Chereads / ไฉนข้ามาอยู่ในเมืองยมทูต 杀我 爱我 阎罗王 / Chapter 8 - 4-2 可怜的蝴蝶 ผีเสื้อผู้น่าสงสาร

Chapter 8 - 4-2 可怜的蝴蝶 ผีเสื้อผู้น่าสงสาร

"ขอบคุณท่านเทพ! ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านแล้ว ฮ่า ๆ"

เสียงหัวเราะร่าเริงให้ความรู้สึกสดชื่นแจ่มใส สีหน้าแย้มยิ้มของนางแลดูไร้กังวล ผีเสื้อตัวใหญ่ห้อมล้อมด้วยลูกสมุน ทอแสงประกายอยู่บนนั้น

ปีศาจอสูรตนอื่นเพียงพบอาชาแห่งความมืดเตะกีบเท้าข้างบุรุษในอาภรณ์สง่า ก็พาลหนีไปเสียหมด ไม่มาแย่งอาหารของนางเหมือนเคย นางจะต้องต่อสู้กับปีศาจตนอื่นเพื่อแย่งชิงผลไม้วิญญาณลูกโต ๆ

ครู่นั้น นัยน์ตาสีชาดยังคงเพ่งมองนาง เฝ้ามองปีกหงิกงอที่เหี่ยวเฉาค่อย ๆ ฟื้นคืนชีพ จากเส้นปีกแผ่ขยายเหมือนต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขา ร่างผีเสื้อกลับมาทอประกายม่วงเหลือบทอง นางเอร็ดอร่อยกับผลไม้แห่งวิญญาณบนกิ่งไม้ใหญ่ นางว่ามันรสชาติหวานกรอบ ดับกระหายได้เป็นอย่างดี เท่านี้นางก็ไม่จำเป็นต้องดื่มด่ำพลังวิญญาณจากสิ่งมีชีวิตที่ไหน

'จิตวิญญาณที่เสียสละงั้นหรือ?'

ครั้นพยายามใช้ความคิดเกี่ยวกับการจำแนกดวงวิญญาณตามตำรา ท่านอาจารย์มิได้กล่าวถึงเรื่องนี้มากนัก

นีเทียนต้าเซินรวบรวมวิญญาณมานับหมื่นนับพันล้านดวงแล้ว แม้แต่ตัวเขา ท่านอาจารย์และเทพมรณาอีกสองไม่เคยพบดวงจิตสีทองอร่าม

ในเวลาที่นางเกิดความคิดชั่วร้าย ดวงจิตนางเป็นลูกแก้วห้อมล้อมด้วยไอหมอกสีดำสนิท พลังหยินเปรียบดั่งจิตใจสกปรกของเหล่าปีศาจ

อย่าว่าแต่จิตวิญญาณพิสุทธิ์ ดวงวิญญาณแห่งหยางของเหล่าเทพอาจปะปนกลิ่นไอหยินอยู่เพียงเสี้ยวส่วนหนึ่ง การมีทั้งขาวและดำล้วนเป็นธรรมชาติ ไม่มีผู้ใดขาวสะอาดหมดจด ควรมีสีขาวและดำ ด้านดีด้านร้าย เฉกเช่นเหล่ายมทูตผู้อาจเป็นทั้งเทพและมาร

ตอนใช้ดวงแห่งการพิพากษามองลึกลงไป นัยน์ตาสีอำพันของนางไม่เหมือนปีศาจตนไหน นางดูไร้เดียงสาทว่ามีแผนการ นางโอนอ่อนยอมตาม ทำงานให้เขาอย่างตั้งใจ ทว่าไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบนาง เมื่อเขาพานางมาดื่มด่ำพลังวิญญาณ กลับมานอบน้อมว่าง่าย

ช่างเป็นปีศาจน้อยที่น่าแปลกจริง...

นีเทียนต้าเซินพิจารณาปีกสีม่วงเหลือบทองอีกครา ไอหมอกสีดำหมุนวนรอบปีกทั้งสามคู่ นางฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทางมีลับลมคมใน

"หวังว่าเจ้า... กินอิ่มแล้ว จะไม่คิดหนี"

"ข้าจะอยู่ทำงานให้ท่าน ขอเพียงท่านพาข้ามาหาผลไม้วิญญาณ" นางตอบ ริมฝีปากสีชาดยังกัดกินผลไม้ลูกโต น่าจะทำให้อิ่มไปหลายมื้อ

บุรุษเทพเฝ้ามองนางไม่ละวางตา ร่างผีเสื้อตัดพ้อว่านางน่ะแสนอ่อนแอ ท่านยังออกคำสั่งให้นางอยู่ทำงาน กว่าจะพานางออกมาดื่มด่ำพลังวิญญาณ นางหิ้วท้องรอเกือบตาย ไยท่านแสนรังเกียจเดียดฉันท์นาง ออกคำสั่งให้นางลุกขึ้นมาทำงานโดยไม่มอบรางวัลเป็นการตอบแทน

'เพราะข้ากำลังตอบแทนเจ้า... จึงยังไม่ต้องเดินทางไปปรภูมิ เจ้าปีศาจผีเสื้อ ไยเจ้าไม่รู้ตัวอีก' 

เทพมรณานึกตลกขบขันนางอยู่ในใจ นางพูดจาไม่เข้าเรื่อง เสียงเจื้อยแจ้วน่ารำคาญ!

"ดูเจ้าอาชาใต้เหล็กกล้า ร่างมีแต่กระดูก มันมองข้าเช่นนี้ คิดจะกลืนข้าลงท้องหรือเปล่ากัน?"

ปีกสีม่วงโผบินลงมาจากต้นไม้ นางวนเวียนอยู่รอบกายอาชาน่ากลัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น

อาชามืดเตะกีบเท้า พ่นลมหายใจร้อนครืดคราดเป็นสีชาด นัยน์ตาของมันน่าสะพรึงกลัวไม่ต่างจากผู้เป็นนาย ร่างกระดูกประดับเกราะนิล เต็มไปด้วยกลิ่นอายของโลหิต เหม็นฉุนจนนางแทบอาเจียน

"อาชาแห่งความมืดกลืนกินทุกสิ่ง หากข้าบอกมันว่าอะไรกินได้..."

อาชากระดูกขบฟัน หากผีเสื้อตัวน้อยไม่คืนร่างสตรีตัวใหญ่กว่าปากของมัน คงลงไปอยู่ในท้องกระดูก นางตกใจ กลิ้งหลุน ๆ อยู่บนพื้น

"เจ้าอิ่มรึยัง?"

"ท่านรีบหรือเจ้าคะ?"

"เจ้าอย่าเสียเวลา ข้าต้องกลับไปทำงาน"

เทพมรณาเร่งเร้านาง สะบัดเวทหยินหยางผลักร่างผีเสื้อให้กลับขึ้นต้นไม้ใหญ่เหมือนนางเป็นเพียงสิ่งของชิ้นหนึ่ง เขาเอามือไพล่หลังยืนรอกระทั่งปีกสีม่วงเปล่งประกาย สะท้อนแสงจากพรรณพฤกษา ละอองน้ำในเวหาพัดผ่านสตรีในอาภรณ์สีชาด ยาวพ้นข้อมือและข้อเท้า นางสวมอาภรณ์เปิดเผยเนื้อหนังมังสา มองเห็นเนินอกอวบอิ่ม กลางหน้าผากเนียนปรากฏตราปีศาจคล้ายลวดลายของปีกผีเสื้อ นางกลับมามีผิวพรรณผุดผ่องงดงาม สมเป็นปีศาจราตรี ปีศาจแห่งการล่อลวง

"โอ้... ดูสิ ท่านเป็นเทพจริง ๆ ข้าวาสนาต่ำต้อย ไม่เคยพบบุรุษเทพอย่างใกล้ชิดมาก่อนเลยสักครั้ง" ริมฝีปากสีชาดเคลื่อนไปกระซิบข้างหูเทพมรณา ปลายเท้าเปลือยเปล่าลอยอยู่ข้างหลังอาภรณ์งามสง่า "เทพล้วนเกลียดชังปีศาจ"

"พวกเจ้าสร้างปัญหาบนเทวโลกไว้มากมาย เกินบอกเล่าจบในหนึ่งราตรี ไหนจะปีศาจสตรีก็ชอบยั่วยวนเทพ..."

"ข้าเปล่าซะหน่อย เทพน่ะทึกทักเอาเอง ข้าแต่งตัวสวยงามเพราะข้าหลงใหลในความงาม พี่รองเคยบอกข้าว่าปีศาจผีเสื้ออัปลักษณ์สิ ประหลาดนัก"

"ดั่งว่าบุปผาในน้ำ จันทราในกระจก ความสวยงามเปรียบเสมือนภาพมายา ไม่เที่ยงแท้"

"ใช่แล้วล่ะ หญิงงาม ย่อมงามที่จิตใจ"

'นี่ข้าเพิ่งได้ยินเรื่องนี้จากปีศาจ?'

นีเทียนต้าเซินไหวไหล่มองนาง ปีศาจสาวเยินยอตนด้วยรอยยิ้มภาคภูมิ ก่อนที่นางจะทำหน้าตาบึ้งตึง สองมือเท้าเอว "ว่าแต่ตัวท่าน ไม่มีมิตรภาพกับผู้ใดในเทวโลก ไยจึงรู้เรื่องราวของเทพและปีศาจได้เจ้าคะ?"

"ยมทูตรายงานข้า"

"เล่าให้ข้าฟังบ้างซี เผื่อข้าอาจจะช่วยยืดอายุขัยยมทูตจากสิบเป็นยี่สิบให้ท่าน หากข้าอารมณ์ดี"

"ไม่มีข้อต่อรองสำหรับเจ้า"

"เช่นนั้นข้าขอไปปรโลกคงดีเสียกว่า ความตายมิอาจผ่อนผัน อย่างมากข้าก็กลับไปเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีเหตุให้ข้าก้มหน้าทำงานอย่างไร้ศักดิ์ศรี"

นีเทียนต้าเซินผ่อนลมหายใจ พูดมากความไปนางก็ไม่เลิกปะทะคารม นอกเหนือจากการเรียกร้องความสนใจ นางออกจะชอบต่อปากต่อคำเสียด้วย

"ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่า... สถานที่ของเจ้าคือกรงผีเสื้อ เจ้าจะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของข้า"

รอยยิ้มน่าสะพรึงกลัวของเจ้านครมรณาทำให้นางโฉบบินกลับต้นไม้ ส่งเสียงคร่ำครวญ "ฮึก... ฮือ... ข้าไม่เอากรง ข้าไม่อยากโดนขังอีกแล้ว..."

"เจ้าปีศาจน่ารำคาญ กินอาหารของเจ้าให้อิ่ม อย่าเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์!" เขาตะคอกนางอย่างเกรี้ยวกราด ปีศาจสาวนิ่งเงียบไปไม่นาน ก็กลับมาพูดจาเจื้อยแจ้วอารมณ์ดี นางโผปีกบินจากต้นไม้ในร่างผีเสื้อตัวเล็กเท่าฝ่ามือ ลอยหน้าลอยตาเกาะบนบ่ากว้างของเทพมรณา