'จิ้งจอกนั่นไปแล้ว เจ้าไปเฝ้าข้างหน้า… เร็วเข้า'
'แต่นายท่านสั่ง…'
'เจ้าโง่! ข้าไม่ได้จะพรากพรหมจรรย์นาง แค่จะเล่นสนุกกับนาง เจ้าเข้าใจไหม?'
นิทราในช่วงกลางวันไม่มีเรื่องดี เทพมรณางีบหลับข้างโต๊ะทำงานไม้สลักสวยงาม กระทั่งได้ยินเสียงเรียกหวาน 'นีเทียนต้าเซิน ท่านตื่นเถิด วิญญาณหลงทางทั้งหลายกำลังรอการนำทางของยมทูต' นางปลอบประโลมใจเขาด้วยอ้อมกอด ซุกตัวในอ้อมแขนสั่นเทา กล่าวว่าชำนาญเรื่องพวกนี้นัก นางเป็นปีศาจแห่งความฝันและภาพลวงตา นางสามารถปลุกให้เขาตื่นจากห้วงนิทราใดก็ได้
นีเทียนต้าเซินโกรธแค้นหวาดกลัวแทนนาง มิอาจลืมเลือนสีหน้าและแววตาชั่วร้ายของทาสในเรือนใต้ ระหว่างนำทัพไปรวบรวมดวงวิญญาณ รุ่งอรุณนี้หนักหนาสาหัส มีสงครามครั้งใหญ่ในเมืองสวี ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
การเดินทางกลับมาของเหล่ายมทูต หากเปรียบเทียบกับเวลาบนโลกมนุษย์ เป็นช่วงรับประทานอาหารเช้า[1] ดวงไฟหยินหยางเต็มท้องนภา
ธรรมดายมทูตไม่กินไม่นอน พวกเขาทำงานทั้งกลางวันกลางคืน แต่นั่นก็ก่อนจะรับสิ่งมีชีวิตเข้ามา บัดนี้ต้นไม้ใบไม้ออกผลงอกงาม ยมทูตหันมานั่งจิบชา หาอาหารรสชาติดีมาถมกระเพาะที่ไม่เคยเต็มอิ่ม ทำอาหารฆ่าเวลา เลือกใช้เนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุดเพื่อละเว้นการเข่นฆ่า
เมื่อยมทูตหลับตาจำศีลช่วงสั้น ๆ ระหว่างวัน ตำราแห่งความตายเอ่ยนามยมทูตให้ไปรับดวงวิญญาณ จะปรากฏอักษร 'จำศีล[2]' สลับเปลี่ยนนามยมทูตใหม่ไปทำงานแทน
ตำราทั้งสามเล่มจัดสรรการทำงานอย่างลงตัวเหมือนไม่มีเรื่องราวแปลกใหม่ ไม่ว่ามันจะเอ่ยนามยมทูตหรือเทพมรณา อีกสองเทพรับทราบเรื่องนี้จึงมาขอจิตวิญญาณที่เสียสละให้ไปช่วยงานพวกเขาบ้าง
นีเทียนต้าเซินบอกปัดไปว่ายังไม่ว่างให้คำตอบ เอาไว้เขาจะถามนาง กางเขตอาคมปิดเรือนระหว่างเดินทางไปหาอสูรในเรือนใต้ สาเหตุการตายด้วยน้ำมือหลี่หวังหยาง วิธีการตาย 'ทดลองพิษ' เขาติดตามยมทูตไปเฝ้าดวงวิญญาณ คุกใต้ดินยังคงมีโซ่เกราะกรังรอยเลือดสามเส้น นักโทษอีกสองตายเพราะพิษป๋ายเซี่ย ปูอสูรตระกูลน้ำ หลี่หวังหยางนำมาผสมกับพิษอีกชนิดหนึ่ง
ทาสอสูรร่างกำยำดิ้นทุรนทุรายเหมือนกลืนน้ำกรดผ่านลำคอ ก่อนจะสูญสิ้นการกลืนกินดวงวิญญาณจากอสูรตระกูลน้ำซึ่งหลอกหลอนเหยื่อด้วยฝันร้าย ยมทูตเก็บดวงไฟหยินได้ทันกาล
"ท่านลุงที่สามหมื่นเจ็ดพัน ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ เรือนจำแห่งใหม่นี้ข้าพึ่งเสกสร้างกับมือ จะได้มีผู้ทดลอง... โอ้… วิญญาณเลวทรามชั้นเลิศ"
เงื้อมมือมัจจุราชดึงดวงวิญญาณมาจากยมทูตในร่างสตรี หัวเราะหึหึในลำคอ ดวงไฟปีศาจในกำมือเป็นสีนิลสนิท
ร่างกระดูกนำพาดวงวิญญาณปีศาจสู่แดนปรภูมิ เวทแห่งการจดจำปรากฏขึ้นอีกครากลางหน้าผาก
'นางงามนัก กลิ่นกายนางหอมฟุ้ง… จนข้าแทบอดใจไม่ไหว มิน่าเล่า จิ้งจอกนั่นถึงได้มาเฝ้านางตลอด'
'เจ้าว่า… กายนางจะอุ่นเท่าไร เสียงครวญครางผีเสื้อสาว ช่างไพเราะน่าฟัง'
'สภาพเจ้าตอนนี้ยื้อเกราะคุ้มกันยมทูตได้ไม่นาน ถิงถิง! เจ้าอย่าดิ้นรนให้เสียเวลาข้า ข้าให้ความสุขเจ้าได้... ข้าจะไม่ทรมานเจ้าหากว่านายท่านไม่สั่งการ ดีหรือไม่?'
นักโทษสตรีในอาภรณ์ขาดวิ่นซุกแผ่นหลังชนชิดกำแพง โซ่ที่ล่ามมือเท้าและคอทำให้นางไม่สามารถขยับเขยื้อนได้มากนัก นางหวาดกลัวจนน้ำตาคลอ เงยหน้ามองเมฆาหยินหยางเหนือศีรษะ สลับชะโงกคอมองหาดวงตาปีศาจจิ้งจอกที่หายไป หวังว่าฮู่โหมวจะรีบกลับมายืนเฝ้านาง
นีเทียนต้าเซินกัดกรามจนมองเห็นรูปหน้ากระดูก เมื่อผ่านพ้นบททดสอบซึ่งนับเป็นการทัณฑ์โทษจากตำรา มีข้อความปรากฏว่าสามีไม่ได้เรื่อง...
ภรรยาดี สามีไม่ดี ไม่สามารถผ่านบททดสอบจากตำราสีชาด แล้วถ้าผ่านบททดสอบเล่า จะเกิดอะไร? ผ่านหรือไม่ผ่านจะมีผลอย่างไร?
นัยน์ตาสีชาดลืมพรึบในสถานที่ร้อนระอุ เต็มไปด้วยเครื่องทรมานสารพัดชนิด แม้จำศีลก็มีร่างจำแลงแยกไปทำงาน ตำราเอ่ยนามเทพบนบัลลังก์พิพากษาเป็นหน้าที่ของนีเทียนต้าเซิน เขาไม่รอช้าที่จะมอบโทษให้วิญญาณบาปเหล่านั้นเป็นกรณีพิเศษ ตามอสูรลงทัณฑ์ไปถึงเรือนจำ
วิญญาณเรียงรายหน้าแท่นทรมาน เรือนจำแห่งนี้มีทั้งเตา เข็ม เหล็ก ไฟพิษ การทรมานนักโทษมีทั้งการฝังเข็มบนกระดูกสันหลัง การเผาและต้มน้ำมัน พวกชื่นชอบการข่มขืนจะถูกต้มจนสุกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหม้อเดือด
"ถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของพวกเจ้ารู้ไหม? เทพมรณาเช่นข้ายอมลดศักดิ์ศรีมาส่งดวงวิญญาณชั่วช้าถึงเรือนจำ... ข้าว่าจะรอดูเครื่องทรมานเสียหน่อย"
เหล่าอสูรลงทัณฑ์ไม่ได้สนใจเทพมรณาซึ่งมิใช่ร่างจำแลงเช่นทุกคราว ก้มหน้าทำหน้าที่ ลงโทษวิญญาณที่ไร้กาย แต่จะรู้สึกเหมือนกับว่ามีร่างกายที่ตายซ้ำซาก เจ็บปวดทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในเรือนจำ
เทพผู้พิพากษาความชั่วร้าย เสกตั่งนั่งเป็นบัลลังก์เพลิง ตาดู หูฟัง...
วิญญาณส่งเสียงร้องโหยหวนในนรกภูมิ เปรียบดั่งเสียงดนตรีอันไพเราะกังวาน
อาภรณ์สีสันปักทอด้วยลวดลายดอกบ๊วยเป็นฝีมือนางเอง รุ่งอรุณอันมืดมิดนี้นางลุกจากนิทรา สะลึมสะลือมานั่งเย็บผ้า ยมทูตในร่างสตรีเข้ามาวางอาหารและถ้วยชาบนโต๊ะไม้เตี้ย พวกเขามองนางนั่งแกว่งขาบนโต๊ะทำงานนีเทียนต้าเซินแล้วหายไป นางไม่ทันชื่นชมท่านลุงว่าทำอาหารอร่อยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก กลุ่มเมฆาหยินหยางลูกใหญ่ปรากฏข้างหลังนาง
"ท่านกลับมาแล้ว!"
ปีศาจน้อยกระโดดลงจากโต๊ะ ท่าทางดีใจเหมือนสุนัขที่เฝ้ารอการกลับมาของเจ้าของ นีเทียนต้าเซินชำเลืองมองไปยังแผนที่ยับเยินบนโต๊ะไม้โดยไม่ดุนาง สะบัดมือเบา ๆ แผนที่นั้นหายไป เขามีสีหน้าประหลาดใจ
"มีเรื่องอะไรให้เจ้าดีใจหรือ?"
"ไม่มีอะไรมาก พอดีข้าอยู่คนเดียว เหงาเล็กน้อย" นางขยับแก้มแดงซ่านไปทางหน้าต่างไม้สลักลายบุปผชาติ
ผีเสื้อลูกสมุนใต้แสงจากเปลวเทียนออกมาพูดแทนนางเสียหมดว่านางคิดถึงท่าน! ลมหายใจนางไม่ได้กลายเป็นสีชาด ไม่มีไอปีศาจเจือปน นางหายใจเข้าออกเป็นเทพมรณา นางชะโงกคอมองหาสามีจนคอแทบหลุด ถิงถิงลุกขึ้นตีมันด้วยพลังปีศาจ
"เจ้ายังไม่เลิกวิวาทกับลูกสมุนอีกหรือ?"
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อกำราบพวกมัน"
หน้าตาบูดเบี้ยวของนางคล้ายปีศาจแมงมุม มีรอยย่นตรงหว่างคิ้ว เขี้ยวคมตรงมุมปาก นางเกรี้ยวกราดอาฆาตแค้นจนไอหยินลอยฟุ้งรอบกาย นีเทียนต้าเซินเข้ามาช่วยนางด้วยการปัดมือเบา ๆ เหมือนไล่แมลงรำคาญ
"มีท่านลุงเคยเป็นอาจารย์ในเมืองปีศาจ ข้าจะวานขอให้เขามาพบเจ้า..."
"จริงหรือ? ใครกัน... พอจะเอ่ยนามของเขาได้หรือไม่ ไม่แน่ว่าข้าอาจรู้จัก"
-------------------------------------
[1] 食时 07:00-09:00 AM
[2] 冬眠