หลังจากที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเซนเตอร์ ขณะที่ทุกคนมองไปยังทางเดียวกันนั้นเองร่างกายของบันก็ได้ล้มลง
สิ่งนั้นทำให้ทุกคนต่างตกใจกันไปชั่วขณะ จู่ๆเสียงตะโกนของจินก็ดังขึ้นมา....
"เราโดนซุ่มยิง!! หลบเร็ว!!" สิ้นสุดเสียงตะโกนนั้นก็มีกระสุนหนึ่งนัดพุ่งเข้ามาโดนที่ไหล่ของจิน ทำให้ล้มลง
แย่แล้ว! ขาตอนนี้สั่นไปหมด ไม่คิดว่าอีกกลุ่มหนึ่งจะตามมาเร็วกันขนาดนี้ พลาดแล้วสิ! ในเหล่านัมเบอร์นั้นมีคนเดียวที่มีความสามารถในการซุ่มยิงอยู่ และก็เป็นคนที่อันตรายมากมี่สุดอีกด้วย แต่ว่าพวกเขาไม่น่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้นิ ด้วยระยะทางขนาดนั้น อีกทั้งความแม่นยำในการค้นหานี่อีก
ในขณะนั้นอลิซก็เข้ามาลากตัวของจินที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างทุลักทุเล จินที่เห็นว่าเธอพยายามช่วยเลยตะโกนห้าม "หนีไปสิ!! เดี๋ยวเธอก็โดนไปด้วยหรอก!"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงไป ท่านราชาเขาออกโรงเองแล้ว"
จินมองไปที่เฮนรี่ตอนี้ที่ไม่มีกระสุนพุ่งเข้ามาโจมตีต่อเพราะว่าเขานั้นใช้พลังในการหักเหวิธีกระสุนออกจนหมด ต่อให้อีกฝั่งจะยิงมายังไงก็ไม่สามารถมาถึงได้....
เพราะเนื่องด้วยร่างกายของจินค่อนข้างใหญ่ เลยทำให้อลิซใช้เวลาในการพาตัวออกไปจนทั้งสามคนหลบที่มุมตึกในระยะที่แน่นอนว่าจะไม่โดนซุ่มยิงจากตรงนี้ แล้วตัวของจินเองก็เริ่มพยายามคว้านกระสุนที่ฝังในไหล่ด้วยมีด
ในขณะที่จินคว้านอยู่นั้นทำเอาอลิซแทบไม่กล้ามอง เธอปิดตาแล้วถามด้วยความสงสัย "นายนี่มันบ้าไปแล้ว...! ไม่เจ็บบ้างหรือไง?" จนเอากระสุนออกเรียบร้อย
"โชคยังดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ แต่ว่าพวกนั้นเป็นใครกันฝีมือซุ่มยิงไม่ธรรมดาเลยนะ?" เฮนรี่ถามแล้วมองมาที่จิน
"สไนเปอร์ อีกทั้งระยะตั้งไกลยังยิงได้ขนาดนั้น ไม่ใช่มือสมัครเล่นที่พึ่งหัดจับปืน แต่น่าจะเป็นมืออาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย ในเหล่านัมเบอร์มีคนเดียวที่เคยเป็นอดีตทหารมาก่อน งานเข้าแล้วไงนั่นเป็นคนเดียวที่ไม่อยากจะเจอมากที่สุดเลย..."
"แล้วจะเอาไงต่อดี?"
"ทางเราเองก็มัวแต่จะมาหลบอยู่กับที่อย่างเดียวไม่ได้! มีแต่จะเป็นเป้านิ่ง เอาเป็นว่าตอนนี้เคลื่อนไหวไปยังจุดอื่นก่อน อีกไม่ไกลจากที่นี่มีบริษัทตระกุลอูทูสอยู่เราไปหลบที่นั่นกัน"
"โอเค!"
เมื่อรู้แล้วว่าจุดหมายต่อไปจะไปที่ไหน ทั้งสองคนก็เตรียมพร้อมกันอย่างใจเย็นแต่เหมือนว่า อลิซนั้นอยู่ๆเธอจะพูดขัดขึ้นมาพอดี "เดี๋ยวสิ! พวกนายไม่มีความรู้สึกเสียใจต่อการตายของหมอนั่นเลยหรอ? ไม่มีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่เลยหรือไง?"
เฮนรี่ที่เห็นว่าเธอพูดแบบนั้นเลยตอบกลับมาด้วยแววตาที่นิ่งสงบราวกับคนไร้อารมณ์ใดๆ "ก็ช่วยไม่ได้นิ? ฉันเองก็ทำเต็มที่แล้ว อีกอย่างมันก็เป็นปกติไม่ใช่หรอสำหรับพวกเราแล้วในตอนนี้ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า"
จินที่เห็นดังนั้นเลยเขย่าตัวของเฮนรี่อย่างแรง "เฮนรี่!? นายดูแปลกๆนะ ไหวหรือป่าว?"
"โทษที พอดีจู่ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่ใช่ตัวเองเลย...ขอโทษคุณอลิซด้วยนะครับ" เขาก้มหัวอย่างนอบน้อม
อลิซก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยปล่อยผ่านไป และจินก็ได้พูดความจริงใจออกมา "ไม่ใช่ว่าที่เราไม่เศร้าเราไม่เสียแปลว่าพวกฉันไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ถ้ามัวแต่ทำอย่างนั้นพวกเรานี่เหละจะเป็นรายต่อไป"
"เข้าใจแล้ว" อลิซพยักหน้าตอบ
ทั้งสามเริ่มทำการเคลื่อนที่ไปที่บริษัทของตระกูลอูทูส เพื่อหลบจากการซุ่มยิงและวางแผนรับมือกับแจ็ค
"เคลื่อนที่เป็นลำดับฉันกับอลิซ ใครคนใดจะไปก่อนก็ได้แต่ว่าคนสุดท้ายต้องเป็นนายบนเฮนรี่ เพราะว่านายต้องเป็นคนคุ้มกันพวกฉันในตอนเคลื่อนที่"
"แต่ทำไมนายไม่ให้เธอใช้พลังนั้นหละ? ถ้าทำแบบนั้นฉันจะได้คุ้มกันนายแค่คนเดียว"
"ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเขาร่วมมือกับนัมเบอร์คนอื่นหรือป่าว? แล้วอีกอย่างถ้าเป็นไปตามที่ฉันคิด เธอจะเป็นไพ่ตายของพวกเราในการเอาตัวรอดก็ได้"
คนแรกเป็นอลิซที่ต้องวิ่งไปก่อน เฮนรี่จึงใช้พลังของตัวเองในการคลุมร่างกายของเธอเพื่อให้เดินผ่านไปได้อย่างปลอดภัย แต่เนื่องจากที่เธอนั้นพกของติดตัวมามากมายเลยทำให้ตัวเธอนั้นเคลื่อนไหวช้ากว่าปกติแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เมื่อฉันเห็นแล้วว่าทางนี้ไม่มีการซุ่มยิงแต่อย่างใด เลยเลือกส่งสัญญาณให้เฮนรี่เดินมาเลยไม่ต้องใช้พลังในการคุ้มกันแล้ว
ตอนนี้ทางข้างหน้าเป็นถนนกว้างยาวโล่งแจ้งเมื่อเห็นทันทีก็สามารถรู้ได้เลยว่าที่ตรงนี้แหละเป็นจุดซุ่มยิงชั้นดี แต่ข้างหน้านั้นก็มีจุดหมายของพวกเราอยู่
คราวนี้ฉันเป็นคนแรกที่ต้องไปก่อน เฮนรี่ใช่พลังคลุมตัวของฉันเช่นเคย เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วจึงรีบจ้ำขาอย่างรวดเร็วจนอีกนิดเดียวจะถึงบริษัทแล้ว แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงกรงเล็บกระทบกับพื้นถนนวิ่งเข้ามาหาพวกเราด้วยความรวดเร็ว มนุษย์หมาป่าตัวเขื่องขนาดใหญ่เท่าๆกับผู้ใหญ่ที่โตเต็มไววิ่งเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่ฉันเห็นดังนั้นเลยรีบตะโกนให้เฮนรี่กับอลิซรีบวิ่ง
"เฮนรี่! อลิซ! วิ่ง! อะไรบางอย่างกำลังจะถึงพวกนายแล้ว!" ฉันตะโกนอย่าสุดเสียงเท่าที่ทำได้
ในตอนที่เหมือนว่าจะไม่ทันการนั้นฉันตัดสินใจจะเข้าไปช่วยทั้งสอง แต่จู่ๆก็มีกระสุนยิงเข้าที่เข่าข้างหนึ่งทำให้ล้มไถลไปกับพื้นคอนกรีต ขณะตอนนั้นฉันรู้ได้ทันทีว่านัดต่อไปเขาต้องเล็งมาที่หัวแน่นอนเลยเหวี่ยงหัวด้วยความเร็วเอี่ยวหลบได้ทัน กระสุนเจาะจนพื้นถนนกลายเป็นรูและรีบลุกอย่างทุลักทุเลไปหาทั้งสอง เกิดแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว ฝังนั้นทำราวกับว่าจะรู้การเคลื่อนไหวฝั่งนี้แทบทุกอย่าง
แต่ในขณะที่กำลังคับขันนั้นเองอลิซรีบใช้พลังของตนเองทำให้เธอกับเฮนรี่ล่องหนหายไปต่อหน้าต่อตาของหมาป่าตัวนั้น
แต่ประสาทการดมกลิ่นและการได้ยินมันดีมากแล้วเข้าเข้าโจมตีเฮนรี่ที่ตอนนี้กำลังล่องหนด้วยพลังของอลิซ จนร่ากายลอยกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบนอกนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเป็นรูปรอยกรงเล็บ
บรู้ววววววววววววว~~~~! เสียงมนุษย์หมาป่าที่คำรามขึ้นราวกับว่าตนเองนั้นได้รับชัยชนะก้องไปทั่งทั้งพื้นที่ อลิซที่เห็นว่าเฮนรี่ที่เธอใช้พลังของตนเองคลุมแต่ก็โดนโจมตีอยู่ดี ทำให้เธอนั้นเข่าทรุดสั่นกลัวไม่กล้าที่จะขยับตัวไปไหน จนเกิดฉี่แตกออกมา....
กลิ่นนั้นทำให้หมาป่าตัวนั้นรู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นอยู่ตรงไหนและรีบพุ่งโจมตีเข้าใส่ทันที ตอนนั้นเฮนรี่ที่กระเด็นออกไปก็หยิบหินก้อนเล็กปาไปที่หมาป่าตัวนั้นแล้วพูดจาดูถูกเยาะเย้ย "ทำได้แค่นี้เองหรอ? มดกัดยังรู้สึกเจ็บกว่าเลย" เขาพูดด้วยสภาพที่อ่อนแรงและอาเจียนออกมาเป็นเลือดเนื่องจากช้ำใน
หมาป่าที่เห็นว่าเฮนรี่กำลังเย้ยหยันตัวเอง จึงไม่รีรอรีบพุ่งเข้าไปตะปบเฮนรี่ที่นอนอยู่ทันที แต่ว่าเฮนรี่ใช้พลังดันตัวเองออกจากระยะการโจมตีของหมาป่าได้ทันเวลาพอดิบพอดี ทั้งที่เขาอยู่ในสภาพที่นอนตะแคงแถมตนเองยังบาดเจ็บอยู่ แล้วพูดจาเยาะเย้ยใส่หมาป่าตัวนั้นอีก " ช้าเป็นเต่าเลย ขนาดฉันเจ็บตัวอยู่แกยังตามการเคลื่อนไหวฉันไม่ทัน น่าขันเป็นบ้า!" หมาป่าตัวนั้นยิ่งได้ยินแบบนั้นยิ่งโกรธหนักกว่าเดิมพุ่งเข้าโจมตีเฮนรี่อย่างไม่ลดละ แต่ว่าเฮนรี่เขาก็ใช้พลังในการดันตัวเองหลบการโจมตีนั้นอยู่ดี
ในขณะที่หมาป่ากำลังไล่โจมตีเฮนรี่อยู่นั้น เพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็มีระเบิดอยู่ตรงหน้าของมัน หลังจากนั้นก็เกิดแสงสว่างทั่วทั้งบริเวณจนทำให้เจ้ามนุษย์หมาป่าร้องออกมาอย่างทรมาน ราวกับหมาที่โดนน้ำร้อนลวก จากนั้นก็มีควันมาปกคลุมบริเวณโดยรอบจนมองไม่เห็นอะไรเลย หมาป่าที่ค่อยๆเริ่มฟื้นตัวแล้วก็เริ่มทำการดมกลิ่นโดยรอบเพื่อหาตัวของพวกจิน แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงที่ดังมากๆมาจ่อที่ใกล้ๆหูของหมาป่าทำให้มันลงไปนอนชักดิ้นชักงออีกรอบ จนเมื่อควันเริ่มจางหายไปหมดก็ไม่พบใครเหลืออยู่เลย หมาป่าที่เห็นดังนั้นก็ร้องคำรามด้วยความโกรธ
บรู้ววววววววว~~~~~~! แล้วมันก็ค่อยกลับคืนร่างเป็นคนเหมือนดังเดิม ชายใส่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งหยิบวิทยุขึ้นมารายงายกับแจ็คที่กำลังซุ่มยิงอยู่ระยะไกล "ฉันสั่งให้แกยิงมันให้ตายทำไมแกถึงปล่อยให้มันรอดไปได้อีก?" เขาพูดระบายออกมาด้วยอารมณ์โกรธ
-ช่วยไม่ได้นิ? อีกฝ่ายเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย
" ถ้าไม่ใช่เพราะแกที่หยุดไอ้หมอนั่นไว้ไม่ได้นะ พวกมันได้ตายกันหมดแล้ว"
-ครับๆผมผิดเองละ แล้วจะเอาไงต่อ?
"ฉันจะไปตามล่าพวกมันต่อ ตอนนี้พวกมันกำลังอ่อนแรงกันหมด แกรู้ใช่ไหม? ว่าตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน?"
-อย่าดีกว่าไอ้หนู! ถ้าแกตามมันไปมีหวังแกได้ตายแน่ๆ
"เราจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดรอยไปไม่ได้ รีบบอกมาทีสิวะ!" เขาขึ้นเสียงใส่แจ็ค
-เฮ้อ~! ใต้เท้าแกไง! ท่อระบายน้ำ มันค่อนข้างซับซ้อนและเหม็นอีกด้วย พลังของฉันมันไม่เหมาะกับที่นั่น แต่ถ้าแกจะตามไปก็แล้วแต่
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเถียงกันนั้นเองก็มีฝนตกลงมา แล้วทันใดนั้นแจ็คก็รีบบอกกับชายคนนั้นว่า... -ฝนตก? เอาเป็นว่าตอนนี้ ไอ้หนูแกกลับมาก่อน พวกเรามาวางแผนกันใหม่อีกรอบ
"คราวนี้ไม่ต้องฉันจะเป็นคนวางแผนเอง" และเขาก็วางสายแจ็คแล้วรีบเดินไปสมทบกับแจ็คทันที
02.13 น.
ท่ามกลางฝนที่หนักอย่างต่อเนื่อง จินและพรรคพวกของเขากำลังพักฟื้นร่ากายในท่อระบายน้ำ
ตอนนี้จินมีเป็นคนเดียวที่มีสภาพร่างกายที่ดีมากที่สุด อลิซกำลังจิตตกอย่างหนักที่ตนเองนั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้ ส่วนเฮนรี่ก็สลบไปได้สักพักใหญ่เนื่องจากบาดแผลที่กลางอกเป็นรอยกรงเล็บทำให้เสียเลือดค่อนข้างมากตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่
"ฉันขอโทษ... ที่ฉันไม่สามารถทำตัวให้เป็นที่น่าพึ่งพาของพวกนายได้ ทั้งๆที่มีอายุมากกว่านายแท้ๆ" อลิซกล่าวขอโทษจินที่กำลังเฝ้าระวังอยู่..
"ไม่ใช่แค่เธอหรอก! ฉันเองก็เหมือนกัน ทั้งที่น่าจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังเล็งเฮนรี่อยู่แท้ๆ"
"แต่ว่าในตอนนั้นนายก็เข้ามาช่วยพวกเราได้ทันเวลานี่ แต่มองมาที่ฉันนี่ได้แต่นั่งกลัวจนเผลอฉี่ออกมา..."
"เธอเองก็รีบเปลี่ยนชุดซะ กลิ่นนั้นทำให้มันหาตัวพวกเราง่าย ในกระเป๋าใบนั้นน่าจะพอมีชุดสำรองอยู่ใช่ไหม?" พอพูดจบแล้วเขาก็หันหลังให้อลิซ
"รู้ดีจังนะ" แล้วเธอก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่หนาเตอะของเธอออก เปลี่ยนชุดทั้งหมดรวมกระทั่งชุดชั้นใน ในขณะที่เธอเปลี่ยนชุดนั้นเองจินไม่แม้จะคิดหันไปมองเลย...
แล้วจินก็พูดแนะนำขึ้นมา "อย่างน้อยความสามารถในการหายตัวของเธอ น่าจะเน้นไปที่ความคล่องตัวมากกว่านี้นะ ลดของที่ไม่จำเป็นออก เอาไว้แต่ของที่จะสามารถฝากชีวิตของเธอได้เท่านั้น!"
"แต่ว่าดูเหมือนว่าชุดแบบนั้นมันจะกันอะไรไม่ค่อยได้เลยนะ!?"
"อย่าคิดแค่ว่าตั้งรับแล้วอีกฝ่ายจะไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าเธอเลือกแบบนั้นก็ไม่ต่างกับหมูในอวย ที่รอมันเชือดก็เท่านั้น"
"นายนี่เห็นโหดแบบนั้นแต่ค่อนข้างใจดีเหมือนกันนะเนี่ย!" อลิซพูดชม
"เรื่องปกตินะ...! ในเมื่อตอนนี้พวกเราเป็นพรรคพวกเดียวกันก็ต้องช่วยเท่าที่จะทำได้"
"อ๋อ! หรอ!" แล้วอลิซก็เปลี่ยนเสื้อจนเสร็จเป็นชุดเสื้อสีขาวใส่กางเกงแบบเดิม รอบเอวมีมีดพกติดตัวหนึ่งเล่ม จากที่คอยสะพายเป้ใบใหญ่นั้นตอนนี้ก็ไม่ได้สะพายแล้วเพื่อเพิ่มความคล่องตัวตามที่จินบอก "เป็นไง?"
"แล้วชุดเกราะกันกระสุนละ?"
"ใส่ไว้ข้างในเหมือนนายไง" แล้วเธอก็เลิกเสื้อออกให้เห็นชุดเกราะกันกระสุนที่อยู่ภายใต้นั้น "ว่าแต่ทำไมพวกมันถึงไม่ตามเพวกเรามาละ? หรือว่าปอดแหกที่โดนนายเล่นงานไปรอบที่แล้วจนกลัวแล้ววิ่งหนีหางจุกตูดไปแล้ว"
"ไม่หรอก แค่ไม่อยากจะเข้ามาต่างหาก หมาป่ามันทนเสียงก้องภายในนี้ไม่ไหวหรอก แล้วอีกอย่างทั้งกลิ่นกับพื้นทางเดินที่แคบๆนี่อีกเสียเปรียบเห็นๆ"
"แล้วอีกคนละ?"
"อีกคนน่าจะเกี่ยวกับเสียงแหละ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาได้ยินถึงขนาดไหน ถ้าพวกเราโชคดีก็ได้ยินแค่เสียงที่ดังๆเท่านั้น"
"แต่ถ้าโชคร้ายละ?" อลิซถามจินด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
"ได้ยินทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเท้า ลมหายใจ หรือกระทั่งเสียงเต้นของหัวใจด้วย" สิ่งที่จินพูดนั้นทำให้อลิซแทบจะเป็นบ้า
เมื่อเป็นแบบนั้นอลิซพยายามพูดให้เบาที่สุดหรี่เสียงลงแล้วกระซิบที่ข้างหูของจิน"แสดงว่าตอนนี้มันก็ได้ยินที่พวกเราพูดทั้งหมดเลยสิ?"
"ถูกเกือบหมด แต่ว่าโชคพวกเรายังดีที่ข้างบนตอนนี้ฝนกำลังตกอยู่ถึงจะไม่แรงมาก แต่การแยกประสาทรับรู้เสียงทั้งหมดนั้นยากมาก ถ้าอ้างอิงจากตรงนี้ความสามารถนั่นน่าจะมีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง"
"แล้วพวกเราจะอยู่ในท่ออย่างนี้ไปตลอด จนกว่าพวกมันจะยอมแพ้แล้วไปเล่นงานคนอื่นแทนอย่างนั้นหรอ?"
"เรื่องนั้นก็ไม่ไหวเพราะว่าทางเราก็ไม่แน่ใจว่าฝนมันจะตกอีกนานแค่ไหนเหมือนกัน มันมีโอกาสที่ในนี้จะท่วมได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วตอนี้ก็รีบพักผ่อนเอาแรงก่อนรอให้เฮนรี่ตื่นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยมาวางแผนกันต่อ" แล้วจินก็เอนตัวนอนพิงกำแพงท่อระบายน้ำ
"นายจะใจเย็นเกินไปแล้วนะ" อลิซทำท่าทางหงุดหงิดใส่จินที่กำลังนอนอยู่
"มันแน่นออยู่แล้ว ถ้าไม่ทำตัวใจเย็นแล้วปล่อยให้ลนลานอยู่เรื่อยมีหวังได้เป็นโรควิตกกังวลกันพอดี เธอเองก็รีบพักซะเถอะนะพอบาดแผลของเฮนรี่หายเมื่อไหร่พวกเราจะออกจากท่อทันที"
"เข้าใจแล้ว!" แล้วอลิซก็มานอนลงข้างๆจิน
จินที่เห็นว่าเธอทำแบบนั้นเลยพูดไปว่า "ที่ก็มีตั้งเยอะแยะแล้วจะมานอนอะไรตรงนี้?"
"....."
หลับไปแล้วอย่างนั้นหรอ? เราเองก็หลับบ้างเหมือนกันดีกว่า....
ทางด้านของพวกโลแกนที่คอยเฝ้าดูการต่อสู้ของพวกจินในตอนนี้ต่างก็พากันเริ่มกังวลกันเล็กน้อย โดยเฉพาะเซร่าที่น่าจะเป็นห่วงจินมากที่สุด
"แย่เลยนะครับเนี่ย! การที่คุณจินมาเจอกับคนที่เคยเป็นทหารตะเวนชายแดนแบบนี้ แถมเขาคนนั้นยังเคยรบในสนามจริงมาอีก" ถึงแม้โลแกนจะค่อนข้างวิตกกังวล แต่ตัวเขาเองนั้นก็ยังทำท่าทีใจเย็นจิบกาแฟอยู่
"น่าเป็นห่วงเหมือนกัน จะว่าในท่อระบายน้ำมันไม่ได้มีการถ่ายทอดสดให้ดูเลยหรอ?" อูลถามกับโลแกนที่กำลังจิบกาแฟอยู่...
"นั่นสิคะ" เซร่ากับจิลก็ทำท่าทางเหมือนอยากจะรู้เหมือนกัน
"มีอยู่แล้ว แต่ว่ากล้องมันไม่ค่อยจะชัดเท่าไหร่หรอกนะ...จะดูหรือเปล่าละ?" โลแกนถามเพื่อความแน่ใจ
ทั้งสามคนต่างก็พยักหน้าพร้อมๆกัน
"โดยปกติแล้ว กล้องของในท่อระบายน้ำมันเอาไว้ดูระดับน้ำเพื่อหาสาเหตุในตอนที่น้ำท่วม แต่มันก็พอดูได้ละนะ" แล้วโลแกนก็เปิดกล้องในอยู่ในท่อระบายนำให้ทั้งสามคนดู "ถ้าดูจากตอนนี้แล้ว พวกเขาน่าจะอยู่บริเวณแถวนี้" กล้องนั้นก้เริ่มทำการฉายภาพของพวกจินที่หลบในท่อระบายน้ำใต้เซนเตอร์ เห็นเฮนรี่ที่นอนหมดสติอยู่ และก็เป็นตอนที่อลิซกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่จินหันหลังให้อยู่
"ไม่เลวนะเนี่ยคุณจิน" โลแกนกล่าวชม
แล้วเซร่าพูดขึ้นมาเสียงดัง "ไม่เลว!? นี่หมายความว่าไง? แล้วทำไมถึงต้องมาเปลี่ยนชุดในที่แบบนี้ด้วยละ?" เธอหันหน้าไปหาจิลด้วยท่าทีที่ร้อนรน
"อย่ามองมาที่ฉันด้วยสายตาเหมือนลูกหมาที่ถูกเจ้าของทิ้งสิ...! ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"ถ้าจำไม่ผิดพลังของเธอตนนั้นจะเกี่ยวกับการล่องหน ซึ่งการที่ตัวเธอเคลื่อนไหวง่ายมันจะเป็นการดีกว่าอยู่แล้ว ที่เปลี่ยนชุดน่าจะเป็นเพราะต้องการที่จะกลบกลิ่นอะไรบางอย่างแน่เลย" โลแกนพยายามอธิบายเหตุผลให้เซร่ายอมเชื่อ แต่จู่ๆอูลก็เข้ามาเสริมว่า....
"รสนิยมไม่เลวนะครับเนี่ยคุณจิน! หุ่นเธอคนนั้นก็ค่อนข้างใช้ได้"
โลแกนที่เห็นดังนั้นเลยพยายามพูดผสมโรงด้วยอีกคน"นั่นสินะ! เขาช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาจริงๆ"
คำพูดของเขาทั้งสองทำเอาเซร่าจิตตกไปพักใหญ่ นิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมาพักหนึ่ง
"จะว่าไปรู้สึกว่าหมอนั่นมักจะดึงดูดเพศตรงข้ามเข้าหาตลอดเลย" จิลพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย
"จะว่าไปก็จริงนะ หัวหน้าที่ทำงานพิเศษของเขาเองก็เหมือนจะดูแลเขาเป็นพิเศษอีกด้วย"
สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นมันกลับยิ่งตอกย้ำเซร่าหนักไปยิ่งกว่าเดิม.....ภายในใจตอนนี้เซร่าก็คิดเหมือนกันว่า ทั้งพี่แมรี่ และผู้หญิงที่สวยคนนั้นอีก ในขณะที่เธอครุ่นคิดอยู่นั้นจู่ๆเสียงโลแกนก็ดังขึ้นมา
"แย่เลยนะครับเนี่ย!!" เสียงนั้นดังจนทำให้เซร่าที่นั่งจิตตกอยู่วิ่งไปดูที่จอภาพ เห็นจินที่กำลังเอนตัวพิงกับกำแพงโดยที่มีอลิซหนุนไหล่ของเขาอยู่....
ฮะ!!!.....เสียนั้นดังออกมาจากปากเซร่าเพียงแค่ชั่วครู่นั้นในใจเธอเหมือนกับมีเสียงอะไรบางอย่างแตกร้าวดังขึ้น....