มีผู้พบสมบัติในเรือนใต้กองเต็มพื้นหญ้า พฤกษชาติงดงามฟื้นคืนชีพในสามราตรีถัดมา ทุกสรรพสิ่งหวนคืนเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หลี่หวังหยางในฐานะผู้นำตระกูลเหมยเตี๋ย จำต้องจัดระเบียบเมืองเสียใหม่ เหล่าอาวุโสถือโอกาสนี้ปราบปรามกบฏ รวบรวมดินแดน ตั้งกฎการพำนักอาศัย ตรวจตราเข้มงวดทุกหย่อมหญ้าในอาณาเขตแดนใต้
"ขอบคุณพวกท่านที่มาช่วยคุ้มกันภัย เรือนข้ายินดีต้อนรับเสมอ"
ร่างบุรุษรูปงามในอาภรณ์สีนิลพลันหายไป หลังให้การต้อนรับแขก
ทั้งจิ้งจอกห้าหาง เจ็ดหางและแปดหาง คาดการณ์ว่าเหล่าผีเสื้อคงเข้าห้องจำศีลไปฟื้นฟูพลัง ค่ำวานนี้มีปีศาจมารวมตัวกันในเมือง สวามิภักดิ์ต่อหลี่หวังหยาง ปีศาจเฒ่ายังคงความแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในสามของภพภูมิปีศาจราตรี
บุรุษจิ้งจอกนั่งจิบชา ดื่มด่ำพลังวิญญาณผ่านสุรารสเลิศซึ่งเจ้าของเรือนให้ทาสนำมา พวกเขาสวมอาภรณ์เนื้อผ้าบางเบา หลุดหล่นบนบ่า
"ข้าได้ยินที่ประชุมอาวุโสลงความเห็นเรื่องนรกภูมิ อาจไม่มีอยู่ในแผนที่เมืองปีศาจ ภพภูมิลงทัณฑ์แบ่งแยกออกไป แดนบุปผาจึงฟื้นคืนกลับมาเช่นเดิม..."
น้องเล็กสุดให้ความเห็น หน้าตั่งไม้ที่เต็มไปด้วยสุราอาหาร หางสีเงินพลิ้วไหวอยู่หลังอาภรณ์งดงาม
ฮู่โหมวเป็นกังวลใจเรื่องเจ้าสาวที่ถูกชิงตัวไปถึงสองคราว เขาไม่เคยคิดว่าเป็นความผิดนาง
"ข้ารู้จักถิงถิงมาหลายพันปี สหายนางมีทั้งเทพและปีศาจ ไม่มีทางที่ข้าจะตกหล่นไปสักคน เจ้านั่นเป็นตัวอะไรแน่? ข้าไม่เคยพบมาก่อน…"
"โธ่! ท่านพี่ไปอยู่ที่ไหนมา ท่านไม่เคยได้ยินเรื่องราวของจิ้งจอกน้อยหรือ? มีตำนานยมทูตขับร้องเป็นบทเพลง…"
'ผู้นำแห่งปรภพ ควบขี่อาชาแห่งความมืด ปีศาจมรณามารับวิญญาณเจ้าแล้ว'
"บทเพลงนั้นมีไว้หลอกปีศาจน้อยไม่ให้ออกไปเที่ยวเล่น จนกว่าพวกเขาจะมีร่างเป็นบุรุษสตรีเต็มกาย มีพลังปีศาจมากพอปกป้องตนเองและเอาชนะปีศาจตนอื่นได้" ฟาหยางสะบัดมือ เรียกภาพในวันวานของเด็กน้อยล้อมวงขับร้องบทเพลง ฉีกยิ้มแยกเขี้ยวทำหน้าตาน่ากลัว
"ปีศาจมรณางั้นหรือ... ข้าว่าเจ้าคงหมายถึงหัวหน้าเผ่ายมทูต?"
"ยมทูตไม่ควบขี่อาชากระดูก มีอาวุธเวทเป็นปลายมีดพระจันทร์เสี้ยว ข้าไม่เคยพบเห็น ตำราเล่มใดก็ไม่ปรากฏ จะเรียกหัวหน้ายมทูตอาจไม่ถูกต้องนัก" พูดจบ บุรุษจิ้งจอกอีกสองตามมาสมทบ เสินเย่เป็นจิ้งจอกพี่เขยมาจากอีกเผ่า ตงหยางน้องรองอีกหนึ่งว่า
"เจ้ากำลังหมายถึงอาวุโสยมทูตผู้รวบรวมดวงวิญญาณ ไม่ใช่เจ้ากระดูกนั่น"
"เจ้าพูดเหมือนรู้เรื่องพวกเขาดี ฟาหยาง ถึงเจ้าจะเชี่ยวชาญตำราเวท ข้าว่าไม่น่าใช่…"
"ข้าว่าใช่ ใช่แล้วล่ะ ตำนานเล่าขานมีมูลเหตุไม่มากก็น้อย เหลือเพียงเรื่องที่เจ้าตัวประหลาดนั่นโอ้อวดว่าครองร่างอมตะ ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร…"
"เท่ากับว่าเจ้าถิงถิงทรยศจิ้งจอกเงิน แดนผีเสื้อ ทั้งเผ่าพันธุ์ปีศาจราตรี หลี่หวังหยางจับตัวนางได้คราวนี้ นางตายแน่ นางจะไม่ได้แต่งกับเจ้า ฮู่โหมว"
"นางอยู่กับพวกยมทูต ดูแลเรื่องความตาย นางจะตายได้อย่างไร?"
"ไม่ใช่ว่าเขาผู้นั้นเป็นปีศาจกระดูกหรือพี่ใหญ่?"
"เจ้าถามข้า... จะไปถามใครดี"
ฮู่โหมวผ่อนลมหายใจ หลบเลี่ยงสายตาสอดรู้สอดเห็นของบรรดาพี่น้อง พูดจาวกไปวนมา กระทั่งถูกซักไซ้เอาความมากเข้าว่าเขาเป็นผู้เดียวที่เฝ้านางหน้าคุกใต้ดิน
ทีแรกฮู่โหมวตั้งใจเก็บเป็นความลับ หากมิใช่น้องเล็กเอ่ยขึ้นมาว่าการหารือดีกว่าจะต้องนั่งคิดคนเดียวแน่ ๆ ต่อให้พี่ใหญ่ได้เป็นผู้นำตระกูล บำเพ็ญตบะครบเก้าหางก็มิสู้ผู้ถือร่างอมตะ เขาจะเอาอะไรไปสู้
"ข้ายอมบอกเจ้าก็ได้ ข้าเห็น... หลี่หวังหยางใช้หนอนประหลาดดึงเส้นความจำของนางออกมาผ่านหูและดวงตา ร่างกระดูกนั่นไม่เชิงว่าเป็นปีศาจ เพียงแต่..." ฮู่โหมวระงับอารมณ์เกรี้ยวกราด ภายใต้เขี้ยวคมที่ขบกัดกัน นัยน์ตาสีชาดเปล่งประกายด้วยเพลิงโทสะ "ข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าหัวหน้าเผ่ายมทูตจะมาลักพาตัวนางไปเพื่อการใด เขามารู้จักนางก่อนข้าได้ยังไง"
ทั้งสองนอนร่วมเตียงในห้วงนิทราผีเสื้อ มีความทรงจำระหว่างกันในเมืองที่ปกคลุมด้วยความมืดสงบ ดวงไฟหยินหยางลอยละล่องเต็มท้องนภา นางหัวเราะร่าเริง จิบชาข้างปีศาจกระดูก มีอีกร่างเป็นบุรุษเทพรูปงาม หากมีกลิ่นอายของหยินและหยาง สวมอาภรณ์สีนิลลายเมฆา
กว่าหลี่หวังหยางจะรู้ความจริง หลังจากที่นางพยายามโกหกอยู่หลายราตรี จึงบังคับให้นางฝึกวิชาสำคัญก่อนออกเรือน
"จะเป็นไงก็ช่าง เจ้าตัดใจเถอะฮู่โหมว เจ้าเป็นศัตรูกับปีศาจทุกภพภูมิเพื่อนางไม่ได้ ตอนนี้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศ มีผู้เห็นนางใช้วิชายมทูต นางสวามิภักดิ์ต่อหัวหน้าเผ่ายมทูต ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วแดนปีศาจราตรีแล้ว"
"หน้าอย่างเจ้าจะเข้าใจอะไร? เสินเย่ เจ้าน่ะ มองภรรยาเป็นอาหารวิญญาณชั้นเลิศ หากนางมีบุตรให้ไม่ได้ นางไม่มีประโยชน์ เจ้าก็ฆ่าพวกนางแล้วแต่งภรรยาใหม่ เที่ยวโกหกผู้อื่นว่าไม่เคยได้ออกเรือน จะออกเรือนก่อนข้าให้ได้ คิดว่าข้าไม่รู้รึไง เจ้ามาอยู่จิ้งจอกเงินกี่พันปี แม้ว่าเจ้ายังไม่รับภรรยาคราวนี้ เจ้าจะนับหนึ่งใหม่ทุกหนึ่งปีเลยหรือ?"
"เจ้า!"
จิ้งจอกเงินที่มีอายุขัยมากกว่าถึงสองพันปีตีอกโวยวาย เอาเรื่องคืนวิวาห์แรกว่าอยากได้ถิงถิงเป็นภรรยากว่าฮู่โหมวที่ได้นางไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เขาจะยอมสูบพลังนางจนสลายเป็นเถ้ากระดูกหรือไม่ ไหนจะสตรีคู่ครองผู้เหมาะสมกับบุตรชายคนโตของตระกูลจิ้งจอกเงินควรเป็นปีศาจจิ้งจอกในอีกภพภูมิหนึ่ง นางมีขนสีชาดอันงามสง่าดุจพญาหงส์ สติปัญญาเป็นเลิศ พูดจาฉะฉานฉลาดเฉลียว มีรูปลักษณ์อันงามสง่าต้องตาบุรุษ
จิ้งจอกน้องเล็กสุดฟาหยางเป็นผู้สงบศึกจิ้งจอกผู้พี่ ไม่นานก็ชกต่อยกัน ฟาหยางไม่มีปัญญา กระเด็นติดข้างฝา โต๊ะไม้กลางเรือนแตกเป็นเศษชิ้น
"พวกเจ้าเงียบ! เงียบให้หมด ข้ารอนางมากี่พันปี ปีศาจนั่นแย่งนางไปจากข้า!"
"เจ้าไม่เคยพูดไม่รู้เรื่องนะฮู่โหมว เจ้ามันโง่เง่า เสียสติ ถึงได้คิดเอาผีเสื้อมาเป็นภรรยา อ้อ... สุดท้ายเจ้าก็ยังไม่มีปัญญา เจ้าปกป้องนางไม่ได้"
ฮู่โหมวเลือดขึ้นหน้า สะบัดกระบี่มารขึ้น ไอหยินคละคลุ้งอยู่รอบกายด้วยโทสะ
เหล่าจิ้งจอกในร่างบุรุษมีหางพลิ้วไหวเริ่มต่อสู้ ในร่างจิ้งจอกก็กัดกันเป็นสุนัข กว่าจะนั่งลงในสภาพกายอาบโลหิต พังราบไปครึ่งเรือน
ผู้อาวุโสเข้ามาต่อว่าไม่ควรทำตัวเสียมารยาท ทำไมปีศาจจิ้งจอกใจร้อนโผงผางเช่นนี้!