บทที่ 3
เฉินตงออกมาจากป่ามนรก ก็เกือบเช้า ดันเจออสสูรฝูงหนึ่งนับพันตัววิ่งฝ่าไปยัง ซากร่างของอสรพิษมรกต ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปมาก กว่าจะได้ออกจากป่า
นรกดำอันตรายจริงๆ หากไม่ได้หญิงสาวนางั้นช่วยไว้ เขาคงจบชีวิตเพราะโดนอสรพิษตัวใหญ่เขมือบ
เฉินตงเข้าเมืองเเละหลบเลี่ยงไปยังจวนตระกูลเฉินผ่านประตูหลัง เฉินหยูยังคงนอนหลับสนิทไม่มีใครมาก่อกวน เขาจึงนำสมุนไพรที่ได้มา ไปเก็บไว้ยังห้องครัว เเละล้วงลูกปัดเม็ดหนึ่งออกมา สีของมันมีสีเเดง หากขายมันเขาได้เงินไม่ต่ำกว่าพันตำลึงเเน่นอน ทว่ายังก่อน เเค่สมุนไพรก็คงพอ เขารื้นเเผ่นไม้ตรงพื้นห้องครัวออก เเละขุดลึกลงไปสิบกว่านิ้ว จากนั้นนำลูกปัดห่อผ้าขี้ริ้วไว้โยนลงหลุมเเละกลบจนเเน่นค่อยน้ำพื้นไม้ติดเข้าดังเดิม
สมุนไพรที่เก็บมา ถูกวางเรียงไว้ จำนวนเจ็ดต้น นี่นับว่าเยอะเเล้ว จากนั้นก็ห่อพวกมันด้วยผ้าผืนหนึ่งเเละนำไปมัด คาดกับลำตัว
เฉินตงมุ่งหน้าออกนอกจวน จุดหมายของเขาคือ หอโอสถที่ตั้งในเมืองล่องนภา อันเป็นสาขาของนิกายโอสถที่มีอยู่เเทลบทุกเมือง ทเเม้จะเช้า ทว่าคนกลับเยอะมาก เฉินตงใช้ร่างกายที่เล็กของเขา เเทรกตัวฝ่าฝูงชนเข้าไปด้านใน จนหลุดพ้นมาด้านหน้าได้สำเร็จ
ด้านหน้าเป็นชายในชุดอาภรณ์สีครามที่ดูคุ้นตาสองคน ยืนจังก้าเฝ้าโถงทางเดินเข้าไปหอไว้ เฉินตงรีบยกมือคาราวะอีกฝ่ายทันที เอ่ยจุดประสงค์ที่มาในครานี้
"ท่านจอมยุทธ์ ข้ามาขายสมุนไพรขอรับ"
อีกฝ่ายไม่เปลี่ยนสีหน้ เเละเอ่ยเสียงเรียบ
"เอามาให้พวกข้าดู"
เฉินตงเเก้หอผ้าเเละหยิบมาต้นหนึ่ง อีกฝ่ายรับมันไป ก่อนจะคิ้วขมวดขึ้น กระซิบข้างหูผู้เฝ้ายามอีกคน ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับสมุนไพรของเฉินตง
ไม่นานนักชายชราคนหนึ่งก้าวเดินมา
"เจ้าคือผู้ที่นำ กุหลาบอสนีมา?" ชายชราลูบเคราถามตนเองเเละถาม
"ใช่ ขอรับ" เฉินตงรีบตอบ
ชายชราเชิยเฉินตงเข้าไปด้านในทันที
ภายในห้อง มีเขากับชายชราสองคนภายในห้อง เฉินตงเเก้ห่อผ้าเเละคลี่วางไว้บนโต๊ะหินอ่อน เผยให้เห็นกุหลาบอสนีอีกหกต้น
ดวงตาชายชราลุกวาวเเวบหนึ่ง โดยที่เฉินตงไม่ได้สักนิด เขาลูเคราเเพะของตนเองอย่างเชื่องช้าง ใบหน้าเเสร้งทำเป็นยิ้มเเววตาใจดีประหนึ่งญาติผู้ใหญ่
"กุหลาบอสนีพวกนี้ ล้วนเสียความสดไปเเ้ว ทว่าทางเรายินดีรับซื้อไว้ ราคาต้นละ 5 ตำลึงเป็นอย่างไรพ่อหนุ่ม" ชายชรากล่าว
เฉินเเสดงสีหน้าสีหน้าดีใจออกมา ก่อนจะหรี่ตาลง 'ไม่น่าใช่ราคานี้' เชาเองก็ศึกษาสมุนไพรมาหลายตัว สำหรับสมุนไพรที่ปลดปล่อยพลังธาตุออกมาเช่นน้ อย่างต่ำก็ร้อยตำลึงเเน่นอน
"ผู้อาวุโส ท่านมั่นใจเหรอ ว่าราคาของกุหลายอสนี เเค่ 5 ตำลึง" เฉินตงกล่าวเสียงเรียบ ทว่ากลับทำให้ชายชราผงะ เเละเปลี่ยนท่าที
"เจ้าหนุ่มหมายความว่าอย่างไร นิกายโอสถของเราล้วนมีชื่อเสียงกระฉ่อนทั่วดินเเดนนี้ เจ้าคิดว่าชายเเก่ๆ คนี้จะโกงเจ้ารึอย่างไร" ชายชรากล่าวออกมา พลางมองไปยังเฉินตงที่จ้องมองมายังเขาเช่นกัน
"ผู้อาวุโสล่อเล่นเเล้ว ทว่าชื่อเสียงก็ส่วนชื่อเสียง ราคาขอกุหลายอสนี สมควรอยางต่ำก็ร้อยตำลึง" เฉินตงหรี่ตาเอ่ย ขณะเดียวกันบรรยากาศในห้องพลันนิ่งงันไป
"เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร" ทันใดนั้นเเรงกดดันทหาศาลก็กดทับที่ร่างของเฉินตง เขาทรุดกายลงคุกเข่าโดยมิอาจต้านทานได้เลย
เฉินตงนึกเสียใจที่กระทำเเบบนั้นออก เขาควรเเกล้งโง่มากกว่าทักท่วงเรื่องพวกนี้ อย่างไรอตนเองก็เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น
"เฉินตง บุตรชายคนโตของตระกูลเฉิน 'ขยะ' ที่ผู้คนในเมืองต่างพูดถึง เป็นเพียงคนสามัญ คิดกล้าต่อล้อต่อเถียงกับผู้ฝึกตน ช่างไม่กลัวตาย เจ้าคิดว่าผู้นำตระกูลเฉินจะช่วยออกหน้าเเทนเจ้าได้รึ หากข้าสังหารเจ้าลงที่นี่"
พลังชี่ปกคลุมทั่วร่างของชายชรา ผมสีขาวเเละเคราเเละสะบัดไปมาเเม้ไม่มีลมสักนิด ดวงตาเปี่ยมด้วยอำนาจเพ่งมองมายังเฉินตง เขาราวกับมดตัวหนึ่งที่กำลังถุกจ้องมองโดยพยัคฆ์ตัวใหญ่ ไมีอาจขยับเขยื้อน เเม้เเต่หายใจยังทำมิได้
"เจ้ารู้ที่ของเจ้าดี เก็นเงินนี่ไปซะ นิกายโอสถหาใช่สถานที่ที่จ้าจะสงสัยได้" ชายชราเอ่ยพร้อมโยนถุงเงินมาให้จำนวนหนึ่ง เขาคลายเเรงกดดันออก ทำให้เฉินตงหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ มือเท้าสั่นไปหมด
"ออกไป"
เฉินตงออกด้านหลังหอโอสถพลางกำหมัด เขามองไปยังหอโอสถด้วยเเววตาที่รังเกียจ ก่อนจะเดินจากไป
ผู้อ่อนเเอมักโดนกระทำเช่นนี้ นี่คือสิ่งเกิดขึ้นบ่อย
มาถึงเรือน เฉินหยูก็ตื่นขึ้น นางเดินเตาะเเเตะไปทั่วบ้าน ก่อนจะนอนขดตัวอยู่บนฟูกเก่าๆ ที่ห้องนั่งเล่นด้วยความเหนื่อย เฉินตงกลับถึงบ้านก็นั่งนับเงินอยู่นอกเรือน
"50 ตำลึง" นี่คือจำนวนเงินที่เยอะสุดเท่าที่เขาเคยจับต้องมา ดังนั้นจึงตื่นเต้นไม่น้อย ทว่าเมื่อคิดถึงชายชราของหอโอสถ กหลาบอสนี สมควรมีราคามากกว่าเงินตำลึงในถุงนี้ เฉินตงนึกไปส่ายหัว จากนั้นเเบ่งเงินเป็นส่วนๆ
"เสี่ยวหยู พี่พาไปสำนักแพทย์" เฉินตงกล่าวเเบะอุ้มร่างที่เล้กลงของน้องสาว ก่อนจะเดินออกไปทางด้านหลังจวน
อีกด้านหนึ่ง ข้างรับใช้ที่ถูกให้มาเฝ้าด้านหลังจวนเข้ารายงายต่อเฉินจง
"ไอ้ขยะเฉินตงกับน้องสาวของมันกำลังไปที่สำนักเเพทย์รึ สั่งให้คนของเราตามมันไป จะทำยังไงก็ได้อย่าให้มัน ไปถึงที่นั่นเด็ดขาด" เฉินจงสั่งการไปพลางโบกมือให้คนรับใช้ออกไป ไม่นานบุคคลหนึ่งพลันปรากฏตัวด้านหลัง
"นำข่าวไปบอกท่านเเม่ ให้ใช้เส้นสายในสำนักเพทย์ ไล่พี่น้องขยะคู่นั้นขากสำนักเเพทย์เสีย"
จากนั้นคนคนนั้นก็หายวับไป เฉินจงเหยียดยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
"เฉินตง เจ้าอาจคิดว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี เเต่ว่าเจ้าคิดผิด มารดาของข้าคือศิษยืผู้อาวุโสสำนักเเพทย์ ดังนั้นเจ้าไม่มีทางได้รักษาน้องสาวเจ้าหรอก" เฉินจงกล่าวด้วยรอยยิ้ม