' แชะ แชะ ' เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องโทรศัพท์ดังต่อเนื่อง ตอนนี้แพทกำลังเอาของสะสมบางอย่างของเธอออกมาถ่ายรูป เพื่อโพสขายออนไลน์
บัตรคอนเสิร์ต Black Pink ที่มีลายเซนของ Lisa ที่เธอเสี่ยงไปนั่งรออยู่ครึ่งค่อนวันเผื่อให้ได้ลายเซ็นนี้มา หรือ คอลเลคชั่น Limited ของวงต่างๆอีก 2-3 ชิ้น ที่หาไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน มันเป็นของที่มีค่าทางจิตใจของแพทมาก เพราะการได้มาแต่ละชิ้นเธอต้องพยายามอย่างมาก แต่มันก็เป็นสมบัติเพียงไม่กี่อย่างของเธอในตอนนี้ที่พอจะขายได้ราคาที่สูงพอ ที่เธอจะนำมาใช้แก้ปัญหาวิกฤตได้ในช่วงนี้
. . .
[ ภาพย้อนหลัง 4-5 วันก่อนหน้านี้ ] ณ ตลาดนัดถนนคนเดินที่มีประจำทุกสัปดาห์ แพท และ อุ้ม เพื่อนสนิทของเธออีกคน ปกติแล้วพวกเธอจะมาตั้งร้านรับวาดรูป และเล่นเพลงเปิดหมวกไปด้วยสลับกัน แต่ตั้งแต่ช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำลงมาหลายเดือน นักท่องเที่ยวที่เคยมีก็ค่อยๆหายไป แต่วันนี้พวกเธอก็ยังมาเปิดร้านปกติ . . .
พี่สาวร้านขายเสื้อยืดสกีนลายแนว Vintage Graffiti ที่อยู่ติดกันกับร้านของแพท กดเปิดเพลงจากเครื่องเล่นที่มีลำโพงเล็กๆ ค่อยดันเสียงดังขึ้น . . . ช่วงเวลาพอดีกันกับที่ฝนกำลังตั้งเค้า ท้องฟ้าเริ่มมืดทะมึนขึ้น แพทได้เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า พร้อมสีหน้าที่ดูหมดหวัง
.
.
.
## Music Start (เพลงเธอเก่ง)
. . . . " ท่ามกลางพายุฝน ที่โหมกระหน่ำ
ท่ามกลางคำว่าเรา ที่เป็นอดีตไป " . . . .
.
.
.
สายฝนห่าใหญ่เทลงมา ยังดีที่ร้านทุกร้านที่ตั้งมีเต๊นท์ผ้าใบช่วยกันฝนอยู่บ้าง แต่ด้วยลมที่แรงทุกคนก็ยังคงต้องหาผ้าหรือพลาสติคมาบังข้าวของในร้านอีกชั้นอยู่ดี . . . แต่ที่แย่ไปกว่านั้น ฝนที่ตกหนักขนาดนี้ ใครจะมาเดินเที่ยว นักท่องเที่ยวที่น้อยอยู่แล้ว วันฝนตกแบบนี้แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีคนเดินเลย นอกจากคนที่มาเปิดร้านกันเอง มันเป็นบรรยากาศที่หดหู่มากจริงๆสำหรับแม่ค้าขายของ โดยเฉพาะตลาดนัดที่มีโอกาสแค่อาทิตย์ละครั้ง
แพทเองก็เช่นกัน ปกติมาเปิดร้านอาทิตย์ละวัน ก็ยังได้เงินอย่างน้อยก็วันละ 2,000-3,000 จากการรับวาดรูปนักท่องเที่ยวและเปิดหมวกเล่นดนตรี หรือวันไหนโชคดีคนเยอะหน่อย อาจได้มาไปถึง 4,000-5,000 แต่หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มแย่ลง แค่วันละ 1,000 ยังหาได้ลำบาก บางครั้งได้แค่ 500 เป็นค่าน้ำมัน ค่าเดินทางเท่านั้น มันช่างวิกฤตจริงๆสำหรับเธอในช่วงเวลานี้
เวลาผ่านมาเกือบชั่วโมง ฝนเริ่มเบาลงจนหยุดไปในที่สุด ทุกคนเริ่มจัดร้านกันใหม่อีกรอบ และตั้งความหวังว่าเวลาที่เหลือจะยังมีคนมาเดินบ้าง . . . ในระหว่างที่รอลูกค้าแพทก็หยิบกระดาษวาดภาพแผ่นใหญ่ขึ้นมาหนีบกับแผ่นกระดานรองวาด ก่อนที่จะสเก็ตรูปของชายปริศนา . . .
อุ้มเดินกลับมาหลังจากออกไปเดินเล่นและซื้อของกินในระแวกนั้น เธอยื่นขนมโปรดเป็นลูกชุบรูปผลไม้ให้กับแพท
อุ้ม : " อ่ะมึง กินก่อน . . . วาดรูปอะไรว่ะ เออเจ๋งดี "
แพท : " วาดให้พี่เขาน่ะ เห็นเขาจะเอาไปใช้ประกอบงาน "
อุ้ม : " อ่อ . . . เออแล้ว NFT ที่มึงลองวาดไปขายเป็นไงบ้างว่ะ "
แพท : " ไม่เห็นจะขายได้เลย โคตรเสียเวลาอ่ะ วาดไปตั้งหลายสิบรูป แถมเสียค่าสมัครไปอีกตั้งหลายพัน "
อุ้ม : " กูว่าละ เห็นแม่งปั่นราคากัน ที่ขายได้จริงๆจะมีสักกี่คน 555 "
แพท : " คลิป cover เพลงของกูก็วิวไม่ค่อยจะขึ้น ทำมาเป็นปี ยังไม่ได้เงินซักบาท . . . หรือว่ากูเกิดผิดยุคว่ะเนี่ย "
อุ้ม : " เออจริง กูยังไม่เห็นมึงทำอะไรออนไลน์แล้วรุ่งซักอย่างเลย 555 เหลือไป Live ขายของอ่ะ 555 อาจจะรุ่งก็ได้นะ . . . กูว่ามึงก็สวยนะ เสียงร้องก็โอเค แต่คลิปร้องเพลงเสือกวิวไม่กระเตื้องขึ้นเลย . . . รูปกูก็ว่ามึงวาดสวยนะ แต่ไปขาย NFT ก็ขายไม่ได้อีก 555 วาดขายตามตลาดกะกูไปก่อนแบบนี้แหละเหมาะกับมึงละ 555 . . . แต่กูว่านะ มึงทำหลายอย่างเกินไปหว่ะ แม่งเลยไม่สุดซักทาง "
ทั้งสองคนนั่งคุยกันพักใหญ่ต่อ อุ้มก็หยิบกีต้ามาดีดเล่นพลางๆไปด้วย ระหว่างรอลูกค้าที่จะมาเดินเล่นซื้อของ ในขณะที่แพทก็ยังวาดรูปไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่คุยเล่นกัน . . . จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่
แพท : " เก็บร้าน กลับกันเถอะ วันนี้ไม่น่ามีลูกค้าละกูว่า"
อุ้ม : " แล้วมึงต้องรอพี่เขามารับป่ะ "
แพท : " ไม่อ่ะ เดี๋ยวกูติดรถมึงกลับนะ โทรไปยังไม่รับสายเลย สงสัยติดงานอยู่ . . . เออ แล้วเดี๋ยวไปส่งกูต่อที่ร้านได้ป่ะ กูต้องไปทำพาร์ทไทม์ต่อ"
อุ้ม : " เออได้ๆ . . . ใช้กูเป็นคนขับรถเลยนะ อีนี่ "
.
.
.
## Music End
. . . . " ฝนฟ้าจะเป็นอย่างไร หัวใจก็ยังเป็นของ เธอ " . . . . ##
.
.
.
หลังจากเอาของมาเก็บที่บ้านและเปลี่ยนชุดเพื่อไปทำงานที่ร้านอาหารต่อ โดยที่อุ้มยังจอดรถรอไปส่งอยู่ที่หน้าบ้าน แพทก็ยังลองโทรหาแฟนเธออีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคนรับสายเหมือนเดิม . . . จนสุดท้ายอุ้มก็ต้องเป็นคนมาส่งถึงร้านอาหารที่แพททำงานอยู่
เมื่อแพทมาถึงยังไม่ทันที่จะเริ่มทำงาน พี่ผู้จัดการร้านก็ได้เดินมาคุยกับเธอ
พี่ผู้จัดการร้าน : " แพทจ๊ะ พี่จะแจ้งว่าร้านเราจะปิดสิ้นเดือนนี้นะ ก็ปิดชั่วคราวน่ะ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น . . . เห็นเราขยันตั้งใจทำงานมาตลอด พี่เองก็เสียดาย . . . แต่อย่างเราคงหางานใหม่ได้ไม่ยาก หรือถ้าพี่มีแนะนำก็จะบอกเราอีกทีนะ "
แพท : " ค่ะ ขอบคุณนะคะ "
ถึงแม้จะดูกระทันหัน เพราะอีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแล้ว แต่แพทก็ไม่ได้เซอร์ไพซ์อะไรมาก เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่า ร้านจากที่เคยมีลูกค้าแน่น ตอนนี้แทบจะนั่งว่างตบยูงกันมาพักนึงแล้ว
. . .
ในเวลาปัจจุบัน ในขณะที่แพทกำลังถ่ายรูปของอยู่ ที่โต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่กลางบ้านพอดีนั้น ชายปริศนาก็เปิดประตูบ้านเข้ามาพอดี แพทจึงรีบรวบของและเอาผ้ามาบังไว้ เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้แฟนเธอเครียดไปด้วย เพราะเท่าที่เธอสัมผัสได้ ตอนนี้ตัวเขาเองก็ดูเครียดกับปัญหาของเขาอยู่เช่นกัน
ชายปริศนาคนที่สอง : " ทำอะไรอยู่น่ะ แล้วกินข้าวรึยัง " เขาถามเหมือนปกติทุกวัน
แพท : " กินแล้ว . . . แต่เดี๋ยวว่าจะออกไปหาเพื่อนน่ะ "
ชายปริศนาคนที่สอง : " เอารถเค้าไปก็ได้นะ วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหนล่ะ เพลียๆเดี๋ยวว่าจะรีบไปนอนพักหน่อย "
หลังจากที่ชายปริศนาเดินเข้าห้องไปนอนได้ไม่นาน แพทก็หยิบกุญแจรถและขับออกมา ซึ่งจริงๆแล้วเธอเองก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่ไหน แต่พอบอกไปแล้ว ถ้าไม่ออกมาก็อาจจะมีคำถามเพิ่มขึ้นอีก เธอจึงจำเป็นต้องออกมาและขับรถวนเล่น ไปหาของกินเล่นที่ตลาดใกล้ๆคนเดียว และปล่อยช่วงเวลาทิ้งไว้สักพัก ก่อนที่จะขับกลับบ้านอีกที
ตอนนี้ดูเหมือนแฟนของเธอจะหลับไปแล้ว แพทจึงเปลี่ยนชุดอาบน้ำ ก่อนที่จะไปนอนบนเตียง แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะไม่ค่อยเหมือนเดิมนัก ระยะห่างระหว่างทั้งสองคน นอกจากจะนอนหันหลังเข้าหากันแล้ว ทั้งคู่ยังนอนแทบจะติดริมขอบเตียงแต่ละฝั่ง จนเหลือที่ว่างตรงกลางเตียงไว้พอให้คนอีกคนหรือสองคนไปนอนได้สบายๆ
แพท : " ตัวเอง หลับรึยังอ่ะ เค้าถามอะไรได้มั้ย . . . เอ่อใช่ลืมบอก รูปเค้าวาดให้เสร็จแล้วนะ "
ชายปริศนาคนที่สอง : " อืมม..ดีเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไปดู . . . ว่าแต่มีอะไรรึป่าว " เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียเล็กน้อย
ทั้งสองคนยังคงนอนคุยโดยหันหน้าไปคนละทาง ไม่ได้หันมาคุยกันแบบปกติ . . . แพทรวบรวมความกล้าที่จะถาม หลังจากคิดอะไรได้บางอย่างช่วงที่ขับรถไปวนเล่นเมื่อครู่ ซึ่งปกติเธอจะค่อนข้างเกรงใจแฟนมาก
แพท : " เรื่องรถน่ะ ช่วงนี้เราสองคนก็มีปัญหาเยอะเลย ถ้าเราขายไปก่อน แล้วถ้าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยซื้อใหม่ได้มั้ย "
ชายปริศนาคนที่สอง : " เค้าว่าเคยบอกไปแล้วนะ รถมันยังผ่อนอยู่ ต่อให้ขายไปเงินที่ได้มายังน้อยกว่ายอดที่ติดไฟแนนซ์เลย " น้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
แพท : " อืมๆ "
ชายปริศนาคนที่สอง : " มันไม่ได้เหมือนตอนที่ตัวเองขายรถแม่ อันนั้นมันไม่ติดไฟแนนซ์ มันก็ได้เงินมาเต็มๆ มันไม่เหมือนกัน " น้ำเสียงของเขาเริ่มเย็นลง
แพท : " อืมๆ เค้าเข้าใจแล้ว . . . "
ชายปริศนาคนที่สอง : " แต่มันก็ยังมีทางที่จะหาเงินได้เยอะอยู่นะ แต่ไม่รู้ตัวเองจะอยากทำมั้ย . . . "