02.45 น.
ณ ที่ภายในท่อระบายน้ำ เฮนรี่ฟื้นฟูบาดแผลเสร็จสิ้น แล้วตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียเห็นจินกับอลิซกำลังพุดคุยกันอยู่ ได้ยินเสียงฝนตกภายนอกได้ยินยันข้างใน เสียงน้ำไหลผ่านท่อลงทะเล และเฮนรี่ก็ค่อยๆลุกไปหาพวกเขา
"นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?"
"แค่ 30 นาทีเอง บาดแผลนายหายสนิทแล้วหรอ?" จินถามด้วยความเป็นห่วง
"อือ แล้วทีนี้พวกเราจะเอาไงต่อดีละ พวกมันคงดักรออยู่ข้างบนแล้วแน่ๆ"
"ใช่! ฉันไม่รู้ว่าเขายังดักฟังอยู่ไหม? แต่เอาตามนี้ ทางขึ้นมีอยู่หลายที่ก็จริง แต่อย่างน้อยเวลาเกิดอะไรขึ้นอยากจะให้มาสมทบกันให้เร็วมากที่สุด ดังนั้นจะเหลือแค่สองที่เท่านั้น" จินชี้ไปที่แผนที่จุดสองแห่งเป็นฝาท่อระบายน้ำ
"ให้เลือกสินะ ว่าฝั่งไหนที่ปลอดภัยสำหรับพวกเรา"
"ใช่ แต่พวกเราจะต้องไปคนละแห่งกันนะ นายไปกับอลิซ ส่วนฉันจะไปคนเดียว"
"แต่นั่นมันเสี่ยงไม่ใช่หรือ อีกฝ่ายน่าจะอยู่ด้วยกันครบ แบบนี้ถ้านายเป็นฝั่งที่เจอจะไม่เสียเปรียบเอาหรอ?"
"ไม่หรอก! ถ้าอ่านจากนิสัยมนุษย์หมาป่านั่นน่าจะมั่นใจในฝีมือพอสมควรจากรอบที่แล้วมันสามารถจัดการพวกเราได้อยู่หมัด ฉันเดาว่ามันน่าจะแยกกันเฝ้าคนละจุด และอีอย่างนะเราควรจัดการทั้งสองคนให้ไม่สามารถต่อสู้ได้ ลองคิดดูสิถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นอีกคราวนี้ไม่รอดแน่"
"บ้าบิ่นเกินไปแล้ว คุณอลิซก็ช่วยพูดอะไรกับเจ้าหมอนี่ทีสิ" เขาหันไปถามทางอลิซที่กำลังนั่งฟังทั้งสองพูดคุยกัน
"ฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้หรอก แต่อย่างน้อยฉันและนายก็ต่างเชื่อใจหมอนั่น" คำพูดนั้นของอลิซทำให้เฮนรี่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
"เอาตามนี้นะ นายกับอลิซไปทางโบสถ์ ส่วนฉันทางถนนใหญ่" แล้วจินก็โยนแผนที่ท่อระบายน้ำให้กับอลิซ "อย่าทำหายละ"
"ฉันจะรีบมาหานายให้เร็วที่สุด" เฮนรี่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังและยื่นหมัดออกไปชนกับจิน
"เช่นกันท่านว่าที่ราชา" จินชนหมัดกลับไปแล้วทั้งสองก็แยกทางกันออกไปคนละทาง
ตรงนี้สินะ! ถ้าจำไม่ผิด....แย่เลยแฮะดูเหมือนว่าฝนจะหยุดตกซะแล้ว ก็ว่าจะใช้เสียงฝนในการกลบการเคลื่อนที่ของตัวเองสักหน่อย จินค่อยแหงมฝาท่อดูบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ตนเองจะขึ้นไป ท่ามกลางถนนรายล้อมไปด้วยตึกนับหลายร้อยอาคาร แล้วทันใดนั้นก็มีกระสุนพุ่งมาลงพื้นที่เขายืนอยู่ ทันทีที่รู้ว่ากำลังเจอใครอยู่นั้นจินก็รีบใช้พลังของตนเองเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเข้าไปหลบที่มุมอับสายตาจุดหนึ่งของภายนอกอาคารแถวนั้นทันที
....เกือบไปแล้ว ไม่คิดว่าจะเจอแบบกะทันหันแบบนี้ แสดงว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้ถูกสินะ ทางด้านของเฮนรี่จะเป็นไรไหมนะ?...จะมัวเอาแต่คิดไม่ได้แล้ว รีบทำการจัดการแล้วรีบตามไปสมทบดีกว่า
หลังจากนั้นจินพยายามตรวจสอบทิศทางกระสุนที่ยิงมา แล้วตามทางนั้นไป...
...แปลกๆแฮะรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป...
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ จินรู้สึกได้ทันทีว่านี่คือกับดักระเบิดที่แจ็ควางดักไว้ เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณโดยรอบ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นจินได้ใช้พลังของตัวเองในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงถึง 3ครั้ง เลยทำให้รอดได้อย่างหวุดหวิด
....กับดักระเบิด! เล่นของแรงเหมือนกันนะนี่ เกือบขาขาดไปแล้วไหมละ? ต้องระวังให้มากกว่านี้
เขาไม่ทันได้สังเกตเลยว่าในช่วงที่หลบระเบิดนั้น มันได้ทำให้ตัวเขาเองนั้นอยู่ในที่โล่งแจ้ง และในตอนนั้นก็มีกระสุนพุ่งทะลุขาเขาไป
...แย่แล้วต้องรีบหลบในมุมอับ
จินกลิ้งตัวหลบกระสุนไปเรื่อยๆจนไปชนกับผนังของอาคารหนึ่ง มันช่วยให้เขารอดได้แต่มันก็ต้องแลกมากับอาการคลื่นไส้ จนแทบจะอ้วก
ในระหว่างที่จินกำลังรอให้อาการเวียนหัวหายอยู่นั้น ก็มีเศษกระจกนับไม่ถ้วนหล่นลงมาที่ตัวเขาที่นอนราบอยู่ข้างตึก
...เศษกระจกนี่ แต่ทำไมกันละ? มันจำเป็นขนาดที่ต้องทำลายมันเลยหรือไง?
จินได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก แล้วเขาก็รีบวิ่งตามหาที่ต้นทางของเสียง แต่ขณะที่วิ่งอยู่นั้นก็จะมีกระสุนถูกยิงมาตลอด แต่จินก็ใช้พลังของตนในการหลบเข้าที่กำบังได้เสมอ แต่ในตอนที่กำลังชะล่าใจอยู่นั้น ก็มีเสียงเหมือนอะไรกำลังลอยเข้ามาหาเขาจากบนฟ้าแนวดิ่ง
ตู้มมมมมมม!!!!!!!
คราวนี้ไม่ใช่เสียงกับดักระเบิดแต่เป็นกระสุนลูกระเบิด โชคยังดีที่จินยังสามารถใช้พลังของเขาในการหลบได้ แต่หลังจากนั้นก็มีกระสุนระเบิดไล่ตามเขามาตามตำแหน่งที่หลบลูกแรกไป ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาจำเป็นต้องใช้พลังในการหลบอีกครั้ง ตอนนี้เหลือเพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้นแล้ว
ไม่ทันขาดคำก็มีกระสุนระเบิดตามมาอีกสองลูก
....ไม่ไหวแน่ จำนวนที่ใช้ได้เหลือเพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น ไม่พอที่จะหลบสองลูก
ตู้มมมมมม!!!
...เฮ้อ! แบบนี้จะเรียกได้ว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ได้หรือเปล่านะ
แรงระเบิดนั้นเพียงพอที่จะฆ่าเขาได้ แต่ว่าในเสี้ยววินาทีตอนนั้นเขาหยิบปืนพกของเขาออกมาแล้วทำการวัดดวงยิงสวนไปทำให้ลูกหนึ่งระเบิดก่อนที่จะถึงตรงตัวเขา ส่วนอีกลูกถึงแม้ว่าจะใช้พลังครั้งสุดท้ายในการหลบแต่ท้ายที่สุดแล้วก็บาดเจ็บจากผลของสะเก้ดระเบิดอยู่ดี
เขาพยายามนั่งอยู่นิ่งโดยพยายามจะไม่ขยับตัวเพื่อให้เกิดเสียง ในช่วงนั้นเขาได้รู้เลยว่าแจ็คนั้นใช้เศษกระจกในการบอกตำแหน่งและที่ลงพลังของฉัน โดยปกติแล้วทุกครั้งมี่ใช้พลังมันจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งตรงนั้นทันทีเลยทำให้ยากในการระบุตำแหน่ง แต่เศษกระจกนั้นไม่ได้ตามตัวฉันไปด้วย มันได้หล่นเป็นทางบอกตำแหน่งของฉันได้อย่างชัดเจน
...สมแล้วที่เคยเป็นคนที่ผ่านการรบมา การคาดเดาสถานการณ์จริง กลยุทธ์และสภาพแวดล้อม เขาใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ ดูท่าคราวนี้คงจะเจอของแข็งเข้าให้แล้ว
ทางด้านของแจ็คนั้นที่รอจินอยู่ข้างบนอย่างใจจดใจจ่อ ตอนนี้กำลังต้มน้ำร้อนเพื่อที่จะกินบะหมี่ถ้วย
"ไม่มีการแจ้งเตือน แต่ก็นะ...มันก็ช่วยให้ฉันได้เห็นอะไรดีๆเหมือนกัน พลังการเคลื่อนที่นั่นอาจจะเป็นอันตรายในอนาคตก็ได้ แต่เหมือนว่ามันจะมีข้อกำจัดในการใช้ด้วยแฮะ 2 ครั้ง ไม่สิ! สัก 3 ครั้งละมั้ง ใช้ติดต่อกันมากไม่ได้สินะ ดูท่าแล้วอีกไม่นานเขาก็คงมาถึงที่นี่อยู่ดี"
แจ็คนั่งเหม่อลอยอย่างใจเย็นบนดาดฟ้า ในระหว่างที่เขานั่งรอบะหมี่ถ้วยก็พลางนึกเรื่องที่เกิดขึ้นกับในค่ายตอนที่กำลังแอบกินบะหมี่ถ้วยเหมือนตอนนี้
"ทำไมนายถึงมาเป็นทหารละ?" เอสที่เป็นเพื่อนของฉันถามมาแบบนั้น
ตัวฉันเองก็ได้แต่เพียงตอบส่งๆไปโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรมาก "ครอบครัวฉันมันค่อนข้างยากจน ไม่มีเงินส่งฉันเรียนต่อฉันเลย สมัครมาเป็นทหารแทนแล้วนายล่ะ? ทำไมถึงมาเป็นทหาร?"
"ฉันถูกทางบ้านยื่นใบสมัครมา เพราะว่าฉันนั้นเกเรไม่ตั้งใจเรียน ก็นะ...มันก็ตัวฉันเองที่ไม่ค่อยสนใจที่จะทำอะไรจริงจังอยู่แล้วด้วย ก็เลยตามน้ำไป"
"นายมันลูกคุณหนูนี่นะ ทำไมไม่ลองตั้งใจเรียนดูละทั้งที่มีโอกาสแท้ๆ ส่วนฉันนี่สิแทบไม่มีโอกาสแบบนั้นเลย"
"ฉันหมดแรงใจที่จะทำแบบนั้นแล้วล่ะ...ส่วนนายก็แค่อยากมีใบปริญญาไปให้คนที่บ้านก็แค่นั้นเองสินะ"
"ก็ใช่นะสิ ถ้าฉันมีเงินเหมือนอย่างนาย ฉันก็คงเลือกที่จะทำอย่างนั้นไม่มาเป็นทหารอย่างนี้หรอก?"
"นั่นใช่ความฝันของนายจริงอย่างนั้นหรอ?"
"ความฝันของฉันคือการทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจเท่านั้นก็เพียงพอ"
เพื่อนของฉันเขาก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง "เฮ้อ~ นั่นใช่ความฝันของนายจริงอย่างนั้นหรอ?"
ฉันไม่ได้ตอบอะไรไป...
"ถ้านายไม่รู้ความฝันจริงคืออะไร? เดี๋ยวเพื่อนคนนี้จะบอกนายให้เอง ความฝันของฉันคือ..... เห็นไหม? มันไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนเลย ไม่ใช่ความต้องการของคนอื่นที่อยากให้เราเป็นอย่างที่เขาหวัง แต่เป็นความต้องการของตัวเองล้วนๆ"
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าบะหมี่ของเขาสุกแล้ว แล้วในตอนนั้นเสียงเท้าก็ค่อยเดินเข้ามาทางเขาอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงหายใจเหนื่อยหอบดังถี่
"ฉันรอจนเหงือกแห้งแล้ว...แต่ดกดูท่าแล้วนายน่าจะไม่ไหวนะ"
จินไม่ได้ตอบอะไรกลับมาได้เพียงแต่ยืนหอบรับประทานอยู่ข้างหน้าของแจ็ค
"ฉันลืมแปะป้ายไว้ข้างล่างบอกนายว่าใช้ลิฟต์ได้ ก็นะ...ไม่คิดว่าจะมีคนที่ระแวงขนาดที่ยอมวิ่งขึ้นมาด้วยเหมือนกัน"
ส่วนทางแจ็คกำลังนั่งกินบะหมี่ถ้วย เสียงซดน้ำนั้นทำเอาจินกลืนน้ำลายตัวเองเสียงดังเอื๊อก...!
"ซู้ด~~ เอาละ!" แจ็คก็โยนถ้วยบะหมี่เปล่านั่นทิ้งและลุกขึ้น "มาออกกำลังกายหลังอาหารกันหน่อยแล้วกัน"
ก่อนหน้านี้ทางด้านของเฮนรี่กับอลิซที่แยกออกไป ก็พากันเดินจนมาถึงทางขึ้นอีกฝั่ง เฮนรี่ที่เป็นห่วงเลยพูดขึ้นมา
"คุณอลิซ...ผมว่าเรารีบกลับไปสมทบกับหมอนั่นเถอะ ชักเริ่มเป็นห่วงแล้วถ้ามันไม่เป็นไปตามที่เขาคิดละก็" ในขณะที่กำลังจะวิ่งไปอลิซก็เข้ามาห้ามไว้โดยการดึงแขนไว้ข้างหนึ่ง
"นายเชื่อใจเขาไม่ใช่หรอ? ถ้าอย่างนั้นนายก็ควรทำตามแผนหมอนั่น"
เฮนรีเลยหยุดที่จะไปสมทบกับจินแล้วปีนขึ้นบันไดโดยดี เขาค่อยๆแหงมฝาท่อดูรอบๆอย่างช้าๆเมื่อพบว่าไม่มีใครดักรออยู่
"คุณรออยุ่ตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวพึ่งขึ้นมา"แล้วตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเต็มร้อยเลยขึ้นมาคนเดียว และให้อลิซรอดูสถานการณ์อยู่ในท่อ
โบสถ์หลังใหญ่ด้านบนมีระฆังที่ใหญ่มากประดับประดาอยู่ บรรยากาศที่วังเวงราวกับจะเกิดเรื่องสยองขวัญ ท่ามกลางเสียงอีกาที่ดังเป็นระงมสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นเฮนรี่ยืนอยู่ตัวคนเดียว
แล้วในตอนนั้นเองก็มีอีกาสีดำขนาดใหญ่บินลงมาบนพื้นและก็กลายร่างเป็นชายที่โป๊เปลือยไม่มีอะไรสวมอยู่เลย
เฮนรี่ตะโกนออกมาเสียงดัง "คุณตำรวจ! คุณตำรวจครับ! มีไอ้โรคจิตแก้ผ้าในที่สาธารณะ"
"ฉันแปลกใจจริงที่แกรอดมาได้ ฉันว่าตอนนั้นก็ลงแรงไปเยอะพอสมควรเลย ถือว่าดวงแกเข็งไม่เบา" ฟิชั่นพูดอย่างใจเย็น "จะว่าไปไอ้สวะนั่นก็พูดถูกจริงๆด้วย แต่ก็ช่างเถอะยังไงแค่ฉันคนเดียวก็เหลือเฝือ"
"ไม่ยักกะรู้ว่าเคยรู้จักโรคจิตที่แก้ผ้าในที่สาธารณะด้วยแฮะ"
"ปากดีได้แค่นี้แหละ" แล้วร่างกายของฟิชั่นก็เริ่มเปลี่ยนร่างกลายเป็นมนุษย์หมาป่าตัวเขื่อง ขนสีเท่าแววตาสีแดง พร้อมด้วยกรงเล็บที่แหลมคม และคำรามออกมาเสียงดังราวกับเป็นการประกาศชัยชนะของตน
บรู้วววววววววว~~~
"โทษทีพอดีวันนี้ไม่มีอาหารเม็ดให้แกหรอก"
ฟิชั่นในร่างหมาป่าตะปบเฮนรี่อย่างรวดเร็ว แต่เฮนรี่นั้นไหวตัวทันใช้พลังในการผลักตัวเองดันออกข้างหลบการโจมตีทันที "ทำได้เพียงแต่หนีไปวันๆ พลังของแกที่เน้นแค่การป้องกันมันเอาชนะชั้นไม่ได้หรอก" ฟิชั่นพยายามพูดจาดูถูกพลังของเฮนรี่
เฮนรี่ยิ้มเล็กน้อยเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นฝ่ายชนะ "มันจะแน่หรือป่าวนะ?"
ฟิชั่นก็โจมตีไปอีกรอบแต่ไม่ว่าจะโจมตีไปเท่าไหร่ก็ยังไม่โดนตัวของเฮนรี่สักนิดเดียว เลยทำให้เขาเริ่มที่จะหัวเสีย
"พลังของฉันทำได้แค่ป้องกันอย่างเดียว?อย่ามาพูดเองเออเองสิ ที่ป้องกันเพราะว่าฉันไม่จำเป็นต้องโจมตีด้วยตัวเองต่างหาก" เฮนรี่ใช้พลังของตัวเองดันเข้าหาฟิชั่นในร่างหมาป่าอย่างรวดเร็วและใช้มืออีกข้างหนึ่งจับไปที่ตัวของฟิชั่น ทันใดนั้นฟิชั่นก็กระเด็นออกไปเป็นระยะทางที่ไกลจนร่ากายนั้นไปชนกับรั้วของดบสถ์จนเบี้ยว และเขาก็ทำการชี้ไปที่หน้าของฟิชั่นที่ดดนพลังของตนอัดจนกระเด็น "ฉันขอเตือนแกไว้อย่าง...ถ้ายังไม่อยากตายก็อย่ามาประมาทฉันดีกว่า"
เหลือนัมเบอร์อีก 11 คน....