Chapter 18 - บทที่ 18 กระสุน

เด็กสองคนนี้แปลกมาก พวกเขาดูเหมือนจะมีความลังเลนิดหน่อยเมื่อเดินลึกเข้าไปในสายหมอก แต่ก็ไร้ความหวาดกลัวใดๆ ต่ออันตรายอย่างอื่น

นี้ดูไม่เหมือนความคิดที่เด็กยากจนควรจะมี อัลเลย์ติดตามพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น 

จนสุดทาง ทั้งคู่ก็เดินไปถึงบ้านหลังหนึ่งในชายขอบของอำเภอเวสต์เมียร์ เขาจ้องมองเด็กชายที่นำจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะสอดเข้าไปผ่านทางหน้าต่างที่เปิดแง้มอยู่ แล้วจึงรีบเดินหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

อะไรกัน แค่แอบส่งจดหมายลับอย่างงั้นเหรอ เขานึกถึงการส่งรหัสลับที่เคยได้ยินมาจากโลกเก่า ดูเหมือนว่าโทรศัพท์จะยังไม่ถูกประดิษฐ์หรือแพร่หลายในตอนนี้สินะ

เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจอีกเขาก็ตัดสินใจจะเมินเฉยเหตุการณ์นี้ไป พลางคิดว่าจะเดินเลยเข้าไปในตัวเขตอำเภอนิดหน่อยเพื่อสืบหาข้อมูลต่อไปหรือไม่

เดี๋ยวก่อน...

ความรู้สึกแสบร้อนในดวงตาที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง อัลเลย์หันกลับไปมองบ้านหลังนั้นด้วยความตกตะลึง สัญชาตญาณของเขาร้องเตือนถึงบางสิ่งที่ตนคุ้นเคยอย่างดี

สัตว์ประหลาด?

ทำไมจู่ๆ ถึงมีสัตว์ประหลาดโผล่มาได้กัน

"โอ๊ย!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังแว่วขึ้นมาจากข้างในบ้านหลังนั้น ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นลังเลไม่นานก็ตัดสินใจเข้าไปสำรวจ

"หืม?"

เมื่อลองสอดส่องเข้าไปก็ทำให้ตัวเขาประหลาดใจ มันปกติมาก ไม่มีอะไรเลย ราวกับว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้านหลังนั้น

อัลเลย์เดินไปตามความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะเจอประตูบานหนึ่งที่ปิดล๊อกอย่างแน่นหนา เขามองประตูตรงหน้าด้วยความดูถูกเล็กน้อย ก่อนจะใช้กุญแจไขเข้าไปข้างใน

ก้าวเท้าลงไปอย่างช้าๆ ถึงจะมีเสียงไม้ดังขึ้นบ้างแต่ก็ไม่ได้ดังจนรับรู้ได้ง่าย เขาหลบซ่อนอยู่ด้านหลังกำแพงเอียงตัวเล็กน้อยแอบมองไปยังสถานการณ์ในห้อง

ห้องบ้านี่มันอะไร

มันเหมือนห้องทรมานที่ไม่ควรมีอยู่ที่ชั้นใต้ดินของบ้านธรรมดาทั่วไป แต่มาคิดอีกทีถ้าเป็นบ้านของคนธรรมดาทั่วไปก็คงไม่ต้องมาแอบส่งจดหมายกันแบบนี้

ชายผมสีดำมีบาดแผลที่ไหล่จนเลือดสีแดงไหลซึมออกมาเปื้อนชุดของเขาเป็นวงกว้าง ส่วนชายอีกคนกลับมีอาการติดเชื้อปนเปื้อนอย่างรวดเร็ว ผิวหนังตามร่างกายกำลังโป่งพองขึ้นมาอย่างช้าๆ

"อะ...อา..เด็กเวร...แก...ไอพวกคนบาป!!" 

ไม่ดี มันเริ่มคลุ้มคลั่งแล้ว

สัตว์ประหลาดที่ขยายตัวจนมีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า2เมตร เริ่มอาละวาดกวาดแขนทำลายข้าวของไปทั่ว

อัลเลย์ตัดสินใจอย่างรวดเร็วที่จะชายผมดำคนนั้น

สัตว์ประหลาดมีการแบ่งระดับเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพื้นฐานมาจากสิ่งมีชีวิตธรรมดาอย่างระดับ0 กับสัตว์ประหลาดที่มาจากผู้วิเศษหรือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังวิเศษ ส่วนใหญ่ตอนอยู่บนเรือแอสตราลิสอัลเลย์มักจะได้เผชิญหน้ากับพวกระดับ0พวกนั้นเหมือนกับตอนนี้

เก๊ง!!

"เฮ้!" อัลเลย์ฟาดท่อเหล็กในมือใส่พื้น ดึงดูดความสนใจทั้งชายคนนั้นกับสัตว์ประหลาดตรงหน้า ชายหนุ่มผมดำจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความสนใจ อ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง

"อ๊าาาา!!!!" ร่างขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้าหาอัลเลย์ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนขยับไปข้างหน้าตามกระแสนิวม่าในอากาศ ขยับซ้ายขวาหลบมือขนาดใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะเสียบท่อเข้าไปในส่วนอวัยวะที่เคยเป็นดวงตาของมนุษย์จนสุดแรง

สัตว์ประหลาดตัวนี้ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่อัลเลย์กลับเมินเฉย หลบฉากหลีกเลี่ยงออกไปข้างหลังมัน ก่อนจะคว้าเลื่อยลอที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นมา

ท่อในมือดูเหมือนจะดูไร้ค่าไปเลยเมื่อเทียบกับขนาดของสิ่งนั้น แต่ยังดีที่ห้องนี้เป็นห้องทรมาน ทำให้มีอุปกรณ์มากมายให้เขาหยิบยืมมาใช้งานก่อนได้เป็นจำนวนมาก

เขามองเลื่อยลอที่ติดอยู่บนร่างกายสัตว์ประหลาดตรงหน้า มือข้างซ้ายปรากฏหมุด4ตัวที่เผลอหยิบมาด้วยความบังเอิญเมื่อกี้ เมื่อหมุดถูกใช้จนหมด มือข้างขวาก็เผลอหยิบค้อนหงอนติดตัวมาด้วยความลืมตัว หลังจากผ่านไปไม่นานสัตว์ประหลาดตรงหน้าที่ตามตัวเต็มไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ก็หยุดนิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหวอีก

อัลเลย์นำปืนลูกโม่ที่ดูใช้ได้ขึ้นมาจากชั้นวางของ เมื่อมองเห็นว่าภายในมีกระสุนอยู่แค่2นัดก็ได้แค่ถอนหายใจ แต่สุดท้ายก็เก็บปืนนี้เอาไว้ในกระเป๋าอยู่ดี

เกินไว้ดีกว่าขาด...มันอาจจะได้ใช้ในอนาคต

"เอ่อ...คุณ" เขามองไปยังชายตรงหน้า ชายคนนี้พันแผลห้ามเลือดของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว แต่หน้าตาก็ยังคงขาวซีดอยู่ พร้อมใช้ดวงตาสีดำที่แดงก่ำราวกับจะร้องไห้ตลอดเวลามองมาที่ตน

"ไปหาหมอจะดีกว่านะ" หลังพูดจบก็ตัดสินใจวิ่งหนีออกจากบ้านหลังนี้ทันที การต่อสู้เมื่อกี้ส่งเสียงดังเกินไป คาดว่าคงจะดึงดูดเพื่อนบ้านในละแวกนี้ไม่น้อย เขาที่ในตอนนี้เป็นคนเถื่อนแอบเข้าเมืองการต้องมาเจอกับตำรวจก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินกว่ารับไหว

"ไม่...เด็กน้อย คุณทำสิ่งนี้ตก" ชายผมดำชูบางสิ่งที่ดูคุ้นตาขึ้นมาพร้อมส่งยิ้มมาให้ มันคือเหรียญชิลลิงสีทองเหลืองจำนวน2เหรียญ มันสะท้อนแสงไฟจากตะเกียงน้ำมันก๊าดแปร่งประกายแวววาวท่ามกลางบรรยากาศเย็นเฉียบ

เอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

อัลเลย์สัมผัสไปตามกระเป๋า ดูเหมือนว่าเงินจะหายไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวจริงๆ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่างจากชายคนนี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปยังคนตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะได้คำตอบเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

ผู้วิเศษ...แถมยังน่าจะเป็นระดับปราชญ์ด้วย 

ทำไมผู้วิเศษระดับปราชญ์ถึงไม่สามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ หรือว่าพลังไม่เหมาะกับการต่อสู้?

"โยนมาให้ผมก็พอ" ชายหนุ่มใช้ดวงตาสีดำจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความนัยบางอย่าง ก่อนจะแค่ส่งยิ้มมาให้พร้อมโยนชิลลิงทั้ง2เหรียญคืนไปยังเจ้าของ

พลังที่ต้องใช้การสัมผัส?

อัลเลย์เลือกที่จะไม่สนใจชายคนนี้อีก รีบออกจากบ้านหลังนี้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นจากห้องใต้ดินก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังแว่วมาจากรอบบ้าน

ผู้คนจำนวนหนึ่งมุงอยู่รอบบ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น เสียงที่ได้ยินจากบ้านหลังนี้ราวกับมีท่อแก๊สระเบิดอยู่ข้างใต้ยังไงอย่างงั้น

คนเยอะเกินไปจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออก

อัลเลย์เดินขึ้นไปยังชั้นสามของบ้าน เปิดหน้าต่างอย่างไม่เร่งรีบ ก่อนจะกระโดดออกไปยังหลังคาของบ้านข้างเคียง มองหาทำเลดีๆ สำหรับการลงไปยังพื้นอย่างปลอดภัย ใช้เวลาสักพักก่อนจะลงไปยังพื้นได้โดยสวัสดิภาพ

นี้เป็นทักษะที่มิลาด้าเป็นคนสอนเขา ไม่นึกเลยว่าเขาจะต้องได้ใช้มันเนื่องในโอกาสแบบนี้ เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย 

หลังจากการต่อสู้ท้องก็ส่งเสียงร้องด้วยความหิวโหยออกมา เขาได้แต่ชั่งใจว่าจะใช้เงินที่มีอยู่หาซื้ออะไรกิน หรือว่าจะใช้ทักษะกุญแจผีของตนในการปล้นสะดมอาหารตามบ้านชาวบ้านอีกดี

 

กริ๊ก--

"หยุดอยู่ตรงนั้น"

เสียงของบางอย่างดังขึ้นข้างหลัง อัลเลย์หยุดขยับในทันที เหงื่อเย็นค่อยๆ ไหลบนหลังของเขา

เชี่ย นั้นมันเสียงปืนชัดๆ

แล้วเสียงนั้นมันอาร์ชีไม่ใช่รึไง?

ถึงจะไม่ใช่คนความจำดีนัก แต่เสียงของชายคนนี้ก็ดูดีจนจำได้ไม่ลืมจริงๆ 

"ค่อยๆ หันกลับมา อย่าตุกติก" อัลเลย์หันไปมองชายหนุ่มตาฟ้าด้วยความสงบนิ่งผิดกับความปั่นป่วนในจิตใจ ถึงจะมีการแต่งตัวปกปิดอำพรางอยู่บ้าง แต่ตนคิดว่าก็คงไม่สามารถรอดพ้นสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าได้

อาร์ชีไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ตนพึ่งเจอมาเมื่อไม่นาน ใช้สายตาสำรวจเสื้อผ้าตามร่างกาย ก่อนจะยืนยันในใจว่านั้นเป็นเสื้อผ้าสมัยเด็กของเขาจริงๆ

"เจ้าหนู นายเข้าไปทำอะไรในบ้านหลังนั้น"

"ผมไม่มีเงิน ผมหิวมาก ก็เลยแอบเข้าไปหาอะไรกินนิดหน่อย" อัลเลย์ทำตาโตตอบกลับไป สักพักก็เริ่มทำหน้าตาเศร้าหมองให้เห็น

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันน่ากลัวมาก...ก็เลยรีบออกมา..." อาร์ชีมองเด็กตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง อัลเลย์ก็คาดเดาไว้แล้วว่าเขาคงจะหลอกนักจิตวิทยาอาชญากรรมคนนี้ไม่ได้ ได้แต่พยายามคิดถึงที่มาของร่างนี้ในใจ ว่าจะพยายามแต่งเรื่องยังไงให้คนเชื่อดี

กึก

โครม!!! 

รอยแตกร้าวขนาดใหญ่เกิดอย่างรวดเร็ว อาร์ชีมองไปยังสัตว์ประหลาดข้างหลังตนด้วยความตกตะลึง อัลเลย์ไม่รอช้าอาศัยจังหวะนี้รีบวิ่งหนีไป 

ชายหนุ่มเหลือบมองเด็กคนนั้นก่อนจะหันกลับไปสนใจสัตว์ประหลาดตรงหน้า ปืนลูกโม่ในมือปรากฏอักขระสีแดงเรืองแสงขึ้นมา

ปัง!!

เขายิงออกไปโดนหัวของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าอย่างแม่นยำ สัตว์ประหลาดกรีดร้องด้วยความโกรธ ก่อนจะมีแผลไฟไหม้ขนาดใหญ่แผดเผาลุกลามคล้ายโรคระบาด อาร์ชีเลิกสนใจสัตว์ประหลาดตัวนี้ทันที หันหลังกลับแล้วรีบวิ่งไปยังทิศทางที่อัลเลย์วิ่งหายไปทันที

เมื่อเห็นว่ามนุษย์ตรงหน้าวิ่งหายไปไม่สนใจมัน สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ยิ่งส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ก่อนจะรีบคืบคลานตามอาร์ชีไป

อัลเลย์กัดฟันแน่น ร่างนี้อ่อนแอเกินไปจริงๆ เพราะผ่านการต่อสู้มาไม่นานแล้วต้องมาวิ่งมาราธอนต่อเนื่องแบบนี้อีก ก็ยิ่งทำให้ปอดของเขาเจ็บปวดไปหมด ใช้เวลาไม่นานชายตาฟ้าคนนั้นก็วิ่งตามเขาทันแล้ว

เสียงของสัตว์ประหลาดดังไล่มาจากข้างหลัง เขากัดฟันแน่น รีบกระโดดหลบอวัยวะคล้ายหนวดของสัตว์ประหลาดข้างหลัง ก่อนจะตกไปอยู่ในอ้อมแขนของนักจิตวิทยาอาชญากรรมข้างหลัง

"..."

อาร์ชีไม่พูดอะไรทั้งนั้น แบกอัลเลย์ไว้บนไหล่ ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากสัตว์ประหลาดอย่างคล่องแคล่ว สมกับเป็นคนที่ทำงานกับตำรวจ สภาพร่างกายของชายคนนี้ดีจริงๆ

เขายกปืนลูกโม่ขึ้นมายิงไป3-4นัดสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ให้กับสัตว์ประหลาดตรงหน้าจนมันอ่อนแรงลง อัลเลย์จ้องมองปืนนั้นด้วยดวงตาใสแจ๋ว พยายามระงับความรู้อยากเห็นในใจตัวเอง

อาร์ชีเปิดกระเป๋าหนังของตน ก่อนจะนำบางสิ่งออกมา สิ่งนั้นคือตะเกียงดวงหนึ่ง เปลวไฟในตะเกียงส่องแสงสีเขียวแปลกประหลาดออกมาจนดูน่าขนลุก

เพียงแค่เปิดฝาตะเกียง เปลวไฟภายในก็ขยับกระโดดออกไปบนพื้น กลายร่างจากเปลวไฟขนาดเล็กให้กลายเป็นกริฟฟินไฟขนาดใหญ่

กริฟฟินสีเขียวตัวนี้อ้าปากทำท่าคำรามแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรดังออกมา ก่อนจะพุ่งกระโจมเข้าใส่สัตว์ประหลาดตรงหน้าจนถูกปกคลุมไปด้วยไฟสีเขียวขนาดใหญ่

แกร๊ก--

"..."

อัลเลย์ที่เผลอจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ก็ถึงได้รู้ตัวเมื่อมือของเขาถูกล๊อกด้วยกุญแจมือเย็นเฉียบติดกับข้อมือของอาร์ชี

เด็กหนุ่มใช้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองชายหนุ่มด้วยความว่างเปล่า อาร์ชีเมินเฉยสายตาของเด็กประหลาดคนนี้ พยายามควบคุมไฟสีเขียวจนเหงื่อผุดขึ้นทั่วหน้าผาก

มืออีกข้างของเขาที่เหลืออยู่ยกปืนลูกโม่ขึ้นมา แต่ครั้งนี้กระสุนภายในถูกบรรจุด้วยกระสุนสีเงินแปลกตา รัศมีสีทองแผ่กระจายออกมาจากมันเล็ก หลังจากเล็งไม่นานก็ลั่นไกออกไป ให้กระสุนฝังเข้าไปในหัวของสัตว์ประหลาดอีกครั้ง ครั้งนี้มันเป็นเพลิงสีทองคล้ายกับพลังของมิลาด้าที่แผดเผาสัตว์ประหลาดจนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น

ถึงจะคิดว่าไฟนี้คล้ายกับของมิลาด้า แต่ก็ต่างเล็กน้อยตรงที่ไร้ความรู้สึกอบอุ่นที่คุ้นเคย เมื่อสัตว์ประหลาดถูกเผาจนหมด ชายหนุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ถึงจะทำงานมาหลายปี แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังไม่ชินกับการต่อสู้พวกนี้สักที

อาร์ชีส่ายหัวด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะรู้สึกว่ากุญแจมือของตนถูกผูกติดกับบางอย่างที่แข็งมากจนดึงไม่ออก

"..." มองไปยังกุญแจมือที่ถูกล๊อกกับท่อด้านข้างด้วยดวงตาที่อ่านไม่ออก ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก่อนจะรีบหากุญแจมาปลดล๊อกแล้วรีบตามเด็กหนุ่มคนนั้นไปอย่างรวดเร็ว

"แฮกๆ...ฮะๆ!!" นอกจากจะใช้ปลดล๊อกก็ยังใช้ล๊อกอย่างอื่นได้ด้วย กุญแจดอกนี้เวลาจะมีประโยชน์ก็ดันออกมาดีเกินคาด 

เขาขยับเท้าไปวิ่งไปตามเส้นทางสลับซับซ้อนของตรอกแห่งนี้ แต่คล้ายว่าชายคนนั้นมีความสามารถบางอย่างในการติดตามเขา ถึงได้ตามติดเหมือนหมากฝรั่งที่ติดรองเท้าไม่มีผิด

"หยุดเดี๋ยวนี้!!" อาร์ชีที่ตอนนี้เหลือกระสุนปืนเพียง1นัด มองไปยังผู้วิเศษตรงหน้าด้วยสายตาพินิจ ดูเหมือนเด็กคนนี้จะไม่มีพลังในการต่อสู้ ความสามารถในการแก้ไขกุญแจข้อมืออย่างรวดเร็วนั้นคืออะไร? จะใช่ความสามารถพิเศษหรือเปล่า?

แต่ว่าถ้ายังวิ่งตรงไปตรงหน้า เลี้ยวซ้ายไป ทางที่จะไปได้....ทางตัน

อัลเลย์มองทางตันตรงหน้าอย่างเงียบงัน กำแพงตรงหน้าดูสูงเกินกว่าที่เขาคนเดียวจะปีนขึ้นไปได้

หรือว่าเราจะต้องไปอยู่ในห้องขังอีกจริงๆ?

หรือว่าจะลองต่อสู้กับอาร์ชีดู?

"ทางนี้!! จับมือผม" ชายหนุ่มผมดำที่อัลเลย์เคยพบในห้องใต้ดินยืนอยู่บนขอบกำแพง ใช้ดวงตาสีดำสนิทนั้นจ้องมองมายังเด็กหนุ่มเบื้องล่าง 

อัลเลย์มองมือของชายหนุ่มคนนั้นอย่างเงียบงัน เสียงของอาร์ชีดังไล่มาจากข้างหลัง ตัดสินใจไม่นานก็เลือกจับมือนั้นทันที

ชายหนุ่มผมดำยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะกระตุกอย่างรุนแรง ดวงตาสีดำนั้นเหมือนดูคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกจะส่งยิ้มร่าเริงตามปกติแล้วดึงอัลเลย์หลบหนีไปยังอีกฝั่งของกำแพง

หมอนี่มันทำตัวน่าสงสัยจริงๆ เขามองไปยังใบหน้าที่เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วด้วยความขนลุก

 

อาร์ชีมองไปยังกำแพงที่ว่างเปล่าตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง ความร้อนจากนาฬิกาข้อมือค่อยๆ หายไป สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเจ็บปวด

"พลาดอีกแล้วสิเรา..."