Chereads / ไฉนข้ามาอยู่ในเมืองยมทูต 杀我 爱我 阎罗王 / Chapter 7 - 4-1 可怜的蝴蝶 ผีเสื้อผู้น่าสงสาร

Chapter 7 - 4-1 可怜的蝴蝶 ผีเสื้อผู้น่าสงสาร

ท่ามกลางนครอันมืดมิด แสงเทียนนวลอ่อนส่องประกายในเรือนไม้สว่างไสว ผีเสื้อตัวน้อยบินวนเวียนอยู่บริเวณด้านนอกระเบียง ถัดจากหน้าต่างสลักลวดลายท้องนภา

ทันทีที่บุรุษเทพสัมผัสถึงจิตจำแลงของปีศาจ นัยน์ตาสีชาดตวัดมองนางก็พลันหายไป

‘วันหมดอายุขัยของยมทูตเท่านั้น ที่จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ข้าเพิ่งเห็นนางเปลี่ยนมัน ด้วยสองตาของข้า’

โชคเข้าข้างนาง! ดันล่วงรู้ความลับสำคัญ นางน่ะมีประโยชน์มากสำหรับท่านเทพ นางอาจเป็นหนึ่งในล้านของเหล่าดวงวิญญาณเลยก็ว่าได้

ร่างทิพย์ปีศาจยังคงประสานมือไว้บนหน้าท้อง นางแสร้งหลับตานอนบนฟูกให้เหมือนกับว่านางไม่ได้ออกจากห้อง กระทั่งกลุ่มเมฆาเยือกเย็นก่อตัวขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของบุรุษเทพราวจะเข่นฆ่านาง

“ยมทูตสิบตน ข้าขออีกสิบ ได้หรือไม่? แต่ถ้าได้มากกว่านั้นก็ดี...” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยกับสตรีบนฟูกนอน ตาคมหลุบมองร่างบอบบางในอาภรณ์สีม่วงสดใส นางดูอ่อนแอเสียจนไม่น่าขยับตัวได้ด้วยซ้ำ ริมฝีปากซีดขาวราวกระดาษของนางตอบ

“ทุกค่ำคืนข้าเหน็บหนาวถึงขั้วกระดูก เส้นปีกของข้ายังแสบร้อนจากพิษแห่งเพลิงกัลป์จากตำรานั่น ท่านคิดว่าข้าไหวหรือไม่?”

“ข้ามีงานต้องทำอีกมาก เจ้าไม่เข้าใจ งานหลายอย่างข้าไม่สามารถทำได้หากออกไปนอกแดนมรณา”

“อย่าบอกนะว่าท่านจะเพิ่มขุนพลไปต่อกรกับกองทัพสวรรค์? หากท่านเกรงว่าปีศาจอสูรจะมารุกรานแดนยมทูต ข้าเอาหัวเป็นประกันว่าไม่มีผู้ใดกล้า”

“ยมทูตมีหน้าที่นำพาดวงวิญญาณไปสู่ปรโลก จับกุมวิญญาณที่หลบหนีเข้าสู่การพิพากษา เราไม่สู้รบกับฝ่ายใดทั้งสิ้น...”

“ตราบใดที่ไม่มาขวางทางการทำงานของพวกท่าน...” นางพูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางมั่นใจ ลุกขึ้นนั่งไขว่ห้าง เอามือเท้าคาง “ก็ท่านเพิ่งทะเลาะวิวาทกับปีศาจ แย่งชิงตัวข้ามา แต่ท่านขโมยไก่ก็ไม่ได้ ยังจะเสียข้าวสารไปอีกกำมือ ท่านพลาดงานใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”

บุรุษเทพรู้สึกเหนื่อยหน่ายเจรจากับนางนัก ทว่าจำต้องเดินไปดูอาการนางใกล้ ๆ

ร่างผอมบางดูซูบซีดจนแก้มตอบ เบ้าตาของนางชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าที่มาพำนักอาศัยวันแรก ดูยังไงนางก็อัปลักษณ์! ไม่สมกับที่ปีศาจหนุ่มล้วนอยากได้นางไปเป็นภรรยา นางนอนนิ่งเงียบบนฟูกทั้งวัน แม้มีอาหารมากมายวางกองอยู่บนโต๊ะ นางไม่แตะต้องมันแม้เพียงสักอย่างเดียว

“แม่เฒ่าอาวุโสแห่งภพภูมิลับแลเล่าให้ข้าฟังว่าเทพมรณา... เป็นผู้พิพากษาดวงวิญญาณ มีความเที่ยงธรรม ข้าได้ยินมาอีกด้วยว่าท่านน่ะมีเมตตา แถมเป็นผู้เสียสละตน เปรียบดังโพธิสัตว์องค์หนึ่งทีเดียว” นางสบมองนัยน์ตาสีชาดของพญามัจจุราชข้างฟูกนอนของนาง หัวเราะเยาะเสียงดังลั่น “ก็แค่ได้ยินมา...”

“ปีศาจเยี่ยงเจ้าไม่ควรท้าทายข้า”

แววตาดูหมิ่นของนางบอกว่านางน่ะท้าทายเต็มประดา นางไม่เห็นว่าคำพูดของแม่เฒ่าอาวุโสเป็นความจริง เทพมรณาก้มมองนางอย่างเกรี้ยวกราด

“เช่นนั้นมาดู... ปีศาจชั่วช้าที่เต็มไปด้วยวิบากกรรมอย่างพวกเจ้า ควรค่าต่อความเที่ยงธรรมหรือไม่ เจ้าผีเสื้อจอมโอหัง” สิ้นคำ นัยน์ตาสีชาดเปล่งประกายประหนึ่งกระบี่อาบโลหิต

เมื่อตัวตนของนางถูกมองผ่านดวงตาอันน่าสะพรึงกลัว เขาพิพากษานางด้วยการดูชีวิตที่ผ่านมาของนาง อาจฆ่านางได้ด้วยการเพ่งมองครั้งเดียว

ในที่สุดนางจำต้องยอมโอนอ่อนต่อบาปกรรมในอดีต นางนั่งตัวขดงอราวมดตัวเล็ก ๆ เบื้องหน้านัยน์ตาสีชาดอันให้ความรู้สึกเหน็บหนาวเยือกเย็น นางเจ็บร้าวไปถึงขั้วกระดูก ยกมือขึ้นวางบนหน้าอกในสีหน้าอึดอัด เหมือนใครมาปิดรูจมูกนางไว้

“ท่านเทพ... ได้โปรดฆ่าข้าเสียเถอะ ข้าจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น หากว่าท้องข้ายังหิว”

“ข้า ไม่ ฆ่า ใคร” น้ำเสียงเข้มขรึมดึงดัน ย้ำชัดหนักแน่น “ข้ามีหน้าที่เพียงอย่างเดียว”

“โอ้... นั่นเป็นความจริงหรอกหรือ? นึกว่าแม่เฒ่าจะกุเรื่องขึ้นมาหลอกข้าเสียอีก นี เทียน ต้าเซิน[1]“

“เจ้าผีเสื้อจอมสอดรู้สอดเห็น อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าไปแอบฟังอะไรข้าอีก”

“ท่านจะทำไม?” นางเชิดหน้าจองหอง แม้หวาดกลัวจนตัวสั่น หลังเอ่ยนามต้องห้ามของท่านพญามัจจุราช ไม่มีใครล่วงรู้นอกเสียจากเหล่ายมทูต นางหายใจเชื่องช้าลง หลังได้รับอิสรภาพจากดวงตาพิพากษา

“ข้าจะไม่นำพาดวงวิญญาณเจ้าไปปรภูมิ แม้ถึงกำหนดการวันหมดอายุขัยของเจ้า จะไม่มีใครนำทางเจ้าไปสู่ห้วงนทีแห่งวัฏสงสาร เจ้าไม่ต้องไปเกิดในภพภูมิใหม่ ไม่รับรู้ความทรมานอีกต่อไป เจ้าจะเป็นกรณียกเว้น...” ลั่นวาจาแล้วเขี้ยวคมตรงมุมปากแลดูน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้น ปีศาจสาวผงะถอย นางไม่ชอบการสบรอยยิ้มมัจจุราช ยิ่งเขาข่มขู่นาง “เพราะข้าจะขังเจ้าผีเสื้อน้อยไว้ในกรงสัตว์เลี้ยงของข้า เอาไว้ดูเล่นแก้เบื่อ ตราบจนนครมรณาสิ้นสลาย”

“นีเทียนต้าเซิน! ท่านไม่ใช่เทพผู้มีเมตตาธรรม ท่านมันเทพปีศาจชัด ๆ” นางบริภาษอย่างก้าวร้าว ต่อว่าเขาสารพัดถ้อยคำที่นางจะสรรหา ประหนึ่งนางพ่นลูกไฟออกจากปากนางได้

นีเทียนต้าเซินเกิดความคิดประหลาด เมื่อนางเกรี้ยวกราดราวกับว่าเป็นคนละคน กลิ่นหอมอบอวลของนางกระทบเข้าใบหน้าของเขาจนชาวาบ

เดิมทีปีศาจแห่งแมลงบุปผาเป็นพวกเย้ายั่วบุรุษ สร้างความร้าวฉานอยู่เป็นนิจ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีผลต่อเมืองมรณา เขาไม่ควรทะเลาะกับนางมากไปกว่านี้ ไม่ดีแน่ ๆ

“ข้าหิวเจ้าค่ะ ข้ากระหายเหลือเกิน เทพผู้ยิ่งใหญ่ ขอท่านได้โปรดเมตตา” นางอ้อนวอนอีกครั้งด้วยท่าทางน่าสงสาร เทพมรณาหยุดไตร่ตรองเรื่องนาง พลางผ่อนลมหายใจ

“ได้ ถ้าเจ้าเลิกดื้อรั้นกับข้า ถิงถิง ตกลงข้าจะพาเจ้าไปหาต้นไม้วิญญาณ...”

 

ความคิดของเทพมรณายามนี้ มิได้จะนำพานางไปยังต้นไม้วิญญาณเพื่อการเยียวยารักษาเพียงอย่างเดียว เขาเกิดความเมตตาดวงวิญญาณที่น่าสงสาร เมื่อร่างผีเสื้อแสนบอบบางแทบพัดปลิวไปกับสายลม นางไม่สามารถที่จะอันตรธานหายไปในกลุ่มเมฆาได้ด้วยการใช้เวทหยินหยาง

‘เจ้าถิงถิงบาดเจ็บสาหัส ข้าเองก็ไม่ทันสนใจสักเรื่องหนึ่งของเจ้า’

สาเหตุที่เขาไม่อาจพานางออกจากนครมรณาเพราะจะเป็นที่สงสัย นครมรณาไม่ได้มีแค่แห่งเดียว อีกสองเทพมรณากำลังจับตาดูว่าเขาทำอะไร

นีเทียนต้าเซินใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ขณะเงื้อมมือมัจจุราชจับร่างกระง่อนกระแง่นใส่กรงเหล็ก เหน็บไว้เหนือผ้าคาดเอวบนอาภรณ์สีนิล ควบขี่อาชาแห่งความมืดจากภพภูมิแห่งยมทูตสู่ภพภูมิปีศาจ ดินแดนแห่งพรรณพฤกษา เงยหน้าขึ้นมองนาง

‘พอใจเจ้าแล้วสินะ เจ้าผีเสื้อจอมดื้อรั้นอวดดี’ เขาต่อว่านางในใจ ใต้จันทรากลมโตสีชาดสว่างไสว ผีเสื้อตัวน้อยได้รับอิสรภาพจากกรง ปีกสีม่วงอ่อนแรงขยับผ่านเวหาอันเยียบเย็น ฝังร่างอร่ามงามไว้กับผลไม้สีแดงสดบนต้นไม้สูงตระหง่าน

[1] 逆天大神 Nì tiān dàshén