ถึงอย่างนั้นการจับกุมองค์กรเด็กจรจัดภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ดูน่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ
อาร์ชีไม่ได้เจอชายคนนี้มานานแล้วหลังจากที่จบจากมิสคาโทนิค ในขณะที่ซิลเวสเตอร์บรรจุเข้าPCDทันทีหลังเรียนจบ ตนกลับต้องกลับไปยังอาณาจักรเลเวนฮุคเพื่อเข้าเฝ้าราชินี ก่อนจะย้ายมาเป็นนักจิตวิทยาอาชญากรรมที่มิสบอร์น
จริงๆ สิ่งที่เขาพูดก็เขาใจง่ายกว่าที่คิด เพราะจากสถิติที่เก็บมาจะพบว่าเด็กจรจัดเหล่านั้นสามารถเข้าถึงงานส่งจดหมายได้มากกว่าคนชนชั้นล่างแบบอื่น นั้นก็สามารถสรุปได้ว่านายBที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าจะต้องเข้าถึงเด็กจรจัดได้มากกว่าชนชั้นอื่นๆ แน่นอน
ถ้าเป็นนายAโดยปกติต่อให้เร่งรีบแค่ไหนเขาก็จะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกเปิดโปงง่ายๆ ดังนั้นนายBก็น่าจะเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับกระบวนการอาชญากรรมมากนัก ยังอายุน้อย ประสบการณ์ในงานด้านนี้จำกัด และเพิ่งเข้ามามีส่วนร่วมเป็นครั้งแรก
"เขาน่าจะเป็นเด็กจรจัดที่แทบไม่เข้าใจโครงสร้างของโลกอาชญากรรมและโลกของผู้วิเศษเลย บางทีเขาอาจจะเป็นแค่เด็กธรรมดาที่ถูกชักจูงเข้าสู่เครือข่ายนี้โดยไม่รู้ตัว มักจะมีลักษณะพึ่งพิงบุคคลอื่นสูง ซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะมีครอบครัวที่นายAใช้เป็นเครื่องมือควบคุม และอาจมีพฤติกรรมต่อต้านสังคมจากการขาดความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับผู้คนรอบตัว"
"น่าจะเป็นเด็กผู้ชายอายุไม่เกิน15ปี มีแนวโน้มที่จะมองโลกแบบขาวดำ เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองมากกว่าการพิจารณาข้อมูลจากแหล่งอื่น และมีแนวโน้มจะขาดความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นจากการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ที่สำคัญการที่นายAยอมให้เขาลงมืออย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่คนสำคัญในแผนของนายAและอาจถูกตัดทิ้งได้ทุกเมื่อ"
"น่าจะเป็นครอบครัวของเขาที่ถูกควบคุมโดยนายAมากกว่าที่มีความสำคัญต่อแผน เขาอาจจะเป็นแค่ทางผ่านสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเท่านั้น"
อาร์ชีใช้นิ้วแตะคางอย่างเป็นนิสัยเมื่อกำลังคิดอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง ก่อนจะสรุปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
"ถ้าเป็นแบบนั้น เราต้องรีบลงมือก่อนที่จะสายเกินไป"
"แล้วเราจะหาพวกเขาได้ยังไง"
ถึงหาเจอก็ต้องวางแผนจับกุมอีก เด็กจรจัดในเมืองนี้มีไม่ต่ำกว่า200คน การที่จะหาตัวการจากคนเหล่านั้นก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย
ซิลเวสเตอร์เคาะนิ้วบนโต๊ะเป็นจังหวะ ทำให้ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียง ก๊อก ก๊อก ดังกังวานไปทั่ว
"จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่PCDที่เข้ามาเกี่ยวข้อง" หญิงสาวผมดำที่นั่งเงียบมาตลอดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเขินอาย
"ทางBPIก็ส่งสมาชิกของ3มงกุฎสายตรงมาด้วย..." อาร์ชีรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย ใช้ดวงตาจ้องไปยังชายผมน้ำตาลที่ยังนั่งเหม่อลอยใช้มือเคาะโต๊ะเล่นโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น
"ท่านกิลเบิร์ต?"
"ไม่ใช่ค่ะ เป็นท่านฟิลิป" งั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย
"แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยากอยู่ดี" ถึงสายตรงของ3มงกุฎจะต่างก็เป็นอัจฉริยะ แต่ท่านฟิลิปก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ15อยู่ดี
"ไม่ต้องห่วงหรอกอาร์ชี~ นายก็รู้ว่าทุกอย่างที่ผมพูดไปจะเป็นความจริง คิดว่าแค่จับกุมองค์กรเด็กจรจัดแค่นี้ผมจะทำไม่ได้รึไง?" ซิลเวสเตอร์ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะไถลตัวลงไปนอนกับโต๊ะ
มันก็จริงอย่างที่เขาพูด แต่พฤติกรรมที่ชอบทำตัวเหม่อลอยเหลวไหลแบบนี้ก็ชอบทำให้เขาหลงลืมเรื่องนั้นไปทุกที
"พอดีคุณชายส่งจดหมายมาให้ก่อนหน้าที่จะมาพอร์ตเอลเวย์น แล้วเขาก็ดันสนใจเรื่องนี้พอดี" ชายหนุ่มฟุบหน้าลงกับโต๊ะส่งเสียงพึมพำออกมา
"คุณชาย? เขาหนีออกมาจากแบล็กเมอร์แล้วงั้นเหรอ..."
"ไม่แปลกหรอก สำหรับคนแบบนั้น ถึงยังไงการขังทายาทสายตรงในนั้นต่อไปก็คงดูไม่ดีอยู่แล้วนี่"
คุกแบล็กเมอร์ เป็นคุกที่ถูกตั้งอยู่ในอาณาเขตทะเลดำ จมลึกลงไปในทะเลสีดำถึง2กิโลเมตร ที่นั่นถูกควบคุมด้วยตัวตนระดับสูง มีเอาไว้ใช้คุมขังนักโทษผู้วิเศษและตัวตนระดับสูงที่ทำผิดกฎหมายร้ายแรง ถ้าหากถูกขังอยู่ที่นั่นก็จะไม่มีโอกาสได้ออกมาเจอแสงสว่างอีก
แต่ก็มีกรณียกเว้น...
3มงกุฎ 3ตระกูลผู้ก่อตั้งดินแดนมนุษย์ เต็มไปด้วยอำนาจ ตัวตนระดับสูง วัตถุวิเศษ และประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ มีศูนย์กลางอยู่ที่อาณาจักรเลเวนฮุค ก่อนแผ่ขยายอำนาจแทรกซึมไปในทั่วทุกประเทศ
'คุณชาย' ทายาทสายตรงคนนี้เป็นที่รู้กันว่ามีความไม่ลงรอยกับพี่สาวต่างมารดา อาร์ชีไม่รู้รายละเอียดมากนักว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ทั้งคู่พนันกันด้วยเรื่องบางอย่าง สุดท้ายก็เป็นเขาเสียเองที่ต้องแพ้จนไปถูกขังอยู่ในแบล็กเมอร์
"ความสามารถของเขาน่ารำคาญจริงๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะความร่วมมือของเขาทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น"
แอ๊ด
"ขออนุญาตครับ" สมาชิกคนที่6ของPCDเดินเข้ามา ก่อนจะยื่นจดหมายปิดผนึกฉบับหนึ่งให้ซิลเวสเตอร์
ซิลเวสเตอร์รับจดหมายมาก่อนจะฉีกซองอย่างหยาบคาย ค่อยๆ ไล่สายตาอ่านเนื้อหาภายใน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
"อืม ถึงจะน่ารำคาญแต่ก็มีประโยชน์จริงๆ คราวหน้าค่อยหาพลังแนวนี้มั่งดีกว่า"
เป็นพวกผีที่เห็นผีด้วยกันเองมากกว่า ทุกคนในห้องยกเว้นซิลเวสเตอร์คิดประโยคนี้ขึ้นมาในใจ
"โอ้? อยากคุยงั้นเหรอ เอาสิเรามานั่งคุยกัน" เบอร์โต้ตอบกลับอย่างว่าง่าย ใช้มือบรรจงยกถ้วยชาขึ้นมาจิบด้วยท่าทางของชนชั้นสูง
"ครับ..."
"โซฟาที่นี่แข็งเกินไปจริงๆ หวังว่าอัลเลย์จะไม่ว่าอะไร"
"ผมไม่เรื่องมากเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว" นี่มันแข็งพอๆ กับพื้นไม้เลยนะเนี่ย
เป็นความขัดแย้งที่ชัดเจนมาก ร่างกายของเบอร์โต้คนนี้ต่างก็เต็มไปด้วยร่องรอยและกลิ่นอายของคนที่ทำอาชีพใช้แรงงาน แต่ท่าทางตอนนี้กลับดูมีการศึกษาคล้ายพวกชนชั้นสูงไม่มีผิด
นี้ไม่ใช่ร่างกายแท้จริง
ดวงตาของอัลเลย์จ้องไปยังกลุ่มแสงสีทองภายในตัวชายตรงหน้า ก่อนหน้านี้มันไม่ชัดเจนมากนัก แต่เมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องนี้ ตนก็สามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้ชัดขึ้น
เป็นสายใยสีทองขนาดเล็กคล้ายเส้นด้าย เชื่อมต่อจากภายในร่างกายของเบอร์โต้ เส้นด้ายนี้ลอยทะลุประตูไปยังอีกห้องหนึ่ง ดูเหมือนจะต้องมีร่างจริงของเขาอยู่ภายในห้องนั้นเป็นแน่
อัลเลย์เคยเจอรูปแบบพลังวิเศษไม่มากนักในโลกนี้ แต่อย่าลืมว่าเขาเป็นมนุษย์ที่มาจากสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยสื่อบันเทิงมากมาย รูปแบบพลังแบบนี้ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นรูปแบบการสิงสู่บางอย่าง
"แล้วอยากจะคุยเรื่องอะไรล่ะ? หรือว่าอยากจะเล่าที่มาของนาย"
"ถ้าเล่าไปคุณก็คงจะฆ่าผมได้อย่างสบายใจงั้นสินะครับ"
"ฮะๆ เห็นฉันเป็นคนยังไงกัน นี้แค่จะถ่วงเวลางั้นเหรอ?"
"เรามาเล่นพนันกันครับ"
"พนัน?" เบอร์โต้เลิกคิ้วพร้อมทำสีหน้าแปลกๆ
"หืม เอาสิเรามาพนันกัน แล้วข้อแลกเปลี่ยนล่ะ" ชายหนุ่มวางชาลงอย่างแผ่วเบา ใช้ดวงตาสีดำจ้องไปยังเด็กหนุ่มตรงข้าม
"ถ้าแพ้ ผมจะตอบคำถามของคุณ แต่ถ้าชนะ คุณจะต้องไม่ทำร้ายผม ส่วนวิธีการพนันเชิญคุณคิดได้เลยครับ" ชายคนนี้จะไม่ยอมฆ่าเขาง่ายๆ จนกว่าจะได้รู้สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจอย่างแน่นอน
"ไม่ทำร้าย...น่าสนใจจริงๆ แล้วที่บอกว่าตอบคำถามนี่ แปลว่าถ้าไม่ได้ถามแบบเจาะจงก็จะพยายามพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงคำใช่ไหม"
"...ครับ" ไม่ชอบหมอนี่เลยจริงๆ
"งั้นเอาอย่างงี้ เรามาเล่นสิ่งนี้กันเถอะ"
เบอร์โต้ส่งยิ้มว่างเปล่ามาให้ ก่อนจะนำปืนออกมาจากข้างในเสื้อคลุมแล้วจึงนำมันมาวางไว้บนโต๊ะ
เป็นปืนลูกโม่สีเงินที่เต็มไปด้วยลวดลายกุหลาบสวยงามมีความยาวลำกล้องปืนถึง6นิ้ว ปืนกุหลาบเงินอันนี้ดูดีกว่าปืนของอาร์ชีเสียอีก แต่มันกลับทำให้อัลเลย์รู้สึกไม่ดี
"ปืนลูกโม่นี้บรรจุกระสุนจนเต็ม เรามาพนันกันเถอะอัลเลย์ ว่านายจะตายไหมหลังจากที่ผมยิงมันใส่หัวของนายหลังจากที่ตอบคำถาม"
"...!!"
นี้เป็นการพนันบ้าบออะไรกันนี่
ตายหรือไม่ตาย สมกับพวกจิตไม่ปกติ
"เบอร์โต้ คุณคิดว่าผมน่าสนใจตรงไหนเหรอครับ"
"โอ้ มันคล้ายกับอัญมณีที่ไม่รู้ว่าตัวเองแปร่งประกาย" รอยยิ้มบางๆ แต้มบนใบหน้าราวกับเพลิดเพลินกับสิ่งที่ค้นพบ
"ไม่ว่าจะวิธีคิด การพูดคุย การเดิน การวางตัว ทุกอย่างดูขัดกับยุคสมัยไปหมด พื้นที่ที่นายจากมาคือที่ไหน?" เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ใช้ดวงตาสีดำนั้นจ้องมองอัลเลย์อย่างพินิจพิเคราะห์ราวกับกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
"ดูเหมือนจะเป็นที่ที่ดูอิสระแต่ก็ถูกบังคับด้วยกฎหมายอยู่สินะ ไม่ใช่คนชนชั้นต่ำไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ลำบากจนถึงขั้นอดอยาก... จริงๆ โซฟานี้แข็งมากเลยใช่ไหม? เคยนั่งอันที่ดีกว่านี้มาหรือเปล่า"
"จะที่ไหนได้อีกล่ะครับ ก็เป็นแค่คนจรจัดไร้ที่อยู่นี่" อัลเลย์สบตาเขานิ่งๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"คนจรจัด?" ชายคนนี้หัวเราะในลำคอเล็กน้อย ดวงตาประกายด้วยความสนุกสนาน คล้ายตอนเห็นมุกตลกประจำวันในหน้าหนังสือพิมพ์
"บอกว่าเป็นคนจรจัดแต่ก็ดันมีความเห็นใจต่อเด็กจรจัดคนอื่น?" รอยยิ้มว่างเปล่ายังคงประดับอยู่บนใบหน้าของชายตรงหน้า
"นี้ไม่ดูขัดแย้งไปหน่อยเหรอ?"
ยิ่งระดับสูงขึ้น ผู้วิเศษก็จะยิ่งถูกครอบงำด้วยพลังวิเศษ ชายคนนี้ไม่ได้ปิดบังเลยว่าเขาเป็นคนช่างสงสัย ถ้าตามหลักคงเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าอัลเลย์ก่อนที่จะรู้สิ่งที่ต้องการ
แต่นั้นคือตามหลัก ถ้าเขาคิดว่าตนไม่น่าสนใจตอนไหน ตอนนั้นเขาก็คงจะสามารถฆ่าตนโดยไม่ลังเล
นี้เป็นแค่การพนันที่ไม่ได้มีคำสาบานอะไรใดๆ ถ้าหากอยากจะพลิกโต๊ะตอนไหนก็ทำได้ตลอด เบอร์โต้มองชาเย็นชืดในมือด้วยความเสียใจ บ่นพึมพำเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย
จริงๆ มีอย่างอื่นที่อัลเลย์สงสัยมากกว่า
คนแบบนี้ดูเหมือนไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากมายอะไร และก็ไม่ดูเหมือนประเภทที่ชอบเล่นกับเหยื่อด้วย ในเมื่อสามารถเข้ายึดร่างอีกฝ่ายได้ ทำไมถึงไม่ทำกับเขาด้วยล่ะ
ชายหนุ่มนึกถึงสัญชาตญาณของตนก่อนที่จะจับมือชายคนนี้ คิ้วสีน้ำตาลเข้มกดลง บางทีไม่ใช่เพราะเบอร์โต้อดทน แต่เพราะได้ทำอะไรบางอย่างไปแล้ว
แต่อาจจะเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั้นอาจจะเป็นฝีมือของผู้ทำนายดวงดาวที่ปกป้องร่างนี้จากชายตรงหน้า
"ผมจะไม่ตาย"
คำตอบของการพนันนี้มีแค่คำตอบเดียวมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่ให้รอดหรือตาย ก็ต้องตอบว่ารอดไปอยู่แล้ว เพราะถ้าตายไปสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรอยู่ดี
"ฉันนี้...ไม่เก่งการพนันเลยจริงๆ ด้วย" เบอร์โต้เบิกตากว้าง มองอัลเลย์ด้วยความสนใจ พยายามใช้ดวงตาสีดำนั้นจ้องมองเข้าไปในส่วนลึกข้างในนั้น
มือข้างขวาจับปืนกุหลาบเงินขึ้นมา ก่อนจะยกขึ้นมาจ่อตรงหัวของอัลเลย์
เด็กหนุ่มมองไปยังลำกล้องปืนลูกโม่ข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง ไม่มีความกลัวหรืออาการหัวใจเต้นเร็วเลยสักนิด
เบอร์โต้กดไกปืนอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่มีอะไรออกมานอกจากเสียง แกร๊ก เท่านั้น
"ไม่สนุกเลยนะ นายรู้ได้ยังไงว่ามันไม่มีกระสุน"
"เพราะสัญชาตญาณของผมไม่เคยผิดพลาดครับ"
"อา? สัญชาตญาณ?"
ความรู้สึกภายในใจบอกเขาว่าไม่มีอันตรายใดๆ ที่ต้องการจะเอาชีวิตของเขา แต่ถึงอย่างนั้นตอนที่เบอร์โต้กดไกปืนอัลเลย์ก็ยังแอบรู้สึกเสียวสันหลังอยู่นิดหน่อย...
ถ้าไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณ ตนก็คงต้องใช้เรื่องร่างจริงเบื้องหลังประตูมาใช้เจรจาแทน
"ขี้โกงจังเลยนะ งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ"
ปัง!!!
"!!!" ความหนาวเย็นปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน อัลเลย์รีบโยกตัวหลบก่อนที่ชายตรงหน้าจะยิงออกมา โซฟาเก่าตัวนี้ถูกยิงจนนุ่นสีเหลืองระเบิดกระจายออกมารอบๆ
"ตอนนี้ปืนลูกโม่มีกระสุนบรรจุอยู่5นัด ตอนเดิมพันผมไม่ได้บอกว่าจะยิงไปแค่1นัด..." อัลเลย์ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ขนทั่วร่างกายลุกซู่จากเสียงดังที่เกิดขึ้นจากปืนในมือชายตรงหน้า
"งั้นดูเหมือนนายจะต้องรอดจากปืนนี้ให้ได้ครบ5นัดนะ อัลเลย์"
'แต่ก็มีบางคนที่ไม่สนการครอบงำของพลังวิเศษจะเรียกว่าพวกบ้าก็ได้ ถ้าไปเจอคนแบบนี้ในอนาคตก็อยู่ให้ห่างเชียว'
ดูเหมือนเขาจะดวงซวยมาเจอพวกบ้าของจริงเข้าซะแล้ว
ปัง!!
เสียงปืนดังแว่วมาจากภายในห้อง เด็กจรจัดที่อยู่โดยรอบรีบหลบหนีออกจากบริเวณห้องนั้นด้วยความหวาดกลัวลูกหลงโดยทันที
"ถ้าต้องการพนันกับผม ก็ต้องพิสูจน์ว่าคุณคู่ควรพอหรือเปล่า" แจกันว่างเปล่าด้านหลังอัลเลย์แตกกระจายไปทั่ว เบอร์โต้ยิ้มว่างเปล่ามาให้ ภายในมือยังคงมีปืนลูกโม่ที่มีกระสุนเหลืออยู่4นัด
เหลือเพียงแค่4นัดเท่านั้น ดูเหมือนเราจะต้องไปหาร่างจริงในห้องนั้นให้ได้!!
เส้นสายสีทองขยับเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวของเบอร์โต้ ชายผมดำมองเด็กตรงหน้าด้วยความสนใจ ก่อนจะนึกบางอย่างออก
"มองเห็นความเชื่อมโยงของผมกับห้องนั้นเหรอ? พลังวิเศษคือการมองเห็นรึเปล่า? แต่ว่ามันเปล่าประโยชน์"
ปัง!!
"อึก!!" นี้เป็นครั้งแรกที่อัลเลย์โดนยิง ถึงประเทศในโลกเก่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ปืนเสรี แต่ตนก็ไม่เคยเผชิญกับคนไล่ยิงแบบนี้มาก่อน ไหลของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยเลือดที่ซึมผ่านผ้าสีอ่อนจนกลายเป็นสีแดง
อัลเลย์ใช้มืออีกข้างกดปากแผลแน่น ก่อนจะพยายามพลิกตัวหลบหนีจากกระสุนของฝ่ายตรงข้าม กระสุนยิงผ่านใบหูของเขาตัดผ่านเส้นผมบางส่วนและทิ้งรอยแผลสีแดงเล็กๆ เอาไว้ ก่อนที่จะพุ่งไปชนเข้ากับประตูไม้ข้างหน้าจนกลายเป็นแค่ก้อนเหล็กขนาดเล็กตกลงไปส่งเสียง แก๊ง แผ่วเบาเท่านั้น
อัลเลย์มองกระสุนบนพื้นด้วยความนิ่งอึ้ง ในชีวิตของเขาไม่เคยเจอประตูไม้ที่สามารถป้องกันกระสุนโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กน้อยแบบนี้มาก่อน เด็กหนุ่มยื่นมือออกไปพยายามที่จะเปิดประตูไม้ตรงหน้าแต่ตัวประตูกลับหนักอึ้งราวกับทำจากเหล็กไหลทั้งบานก็ไม่ปาน
แกร๊ก เสียงของปืนดังแผ่วเบามาจากข้างหลังของอัลเลย์
"มันจบแล้วอัลเลย์ ตอนนี้ผมยังเหลือกระสุนอยู่2นัด" ดวงตาสีดำไร้ความรู้สึกจับจ้องไปยังภาพเบื้องหน้า
"นายคงไม่คิดว่าผมจะทำอะไรบางอย่างโดยไม่มีการป้องกันเลยไม่ได้หรอกใช่ไหม?" เบอร์โต้ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ถึงจะอยากรู้อยากเห็น แต่การปล่อยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดแบบนี้ให้มีชีวิตต่อไปในดินแดนมนุษย์ก็ดูขัดต่อหลักการของอาร์คานัมเช่นกัน
เลือกยากจริงๆ
"ถึงผมจะไม่ได้เก่งการเล่นแร่แปรธาตุขนาดนั้น แต่เรื่องง่ายๆ แบบนี้ก็ยังพอทำได้อยู่"
"เอาล่ะ เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ นายแพ้แล้วอัลเลย์"
ไม่ ยังไม่แพ้
อัลเลย์มองไปยังรูกุญแจของประตูตรงหน้า พร้อมเรียกความมั่นใจของตนกลับคืนมาอีกครั้ง
เบอร์โต้ยังไม่รู้ว่าตนมีพลังวิเศษอะไร...
มาเลย!! กุญแจผีฉันเลือกนาย!!