ในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อจูลลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากที่เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว เธอเหลือบไปมองนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ตอนนี้เวลาก็เกือบ 11 โมงแล้ว ซึ่งเป็นเวลาปกติที่เธอมักตื่นเวลานี้หากเธอนอนดึกเพราะทำงานหรือไปปาร์ตี้ เพื่อนที่สนิทจะรู้เวลาตื่นของเธอดี . . . แต่ตอนนี้ในห้องยังคงมืดไม่ต่างจากเมื่อคืนมากนัก เพราะหน้าต่างทุกบานถูกปิดไว้ด้วยม่านทึบแสงอย่างดี ซ้อนบนม่านกรองแสงอีกหนึ่งชั้น
จูลยังคงทิ้งตัวนอนอยู่บนเตียงอยู่แบบนั้นแทบไม่ได้ขยับตัวใดๆ อวัยวะเดียวที่เคลื่อนไหวมีเพียงเปลือกตาที่กระพริบเท่านั้น เธอยังคงมองเหม่อไปที่เพดานเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ แววตาเธอเริ่มดูเศร้าลงเรื่อยๆ เหมือนว่าสิ่งที่เธอเก็บไว้มันค่อยๆเอ่อล้นออกมา ในขณะนั้นน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าก็ค่อยๆไหลออกมาช้าๆ เครื่องสำอางบนใบหน้าที่ยังไม่ได้ล้างออกตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้มันเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตาไปหมด
. . .
หลังเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เธอค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปล้างหน้า ล้างคราบน้ำตาออก ในห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนนี้ เสียงดังของน้ำที่ไหลจากก๊อกที่เปิดจนสุด กระทบกับซิงค์เซรามิคสีดำทรงโมเดิร์นรูปไข่ เป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องตอนนี้ จูลค่อยๆเอามือรองน้ำลูบหน้าตนเองช้าๆซ้ำๆอยู่แบบนั้นเป็นเวลาหลายนาที เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา จนเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ระหว่างนั้น ทำให้จังหวะการลูบหน้าเปลี่ยนไปเป็นแรงขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเธอกำลังโกรธอะไรบางอย่าง . . . ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของเธอก็ยังคงมีสายเข้าและข้อความจากแอปเข้ามาสลับอยู่เรื่อยๆ ถึงตอนนี้ก็ร่วมร้อยสายแล้วที่ไม่ได้รับ
จูลเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมแบบหลวมๆ ที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในใดๆภายใน เหมือนเตรียมพร้อมที่จะอาบน้ำ ใบหน้าที่ผ่านการล้างมาทำให้เธอดูสดใสขึ้นมาบ้างเทียบกับใบหน้าก่อนหน้านี้ของเธอ จูลหยิบรีโมทขึ้นมากด ม่านไฟฟ้าค่อยๆเปิดออก แสงแดดภายนอกค่อยๆส่องเข้ามา จนในห้องเริ่มสว่างขึ้นอย่างถนัดตา จากห้องที่มืดมนที่เห็นอะไรไม่ชัดเจนก่อนหน้านี้ ตอนนี้แสงสว่างทำให้เราได้เห็นห้องนอนของเธอในอีกมุม โดยเฉพาะชั้นเก็บของที่ไม่มีไฟส่องไปถึงตอนที่ห้องอยู่ในความมืดก่อนหน้านี้ ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏขึ้นมันเต็มไปด้วยสิ่งของแห่งความทรงจำมากมาย และภาพถ่ายในกรอปรูป แต่มันนอกโฟกัสและเล็กไปกว่าจะเห็นใบหน้าใดๆในรูปแต่ละใบได้ชัดเจน
. . .
เธอเดินไปเกือบชิดหน้าต่าง กระจกบานใหญ่ที่สูงตั้งแต่พื้นจนเกือบสุดเพดานความสูงเกือบสามเมตร มันเป็นมุมที่สวยและแอบหวาดเสียวไปพร้อมกันหากคุณเป็นคนที่กลัวความสูง เพราะมุมนี้ถัดจากหน้าต่างออกไปไม่มีระเบียงหรือขอบตึกใด เป็นเพียงพื้นด้านล่างที่ต่ำลงไปกว่า 100 เมตร . . . แต่วิวที่อยู่ตรงหน้านี้ สามารถมองออกไปไกลได้หลายสิบกิโลเมตร จากความสูงของชั้นนี้ เป็นวิวโค้งแม่น้ำที่สวยทีเดียว และเหมือนเป็นทิศที่ดี ที่ไม่มีตึกสูงอื่นๆมาบดบังวิวดีๆแบบนี้
จูลเดินออกจากห้องนอนมาที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านนอกเพื่อชงชาร้อน กลิ่นสมุนไพรในชาชนิดนี้มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเครียดและยังหยุดคิดไม่ได้ถึงเรื่องราวต่างๆที่ประดังเข้ามา สังเกตได้จากสีหน้าที่ยังคงครุ่นคิดและมีร่องรอยความเครียดอยู่ตลอดเวลา . . . หลังจากเธอได้จิบชาและสูดกลิ่นหอมของชาที่ผ่อนคลายนี้ จูลนั่งหลับตาทำสมาธิสั้นๆ บนโซฟาสีเทาเข้มที่อยู่ถัดมาจากเคาน์เตอร์ไม่ไกลนัก . . . เมื่อทุกอย่างเริ่มผ่อนคลายขึ้นและสงบลง เธอแวะหยอดอาหารให้ปลาการ์ตูนสีส้มขาวสลับดำ 2 ตัวที่อยู่ในตู้ปลาเล็กๆใกล้ๆโซฟา . . . จูลเดินถือแก้วชากลับเข้าไปในห้องนอน และตรงไปที่โทรศัพท์ที่วางชาร์ทอยู่บนแท่นไร้สาย เพราะตอนนี้เธอเริ่มตระหนักได้ว่า หากยังไม่รับสายต่อไปอีก คงจะมีเสียงคนมาเคาะประตูที่ห้องแทน ซึ่งเธอยังไม่พร้อมที่จะรับแขก หรือพบเจอใครในตอนนี้
. . .
ในตอนนี้หน้าจอโทรศัพท์ของเธอขึ้นว่ามี 90 miss call และยังมี ข้อความจากแอปที่ค้างไว้ล่าสุดว่า "เป็นอะไรมากรึป่าวถึงไม่รับสาย ถ้าไม่ไหวยังไงชั้นบินกลับไปอยู่เป็นเพื่อนได้นะ" ซึ่งเป็นข้อความจากเมย์ เพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเมย์เองจะอยู่ที่ต่างจังหวัดในตอนนี้ และทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันบ่อยนักในช่วงที่ผ่านมา
จูลกดดู miss call และข้อความทั้งหมด ซึ่งกว่าครึ่งนึงเป็นของเมย์ ส่วนที่เหลือก็เป็นเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่สนิทมากนักและเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ และในช่วงเวลานั้นเมย์ก็ได้โทรเข้ามาอีกครั้งพอดี เธอจึงกดรับสายโดยกดเปิดเป็น speaker mode วางไว้บนแท่นชาร์ทเหมือนเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่เธอทำประจำเวลาอยู่ที่ห้องคนเดียว
เมย์ : " มึงงงง . . เป็นยังไงบ้างวะตอนนี้ กูเป็นห่วงนะ ได้ข่าวตั้งแต่เมื่อคืนมึงไม่รับสายกูเลย "
เสียงเมย์เป็นเสียงผู้หญิงที่ใหญ่แต่หวานทำให้รู้สึกได้ว่า รูปร่างของเธอน่าจะต้องเป็นผู้หญิงอวบหรือหุ่นพลัสไซร์อย่างแน่นอน
จูล : " อืม . . กูไม่เป็นอะไร แค่ไม่อยากคุยกับใครเมื่อคืน "
เมย์ : " เออ อยากให้กูบินกลับไปอยู่เป็นเพื่อนก่อนมั้ยมึง กูพอลางานได้อยู่สักอาทิตย์นึง "
จูล : " ไม่เป็นไรหรอก กูสบายดี อยู่ได้ "
เมย์ : " เออ ได้ฟังเสียงมึงละก็ค่อยยังชั่ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไปมึง อย่าคิดมาก และมึงได้นอนไปบ้างรึยังเนี่ย . . . "
เมย์ : " ว่าแต่ ล่าสุดข่าวมึงรู้ข่าวอะไรเพิ่มบ้างรึยัง "
จูล : " อืม นอนแล้ว ก็เพิ่งตื่นมาได้สักพักเอง . . . ยังเลย มีอะไรรึป่าว ตำรวจเค้าเจอร่างแล้วหรอ . . . กูก็รู้แค่ตามที่ตำรวจโทรมาบอกเมื่อคืน และดูข่าวที่ลงในเวบตั้งแต่เมื่อวาน . . . "
จูล : " วันนี้ยังไม่ได้ดูข่าวเพิ่มเลย "
เมย์ : " อืม ไม่ใช่ ยังไม่เจอนะ . . . โอเค อืมมม จะบอกมึงยังไงดีเนี่ย . . . "
จูล : " มีอะไรหรอ บอกมาเถอะ กูไม่เป็นไรหรอก "
เมย์ : " เอ่อ . . เรื่องคลิป มึงยังไม่รู้ใช่มั้ย "
จูลนิ่งเงียบไปชั่วครู่ . . . .
เมย์ : " โอเค งั้นมึงคงยังไม่รู้ ไม่เป็นไรหรอกอย่าคิดมาก เดี๋ยวคนก็ลืมสมัยนี้แล้วคลิปหลุดมีเป็นล้าน "
เมย์ : " จูล มึงยังฟังอยู่รึป่าว "
จูล : " อืมม . . . "
เมย์ : " งั้นเดี๋ยวกูเคลียร์งาน แล้วรีบบินกลับไปอยู่เป็นเพื่อนมึงนะ น่าจะดีกว่า . . . เสียงมึงชักไม่ค่อยดีละ ยังไงกูมีแพลนจะกลับเดือนหน้าอยู่แล้ว เลื่อนเร็วขึ้นนิดหน่อยคงไม่เป็นไร "
จูล : " เอ้ย . . กูไม่เป็นไร ขอบคุณมึงนะที่เป็นห่วง เดี๋ยวถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จ กูอาจจะไปพักต่างจังหวัดสักพัก มึงไม่ต้องมาหรอก "
เมย์ : " อืม ดีละๆ ไปพักสมองจะได้ไม่คิดมาก หาเวลาไปอยู่กับธรรมชาติสักพัก "
เมย์ : " เออ . . . มีสายซ้อนเข้ามาพอดี เดี๋ยวยังไงกูโทรไปใหม่นะ "
จูล : " อืมม . . . "
จูลวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แบบนั้น โดยไม่ได้กดวางเพราะคิดว่าเมย์คงจะกดวางไปเอง เธอเดินไปเติมชาที่นอกห้อง แต่ด้วยความที่เมย์รีบกดรับสายนิ้วจึงพลาดกดผิดไปโดนอีกปุ่มเลยกลายเป็นการประชุมสามสายแทนโดยที่ไม่รู้ตัว
เมย์ : " เออ ว่าไงวะ "
เพื่อนของเมย์ : " ข่าวนักร้องที่ฆ่าตัวตาย แฟนจูลใช่มั้ยวะ "
เสียงเพื่อนผู้หญิงเล็กๆแหลมๆ ชวนให้นึกถึงเพื่อนสมัยเรียนที่พูดมากๆและขี้เม้าส์เรื่องคนอื่นไปทั่ว
เมย์ : " อืมใช่ แต่กูก็เคยเจอแค่ครั้งสองครั้งเอง ก็ไม่ได้รู้จักอะไรมากหรอก "
เพื่อนของเมย์ : " แล้วที่กูได้ยินมาว่า นี่ไม่ใช่คนแรกมันจริงมั้ยวะ "
เมย์ : " มึงพูดเรื่องอะไร . . . แล้วมึงมีธุระอะไรวะโทรมาตอนนี้ "
เพื่อนของเมย์ : " เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก . . เออแล้วมึงได้ดูคลิปรึยังวะ "
เมย์ : " กูเห็นละ ก็ไม่เห็นมีอะไร คลิปหลุดมันก็ปกติแล้วป่ะวะสมัยนี้ มีให้เกลื่อน ดาราดังกว่าแฟนอีจูลก็มีหลุดเยอะแยะไป "
เพื่อนของเมย์ : " แต่อีจูลแม่งแซ่บเนอะ เมื่อก่อนเห็นเนิร์ดๆ บ้าอ่านแต่หนังสือ เขียนหนังสือบ้าบอของมัน ไม่คิดว่าจะแซ่บขนาดนี้ แถมดูสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย "
เมย์ : " มึงก็โอเวอร์ เพื่อนเพิ่งเสียแฟนเสือกโทรมาเม้าส์ "
เพื่อนของเมย์ : " ก็กูไม่ได้สนิทกับมันขนาดนั้น แฟนมันคนนี้กูยังไม่เคยเจอเลย รู้อีกทีตายห่าซะละ . . . "
เพื่อนของเมย์ : " แต่กูไม่ได้เว่อร์นะ แสดงว่ามึงยังเห็นไม่ครบละสิ นี่ล่าสุดมีหลุดมา 30-40 อันแล้วนะ ข่าวว่าคนที่อัพขึ้น ยังมีอีกเป็นร้อยที่กำลังจะตามมา "
เพล้ง ! เสียงแก้วแตก ดังลอดเข้ามาในสายสนทนา เมย์กับเพื่อนพูดขึ้นพร้อมกันว่า " เสียงอะไรอ่ะ "
เมย์ : " เชี้ย! ฉิบหายละ กูลืมกดวางสายจูล "
เพื่อนของเมย์ : " ตู้ด ๆ ๆ " (วางสายเรียบร้อย)
.
.
.
## Music Start (เพลง Unfriend)
. . . . " ขอโทษ ขอโทษที่ทำเธอเสียใจ ชั้นทำผิดไปแล้วจริงๆ ชั้นทำพลาดไป " . . . .
.
.
.
เมย์ : " จูลกูขอโทษ จูลๆ กูขอโทษ . . . "
ไม่ได้มีเสียงใดๆตอบกลับมาจากทางฝั่งจูล และอีกเพียงชั่วครู่ มีเพียงเสียงเหมือนเสียงเคาะประตูที่ดังเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์ ก่อนที่สัญญาณจะตัดไป
.
.
.
## Music End
. . . . " กลัวฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทิ้งฉันไป หัวใจ อยู่ไม่ไหวจริงจริง " . . . . ##