมันด้วยการโยนมีดใส่เเทน เดินมาครึ่งชั่วยามก้ได้มาห้าต้น เฉินตงดีใจมาก เงินที่ได้คงไม่น้อยทีเดียว

"โฮกกกก"

จู่ๆ บังเกิดเสียงคำรามขึ้น เฉินตงหันขวับไปมา ก่อนจะรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้อย่างทุลักทุเล เขาปีนขึ้นไปจนถึงพุ่มใบไม้ที่ใช้บดบังร่างกาย เเละจ้องมองไปยังทิศทางที่คาดว่าเป็นต้นเสียง

ร่างหนึ่งทะยานออกมา พลังบางอย่างพวยพุ่ง กระบี่ในมือทิ่มเเทงออกไปไม่หยุด จนบังเกดิเงาพร่าเรือนร่างนับร้อยโถมเข้าใส่ร่างของอสูรตนหนึ่ง

"หมาป่าอัคคี!" เฉินตงอุทานขึ้นอย่างตกใจ

ร่างของหมาป่าตัวสูงราวหนึ่งเมตร ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดเเผล มันกู่ร้องคำราม ทั่วร่างมีเปลวพเลิงปะทุลุกไหม้ไม่หยดหย่อน จนกระทั่งกระบี่เเทงเข้าที่ลำตัว เปลวเพลิงบนหลังของมันก็มอดดับลง

หมาป่าอัคคีสิ้นชีพในทันที

ร่างของสตรีนางหนึ่ง ดูจากส่วนสูง น่าจะอายุราว 20กว่าปี นางสวมอาภรณ์สีครามสดใส ในมือถือกระบี่เหล้กไว้ พลางสลัดไปมาเพื่อไล่เลือดที่เปื้อนตัวกระบี่ออกเเละเก็บคืนฝัก

หญิงสาวมีผ้าปกปิดที่ครึ่งหน้า เห็นเพียงดวงตาสีม่วงกวาดมองรอบๆ ผมสีดำยาวสลัวจรดสะโพก บั้นท้านงามงอนเเละทรวงอกอวบอิ่มล้วนอัดเเน่นภายในอาภรณ์ที่สวมใส่ สตรีผู้นี้นับว่างดงามไม่หยอก ในบรรดาหญิงสาวที่เขาเจอว่า นับว่านางอยู่อันดับหนึ่ง!

หญิงสาวสำรวจรอบๆ สักพัก ก่อนจะนำหินสี่ก้อนวางไว้สี่ทิศ ม่านพลังบางอย่างปรากฏขึ้น

เฉินตงพึมพำออก "ค่ายกล"

ค่ายกล คือ หนึ่งในศาสตร์เเขนงหนึ่งเฉกเช่นผู้ปรุงโอสถหรือเเพทย์ เฉินตงไม่รู้หรอกว่าพวกนี้เป็นยังไง เพียงฟังผู้อื่นมาอีกทีเท่านั้น เเต่ว่าผู้ที่ใช้ค่ายกลได้ ย่อมมิใช่ธรรมดาสามัญ เฉินตงนิ่งงันไม่ขยับเขยื้อน เพราะกลัวอีกฝ่ายจะรู้ตัว

คำนวณเวลาดู น่าจะค่ำ เฉินตงมองขึ้นด้านบน ยังคงมืดดั่งเดิม เบื้องล่างสตรีนางนั้น สลายค่ายกลทิ้ง พลางชักระบี่ฟาดฟันใส่ลำธารด้านหลัง

โฮกกก

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ก่อนที่ร่างของปลาตัวใหญ่จะถูกลากขึ้นมาบนน้ำ ด้วยพลังชี่ของหญิงสาว

ไม่ช้าเฉินตงต้องตกใจ เพราะจู่ผู้หยิงคนนี้ก็เเก้ผ้า ลงไปชำชะล้างร่างกายในลำธารเฉยเลย เฉินตงรีบเอามืออุดปากไว้ พลางมองร่างที่เเหวกว่ายในลำธารด้วยความตกตะลึง

เอาจริง เฉินตงมองเห็นเเค่เเผ่นหลังกับก้นงอนงามขาวอวบใหญ่ นอกนั้นก็ผิวขาวผ่องราวกับหยก สัดส่วนที่อวบล้นออกมาด้านข้างเพียงงพอให้บุรุษเพศได้จินตนาการเตลิดเปิดเปิง เฉินตงให้นิยามไว้ สี่คำ เซ็กซี่ ยั่วยวน

หน้าเสียดายที่ไม่ได้เห้็นใบหน้า หากเห็นเฉินตงคงได้ตายตาหลับไปเเล้ว

ฟ่อ

ฉับพลันนั้นงูเขียวตัวหน่ึงเลื่อยมาตรงหน้าเฉินตงเเทบกรีดร้องอกมา เเต่เอามืออุกปากตนเองไว้ เขาพยายามเคลื่อนกายไปยังกิ่งไม้อื่น ทว่าเจ้างูเขียวตัวนี้กลับเลื่อยพันกิ่งไม้ตามเขามาระยะกระชันชิด

ขนาดตัวของงูนี่ เท่าต้นขาของผู้ใหญ่ ตัวมันใหญ่มาก เเละยาวร่วมสองเตร หากมันเข้าประชิดเขาได้ เขารัดพันกัดฉีดพิาเข้าร่างเป็นเเน่

'ทำไมข้าถึงซยเช่นนี้' เฉินตงสบถในใจ ก่อนจะฝืนกายลุกขึ้นยืน

งูเขียวพุ่งฉกมาทันทีที่เห็นเขาเคลื่อนไหว เฉินตงใช้สองมือจับกิ่งไม้เหนือหัวไว้ ก่อนจะม้วนหลังโยนตัวเองขึ้นไปบนกิ่งไว้ด้านบน

ทำให้งูกฉกเข้าที่อากาศ มันส่งเสียงฟ่อๆ ออกมาอย่างเดือดดาล พลันขดตัวเป็นสปริงเเละพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เฉินตงกระโจนหลบไปอีกทาง ทว่ากิ่งที่เขาเหียบดันเป้นกอ่งไม้เเห้ง เพียงเเค่เท้าที่สวมรองเท้าฟางกดลงไป ก็หัก ส่งร่างของเขาร่วงหล่นลงพื้นทันที

ตุบ

เเผ่นหลังกระเเทกพื้นเต็มๆ เฉินตงจุกจนไม่อาจร้องว่าเจ็บออกมาได้เลย

ทางด้านลำธารสายนัั้น หญิงสาวพลันเหาะเหินขึ้นด้านบน พลังชี่หอบเอาอาภรณ์เข้ามาสวม ทว่าด้วยเรือนร่างที่เปียกอยุ่ ทำให้อาภรณ์ที่สวมใส่นั้นเปียกไปด้วย เนื้อผ้าเเนบเข้าที่ผิวกายทำให้เผยสัดส่วนบนร่างกายออกมาอย่างเย้ายวนมากยิ่งขึ้น

"เจ้าโรคจิต!" เสียงหวานดังมา พร้อมกับจิตสังหาร

เฉินตงหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ทว่าเมื่อมองขึ้นบน กลับพบว่าเจ้างูเขียวนั้นขดตัวพุ่งลงมายังจุดที่เขานอนอยู่

"เวร!" เฉินตงสบถเเล้วฝืนกายกลิ้งหลบ

ปัง

พื้นตรงที่เคยนอนเป็นรูทันที เฉินตงฝืนกายลุกอย่างยากลำบาก พลางโยกหลบหางของงูเขียวที่ฟาดเข้ามา ทว่าไม่พ้น ร่างของเขากระเด็นไปทางหญิงสาวผู้นั้นทันที

"ตาย!" หญิงสาวพอเห็นงูเขียวจ้องมา นางพลันชักกระบี่ฟาดฟันออกไป บังเกิดคลื่นพลังคมกริบเเหวกฝ่าห้วงอากาศ ผ่าร่างนั้นเป็นท่อนๆเลือดไหลนองไปทั่วพื้น

จากนั้นปลายกระบี่ก็จ่อมายังคอหอยของเฉินตง

"เเม่นาง ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจถ้ำมองเจ้า" เฉินตงรีบเเก้ต่าง

"คิดว่าข้าจะเชื่อรึ!" หญิงสาวขบฟันเสียงดังร้องออกมา

"ข้า ข้าอยู่บนโน้นมาก่อนเจ้าเสียอีก อีกอย่างข้าเห็นเเค่เเผ่นหลังขาวเนียนเเละก้นงอนงามของเจ้าเท่านั้น ด้านหน้าไม่เห็นเลยนะ" เฉินตงสารภาพออกไปทันที นาทีนี้เขาพูดออกไปหมดเปลือก เพราะไม่งั้นเขาคงโดนฆ่า

"เจ้า ไอ้บ้า!" หยิงสาวหน้าเเดงก่ำภายในผ้าปิด ตั้งเเต่เกดิมานางไม่เคยให้ใครดุูร่างกายตนเองตอนเปลือยเปล่าเลยเเม่เเต่บิดามารดา เเต่คนผู้นี้กลับ

กระบี่ถูกเงื้อขึ้นสูง ใจของเฉินตงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เขาอุทานในใจ

'จบสิ้นเเล้ว'

พริบตานั้นเอง เฉินตงมองเห็นร่างหนึ่งปราดเข้ามา เขาพุ่งสุดตัวกอดร่างอีกฝ่ายไว้ เเละกระเด็นออกไปพร้อมกัน

ปัง

จุดที่พวกเขาสองคนอยู่ถุกฟาดบนเกิดหลุมขนาดใหญ่ เงาร่างมีเขียวขนาดใหญ่กว่าห้าเมตรพลันปรากฏ

"เจ้าบ้า ลุกออกไปจากตัวข้าซะ" ว่าเเล้วก็ตบเข้าที่ใบหน้าของเฉินต ที่นอนทับนางอยู่ในสภาพที่ไม่งามากนัก

"เจ้าทำบ้านอะไร ข้าพึ่งช่วยเจ้านะ" เฉินตงร้องขึ้น มือลูบเเก้มด้านซ้ายของตนเองที่ปรากฏรอยฝ่ามือเเดง มืออีกข้างชี้ไปยังร่างใหญ่ยักษ์

"อสรพิษมรกต" หญิงสาวกล่าว ก่อนจะผลักร่างของเฉินตงออกไปทันที

อสรพิษมรกต เหล้กของมันมีสีเดียวกับมรกต ทำให้มันได้ชื่อนี้

มันพุ่งเข้าฉากทันที หญิงสาวยกระบี่ขึ้นต้านรับทันที

ปัง

เกิดเสียงกระเเทกหนักๆ ขึ้น สองเท้ายุบลงไปทว่าร่างกายของหญิงสาวนางนี้กลับไม่ขยับเขยื้อยเเม้หนึ่งนิ้ว นางเค้นพลังชี่ออกมาทันที มันหมุนวนรอบๆตัวราวกับพายุหมุน ก่อนจะลงพลังชี่นี้ไปยังกระบี่

"บุพปาสังหาร!"

กระบี่เเทงออกไปสายสิบครั้ง พลังชี่ก่อรูปร่างเป็นดอกไม้งดงามตระการตานับร้อยพัดพาเข้าหาร่างของงูยักษ์

เพียงอึดใจเดียว ร่างของงูยักษ์ก็ถูกสับเป็นหมื่นชิ้นทันที

เฉินตงอุทานในใจ 'ผู้หญิงคนนี้ เเข็งเเกร่งสุดยอด'

"ครานี้ ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า เพราะเห็นเเก่ที่ช่วยข้าก่อนหน้านี้ หากพบเจอครั้งหน้า เจ้าตายเเน่ พยายามอย่าให้ข้าเห็นเจ้าก็เเล้วกัน!" ว่าเเล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที

เฉินตงนิ่งงันไปพักหนึ่ง ก่อนจะได้สติ มองไปยังร่างของงูใหญ่ที่บัดนี้โดนสับซะไม่เหลือเค้าเดิม ทว่ามีอย่างหนึ่งที่เขามั่นใจ เจ้าตัวนี้มีลูกปัดตบะของมันเเน่นอน เขารอครู่ใหญ่ เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มา จึงใช้มีดพร้าฟันไปมาเพื่อหาลูกปัดตบะของอสรพิษมรกต ก่อนจะค้นหาลูกปัดตบะ ซึ่งก็เจอจริงๆ เเถมสีของมันยังเป็นสีแดงอีกด้วย

"สตรีผู้นั้นสังหารมันได้ในกระบวนท่าเดียว นี่นางต้องเเข็งเเกร่งขนาดไหนกัน" เฉินตงอุทานขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย เเละเร่งเดินทางออกจากป่าทันที เพราะซากศพของอสรพิษมรกตคงจะล่ออสูรตนอื่นมามากมายเป็นเเน่ นี่นับว่าโชคดีของเฉินตง พวกมันคงออกันเเทะกินซากศพ โดยไม่ได้สนใจมนุษย์ธรรมดาอย่างเขา