…ฉันมันก็แค่พนักงานบริษัททั่วๆไป มีเงินเดือนพอเลี้ยงปากท้องครอบครัว วันๆแค่ไปทำงานและกลับบ้านในตอนเย็น ฉันไม่ค่อยได้ไปดื่มกับเพื่อนร่วมงานนักเพราะว่าตัวเองจะรีบกลับบ้านไปเจอหน้าครอบครัว กลัวว่าพวกเขาจะเป็นห่วงและฉันเองก็ยังอยากกลับไปทานอาหารฝีมือภรรยาของฉันด้วย อยากจะใช้ชีวิตที่แสนสงบสุขแบบนี้ตลอดไป ขอแค่นี้ก็เพียงพอ....
จินนั้นวิ่งมาจนถึงที่ตรอกที่ยาวที่สุดในเซนเตอร์ โดยปกตินั้นช่วงเวลาการคืนมีการวางแผงลอยจัดการค้าขายสิ้นค้าราคาย่อมเยาอยู่ มีทั้งอาหาร เสื้อผ้า ไปจนของใช้ทั่วไป คนพื้นที่จะเรียกว่าตลาดกลางคืน แต่ในเวลานี้นั้นมันเป็นเพียงแค่ตรอกยาวๆที่มืดสลัวๆ ร้างไร้ผู้คน มีเพียงแค่จินเท่านั้นที่อยู่ในตรอกนั้นเขาวิ่งหน้าตั้งไปเรื่อยจนเห็นบันอยู่ตรงหน้าเขา แล้วแน่นอนบันไม่รีรอที่จะจ่อปืนมายังที่เขา
"มันดีแล้วหรอ? เป็นแบบนี้ตัวคุณเองก็จะใช้พลังในการเคลื่อนที่ผ่านมุมอับสายตาไม่ได้ แล้วก็หนีจากผมไม่ได้นะ…" จินพูดมาอย่างใจเย็นพร้อมวิเคราะห์โดยการกวาดสายตาไปยังรอบๆ เขาเองได้ข้อสรุปในการที่บันโจมตีในขณะที่เขากำลังวิ่งอยู่
"รู้ดีนี่! แต่แกก็มาได้แค่นี้แหละ!" พอสิ้นสุดเสียงบันก็ระดมยิงกระสุนนั่นมานับครั้งไม่ถ้วน
ห่ากระสุนพุ่งตรงมาที่จินอย่างรวดเร็ว จินในเมื่อที่ไม่สามารถหลบได้นั้นเขาสะบัดแขนข้างขวาออกไปข้างอย่างแรง เกิดลมแรงจนพัดกระสุนนั้นกระจัดกระจายไปยังพื้นที่รอบๆข้าง บันที่เห็นถึงกับตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า แล้วเขาก็รีบรีโหลดกระสุนใหม่ทันทีอย่างร้อนรน แต่จินนั้นไม่รอช้าพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว บันเลยจะปาระเบิดควันแต่ว่าจินจับมือไว้ได้ทันแล้วศอกเข้าที่ปลายคางจนหน้าสั่น หลังจากนั้นจินพยายามเผด็จศึกโดยจับแขนทั้งสองข้างของบันแล้วกระโดดเข่าลอยใส่หน้าจนล้มฟุบสลบกลางอากาศ...
"โทษทีนะ แต่ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างผม คุณน่ะแพ้แล้ว!" จินพูดจบแล้วเดินเข้าไปหาบันที่กำลังสลบจากการโจมตีเมื่อตะกี้นี้ แล้วจินก็หยิบกุญแจมือออกมาเพื่อจับกุมบัน แต่ในขณะที่กำลังจะพลิกตัวของบัน จู่ๆบันก็เหมือนจะได้สติกลับคืนมากัดไปที่หูของจินอย่างสุดแรงพร้อมกับเอาเท้าดันกระชากออกจนใบหูส่วนหนึ่งหลุดออก ใบหูของจินนั้นขาดกระจุดออกจากกันเลือดไหลรินซิบๆหยดลงพื้น
จินที่โดนแบบนั้นเลยกัดฟันไว้แน่นพยายามไม่ให้เสียงร้องนั้นเล็ดรอดดังออกไป เขาหายใจถี่ขึ้นชีพจรเต้นรัว มันเจ็บปวดแสบเหมือนโดนไฟไหม้ที่ปลายหู แต่เขาก็พยามประคองสติของตนเองไว้ และเมื่ออาการเจ็บเริ่มซาลง สายตาของเขาตอนนี้จ้องมองไปที่บันตรงหน้าอย่างไม่ลดละ
บันนั้นที่กัดหูของจินจนขาดนั้นลุกขึ้นราวกับผีดิบ ริมฝีปากเต็มไปด้วยเลือด ที่ปากนั้นคาบใบหูของจินอยู่แล้วเขาก็ถุยมันออก
"จะ...ใจร้าย....จัง...นะครับ เนื้อของผมมันไม่ถูกปากหรือไง?" จินเอามือจับทีใบหูและเขาพยายามควบคุมสติไม่ให้ระเบิดออกมา ก่อนจะค่อยลดระดับมือลงเพื่อเป้นการจับจังหวะการหายใจของเขาเอง
"ฉันเองก็จะมาแพ้ที่ตรงนี้ไม่ได้!!!" บันหยิบมีดขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าแทงจินพยายามหลบแต่เนื่องจากตอนนี้ยังคงสติได้ไม่นิ่งพอเลยโดนแทงไปที่ต้นขาของเขา จินที่เห็นดังนั้นเลยใช้ขาที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บถีบบันออกจากตัวของเขา นั่นเองทำให้ตัวเขาล้มลงไปนอนกับพื้น แต่ยังมีสติอยู่ครบ 32 การเคลื่อนไหวเขาทื่อลงเพราะอาการบาดเจ็บ เขาพยายามลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล
"ยังไหวน่า...!!!" จินตะโกนเรียกพลังใจอย่างสุดเสียง
บันที่เห็นดังนั้นเลยจะเผด็จศึกโดยการแทงไปที่หัว จินเอามือทั้งสองข้างรับการโจมตี บันที่เริ่มสู้แรงไม่ไหวเลยเตะที่ต้นขาของจินซ้ำจนแรงของจินนั้นเริ่มอ่อนลง
จินเริ่มไม่ไหวเลือดก็ไหลออกจากบาดแผลเยอะเกินไป ถึงแม้ว่าจะสามารถฟื้นฟูให้หายได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลา เหมือนตอนนี้สติค่อยๆเลือนรางเลย ถ้าเป็นแบบนี้แย่แน่ จินปล่อยแขนทั้งสองข้างที่รับการโจมตีของบันอยู่นั้นทันที แล้วในเสี้ยววินาทีนั้นเขาก็เอนตัวนอนลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว มีดนั้นได้ผ่านหน้าของเขาอย่างเฉียดฉิว และเขาใช้ขาข้างหนึ่งเตะเข้าที่กล่องดวงใจของบันอย่างสุดแรง จนสีหน้าของบันนั้นแสดงถึงความเจ็บปวด ใบหน้าสีเขียวปัด แววตาที่เหลือกจนแทบจะทะลุเพดานแล้วสลบลงไปอีกรอบ
"แฮ่ก...แฮ่ก... แฮ่ก...." เสียงเหนื่อยหอบราวกับคนที่วิ่งเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรด้วยความเร็วที่สูงมาก เขาค่อยๆสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ จนกลับมาเป็นปกติ ตอนนี้เขาแรงก็แทบไม่มีเหลือ เหมือนว่าบาดแผลที่หูนั้นเลือดจะหยุดไหลแล้ว แผลที่โดนแทงที่ขายังไม่หายสนิท แต่ก็ยังพอยืนไหว เขาดันตัวอย่างสุดแรงลุกขึ้นทั้งอย่างนั้นเลยทำให้ในตอนที่กำลังลุกนั้นเขาได้หันหลังให้บัน เพียงแค่ชั่วครู่นั้นบันก็เข้ามาจับตัวของเขาอย่างแน่นหนา
"ดูเหมือนว่าฉันจะโชคดีกว่าแกนะไอ้หนู!" บันพูดแล้วแสยะยิ้มออกมา
"คุณก็น่าจะไม่มีแรงเหลือพอจะกำจัดผมแล้วนิ?"
"ใช่! มันก็เราทั้งคู่แหละ แต่ถ้าเป็นฉันอีกคนนึ่งนะเหลือเฝือ" พอพูดจบก็มีบันอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมตึก เขาเหมือนบันทุอย่างแต่กลับกันแค่ถืออาวุธคนละข้าง "พลังของฉันคือ "ด็อพเพิล" สามารถก๊อปปี้ตัวฉันอีกคนหนึ่งออกมาได้ เปรียบเสมือนการสะท้อนภาพตนเองบนกระจก เอาเลยยิงมาเลย!!!" บันทำการสั่งให้ด๊อพเพิลของเขาเล็งปืนกระบอกหนึ่งมาที่จิน
จินที่ได้ยินแล้วถึงกับหลุดขำออกมา"คุณรู้ไหม? ว่าตำนานของด๊อพเพิลคืออะไร?"
"แล้วมันยังไง? ในเมื่อสุดท้ายแกก็ต้องตายอยู่ดี!"
"ถ้ามีใครเกิดพบเห็นด๊อพเพิลของคนนั้น คนที่เป็นเจ้าของจะพบกับความโชคร้าย..."
ปัง!!!!!!!!!
กระสุนสังหารพระเจ้า มันเป็นสิ่งที่ทางตระกูลแคปริคอนมอบให้ฉันมาก่อนที่งานคัดเลือกจะเริ่ม เห็นว่าเอาไว้รับมือกับเหล่านัมเบอร์โดยเฉพาะ หากโดนเข้าไม่ว่าจะที่ไหนก็ตามบนร่างกายมันจะทำให้นัมเบอร์คนนั้นอ่อนแรงคล้ายกับคนเป็นอัมพาต และผนึกพลังของคนคนนั้นชั่วคราว มีโอกาสเพยงแค่ 3 นัดเท่านั้น!.... ขอโทษด้วยนะไอ้หนู ที่ต้องให้นายมาเป็นบันไดเพื่อความปรารถนาของฉัน....
ในตอนที่ยันมั่นใจว่าตนเองชนะแล้ว! กระสุนก็หยุดกลางอากาศราวกับถูกอะไรบางอย่างมากั้นไว้...
"ทำไม! ทำไม!! ทำไม!!! ไงกระสุนนั่นถึงได้หยุดกลางอากาศได้ละ!!!" บันตะโกนออกมาเสียงดังจนจินนั้นแสบแก้วหู แต่ก็ไม่สามารถปิดหูได้เนื่องจากแขนทั้งสองข้างถูกจับอยู่
"ผมก็บอกไปแล้วว่าระวังจะโชคร้าย คุณลุง..." แล้วจินก็กระแทกหัวไปข้างหลังโดนจมูกของบันจนทำให้เขานั้นหลุดจากการจับล็อคได้
บันเริ่มส่งเสียงโวยวาย"พลังของแกน่าจะเป็นการสะบัดแขนเพื่อสร้างลมไม่ใช่หรอ!?"
"เมื่อตอนนั้นนะหรอ? อ๋อ! นั่นไม่ใช่พลังของผมตั้งแต่แรกแล้วละ…"
"หมายความว่าไง?"
"แต่เป็นท่านราชาที่เอายอมฟังความเอาแต่ใจของผมต่างหาก" แล้วจินก็ชี้นิ้วไปที่ข้างบนตึกชายรูปร่างบางตัวเล็กยืนอยู่ข้างบนดาดฟ้าของตึกมองลงมาข้างล่าง
"ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? พวกแกรวมตัวกันตั้งแต่ตอนไหน?"
เฮนรี่ที่ยืนอยู่บนตึกนั้นก็กระโดดลงมาจากบนดาดฟ้า ในขณะที่ร่างกายเขาดิ่งลงอย่างรวดเร็วก็ใช้แขนทั้งสองข้างสะบัดลงข้างล่างเกิดกระแสลมแรงพัดต้านให้เขาได้อย่างปลอดภัย
"นั่นสินะตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ารู้สึกเจ็บที่คอจังใช้การดัดเสียงนี่ยากกว่าที่คิดอีกนะ"
"ตอนนั้นเองสินะ!" บันรู้ได้ทันทีเลยว่าในตอนที่จินวิ่งหนีเขานั้นได้ส่งเสียงระหว่างทางเพื่อให้เพื่อนของเขาได้ยิน
"ก็ถึงได้บอกไงว่าโชคเข้าข้างผม แล้วไอ้ส่วนเรื่องพลังของคุณนั้นผมเองก็รู้ได้สักพักแล้ว"
"แสดงว่าแกนั้นจงใจเล่นตามน้ำทั้งอย่างนั้นสินะ"
จินที่ไม่ได้ตอบอะไรมานั้นได้แต่ทำหน้าเหมือนแสดงว่าไม่รู้ไม่ชี้ เฮนรี่ที่เห็นดังนั้นเลยพูดขัดจินว่า "นายนี่เป็นพวกบ้าชอบเล่นอะไรหวาดเสียวอยู่เรื่อยเลย ตอนนั้นนึกว่านายจะตายแล้ววะอีกเกือบเผลอเข้ามาช่วยแล้วไหมละ? ถ้านายไม่ส่งสัญญาณว่ายังไหวฉันคงพุ่งเข้ามาช่วยแบบไม่คิดชีวิตแล้ว"
"แต่ก็ขอบใจนายนะที่ยอมไว้ใจฉันจนถึงที่สุด" แล้วจินก็ยื่นหมัดออกไปชนกับเฮนรี่
เฮนรี่ก็ชนหมัดกลับมาแล้วทั้งสองก็หันหน้าไปที่บันคนละฝั่งของตนพูดคำหนึ่งขึ้นมา "โทษทีนายคงมาได้แค่นี้แหละ!"
บันที่เห็นว่าแผนของเขานั้นถูกทำลายลงอีกทั้งยังโดนเหยียดหยามกัดฟันกรอดๆ เขาโมโหจนถึงขีดสุดสั่งให้ด๊อพเพิลของเขาคว้างระเบิดควันลงพื้นพร้อมๆกับเขา และตัวเขาเองจะใช้โอกาสนี้หลบหนีเพื่อเตรียมการรับมือใหม่
เมื่อควันโพยพุ่งจนมั่นใจว่าหนาพอที่จะแฝงกายหลบหนีได้ แล้วบันก็รีบวิ่งหนีด้วยความรวดเร็วทันที
ไม่ไหว...ไม่คิดว่าจะโดนซ้อนแผน เอายังไงดี ตอนนี้เหลือระเบิดควันอีกเพียงแค่สองลูก ต้องไปตั้งหลักก่อน ตอนนี้แค่ไอ้หมอนั่นคนเดียวก็แทบแย่แล้ว หวังว่าด๊อพเพิลจะไม่โดนกำจัดไปก่อนนะ
ในตอนที่บันวิ่งหนีอย่างสุดแรงนั้นหมอกควันที่เขาได้ขว้างทิ้งไว้นั้นก็ได้กระจายตัวออกไปไม่เหลืออะไรเลย หลังจากนั้นเขาก็เห็นจินวิ่งไล่หลังเขามาติดๆ
เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา....
หลังจากที่บันนั้นได้หลบหนีไปได้ไม่นานเนื่องจากเขาคิดแล้วไม่ว่ายังไงก็ยังไม่สามารถเขาชนะพวกจิน
"อย่างนี้แย่เลยนะ...แล้วจะเอายังไงต่อดี?" เฮนรี่ถามจินขึ้นมา...
บาดแผลของจินตอนนี้ก็หายแทบสนิทหมดแล้วจนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปกติ "แน่นอน! ก็ต้องตามไปอยู่แล้ว"
"ถ้างั้น" แล้วเฮนรี่ก็กางแขนทั้งสองข้างออกสะบัดไปข้างหน้าอย่างรุนเรง สักพักทำให้เกิดลมหมุนพัดควันกระจายหายไปทั้งหมด
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอฝากทางฝั่งด๊อพเพิลทีนะ เหมือนว่าต้องกำจัดทั้งสองพร้อมกันไม่อย่างนั้นพลังจะไม่คลายออก"
"รับทราบ แล้วก็อย่าลืมสิ่งนี้ไปด้วย" เฮนรี่ดยนวิทยุมาให้จิน "ก็ว่าจะให้ในวันก่อนการคัดเลือก แต่ดันมีคนมาขัดเสียก่อน"
"ถ้าเกิดจัดการเสร็จแล้วจะรีบติดต่อมา"
ในตอนนี้บันที่วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตโดยที่ข้างหลังของเขามีจินวิ่งไล่มาอยู่
"บ้าเอ้ย!! ไอ้เด็กเวรนั่น มันใช้พลังของมันพัดหมอกวันของฉันหมดเลย"
จินที่วิ่งไล่หลังของบันก็ตะโกนมาว่า "รอก่อน! ยังไม่ได้ขอลายเซ็นเลย....รอเดี๋ยว!"
"ตามตื้อจังวุ้ย!" แล้วบันก็ยิงกระสุนหมุดนับสิบออกมาเพื่อถ่วงเวลา จินที่เห็นดังนั้นเลยกลิ้งหลบไปยังข้างถนนอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ทำให้บันทิ้งห่างจากเขาไปเรื่อยๆ
"คลังแสงเคลื่อนที่หรือไง!? ยิงใส่ฉันไปตั้งขนาดนั้นยังเหลือกระสุนอีกหรือ?"
... ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเอาชนะได้ก็อย่าพึ่งใช้สินะ! ดันพูดอะไรยุ่งยากซะได้ นี่สินะเวลานั้นนะ...!
ตั้งสมาธิที่ลมหายใจ.... ใส่แรงทั้งหมดไปที่ขาทั้งสองข้าง.... ความปรารถนาที่รุนแรงอยากที่จะไล่อีกฝ่ายให้ทัน! แล้วพุ่งไป...
ร่างกายของจินพุ่งอีกจุดไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยความเร็วสูงมาก....
....1 ครั้ง
พลังของคุณจินคือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนแม้แต่ตาเปล่านั้นไม่สามารถมองเห็นได้ แต่กระนั้นมันก็ใช้ติดต่อกันได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น! อีกทั้งระยะยังสั้นสุดๆ 1-2 เมตรเอง เพราะฉะนั้นแล้วควรใช้ผสมผสานกับการเคลื่อนไหวของตัวคุณเองจะดีมาก
.....2ครั้ง
แล้วถ้าเกิดใช้เกินจะเป็นอย่างไร?
มันก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นทั้งนั้น เพียงแต่....ถ้าเกิดอีกฝ่ายรู้ถึงจุดอ่อนนี้ละก็ตัวคุณเองต่างหากที่จะจบไม่สวย โปรดระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย
3 ครั้งมันน้อยไปไหม?
ผมบอกว่าคุณใช้ติดต่อกันได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น จริงๆแล้วมีเวลาคูลดาวน์อยู่ อย่างเช่นถ้าคุณใช้ทั้งหมดรวดเดียวจะใช้เวลารีใหม่ทั้งหมด 10 วินาที แต่ถ้าตัวคุณเองใช้แค่ 1 ครั้งแล้วรอใหม่จะใช้เวลาเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น!
แล้วเวลาที่คูลดาวน์มาถึงนั้นจะรู้ได้ไง?
ตัวคุณต่างหากที่จะรู้ได้ด้วยตัวเอง ถ้าตัวเองไม่รู้ก็อย่าหวังจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์คับขันเลย....
บันเองนั้นก็ตกใจที่ในเวลาไม่นานนั้นจินก็สามารถไล่ทันเขาแล้ว บันตัดสินใจสุดท้าย...
ไม่มีเวลารีดหลดกระสุนใหม่แล้ว กลับกันระยะประชิดนั้นทางนี้เองก็แทบจะไม่ชนะ ถ้าอย่างนั้นก็ในช่วงเวลาที่แกมาใกล้ฉันที่สุดฉันเอามีดเสียบคอหอยของแกซะ!
บันกำมีดไว้ในมือจนแน่นเตรียมพร้อมที่จะแทงจิน
...ยัง
.....อีกนิด
....ตอนนี้แหละ!
ในตอนที่บันกลับหลังหันไปเพื่อที่จะโจมตีจินที่ไล่หลังมานั้น...ว่างเปล่า! ไม่มีใครอยู่ แล้วมันไปไหนแล้ว? บันกรอกตาไปรอบข้างหน้าของตนกลับไม่เห็นใครอยู่เลย ขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับมานั้นหมัดตรงก็พุ่งเข้าหน้าของเขา เขาตอบสนองกลับโดยการเหวี่ยงมีดกลับไป...
...ไปไหนแล้ววะ?
จินไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว อีกสักพักก็มีการโจมตีจากทางด้านหลัง จินจับแขนทั้งสองข้างของบันและตีเข่าใส่ข้างหลังอย่างแรง จนทำให้บันหลังแอ่น แล้วจินก้มลงเพื่อหลบการเหวี่ยงมีดของบันอ้อมไปยังด้านหน้าและเผด็จศึกนี้ด้วยหมัดเสยที่ปลายคาง ร่างกายของบันราวกับโดนสิ่งที่แข็งราวกับก้อนเหล็กฟาดเข้าจนสลบกลางอากาศไปในที่สุด....
แล้วจินก็หยิบวิทยุที่เฮนรี่ให้มารายงายกลับไป
"ทางนี้เรียบร้อย แล้วทางนั้นละ?"
-เช่นกัน ร่างกายของด๊อพเพิลเองก็หายไปแล้ว
"รับทราบ อีกสักพักเดี๋ยวเจอกัน"
-แต่ว่านายแน่ใจแล้วหรอว่าจะทำแบบนี้จริงๆ อีกฝ่ายจ้องจะเอาชีวิตนายเชียวนะ
"มันมีบางอย่างที่ยังคาใจฉันอยู่นะ มีแต่ต้องถามกับเจ้าตัวเองเท่านั้น"