Chereads / #OPPSTE (ออพ-โพ-สิท) / Chapter 11 - Chapter 10 : แพ้คำว่ารัก

Chapter 11 - Chapter 10 : แพ้คำว่ารัก

จูลนั่งอยู่ในร้านอาหาร บนโต๊ะยังว่างอยู่มีเพียงแก้วน้ำเปล่าเท่านั้น แต่เหมือนเธอจะนั่งรอมาได้สักพักใหญ่แล้ว สีหน้าเบื่อเริ่มออกนิดๆ สลับกับดูเวลาเป็นระยะๆ . . . ชายปริศนาเดินเข้ามาที่โต๊ะด้วยท่าทางที่เร่งรีบ

ชายปริศนา : " ขอโทษนะ วันนี้ผิดแผนไปหมดเลยแต่เช้า " เขาแสดงท่าทีสำนึกผิดเล็กน้อย

จูล : " อืม แล้วรถเป็นยังไงบ้าง "

ชายปริศนา : " ยังทิ้งไว้ที่อู่อยู่เลย ช่างเขาจะโทรมาบอกอีกทีถ้าเสร็จ . . . ขอโทษนะ เลยไม่ได้ไปรับเลยวันนี้ "

จูล : " ช่างมันเถอะ สั่งข้าวกินก่อนดีกว่า หิวจะแย่แล้ว "

ทั้งสองคนขอเมนูและสั่งอาหารไปตามปกติ บรรยากาศกลับมาในโหมดปกติอีกครั้ง จากที่จูลดูจะหงุดหงิดนิดหน่อยในตอนแรกที่นั่งรอ . . . เวลาผ่านไปครู่ใหญ่จนทั้งสองคนทานอาหารเสร็จ

ชายปริศนา : " เค้ามีของให้ตัวเองด้วย " พลางเอามือล้วงไปในกระเป๋ากางเกาง หยิบกล่องใส่ปากกาออกมา และยื่นให้กับจูล " อ่ะ ตัวเองจะได้เอาไว้ทำงานได้ "

จูลถึงกับอมยิ้มไม่หยุด ถึงแม้เป็นแค่ปากการาคาไม่กี่ร้อย หรืออย่างมากก็พันนิดๆ แต่มันไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่นี่เหมือนเป็นของขวัญชิ้นแรกที่เธอได้รับจากคนรัก และในความรู้สึกของเธอดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจให้เธอจริงๆ ทั้งที่เธอก็คิดในใจว่า ถ้าเขาหมายถึงงานนักเขียนละก็ เธอใช้คอมพิมพ์ไม่ได้ใช้ปากกาเขียนซักหน่อยก็เถอะ . . . พอเปิดกล่องออก มันเป็นปากกาแท่งสีแดง ที่มีเลเซอร์ชื่อเธออยู่บนด้าม

ชายปริศนา : " 6 เดือน ครบรอบ 6 เดือน ที่เราคบกัน . . . ใช่วันนี้ใช่ม๊ะ " ชายปริศนาแสดงท่าทีไม่แน่ใจว่าตัวเองจำผิดวันรึป่าว เพราะปกติทุกวันครบรอบจูลจะมีของขวัญให้เขาเสมอ

จูลพยักหน้ารับ พร้อมหันหลังกลับไปหยิบของในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ด้านหลัง

จูล : " อ่ะ ของขวัญครบรอบ 6 เดือน ของเรา " พลางส่งกล่องโทรศัพท์ iPhone รุ่นใหม่พร้อมด้วยหูฟัง AirPods

จูล : " เค้าเห็นโทรศัพท์ของตัวเองเก่าแล้ว จอร้าวด้วย เลยคิดว่าตัวเองน่าจะอยากได้ "

ชายปริศนายิ้มไม่หุบ เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ ซึ่งสีหน้าอารมณ์แบบนี้ คือสิ่งที่จูลเองก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น

ชายปริศนา : " ขอบคุณนะ . . . ตัวเองซื้อให้แต่ของแพงๆทั้งนั้นเลย . . . เค้าเกรงใจยังไงก็ไม่รู้ " พลางเอามือจับไปที่นาฬิกาข้อมือ ก็เป็นของที่จูลเป็นคนซื้อให้ก่อนหน้านี้เหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่แบรนด์หรู แต่ก็ราคาหลายพันหรืออาจจะแตะหลักหมื่นได้เหมือนกัน

จูล : " เค้ารักตัวเองนะ ของแค่นี้เอง . . . แล้วตัวเองล่ะ รักเค้ารึป่าว"

ชายปริศนา : " อืม . . . รักสิ " พร้อมพยักหน้ารับเล็กๆ

ที่ตู้ Jukebox ในร้าน มีคนเดินมาหยอดเหรียญเลือกเพลงในจังหวะนั้นพอดี

.

.

.

## Music Start (เพลงแพ้คำว่ารัก)

. . . . " ที่เธอบอกจริงหรือเปล่า จริงหรือเปล่า

ไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม" . . . .

.

.

.

เพียงแค่การพยักหน้าและคำพูดว่ารัก ด้วยความที่เป็นคนช่างจินตนการอยู่แล้ว ก็ทำให้จูลคิดไปไกล ฉากต่างๆแวบขึ้นมาในความคิดของเธอ ทริปทัวร์เที่ยวรอบโลกไปยังที่ต่างๆกันสองคน

ที่ปารีส ยืนจูบกันหน้าหอไอเฟล . . .

นิวยอร์ค ยืนจูบกันหน้าแยกไทม์สแควร์ . . .

โตเกียว ยืนจูบกันหน้ามิคกี้เม้าส์ ในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ . . .

ซิดนีย์ ยืนจูบกันหน้าโอเปร่าเฮ้าส์ . . .

ไคโร ยืนจูบกันหน้าพีระมิด . . .

รวมถึงภาพฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อน ทั้งในและนอกโรงแรม โดยมีฉากหลังเป็น หอไอเฟล เทพีเสรีภาพ โตเกียวทาวเวอร์ พีระมิดกีซ่า . . .

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ 6 เดือน ที่ทั้งคู่นับว่าคบกันนั้น ชายปริศนาไม่เคยบอกรักจูลเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือแม้กระทั่งวันครบรอบ ก็เป็นวันที่จูลคิดขึ้นเองหลังจากที่เขามีความสัมพันธ์กันครั้งแรกในตอนนั้น . . . ชายปริศนาก็เพียงแค่ เออออตามไปแค่นั้น และที่เขาจำได้เพราะทุกครั้งที่เป็นวันครบรอบ จูลจะมีของขวัญให้เขาเสมอๆ

เสียงโทรศัพท์ของชายปริศนาดังขึ้น พร้อมๆกับเสียงเพลงที่จบลงพอดี

.

.

.

## Music End

. . . . " อย่ารังแกคนที่ไม่มีใครด้วยคำว่ารักเลย จะกี่ครั้งก็ลงเอยแพ้คำพูดว่ารัก

ได้ไหมเธอคนดี ถ้าคิดจะบอกรักกัน ช่วยบอกกันด้วยหัวใจที่มี แค่นี้ที่อยากขอเธอ " . . . . ##

.

.

.

ชายปริศนา : " ไปเอารถกันเถอะ ช่างเพิ่งโทรมาบอกว่าเสร็จแล้ว "

. . .

หลังจากที่ไปเอารถที่อู่ซ่อม ระหว่างทางกลับออกมา จูลเห็นคูปองบางอย่างวางอยู่ที่หน้าคอนโซลจึงหยิบมาดู มันเป็นคูปองส่วนลดค่าเข้าสวนสนุก Xtreme ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน

ชายปริศนา : " ลองไปกันมั้ย ไม่รู้จะทำอะไรพอดีวันนี้ " เขาเอ่ยถามหลังจากเห็นจูลหยิบคูปองขึ้นมา " มันแจกที่ห้างวันก่อนน่ะ เกือบลืมไปแล้วเหมือนกัน "

จูล : " มันไม่ไกลไปหรอ "

ชายปริศนา : " ก็ไม่ไกลนะ ไม่น่าเกินชั่วโมง เส้นนั้นตัวเองยังไม่เคยไปด้วย มีที่สวยๆระหว่างทาง เผื่อแวะถ่ายรูปได้ด้วย "

จูล : " อืม งั้นก็ได้ "

ระหว่างทางไปสวนสนุก ถนนเส้นนี้เหมือนมุ่งหน้าออกนอกตัวเมือง ทำให้เห็นธรรมชาติ ทุ่งหญ้าเขียวขจีสลับเนินเขาเตี้ยๆ ฝูงวัว ฝูงแกะ เป็นระยะๆ . . . แต่ระหว่างที่ขับอยู่นั้น เหมือนจังหวะเครื่องยนต์รถมันแปลกๆไปบ้าง แต่ก็ยังขับไปต่อได้

จูล : " มันจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ลองโทรถามช่างอีกทีมั้ย "

ชายปริศนา : " ไหวแหละ มันเป็นมาซักพักแล้วละ เมื่อกี้ช่างเขาก็บอกว่าอาจจะกระตุกบ้างแต่ไม่เป็นอะไร "

ชายปริศนา : " ครบรอบคราวหน้า ตัวเองคงไม่ซื้อรถใหม่ให้เค้าใช่มั้ย ฮ่าฮ่าฮ่า " แม้จะเป็นคำพูดเล่นๆ แต่ลึกๆในใจตัวเขาเองก็แอบคิดเล่นๆไปเหมือนกัน ว่าเผื่อฟลุ๊คได้ เพราะขนาดรอบนี้ยังซื้อ iPhone ตัวทอปราคารวมๆเกือบครึ่งแสนให้เขาได้เลย แค่เห็นโทรศัพท์เขาเก่าแค่นั้น

จูล : " แล้วตัวเองอยากได้รุ่นไหนล่ะ "

ชายปริศนา : " บ้า ไม่เอาหรอก มันเยอะเกิน แค่ที่ตัวเองให้มาตอนนี้ก็เยอะเกินแล้ว " ถึงเขาจะรู้ว่าจูล ดูเป็นผู้หญิงที่มีเงิน และสายเปย์ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวยถึงขนาดซื้อรถเป็นคันๆให้เขาจริงๆ

จูล : " แค่สมมติเฉยๆก็ได้ "

ในจังหวะเดียวกันนั้น รถติดไฟแดงที่แยกพอดี และมีรถ Civic โมเดลใหม่ สีดำป้ายแดง เหมือนเพิ่งออกจากโชว์รูมมาจอดติดอยู่เยี้องๆด้านข้างพอดี

ชายปริศนา : " แบบคันข้างๆเนี่ยก็พอ เค้าชอบนะตัวนี้เพิ่งออกด้วย สีดำอย่างสวย ราคาก็ไม่เว่อร์เกิน "

จูล : " อืม.. บังเอิญจัง "

ชายปริศนา : " บังเอิญอะไรหรอ "

จูล : " อ๋อ ก็บังเอิญที่พูดถึง แล้วมีมาจอดข้างๆพอดีไง ป้ายแดงด้วย "

หลังจากพูดจบประโยค ไฟสัญญานก็เขียวพอดี รถป้ายแดงคันนั้นก็ออกตัวนำไปอย่างรวดเร็ว

. . .

รถของทั้งสองคน ในที่สุดก็มาถึงปลายทางสวนสนุก Xtreme ที่นี่ถึงจะไม่ได้มีเครื่องเล่นเยอะ แต่ก็ล้วนเป็นเครื่องเล่นที่น่าหวาดเสียวอยู่หลายตัว ทั้ง บันจี้จั๊ม ปีนผาจำลอง รถรางที่สไลด์ลงจากเขา รถโกลคาร์ท และ อื่นๆอีก 2-3 อย่าง . . . วันนี้คนก็ดูไม่เยอะมากนัก เพราะเป็นวันธรรมดา และเป็นช่วง Low Season ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะเล่นแค่ 2-3 อย่าง เพราะตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้วแถมแต่ละอันก็หวาดเสียวใช่เล่น โดยเฉพาะ บันจี้จั๊ม ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่เคยกระโดดมาก่อน . . . ทั้งคู่จึงเลือกที่จะกระโดดบันจี้ก่อน แล้วไปต่อด้วยปีนผาจำลอง และขับโกลคาร์ทตอนจบ

ชายปริศนาจูงมือจูลไปที่บันจี้ เหมือนเด็กที่กำลังอยากเล่นของเล่น และดูเหมือนที่นี่จะมีความสูงให้เลือก 2 ระดับ 50 เมตร และ 100 เมตร และมีป้ายแนะนำว่าถ้ากระโดดเป็นครั้งแรกควรเริ่มจาก 50 เมตรก่อน . . . แต่ไม่ใช่สำหรับคู่นี้ ทั้งสองคนเลือกที่จะกระโดดอันที่สูงกว่า นี่ดูเหมือนจะเป็นนิสัยที่เหมือนกันของทั้งสองคนที่ชอบทำอะไรตื่นเต้นๆ และทำอะไรที่สุดทาง

หลังจากกระโดดบันจี้เสร็จ ทั้งคู่นั่งพักกันครู่ใหญ่ก่อนจะเดินไปเล่นในส่วนผาจำลองต่อ ตอนนี้ชายปริศนาดูคึกมาก เหมือนเด็กที่ได้มาปลดปล่อย แต่จูลเองมีการวิงเวียนนิดหน่อยจากบันจี้เมื่อกี้แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก บวกกับท่าทางคึกหน่อยๆของแฟนเธอ เธอจึงไม่อยากทำให้บรรยากาศมันน่าเบื่อไป

ทั้งสองคนใส่ชุด เครื่องป้องกันและฟังคำแนะนำจากพนักงานหญิงคนนึง ซึ่งดูเหมือนจะยังใหม่เพิ่งทำงานได้ไม่นานจากวิธีการพูดแนะนำที่ยังไม่คล่องนัก . . . ทั้งคู่จึงเริ่มปีนผาจำลองขึ้นไป ปกติความสูงผาจำลองน่าจะสูง 10-20 เมตร แต่ที่นี่จุดสูงสุดเกือบ 30 เมตรเลยทีเดียว และด้วยความคล่องตัวของชายปริศนา เขาก็ปีนขึ้นไปจุดสูงสุดได้รวดเร็วไม่ยากนัก ในขณะที่จูลยังปีนขึ้นไปช้าๆ ได้ยังไม่ถึงครึ่งทางดีด้วยซ้ำ . . . และด้วยช่วงเวลานี้ซึ่งเย็นมากแล้ว จึงเหลือแค่เขาสองคนเท่านั้นที่ปีนอยู่ในตอนนี้ พนักงานเองก็เหมือนจะเตรียมตัวเลิกงานกัน . . .

ในช่วงที่จูลเกือบจะถึงจุดสูงสุดอีกไม่กี่เมตร อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อุปกรณ์ที่จะช่วยเซฟตี้ได้ มันไม่ได้ช่วยอย่างที่คิด เธอตกลงมาจากความสูงกว่า 20 เมตร ยังโชคดีที่ด้านล่างเป็นพื้นทรายช่วยซับแรงกระแทกได้บ้าง กับหมวกกันน๊อค . . . แต่จูลก็ภาพตัดมืดไปทันที พร้อมเสียงกรีดร้องตกใจในช่วงที่ตกลงมา . . .