Chereads / Nick & Nite / Chapter 5 - ตอนที่ 4  ชาร์เลส ชาร์ล

Chapter 5 - ตอนที่ 4  ชาร์เลส ชาร์ล

หลังส่งงานจิปาถะอื่นๆที่ผมยังทำไม่เป็นไปให้เวสต์ ผมก็ย้ายตัวเองมานั่งอยู่ที่ประจำของไนท์ บนเก้าอี้บุนวมหุ้มกำมะหยี่ของเรือนรับรองขนาดเล็กที่สุดของราชวังตามทิศทางที่เวสต์บอกมา

ตัวเรือนเป็นไม้สีชาดูอบอุ่นและหรูหราอย่างเรียบง่าย เรียกได้ว่าแม้ไม่โอ่อ่ากว้างขวาง แต่ก็มีความงดงามและสงบเงียบเหมาะแก่การสนทนาในเรื่องส่วนตัว รวมทั้งมีระดับเพียงพอจะรองรับแขกคนสำคัญของราชาได้

ผมกำลังรอแขกคนหนึ่งด้วยใจลุ้นระทึก จ้องมองอย่างรอคอยไปที่บริเวณใต้ชายคาที่เดิม ในมือถือข้อความที่เดินทางข้ามดาราจักรมาถึงเมื่อเย็นวาน

มันเป็นจดหมายนัดแนะ และรายการอาหารที่ต้องจัดเตรียมเป็นมื้อกลางวัน และของฝากกลับบ้าน ซึ่งเป็นเมนูของขึ้นชื่อของดาวเฟลม่า

"ชาร์เลส ชาร์ล?" ผมเงยหน้ามองเวสต์หลังอ่านชื่อลงท้ายจดหมายที่เขานำมาให้ในสวน

"ท่านชาร์ลคืออัลฟ่าของดาวโฌฌอน​เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของท่านไนท์ขอรับ"

ผมไม่คุ้นชื่อนี้นัก ความสามารถในการจำชื่อของผมน่ะห่วยแตกสิ้นดี แต่พอก้มหน้าขยับจมูกฟุดฟิดใกล้ๆ ผมก็จำกลิ่นนี้ได้ กลิ่นหอมอ่อนๆจากกระดาษที่อ่อนนุ่ม

"ทำไมเขาถึงส่งจดหมายแบบนี้มาน่ะ"

ตอนแรกเวสต์ขมวดคิ้วกับคำถามของผม แต่เมื่อเห็นผมเอากระดาษมาดมเขาก็เข้าใจ

"กระดาษเยื่อไผ่ษาระ เป็นของขึ้นชื่อของดาวโฌฌอน จุดเด่นคือมันบอบบางมาก เขียนตัวอักษรอะไรลงไปก็ยากลำบาก แม้หายใจแรงๆก็ทำให้กระดาษขาดได้ การกะแรงผิดไปเพียงเล็กน้อยก็เท่ากับต้องไปเริ่มเขียนใหม่ทั้งหมด คนที่สามารถใช้กระดาษชนิดนี้เขียนจดหมายได้สักประโยคหนึ่งจึงต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่ง การส่งข้อความให้คนสำคัญด้วยกระดาษชนิดนี้จึงสื่อถึงความถนุถนอม ชายหญิงของดาวโฌฌอนจึงนิยมใช้มันในวาระสำคัญๆเพื่อสื่อถึงความจริงใจ"

ผมว่ามันเอาไว้ทดสอบความอดทนมากกว่านะ กระดาษบ้านี่

"แต่สำหรับดาวอื่นที่ไม่ได้มีประเพณีนี้ กลับมองว่าชาร์เลส ชาร์ลเป็นพวกอนุรักษ์นิยมและล้าสมัย ไม่ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์"

ก็ถูกเพราะดาวสมาชิกแทบทุกดวงเขาสื่อสารกันด้วยหอสื่อสารส่งข้อความข้ามอวกาศโดยไม่ต้องใช้กระดาษมานานแล้วนะ

แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง เขาคือเพื่อนของท่านไนท์ และให้ความสำคัญกับท่านไนท์มาก...?

"ชาร์ลเป็นคนแบบไหนน่ะเรอะ อืม...ตอบยากจังนะ"

อ๊ะ?

ผมจำได้แล้ว ผมเคยได้ยินท่านไนท์พูดถึงเพื่อนคนนี้อยู่เหมือนกัน และผมก็เคยถามเขาไปว่าชาร์ลเป็นคนแบบไหน

"เขาเป็นคนหยาบๆที่ละเอียดอ่อน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม...เป็นคนที่ผมให้ได้ทุกอย่าง พูดแบบนี้นิกเข้าใจมั้ย?"

ผมกะพริบตาปริบๆกับประโยคในความทรงจำ ช่างเป็นคำตอบที่ชวนให้ติดใจสงสัย

ผมรู้แค่ว่าชาร์ลคือเพื่อนที่ดีที่สุดของท่านไนท์ แต่นอกจากนั้นผมไม่รู้เลย หน้าตาเขาเป็นยังไง พวกเขามารู้จักกันได้ยังไง สนิทกันเพราะอะไร?

ผมอยากรู้

และเมื่ออัลฟ่าต้องการรู้ ดวงดาวก็ตอบสนองให้

แสงเรืองรองปรากฎขึ้นในมือผม เส้นด้ายโปร่งแสงเส้นหนึ่งทอประกายสีฟ้าอ่อนออกมา มันสั่นไหวเบาๆแล้วพุ่งตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า คลี่ตัวแยกออกเป็นเส้นด้ายนับพันนับหมื่นล้อมผมไว้เป็นโดมแก้ว

[ S T R I N G : CODE : C H A L E S ]

และผมก็เห็นภาพในอดีตของท่านไนท์กับเพื่อนคนนั้น

ชายใส่เสื้อโค้ตหนาสีแดงปักดิ้นเงินดิ้นทองผุดขึ้นมาจากการเดินทางข้ามอวกาศเป็นระยะทางหลายล้านกิโลเมตรด้วยเส้นทางวาล์ปส่วนตัวแบบระบุปลายทาง อัลฟ่าจะเรียกมันว่า 'สะพานข้ามดารา' ซึ่งเป็นหนึ่งในแขนงพลังของมิติที่สี่ที่ใช้สตริงสร้างขึ้น

ผมสีน้ำตาลส้มโดดเด่นของเขาหยิกฟูทั่วทั้งหัวและลำตัวจนเหมือนแผงคอของสัตว์ป่า เมื่อรวมเข้ากับใบหน้าดุดันและผิวคล้ำเข้ม เขาก็เหมือนจ้าวป่าที่น่าเกรงขามจนแค่ภาพในอดีตของเขายังทำให้ผมเผลอตัวสั่นได้

ท่านไนท์ที่นั่งไขว้ห้างกอดอกหลับอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกับผมก็เหมือนจะถูกสัญญาณบางอย่างปลุกให้ผุดลุกขึ้นทันทีที่ชาร์ลก้าวออกมาจากสะพานเต็มตัว เขามีสีหน้ายินดียิ่งแล้วกระโจนเข้าต้อนรับร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวฉับๆตรงมา

"ชาร์ลเพื่อนรัก"

ร่างสูงของชาร์ลเบี่ยงตัวหลบ พร้อมตบหัวคนตะโกนเสียงใสใส่พื้นดินอย่างไม่เกรงใจ

"ท่าจะยังบ้าเหมือนเดิมนะเอ็งน่ะ"

ราชาดาวเฟลม่ายันตัวลุกขึ้น ปัดเนื้อตัวที่เปื้อนฝุ่นอย่างเป็นพิธีแล้วยังคงรอยยิ้มดังเดิมเอาไว้อย่างไม่มีจางหาย

"ได้ข่าวว่าเอ็งไปยุ่มย่ามอะไรกับอีกฝั่งของจักรวาล ฮึ ไอ้เสือเอ้ย จะหาเรื่องตายก็อย่าลากข้าไปมีเอี่ยวด้วยนะเว้ย ไม่รู้หรือว่าสหพันธ์ดาว ABELLน่ะ ขึ้นชื่อเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุเลยนะ ไอ้ปืนเฮงซวยที่บรรพบุรุษของมันสร้างขึ้น ถึงกับยิงข้ามจักรวาลได้แบบนั้น ขี้โกงชัดๆ มันอยากจะยิงเล่นไปที่ไหนก็คงไม่มีใครขวาง ภาคีหัวหอกก็พวกมันทั้งนั้น"

"อย่าไปว่าร้ายเขาแบบนั้นสิ นั่นแฟนผมนะ"

ชาร์ลถึงกับพ่นน้ำจากปาก เช่นเดียวกับผมที่สำลักอากาศ

อะไรนะ!! ท่านไนท์ไปเรียกใครว่าแฟนนะ ผมฟังไม่ถนัด!

"เหอะ อะไรนะ?? แฟนของเอ็งเนี่ยนะ??"

"เรื่องที่ผมคบหากับใคร คงบอกตรงๆไม่ได้หรอก"

"เออ ข้าก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องลับๆของเอ็งหรอก" ชาร์ลว่า

"อาเบล เขาชื่ออาเบลน่ะ"

"แล้วเอ็งจะบอกทำไมฟะ"

"ก็เผื่อนายอยากรู้จนทนไม่ไหว" ไนท์ขยิบตาให้

ชาร์ลส่ายหน้ากับความกวนตีนของเพื่อน เขาดูอยากประเคนส้นใส่ท่านไนท์เต็มที่ ส่วนผมนี่สมองกำลังแล่นเร็วจี๋ อาเบลไหนกัน?

"เหอะๆ แล้วมันเป็นใครกันล่ะ อาเบลที่ตาถั่วคนนี้"

ท่าทางชาร์ลจะไม่ได้อยากรู้เท่าไร เขาแค่ยอมถามตามน้ำเพราะเห็นเพื่อนอยากจะโม้เท่านั้นเอง และท่านไนท์ก็ดูจะยอมมองผ่านข้อเท็จจริงเหล่านั้นไป พร้อมกับยินดีอย่างยิ่งที่จะตอบ

"ไม่คุ้นเลยเรอะ? นายก็เคยเห็นแล้วนะ จากที่ไกลๆ"

"ก็ตอนนี้มีอาเบลเดียวที่ข้ารู้จัก แต่นายบอกว่าเป็นแฟนนายเลยคิดว่าไม่น่าจะใช่"

มุมปากไนท์โค้งอย่างมีเลศนัยจนคนที่เห็นต้องขนลุก

"งั้นก็คนเดียวกันแล้วล่ะ เพราะผมก็รู้จักอาเบลเดียวเหมือนกัน"

"ถุย อย่า 'มโน' ไนท์ นั่นไม่ใช่คนที่เอ็งจะไปล้อเล่นด้วยนะ"

"ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมจริงจังไม่นิสัยเสียเหมือนชาร์ลหรอกนะครับ"

ตอบได้หมั่นไส้สมกับเป็นคนหลงตัวเองอันดับหนึ่งจริงๆ ชาร์ลที่กรอกตามองบนครู่ใหญ่คงกำลังคิดแบบนั้นอยู่

"จริงจังมันก็ดี แต่แน่ใจนะว่าไม่ได้คิดไปเอง?"

"ผมอาจจะคิดไปเอง" ท่านไนท์พยักหน้ายอมรับด้วยดวงตาเป็นประกาย "แต่ถึงยังไง ถ้าคิดว่าใช่ มันก็คุ้มพอที่จะเสี่ยงไม่ใช่เรอะครับ ชาร์ล?"

นานๆผมจะได้ยินไนท์พูดอะไรที่ดูเข้าท่าบ้างนะ และชาร์ลก็ดูจะคิดแบบผมเหมือนกัน เขาจึงไม่ได้เอ่ยปากขัดอะไรมากไปกว่านี้

พวกเขายกแก้วชาขึ้นแตะริมฝีปาก แต่ยังไม่มีใครได้จิบสักอึก การติดต่อฉุกเฉินจากศูนย์บัญชาการก็แทรกการบทสนทนาของทั้งสอง

"มีการส่งสัญญาณโจมตีเข้ามาครับท่านไนท์"

ภาพใบหน้าเบต้าผู้ดูแลการรับส่งและแปลสัญญาณจากอวกาศ ปรากฎขึ้นตรงหน้าท่านไนท์พร้อมรายงานสถานการณ์เร่งด่วนอย่างเคร่งเครียด

"จากไหน?" ท่านไนท์วางแก้วชากับขนมปังกรอบลงทันควัน

"มาจากสหพันธ์ดาว 'ABELL' ครับ"

จบประโยครายงานแต่แทนที่จะเครียดอย่างที่ควรเป็น ราชาดาวเฟลม่าผู้กำลังถูกรุกรานกลับมีสีหน้าสดใสขึ้นมาทันที

เพราะว่าสหพันธ์ดาว 'ABELL' ​ก็คือหมู่ดาวที่มีดาว Abell343 ​เป็นศูนย์กลาง และอัลฟ่าเจ้าของหมู่ดาวก็คือคนเดียวกับผู้นำภาคี...อาเบล เฮนริแอตท์ เฮลล์ นั่นเอง คนที่ท่านไนท์แอบอ้างว่าเป็นแฟนตัวเองยังไงล่ะ!

"เห็นมั้ยแค่พูดถึงก็ติดต่อมาแล้ว สงสัยจะคิดถึงผมมาก"

"คิดถึงด้วยสัญญาณโจมตีน่ะนะ" ชาร์ลเหลือบมองด้วยหางตา แต่ท่านไนท์ก็ยังฉีกยิ้มกว้าง

"สมัยที่พวกเรายังวัยรุ่นก็ร้อนแรงแบบนี้ไม่ใช่เรอะครับ ชาร์ล? ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็โจมตีกันก่อนแล้ว"

ถุย!

ชาร์ลทำหน้าอยากขากโครตเสลดจากลึกสุดของลำคอออกมาใส่หน้าราชาที่เล่นมุกไม่ดูเวล่ำเวลา

"เออๆ เอ็งจะทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าจักรพรรดินั่นเล่นกับเอ็งด้วยก็ขออย่าให้มันรู้เรื่องของข้าล่ะกัน ข้ายังไม่อยากให้ดาวของข้าปลิวไปด้วยเรื่องหึงหวงงี่เง่าพรรค์นี้"

ชาร์ลคงรู้สึกสงสารบรรพบุรุษของดวงดาวตัวเองอยู่บ้าง ถ้าต้องดับสูญด้วยเรื่องนี้

"เรื่องของเราก็คือเรื่องของเรา เรื่องของผมกับอาเบลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องห่วงว่าผมจะแยกแยะไม่ได้หรอกครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้ดาวของนายมีอันตรายแน่นอน เพราะถึงยังไงเราก็อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน" ท่านไนท์ให้คำสัญญาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ที่ไม่ได้ช่วยให้คนฟังรู้สึกดีขึ้นเท่าไร ผมก็คิดว่ามันไม่น่ารู้สึกดีเหมือนกันนะ

"แปลว่าอะไรฟะ ไอ้ประโยคนี้" ชาร์ลขมวดคิ้วแน่นทำหน้าสยอง

"มันก็แปลตรงตัวไม่ใช่เรอะครับ?"

"ถ้าแปลอ้อมๆน่ะยังพอแปลว่าลงเรือลำเดียวกันได้ แต่ไอ้การแปลตรงตัวของเอ็งน่ะแหละที่ข้าสงสัยว่ามันแปลว่าอะไร!" ชาร์ลทำตาเป็นขีดใส่ เขาดูเพลียเต็มที่แล้วกับการต้องคอยตบมุกให้ทุกประโยค ถ้าผมอ่านใจเขาได้เขาคงกำลังคิดว่า 'ไม่พูดสองง่ามสามแง่สักวันจะได้มั้ยฟะ'

"หืมม...นั่นสินะ ถ้าแปลว่าคนสองคนมานั่งใต้ชายคาสนทนากันพอจะได้มั้ย? หรือควรแปลว่าคนสองคนที่อยู่ในความสัมพันธ์บางอย่างใต้ชายคาเดียวกัน?"

ถุย!!! ชาร์ลทำหน้าเหยเกขากถุยเป็นรอบที่สามของวัน ท่าทางเมื่อไรที่มาเจอท่านไนท์ ชาร์ลคงต้องเจ็บคอกลับไปทุกทีเพราะต้องคอยถุยใส่ท่านไนท์แทบจะทุกประโยคที่พูดกันเลย ราชาดาวโฌฌอนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาคงพยายามทำใจให้บริสุทธิ์จากความรู้สึกอยากทำร้ายร่างกายผู้อื่น แล้วค่อยเอ่ยถามท่านไนท์อย่างจริงจัง

"ช่วยตอบข้ามาตามตรงข้อเดียวไอ้เสือ เอ็งน่ะคิดจะทำอะไรกันแน่"

"…"

ชาร์ลหมายถึงอะไรเรอะ? ผมงงงันแล้วหันไปมองท่านไนท์ที่ไม่ตอบคำ เขาเอาแต่หลับตา เอนตัวพิงพนักเก้าอี้และเงยหน้าขึ้นราวจะเอ่ยบางสิ่งกับท้องฟ้า หากแต่ไร้เสียง

เหมือนมีความทรงจำสายหนึ่งไหลเวียนอยู่ใต้เปลือกตาที่ไม่มีใครล่วงรู้ แต่มันคงทั้งเจ็บปวดและงดงามเสียจนท่านไนท์ยอมจะจมอยู่กับมัน สายลมพัดเส้นผมสีทองอย่างนุ่มนวลคล้ายกำลังปลอบโยนเขา

และเมื่อท่านไนท์ลืมตาขึ้น ก็เหมือนดวงดารานับร้อยนับพันแย่งกันส่องแสง

ดวงตาดับขลับมีประกายสีเขียวอ่อนเจิดจ้า ไร้ซึ่งทั้งความกลัวและความลังเล

ที่ตรงนี้ มีแต่ความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึง

"ผมน่ะ แค่อยากเห็นบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป ชาร์ล"

?

ทั้งผมและชาร์ลทำหน้าแบบเดียวกัน

"และผมก็อยากพิสูจน์ว่าคนทุกคนสามารถเปลี่ยนได้ ถ้าเขารักบางสิ่งมากพอ หรือรักคนบางคนมากพอ..."

ว่าจบเขาก็ยักยิ้มเลิกคิ้วให้ชาร์ลอีกครั้ง

"แล้วนายว่าผมเปลี่ยนไปมั้ยล่ะ เพื่อนรัก?"

กล้ามเนื้อใบหน้าและส้นเท้าของชาร์ลเริ่มกระตุกอย่างรุนแรง

"เปลี่ยนได้น่าเตะขึ้นน่ะสิเอ็งน่ะ!"

ซ่า ซ่า

โดมเส้นด้ายสลายไป แสงสีฟ้าเรืองรองจางหาย ผมมองภาพตรงหน้า แล้วพลันรู้สึกทั้งอบอุ่นทั้งอ้างว้างในเวลาเดียวกันผมพอจะคาดเดาได้แล้วว่าชาร์ลเป็นคนแบบไหน และเกี่ยวข้องกับท่านไนท์อย่างไร แต่ที่ทำให้ผมตกใจไม่น้อยก็คงเป็น 'แฟน' ที่ท่านไนท์พูดถึง แต่ก็แค่ตกใจเท่านั้น ไม่ได้แปลกใจเลย

เพราะท่านไนท์น่ะเป็นคนที่สุดยอดที่สุด และเป็นธรรมชาติกับทุกๆคนไม่แปลกที่จะมีคนรักได้ ส่วนผมน่ะคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...

"เวสต์"

ผมเอ่ยเรียก แล้วภาพของเวสต์ก็ปรากฎขึ้นในกรอบสีเหลี่ยมกลางอากาศ เป็นการสื่อสารทางไกลเหมือนที่หอบัญชาการติดต่อมาหาท่านไนท์ ผมเองก็สามารถติดต่อทุกคนในทุกที่บนดวงดาวได้เช่นกัน

"ผมจะทำให้เพื่อนของท่านไนท์ยอมรับได้จริงๆเรอะ?"

เวสต์ไม่หลบสายตา เขาจ้องผมอย่างครุ่นคิด แล้วพยักหน้า

"ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ทุกคนเดินทางมาเพราะรู้ข่าวการกำเนิดใหม่ของอัลฟ่าดาวเฟลม่า พวกเขารู้อยู่แล้วว่าท่านจะไม่ได้มีลักษณะของคนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านไม่จำเป็นต้องเลียนแบบท่านไนท์เพื่อให้พวกเขายอมรับหรอกครับ ท่านแค่เป็นตัวของท่านก็พอแล้ว เพราะท่านคือคนที่ท่านไนท์เลือก พวกเขาเหล่านั้นต้องยอมรับการตัดสินใจของราชาอิกไนท์ อัลฟ่ารุ่นก่อน และยอมรับว่าท่านคืออัลฟ่าของดาวเฟลม่าคนปัจจุบัน ไม่ว่าพวกเขาจะพอใจหรือไม่ก็ตาม"

เวสต์เอ่ยขึ้นมาราวกับอ่านความกังวลในใจผมได้เลย ส่วนทุกครั้งที่ผมมองตาเขา ผมก็ยังอ่านได้เพียงความคิดที่ปนกันยุ่งเหยิงจนน่าปวดหัว แต่แค่นี้ก็พอแล้วที่จะทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น

"และยิ่งท่านชาร์ลเป็นเพื่อนของท่านไนท์ เขาต้องช่วยเหลือท่านได้แน่นอน เพราะเขาคือพันธมิตรคนสำคัญ และเป็นคนสุดท้ายที่ท่านไนท์ไปเจอ..."

ประโยคสุดท้ายนี้กลับทำให้ผมเบิกตากว้าง

ชาร์ลคนนี้ก็คือคนที่ท่านไนท์ไปเจอก่อนที่จะมอบพลังให้ผม งั้นเขาย่อมรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่านไนท์ในระหว่างนั้นใช่มั้ย?

"ท่านชาร์ลมาถึงแล้ว ข้าน้อยขอตัวก่อน" เวสต์ทำความเคารพแล้วรีบตัดการติดต่อไป

เปรี้ยะ เปรี้ยะ เปรี้ยะ

สะพานข้ามดาราปรากฎขึ้นหน้าเรือนรับรอง ผมเริ่มร้อนๆหนาวๆ แม้จะได้รับการวอร์มอัพมาเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ภาพที่เห็นกับการเผชิญกับความจริงมันก็แตกต่างกันเหลือเกิน

ความทรงจำสุดท้ายแล่นเข้ามาอีกครั้ง เสี้ยววินาทีก่อนที่สะพานข้ามดาราจะสำเร็จ

เป็นภาพหลังจากที่ชาร์ลประเคนลูกเตะใส่ไนท์ที่ปัดป้องอย่างไม่หวาดกลัวและหัวเราะร่วนไปด้วย

"อย่าเหงานะครับชาร์ล ถ้าผมไม่อยู่แล้ว"

ชาร์ลถุยเสียงดัง

"เอ็งไม่ต้องห่วง ถ้าข้าเหงา ข้าจะไปจิบชาแล้วกระทืบเอ็งแก้เซ็ง!"

"…"

เอ่อ เดี๋ยวนะ เขาคงไม่ได้จะมากระทืบผมจริงๆใช่มั้ย