นาฬิกาแสดงเวลา 20.35 จูลที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ยังคงอยู่ในชุดชั้นในสีดำทั้งบราลูกไม้ และกางเกงชั้นในที่ดูเข้าชุดกัน เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้มีชุดแขวนอยู่ 5-6 ชุด ทั้งหมดยังคงอยู่ในถุงพลาสติคครอบไว้ เหมือนเพิ่งถูกส่งกลับมาจากร้านซักรีด เธอหยิบชุดเดรสสั้นสีดำ และสีฟ้าลายดอกไม้ออกมาทาบบนตัว พร้อมส่องกระจกบานใหญ่ที่ติดกับประตูตู้เสื้อผ้านั้น . . . ทั้งสองชุด ดูเป็นเดรสลำลองมากกว่าดูเป็นทางการ แต่ก็ดูดีพอที่จะใส่ไปเที่ยวผับหรือร้านอาหารหรูสบายๆได้ ซึ่งก็ดูจะเหมาะกับงานเลี้ยงเล็กๆคืนนี้
จูลเลือกใส่ชุดเดรสสีดำ เธอใช้เวลาตัดสินใจไม่นานนัก เพราะดูเข้ากับโทนการแต่งหน้าของเธอวันนี้ และเธอยังจินตนาการภาพในหัวเองว่า น่าจะเข้าคู่กับชุดของชายปริศนาที่เธอเห็นเขาใส่เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมาซึ่งเป็นสีดำเช่นกัน . . . ตอนนี้เวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว เธอจึงรีบลงลิฟท์ ผ่านลอบบี้ที่ตอนนี้มีเพียงพนักงานต้อนรับคนเดียว และเธอได้เดินออกจากโรงแรมไปอย่างรวดเร็ว . . . จูลเดินไปตามทางที่ชายปริศนาบอกไว้ ด้วยเวลาเกือบสามทุ่มนี้ ในพื้นที่ต่างจังหวัดถือว่าดึกพอสมควร บริเวณระแวกนั้นพอพ้นหน้าประตูโรงแรมออกมาถึงจะไม่มืดนัก ยังมีไฟส่องสว่างตามเสาสองข้างทาง แม้จะค่อนข้างห่างไปสักหน่อย แต่ก็ยังดีที่มีไฟจากรถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาและไฟจากบ้านข้างทางช่วย แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือบรรยากาศค่อนข้างเงียบทีเดียว ร้านค้าในระแวกนี้ก็ปิดจนหมด แทบไม่มีคนเดินสวนเลยตลอดเส้นทางสั้นๆที่เธอเดินผ่านไป . . .
เมื่อถึงปากซอยที่ 2 ที่ต้องเดินเข้าไป ด้วยขนาดซอยที่เล็กรถที่วิ่งสวนออกมาจากในซอยด้วยความเร็ว ทำให้เฉี่ยวจูลจนเสียหลักไปเล็กน้อย ยังดีที่เธอไม่ถึงกับล้มลง แต่ก็ทำให้ชุดเธอเลอะเล็กน้อยจากโคลนที่กระเด็นแถวนั้น จูลรู้สึกหงุดงิดไปบ้างเพราะปกติเรื่องเสื้อผ้าสำหรับเธอเป็นสิ่งที่ค่อนข้างซีเรียสทีเดียว . . . เธอเดินต่อตามทาง ในไม่ช้าเธอก็ได้มาถึงที่หมาย
. . .
บ้านเดี่ยวชั้นเดียวบนเนื้อที่กะด้วยสายตาคงเกือบหนึ่งไร่ ตัวบ้านที่ไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับพื้นที่ ทำให้เหลือเนื้อที่ที่เป็นสวนรอบตัวบ้านเยอะพอสมควรและยังมีทางเดินที่ผ่ากลางตัวบ้านทะลุไปยังสวนด้านหลังที่ติดแม่น้ำ ถึงตัวบ้านจะดูเก่าไม่น่าจะมีอายุต่ำกว่า 30-40 ปี แต่สำหรับดีไซน์โดยรวมแล้วมันดูดีทีเดียว เหมือนเป็นดีไซน์ที่มาก่อนกาลสำหรับสมัยนั้น ด้วยตัวบ้านที่ค่อนข้างเก่ามีรอยแตกร้าวบ้างของปูนและก็มีไม้เลี้อยเกาะอยู่บางส่วนของกำแพงบ้าน ทำให้ดูคลาสสิคสวยไปอีกแบบ . . . ตอนนี้ประตูรั้วที่ถูกเปิดทิ้งไว้ และไฟในบ้านที่เปิดไว้ค่อนข้างสว่าง รวมถึงดวงไฟที่เป็นสายพาดระหว่างต้นไม้ในสวนบริเวณหน้าบ้าน ทำให้เป็นบ้านหลังเดียวที่สว่างที่สุดแล้วในซอยตอนนี้
จูลค่อยๆเดินเข้าไปด้านใน มีเสียงเพลงเปิดอยู่เบาๆ ไม่อึกทึกมากนักเพราะรอบข้างก็ยังมีบ้านหลังอื่นๆ ถึงแม้จะมีเนื้อที่ว่างห่างกันพอสมควรในแต่ละหลังก็ตาม เธอเดินผ่านสวนหน้าบ้าน ที่ตอนนี้มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ที่มีแก้ววางอยู่หลายใบ บางใบก็ยังมีน้ำเหลืออยู่ และน้ำแข็งที่ดูเหมือนเพิ่งละลายไปไม่นาน . . . ถัดมาติดๆกัน มีเตา BBQ วางอยู่ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้งานมาสักพักแล้ว . . . ในตอนนี้นอกจากไฟที่เปิดสว่าง เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ และแก้วน้ำที่วางกระจายๆอยู่ แต่บรรยากาศอื่นๆดูไม่เหมือนงานเลี้ยงเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะตั้งแต่เธอเดินเข้ามายังไม่เจอใครเลยแม้แต่คนเดียว
. . .
จูลยืนสับสนไม่แน่ใจว่าตกลงมาถูกบ้านหรือไม่ เก้ๆกังๆอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าตัวบ้านอยู่ซักพัก และแวบนึงแอบคิดในใจว่าเอ๊ะหรือว่าจะมาผิดบ้าน เมื่อคิดดังนั้นเธอจึงค่อยๆถอยกำลังจะออกจากประตูรั้ว และพลางเอามือล้วงไปที่กระเป๋าถือใบเล็ก เพื่อจะหยิบโทรศัพท์ แล้วเธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบมาด้วย . . . แต่ในระหว่างช่วงเวลานั้น ชายปริศนาก็เดินออกมาจากตัวบ้านพอดี
จูล : " เฮ้อ(ถอนหายใจเล็กน้อย) . . . ตกใจหมดคิดว่าเดินมาผิดบ้านซะอีก "
ชายปริศนา : " ขอโทษด้วยครับ พอดีเมื่อกี้เข้าห้องน้ำไปแปปนึง ไม่คิดว่าจะมาถึงพอดี "
จูล : " แล้วคนอื่นๆ ไปไหนหมดคะ "
ชายปริศนา : " พอดีมีเรื่องฉุกเฉินนิดหน่อยครับ เลยเพิ่งออกไปโรงพยาบาลกันหมด "
จูล : " แล้วเธอไม่ต้องไปด้วยหรอ "
ชายปริศนา : " ก็ตอนแรกคิดว่าจะตามไป แต่เมื่อกี้เขาโทรมาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยมทีเดียวก็ได้ . . . "
ชายปริศนา : " อ่อใช่ . . พอดีตอนแรกเราโทรไปแต่เธอไม่ได้รับ ก็เลยอยู่รอกลัวว่าถ้ามาแล้วจะไม่เจอใคร "
จูล : " อ่อค่ะ . . . ขอโทษทีสงสัยเราคงปิดเสียง และลืมหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วย "
ในความคิดจูลตอนนี้ถึงแม้มันจะแปลกๆไปซักหน่อย ว่าตกลงมีเรื่องฉุกเฉินจริงๆ หรือเขาแค่จัดฉากเพื่อชวนเธอมาแค่เพื่อจะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่ไม่ว่าแบบไหนเธอเองก็ชอบเขาอยู่แล้วก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเสียหาย
ชายปริศนา : " งั้นเข้าไปนั่งข้างในก่อนมั้ย คงไม่มีใครกลับมาแล้วล่ะคืนนี้ "
จูล : " อืม ก็ได้ค่ะ "
. . .
ทั้งสองคนเดินเข้ามาในตัวบ้าน ห้องรับแขกซึ่งเป็นห้องแรกที่ถัดเข้ามาจากประตูทางเข้า พื้นที่ค่อนข้างกว้างแต่ห้องกลับดูโล่งๆ เฟอร์นิเจอร์ดูมีน้อยมากไม่สมดุลกับขนาดเท่าไหร่ โซฟาและเก้าอี้วางเกะกะเล็กน้อยเหมือนเพิ่งเสร็จจากงานปาร์ตี้ แต่ก็มีเก้าอี้และโต๊ะบางส่วนที่ถูกคลุมผ้ากันฝุ่นไว้ . . . ชายปริศนาเดินไปที่ลำโพงที่วางอยู่บนโต๊ะเดี้ยๆกลางห้อง เป็นลำโพงบลูทูธ Marshall ขนาดกลางสีครีมน้ำตาลทรงคลาสสิค เขาหรี่เสียงลงเล็กน้อย . . . ข้างๆยังมีขวดเหล้า น้ำเปล่า โซดา และยังมีกระติกน้ำแข็งใบใหญ่วางอยู่ข้างๆโต๊ะ ที่มีทั้งเบียร์และน้ำอัดลมแช่ในน้ำแข็งอยู่เยอะพอสมควร
ชายปริศนา : " เหลือเยอะเลย จะกินกันหมดมั้ยเนี่ยสองคน "
จูล : " แล้วเมื่อกี้อยู่กันกี่คนหรอ "
ชายปริศนา : " ก็ไม่เยอะนะ 4-5 คนได้ พี่เขาก็ชวนมาเฉพาะคนสนิทๆแหละ บางคนก็ไม่ว่างวันนี้ . . . อ้อลืมเล่าไป จริงๆวันนี้เป็นวันเกิดพี่ แล้วก็เหมือนเลี้ยงส่งที่เขาจะย้ายไปอยู่เมืองนอกด้วย . . . จริงๆแกไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ที่ย้ายไปก็เพื่อไปรักษาตัวนี่แหละ ครอบครัวเขาก็ย้ายไปอยู่ที่โน่นกันเกือบหมดแล้ว "
จูล : " ตกลงเป็นพี่หรอ เห็นเมื่อเช้าบอกว่าวันเกิดเพื่อน เลยคิดว่ารุ่นๆเดียวกัน "
ชายปริศนา : " อ่อ ใช่ๆ . . . เราอาจจะบอกสลับนิดนึง จริงๆเขาก็เป็นทั้ง พี่ เพื่อนและเป็นญาติ ลูกพี่ลูกน้องกันด้วยน่ะ ก็อายุห่างกันไม่มากหรอกปีเดียวเอง ก็โตมาด้วยกัน ปกติเราไม่ค่อยเรียกใครว่าพี่น่ะถ้าไม่ได้แบบแก่กว่ามากๆจริงๆ . . . บ้านหลังนี้เมื่อก่อนเราก็มาบ่อยๆ แทบทุกอาทิตย์ บางทีก็เหมือนมาอยู่ยาวๆเลยก็มี "
จูล : " อ่อ หลังนี้เป็นบ้านพี่เขาหรอ "
ชายปริศนา : " อืมใช่ . . . แต่นี่เขาก็ประกาศขายไปแล้วล่ะ น่าจะเพิ่งขายได้แล้วด้วยแต่เจ้าของใหม่น่าจะย้ายมาอีก 2-3 เดือน ตอนนี้ก็ทะยอยย้ายของออกอยู่ น่าเสียดาย ถ้ามีเงินจะขอซื้อต่อเขาเก็บไว้เองละ . . . ว่าแต่ดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวจะได้จัดการให้ "
จูล : " เบียร์ก็ได้ค่ะ เอาขวดที่เย็นๆหน่อยละกัน "
ชายปริศนาหยิบขวดจากกระติกน้ำแข็งพร้อมเปิดและยื่นให้จูล . . . ทั้งสองคนยังคงนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยและดื่มไปด้วยจนเวลาผ่านไปพักใหญ่
ชายปริศนา : " เราขอไปปิดไฟหน้าบ้านก่อนดีกว่า เริ่มดึกล่ะ . . . หรือว่าเธอจะกลับเลยรึป่าว "
จูล : " ยังเหลืออีกเยอะเลย ไว้ให้หมดก่อนค่อยกลับ " จูลซึ่งเริ่มเมานิดๆ จากน้ำเสียงตอนนี้
เขาเดินไปปิดสวิชที่หน้าบ้าน ปล่อยให้จูลนั่งดื่มอยู่คนเดียวชั่วครู่ จากระยะเวลาและปริมาณที่จูลดื่มเข้าไปดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มเมาพอสมควร . . . ชายปริศนาเดินเลยออกไปที่รถและหยิบของบางอย่างติดมือกลับมาด้วย
ชายปริศนา : " อ่ะ เราให้ "
เขายื่นรูปถ่ายที่เขาแอบถ่ายเธอไว้บนรถไฟ
ชายปริศนา : " เพิ่งอัดมาวันนี้พอดี แต่ไม่รู้ว่าจะชอบมั้ย "
จูล : " สวยดี . . . ชอบสิ สวยมากเลย แอบถ่ายไปตอนไหนเนี่ย . . . ขอบคุณนะ ต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว " เสียงจูลที่แสดงอาการเมาอย่างชัดเจน
ไม่ทันจบประโยคดี จูลผวาเขาไปหอมแก้ม ซึ่งชายปริศนายังไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วยความเมาของทั้งคู่ในตอนนี้ . . . ปากจากที่หอมแก้ม ก็ค่อยๆเลื่อนมาประกบปากและจูบกันอย่างดูดดื่ม . . .
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจูลเอง จะมีความต้องการมากกว่าด้วยจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ด้วยลีลาและความร้อนแรงอย่างมากที่แสดงออก เหมือนว่าเธออาจจะกินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปด้วย เธอเป็นฝ่ายปลดเสื้อผ้าของชายปริศนาออกจนเปลือยเปล่า แล้วเธอจึงบรรจงถอดชุดของตัวเองออกอย่างยั่วยวน . . . เสียงเพลงบรรเลงตอนนี้ก็สร้างจังหวะได้เข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี ทั้งสองคนไม่มีความอายใดๆแม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะเล่นบทรักกันในห้องรับแขก ที่มีหน้าต่างกระจกที่ไม่ได้มีม่านบังใดๆ แม้จะมีพื้นที่สวนรอบบ้านพอสมควร ที่มีต้นไม้และความมืดช่วยบดบังจากภายนอกอยู่บ้าง
จูลจูบพรมและเลียตั้งแต่ใบหู ซอกคอ หน้าอก มันค่อยๆเร่าร้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนเริ่มสลับกันรุกและรับไปตามจังหวะ
แม้ปกติเซ็กซ์ครั้งแรกของคนส่วนใหญ่มักจะเริ่มด้วยความนุ่มนวลและเขินอายกันบ้าง แต่กลับไม่ใช่สำหรับคู่นี้ ตอนนี้ หรืออาจเพราะด้วยฤทธิ์ความเมา บวกกับความชอบพอซึ่งกันและกันอย่างมาก ตอนนี้ทั้งห้องไม่ว่าจะเป็นบนโซฟา เก้าอี้ โต๊ะ หรือมุมใดๆในห้องรับแขกนี้ ได้ถูกทั้งสองคนใช้เป็นเวทีรัก เสียงความปรารถนา ความเสียว ความสุข เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆโดยทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด . . ' อ่า อ้า อ้าา ' . . .
.
.
.
## Music Start (เพลงหลอก)
. . . . " สุดท้ายแล้วเธอไม่โกหก แต่ลืมบอกกันว่าไม่รัก
ฉันโดนหลอก เธอบอกกันเธอใจร้าย " . . . .
.
.
.
หญิงสาวผมสั้น เดินผ่านประตูรั้วเข้ามาในบริเวณบ้านที่เกือบมืดสนิท มีเพียงแสงไฟที่ออกมาจากหน้าต่างในตัวบ้านเท่านั้น ด้วยความมืดทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของเธอและชุดมากนัก เธอค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างที่มีแสงสว่างออกมา พร้อมเสียงความเสียวซ่านที่เล็ดลอดออกมาพร้อมกัน . . . เธอค่อยๆย่อง แนบตัวไปกับกำแพงและแอบมองเข้าไปผ่านหน้าต่างบานนั้น โดยที่คนข้างในไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนแอบมองอยู่
เธอนั่งลงเข่าทรุดพิงกับกำแพงบ้าน เสียงความเสียวซ่านของความปรารถนานั้นก็ยังดังเล็ดรอดออกมาไม่หยุด ถึงแม้ความมืดจะไม่ได้ทำให้เห็นใบหน้าเธอได้ชัดเจนนัก แต่เค้าโครงก็พอดูออกลางๆ หยดน้ำตาที่อาบแก้มลงมาจนหยดลงที่หน้าอก และจี้สีทองรูปตัว P ที่โดนแสงสะท้อนอยู่นิดๆก็ยังสามารถเห็นได้แม้จะไม่ได้ชัดเจนนักก็ตาม
.
.
.
## Music End
. . . . " สุดท้ายต้องทำไง เมื่อคนคิดจะไป
ก็คงไม่รั้ง ฉันไม่รั้งเธออีกแล้ว " . . . . ##