"รู้ไหม เบอร์โต้อะไรที่นายพลาดไป"
"สิ่งที่ผมพลาดไป?" ชายผมดำลดปืนในมือลงเล็กน้อย ความอยากรู้อยากเห็นและความตื่นเต้นปรากฏขึ้นในแววตา ตั้งตารอว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะพูดอะไรต่อไป
"จริงๆ นายดูถูกคนอื่นอยู่เสมอและคิดตลอดว่าทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง เห็นมนุษย์ทุกคนเป็นแค่เรื่องสนุก ไม่มีความเมตตาอย่างที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปควรจะมี" อัลเลย์ขยับแขนข้างที่ไหล่โดนยิงล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เบอร์โต้จ้องมองมือข้างนั้นด้วยความตื่นเต้น อยากรู้อยากเห็นว่าคืออะไรที่ซ้อนอยู่ในนั้น
ปืน ฟังจากเสียงจะต้องเป็นปืนแน่ๆ แต่เป็นวัตถุเล่นแร่แปรธาตุหรือวัตถุศักดิ์สิทธิ์? จะเอาออกมายิงหรือใช้ความสามารถพิเศษอะไร?
"ถ้าตามที่อัลเลย์พูด นายก็คงจะผิดคนแล้วล่ะ นั้นดูเหมือนกับเพื่อนคนหนึ่งของผมมากกว่า..." สมกับที่เป็นเพื่อนกันได้จริงๆ ดูเหมือนศีลจะเสมอกันเลยนี่
"แล้วอีกอย่างนะเบอร์โต้"
"โอ้ อะไรงั้นเหรอ" จะเริ่มแล้วสินะ ดวงตาสีดำขยายกว้างขึ้น ตั้งตารอดูการตอบโต้ของอัลเลย์อย่างตื่นเต้น พยายามจินตนาการว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะใช้วิธีการไหนถึงจะหนีไปจากสถานการณ์แบบนี้ได้
"ไก่ไข่สับปะรดพิซซ่า!!!!"
"ฮะ?"
ปัง!!!
อัลเลย์เอียงตัวหลบกระสุนที่พุ่งผ่านแขนไป ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการไขเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก่อนจะทำการล๊อกปิดประตูกลับเหมือนเดิม ในขณะที่ใช้แขนอันสั่นเทาอีกข้างเอื้อมไปหยิบปืนที่ตนหยิบยืมจากบ้านหลังก่อนหน้ามาใช้ป้องกันตัว
ปืนนี้มีกระสุนอยู่แค่2นัดเท่านั้น ถึงโลกก่อนจะมีชีวิตอยู่ในประเทศเสรีที่ผู้คนต่างก็สามารถครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมาย แต่อัลเลย์กลับเป็นคนที่ไม่เคยยิงปืนเลยสักครั้ง ถ้ายิงในระยะ3เมตรอย่างน้อยเขาก็คิดว่าน่าจะยิงโดนสักส่วนอยู่บ้างแหละน่า
"ไก่ไข่สับปะรดพิซซ่า? สับปะรดกับพิซซ่าคืออะไร?" เสียงของเบอร์โต้ดังแว่วมาจากหลังประตู
มนุษย์ที่อยากรู้อยากเห็นอย่างชายคนนี้ จะต้องมีค่าแรงบันดาลใจสูงเป็นแน่ คนแบบนี้มักจะชอบตีความและสังเกตอะไรเล็กน้อยเสมอ แม้แต่คำว่า'ไก่ไข่สับปะรดพิซซ่า' ก็ต้องเผลอพยายามคิดถึงความหมายของมันสักเสี้ยวหนึ่ง
อัลเลย์มองไล่ตามเส้นสายสีทองเข้าไปยังตู้ไม้ที่มุมห้อง ดูเหมือนที่นี่จะเป็นห้องนอน ถึงได้เต็มไปด้วยกองผ้ากับของสะสมมากมาย
"นี่คือเล่นซ่อนหางั้นเหรอ ผมจะเปิดเข้าไปแล้วนะ--"
แอ๊ด
ในจังหวะเดียวกับที่เบอร์โต้เปิดประตู อัลเลย์ก็เปิดตู้ไม้ออกเช่นกัน ก่อนจะตกตะลึงเมื่อพบเจอกับจุดหมายของเส้นด้ายสีทองเส้นนั้น
มันคือตะเกียง
เป็นตะเกียงที่ทำงานเงินทั้งหมด แบ่งเป็น8เหลี่ยมชัดเจน ด้านบนถูกเชื่อมด้วยโซ่เหล็กที่หนาไม่ต่ำกว่า10มิลลิเมตร จริงๆ จะพูดว่าเป็นตะเกียงก็ดูกระดากปาก เพราะนอกจากรูปทรงภายนอกที่ดูราบเรียบก็มีรูให้เห็นแสงภายในแค่วงกลมเล็กๆ ด้านละ1วงเท่านั้น
"ทำไม? ตกใจงั้นเหรอที่ไม่เจอร่างมนุษย์" เบอร์โต้ล๊อกประตูข้างหลัง ก่อนจะหันไปมองอัลเลย์ ภายในดวงตานอกจากความสนุกก็ยังมีแววเยาะเย้ยแฝงอยู่
"คิดว่าความสามารถของผมคือการสิงสู่งั้นเหรอ? ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องเสียใจด้วยนะ คำตอบของนายผิดแล้วล่ะ"
แกร๊ก
"อยากจะลองทายดูอีกรอบไหม?"
ไม่ใช่การสิงสู่... อัลเลย์นึกถึงรายละเอียดทุกอย่างที่ตนนึกถึง เป็นความสามารถของคนอยากรู้อยากเห็น สามารถเข้าควบคุมร่างกายคนอื่นได้
เขานึกถึงตอนที่ชายคนนี้จูงมือตนมายังที่นี่ ทำไมตอนนั้นเขาถึงได้ยอมเดินตามมาง่ายๆ กัน? สะบัดมือไม่หลุด? ไม่...นั้นคือเหตุผลที่ชายคนนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ชุดความคิดนั้นของเขาดูสมเหตุสมผลเท่านั้นคล้ายกับที่ทำกับโรแลนด์
"ความสามารถของคุณคือการเข้าไปภายในจิตใจของคนอื่น เพื่อดูความทรงจำและควบคุม โดยมีเงื่อนไขคือการสัมผัส"
"หืม?" เบอร์โต้มองอัลเลย์ด้วยความสนใจ
"ใกล้เคียงแต่ก็ยังไม่ถูกต้อง น่าเสียดาย... ดูเหมือนนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกเราได้เจอกันแล้ว" พิซซ่ากับสับปะรดก็น่าจะเป็นคำที่มีไว้ให้ตนสับสนเฉยๆ สินะ ไม่เป็นไร ถ้ามันมีความหมายบางอย่างก็ค่อยไปศึกษาต่อทีหลังแล้วกัน
"ใช่ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่ามาเจอกันอีกเลย"
ปัง!!!
เบอร์โต้หลบกระสุนด้วยท่าทางแปลกประหลาด ดวงตากวาดมองไปอัลเลย์ เด็กหนุ่มรีบพุ่งตัวเข้าหาชายตรงหน้า ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็มีกระสุนอยู่1นัด เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน จุดสีทองขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาภายในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
พวกเขาอยู่ห่างกันไม่เกิน1เมตร ภาพของเบอร์โต้ที่กดไกปืนอย่างเชื่องช้าสะท้อนอยู่ภายในดวงตาของเขา อัลเลย์ขยับเท้าข้างขวา ย่อตัวลงเล็กน้อย ดวงตาจับจ้องไปยังลำกล้องปืนของคนตรงหน้า มือข้างซ้ายจับปืนลูกโม่ในมือแน่น
ปัง
ลูกกระสุนจากปืนทั้งสองกระบอกพุ่งเข้าหากัน ก่อนจะเฉี่ยวผ่านเล็กน้อยจนถูกหักเหออกจากทิศทางเดิม กระสุนของเบอร์โต้ฝังเข้าไปในผนังข้างๆ ส่วนชายหนุ่มผมดำก็มองดูเลือดที่พุ่งออกมาจากแผลถูกยิงที่ท้องด้วยความตกตะลึง
"อึก"
แผลเก่าที่ไหล่ทำให้อัลเลย์เผลอร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด แผลถูกยิงต่างจากแผลถูกฟันมาก เป็นความรู้สึกแสบและเจ็บตื้อๆ ลึกเข้าไปข้างใน
"เมื่อกี้ทำได้ยังไง? เป็นแรงบันดาลใจหรือเพราะพลังวิเศษของนาย..."
เขาไม่รออยู่ฟังคนจิตวิปริตคนนี้อีกต่อไป เขาไม่รู้ว่าความสามารถจริงๆ ของชายคนนี้สามารถทำอะไรได้อีกบ้าง แต่ทั้งหมดที่ทราบตอนนี้มันก็เยอะมากพอแล้ว
ที่นี่เป็นโรงงานทอผ้าเก่าที่ถูกต่อเติมทีหลังจนมีห้องหลายห้องโผล่ขึ้นมา เส้นทางก็วกวนซับซ้อนจนน่ามึนหัว เสียงของเบอร์โต้ดังแว่วมาเป็นระยะ คอยถามคำถามไม่หยุดหย่อน น่ากลัวยิ่งกว่าฆาตกรโรคจิตในหนังสยองขวัญเกรดBสมัยก่อน
ตั้งแต่ตอนที่จับมือกันก่อนหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะการคุ้มครองของผู้ทำนายดวงดาวร่างของเขาก็อาจจะถูกควบคุมโดยชายคนนั้นไปแล้ว
"ผมขอโทษอัลเลย์ นายน่าสนใจกว่าที่คิดมากจริงๆ บางทีเราอาจจะสามารถคุยปรับความเข้าใจผิดกันได้"
จริงๆ อย่ามาเจอกันอีกเลยดีกว่า
สายตาของเด็กจรจัดจำนวนมากจ้องมองไปยังภาพตรงหน้า ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาและไม่ยอมเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายนี้ พยายามเบียดตัวหลบเลี่ยงจากปัญหาทั้งปวง
"ลอเรนด์ไม่คิดว่าแปลกรึไง! เบอร์โต้พาใครก็ไม่รู้กลับมาที่บ้านเราเลยนะ"
"ก็เป็นเรื่องปกติของพี่เขานี่" เบอร์โต้เป็นคนใจดีแบบนี้มาเสมอ เด็กสาวถึงอดีตในตอนที่เธอถูกทิ้ง ในตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะความใจดีของเบอร์โต้ที่รับเธอมาดูแล ชีวิตของลอเรนด์ก็อาจจะไม่ยืนยาวจนถึงตอนนี้
ถ้าเบอร์โต้รับคนมาเพิ่มในครอบครัว แบบนี้เธอก็จะกลายเป็นพี่สาวแล้วน่ะสิ
"แต่นี่ไม่ใช่เด็กนะ...เขาดูอายุเยอะกว่าเราด้วยซ้ำ..."
"เยอะกว่า?"
ลอเรนด์ในตอนนี้แต่งตัวดูดีกว่าเด็กจรจัดคนอื่นมาก หากให้เธอไปเดินบนถนนในเวสต์เมียร์ก็คงดูไม่แตกต่างอะไรกับเด็กๆ ในเขตอำเภอนั้น
เด็กสาวได้รับความเคารพจากสมาชิกสมาคม ได้รับการดูแลอย่างดีจากหัวหน้าสมาคม เปลี่ยนเด็กน้อยที่ซูบผอมก่อนหน้านี้ให้กลายเป็นเด็กสาวที่มีหน้าตางดงาม ดวงตาสีดำกลมโตนั้นคล้ายกับดวงตาของกวางไม่มีผิด
เมื่อครั้งที่ท่านหัวหน้าสมาคมช่วยชีวิตพี่ชายของตนเอาไว้ พวกเขาก็มั่นใจมากขึ้นว่าท่านคือศาสดาผู้นำพาเสียงของพระเจ้าตัวจริง
ถ้าไม่ใช่พลังของเทพ แล้วจะมีอะไรอีกที่สามารถฟื้นคืนชีพคนตายได้?
"ไม่เป็นไรหรอก ด้วยเครื่องรางที่หัวหน้าสมาคมมอบให้จะไม่มีอะไรทำร้ายพี่ได้แน่นอน" ลอเรนด์ยิ้มปลอบใจพี่ชาย เครื่องรางที่ว่าคือสร้อยคอเงินที่เธอได้รับเป็นรางวัลจากหัวหน้าสมาคม หากมีใครที่ตั้งใจจะทำร้ายพี่ชายของเราเจ้านั้นจะต้องชดใช้อย่างสาสมแน่นอน
ปัง
เสียงปืนดังแว่วมาจากห้องของพวกเขา ทำให้สีหน้าของเด็กทั้งสองเปลี่ยนไป ลอเรนด์จับแขนของโรแลนด์แล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
"เป้าหมายปรากฏตัวในโรงงานแล้ว"
"ไม่มีน้ำมันก๊าดเหลืออยู่ในท่อครับ"
"ระเบิดถูกติดตั้งไว้เรียบร้อยค่ะ"
เจ้าหน้าที่BPIรับข้อความจากเจ้าหน้าที่คนอื่นผ่านเครื่องมือเฉพาะ ก่อนจะรายงานให้กับเด็กสาวด้านหลังตน น่าแปลกที่เจ้าหน้าที่BPIรอบๆ ต่างก็แสดงท่าทางเคารพเด็กที่สูงไม่ถึง160เซนติเมตรคนนี้
เธอนั้นราวกับเจ้าหญิงหิมะขาว ผิวขาวซีดกับผมสีขาวตัดสั้นยุ่งฟูนิดหน่อยคล้ายขนแกะ สวมเครื่องแต่งกายสีขาวสวยงามราวกับเจ้าหญิง เธอจับเรเปียร์ในมือให้กระชับขึ้น ใช้ดวงตาสีแดงเลือดจ้องมองไปยังโรงงานข้างล่าง
ที่นี่เคยเป็นโรงงานทอผ้าขนาดใหญ่มาก่อน มีพื้นที่กว้าง เครื่องจักรเก่า ห้องเก็บของ และท่อใต้ดิน ก่อนจะถูกยึดครองโดยคนจรจัดและกลุ่มคนชนชั้นล่าง แล้วจึงปรับปรุงมันจนมีทั้งอุโมงค์ ห้องลับ กับดัก และทางหนีมากมาย
แถมโรแลนด์กับลอเรนด์ก็มีวิธีการเดินทางพิเศษ น่าจะเป็นวัตถุเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้งานร่วมกับพลังวิเศษของใครบางคน
เด็กจรจัดในโรงงานต่างก็มีอาวุธติดมือกันทั้งนั้นไม่ว่าจะมีด กระบอง หรือแม้แต่ปืนเถื่อน แถมทุกคนต่างก็มีช่องทางการหนีของตัวเองอีกด้วย
หากเป็นเวลาปกติก็คงต้องส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไป แต่ในตอนนี้เมื่อได้รับจดหมายจากเจ้าคนแปลกประหลาดที่แฝงตัวเข้าไปตั้งแต่แรก ทุกอย่างก็ง่ายดายไปหมด
เหลือเพียงแค่รอสัญญาณเท่านั้น
"พี่!!"
เสียงของเด็กที่พึ่งแตกหนุ่มตะโกนดังขึ้น โรแลนด์มองไปยังเบอร์โต้ด้วยความหวาดกลัว เมื่อเจอภาพพี่ชายของตนที่มือข้างขวาข้างถือปืนมือข้างซ้ายกดแผลที่ท้อง ภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดเมื่อ2ปีก่อนก็แวบเข้ามาในหัว ทำให้ทั้งสองพี่น้องเกือบจะเป็นลมล้มไปเสียตรงนั้น
"อะไร! ใครยิงพี่ มันเป็นใคร!!" เสียงของลอเรนด์ดังจนกลบเสียงพี่ชายตน เด็กจรจัดโดยรอบรีบหนีออกจากบริเวณนั้นด้วยความหวาดกลัว อัลเลย์ที่ได้ยินเสียงดังกล่าวก็รีบถอยห่างจากจุดนั้นยิ่งกว่าเดิม
"ผมกำลังตามหาอัลเลย์อยู่เพราะงั้นช่วยหลีกทางหน่อยได้ไหม มันน่ารำคาญนะ" เขาหยีตาลงเล็กน้อย เบอร์โต้ยิ้มด้วยความอารมณ์ดี ราวกับบาดแผลที่ท้องไม่ได้ส่งผลอะไรต่อตัวเขาเลย
"ฮะ? พี่พูดอะไร...?" โรแลนด์มองพี่ชายของตนด้วยความตกตะลึง เลือดสีแดงซึมผ่านเนื้อผ้าสีขาวอาบย้อมจนกลายเป็นลวดลายกุหลาบสวยงาม
"มานี่สิโรแลนด์"
เด็กหนุ่มมองมือเปื้อนเลือดของพี่ชายที่ยื่นมาตรงหน้า จิตใจ ความนึกคิด และความหวาดกลัวทำให้มือสั่นเทา เขารีบยื่นมือไปจับตอบรับด้วยความหวาดกลัวว่าพี่ชายจะหายไป
"ผมไม่มีเวลาเล่นตลกมากนักหรอกนะ" ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ลอเรนด์จ้องมองปืนกุหลาบเงินในมือของเบอร์โต้ด้วยความสงสัย ตั้งแต่ตอนไหนที่พี่ชายตนมีปืนแบบนี้ในการครอบครองกัน
"พี่หมายความว่ายังไง...ช่างมันเถอะ! ตอนนี้รีบไปหาหมอในเมืองก่อน!!" ที่ทำงานหนักมาตลอดก็เพื่อสิ่งนี้ ตนจะไม่ยอมให้ครอบครัวของเราต้องตายเพราะอาการบาดเจ็บอีกแล้ว
"พอเถอะ" ดวงตาสีดำมืดนั้นว่างเปล่าไม่มีประกายอะไรเลย เหมือนกับคนที่ต้องเจอเรื่องน่าเบื่อในชีวิตประจำวัน
"ผมไม่ใช่พี่ชายของคุณ"
"อะไร? พี่พูดอะไร..."
"โรแลนด์!?" ลอเรนด์มองเห็นได้ถึงบางอย่าง บางสิ่งที่เธอมองข้ามและไม่สังเกตมาก่อน
ใช่แล้ว ท่านศาสดาบอกว่าพี่ชายของพวกเขาจะต้องใช้เวลาในการหายดี เพราะอย่างงั้นเขาก็เลยต้องพูดไม่ได้ไปสักพักและนอนอัมพาตอยู่บนเตียง
แต่จู่ๆ การที่พี่ชายก็พูดจาคล่องแคล่วและลุกขึ้นมาเดินได้แบบนี้โดยที่พวกตนไม่สงสัยเลยจะเป็นไปได้อย่างไร? ภาพของพี่ชายตรงหน้าบิดเบือนไปจนดูราวกับไม่ใช่ความจริง เป็นแค่'เปลือก'ของพี่เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
เป็นฝีมือของผู้วิเศษ!
"มันสายไปแล้วนะ" ดวงตาของโรแลนด์หมองลง ร่างของเด็กหนุ่มทิ้งตัวลงไปนอนบนพื้นคล้ายกับตุ๊กตาที่ไร้สายควบคุม
"แก!" เด็กสาวตื่นตระหนกถึงขีดสุด ลูกตาดำหดตัวเล็กลง เจตนาฆ่าพวยพุ่งออกมาใส่ชายตรงหน้า
ตูมมมม!!
เสียงระเบิดดังมาจากภายในอุโมงค์ใต้ดิน ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ทรุดลงไปข้างล่าง ลอเรนด์พยายามทรงตัวก่อนจะถูกดึงลงไปตามแรงโน้มถ่วง เบอร์โต้จับโรแลนด์ยกขึ้นมาก่อนจะตกลงไปสู่ชั้นล่างด้วยเช่นกัน
อัลเลย์ที่พึ่งพบทางออกก็เช่นกัน เด็กหนุ่มจ้องมองประตูโรงงานข้างบนด้วยความเงียบงัน หลุมนี้ลึกถึง6เมตร ยากที่จะปีนขึ้นไปคนเดียว เสียงของความโกลาหลรอบๆ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งด้วยความคุ้มชินที่พัฒนาขึ้นจากเรือแอสตราลิสในฝันแรก
นี้มันเกิดอะไรขึ้น?
"ตำรวจ! คนของทางการ!" มีเด็กจรจัดคนไหนที่ไม่เคยก่ออาชญากรรมบ้าง? ผู้คนที่นี่ต่างก็ต้องเคยส่งจดหมายเถื่อนกันทั้งนั้น ทุกคนต่างก็หยิบจับอาวุธขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับตำรวจพวกนั้น บ้างก็พยายามหาทางหลบหนีออกจากที่นี่
อัลเลย์มองภาพเหล่านี้ด้วยความสงบ จากความซวยตลอดที่ผ่านมาก็บ่งบอกได้ว่าดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ชอบขี้หน้าตนจริงๆ