Chereads / Fusion World / Chapter 12 - การต่อสู้ของเด็กหนุ่มและเด็กสาว

Chapter 12 - การต่อสู้ของเด็กหนุ่มและเด็กสาว

หลังจากเห็นวิธีการต่อสู้ของชีฟที่ไร้ซึ่งทักษะ คาเร็นจึงให้ครูฝึกนักล่าจากบริษัทของตนมาดำเนินการฝึกทักษะการต่อสู้ให้ การแข่งขันในระดับที่สองทิ้งช่วงให้ผู้เข้ารอบได้พักเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แม้จะดูเหมือนนาน แต่ระยะเวลาเจ็ดวันชีฟไม่มีทางเก่งขึ้นได้แน่ คาเร็นมองเด็กหนุ่มตรงหน้าเธอด้วยความเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะระดับสองก็ยังคงให้สู้มือเปล่าเช่นเคย

ในขณะที่กำลังฝึกฝนกันอยู่ ครูฝึกสาวก็ทิ้งให้ชีฟสู้กับนักล่าสาวคนอื่น ๆ โดยจะมีนักล่าสาวสี่คนยืนล้อมชีฟเอาไว้ และให้ผลัดกันโจมตี ส่วนครูฝึกนั้นก็เดินกลับมารายงานผลให้คาเร็น

"การฝึกเป็นไปได้ด้วยดี"

คาเร็นเลิกคิ้วอย่างแปลกใจในคำตอบที่ได้ยิน เพราะนี่พึ่งจะฝึกกันได้สี่วันเท่านั้น เธอมองหัวหน้าครูฝึกแล้วถาม

"ทำไมถึงคิดแบบนั้น"

"แม้จะยังไม่รู้ทักษะการต่อสู้ใด ๆ แต่การตอบสนองของชีฟนั้นเร็วมาก และร่างกายก็แข็งแกร่งกว่าเด็กในวัยเดียวกันอยู่มากโข แถมยังความสามารถในการคิดวิเคราะห์ที่รวดเร็ว เด็กธรรมดาสู้ชีฟไม่ได้แน่นอน"

เมื่อได้ฟังรายงานคาเร็นก็รู้สึกสบายใจ คราวนี้ผลงานของเธอจะได้โฆษณาไปทั่วเมืองแบบฟรี ๆ

และก็เป็นจริงอย่างที่หัวหน้าครูฝึกพูด เมื่อชีฟสามารถหลอกล่อให้นักล่าสาวคนหนึ่งชกพลาดไปโดนอีกคนหนึ่งได้ ก่อนที่ตัวเองจะอ้อมไปด้านหลังนักล่าสาวที่เป็นคนชก แล้วผลักให้ชนกันเองจนล้มไปทั้งคู่

และแล้วก็ถึงวันแข่ง ชีฟเดินเข้าไปในสนามพร้อมกับเสียงเชียร์จากสาว ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยเช่นเคย เมื่อชีฟโบกมือให้ หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกน

"สู้เขานะจ๊ะ ถ้าชนะเดี๋ยวคืนนี้พี่ให้นอนกอดทั้งคืนเลย"

และแน่นอนเสียงตะโกนเชียร์นี้ก็ทำให้ชิซูกะแผ่รังสีอำมหิตออกมาจนแคทเทอลีนและเร็กซี่ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ได้แต่ยิ้มเจือน ๆ แล้วทำตัวให้เคยชินกับพฤติกรรมขี้หึงง่ายของเพื่อนสาวเธอ

แต่เมื่อคู่แข่งของชีฟเดินเข้ามาในสนาม เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มกว่าเดิม ซึ่งเสียงเชียร์คราวนี้มาจากเด็กสาววัยรุ่นทั้งหลาย ด้วยคู่แข่งของชีฟในวันนี้คือนักร้องบนโลกออนไลน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

"สู้เขานะแดอุนจัดการขวัญใจพวกคุณป้าให้ร่วงเลย"

วันนี้คงจะไม่ได้มีแต่ชิซูกะที่ปล่อยรังสีอำมหิตออกมาเสียแล้ว แต่เหล่าสาว ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยทั้งหลาย ก็พากันจ้องมองไปทางกลุ่มเด็กสาวแล้วแผ่รังสีอำมหิตออกไปพร้อมกับตะโกนว่า

"จัดการมันเลยชีฟ อัดไอ้เจ้าขวัญใจเด็กกะโปโลให้เละเลย"

คราวนี้เป็นทีของเหล่าเด็กสาวที่หันกลับมามองบ้าง ก่อนศึกแห่งการตะโกนเชียร์ของสาวเล็กและสาวใหญ่จะเริ่มขึ้น

เมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้ เสียงเชียร์ก็พากันเงียบลง เด็กหนุ่มทั้งสองก็ยืนจ้องหน้ากันสักพัก แดอุนกำมือสองข้างแล้วยกขึ้นเพื่อตั้งการ์ด ขาสองข้างแยกจากกันพอประมาณจากนั้นก็เขย่งเท้าเล็กน้อยแล้วโยกตัวขึ้นลงเบา ๆ

คาเร็นที่นั่งดูอยู่ข้างสนามเอ่ยถามครูฝึกนักล่าของเธอ

"เด็กเกาหลีนั่นทำอะไร"

"นั่นเรียกเทควันโด เป็นศิลปะการต่อสู้ของอดีตประเทศเกาหลี"

การเขย่งเท้าแล้วโยกตัวขึ้นลงเบา ๆ มันคือการเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่าเทควันโด

ชีฟมองคู่ต่อสู้ ก่อนจะตั้งการ์ดขึ้นโดยกำมือไว้หลวม ๆ ตามที่ครูฝึกสอนมา จากนั้นชีฟก็ค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย

เมื่อเข้าระยะเท้า แดอุนก็เหวี่ยงขาขวาที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายไปที่ใบหน้าของชีฟ ชีฟเอนศีรษะไปด้านหลังหลบได้อย่างฉิวเฉียด แต่การโจมตีไม่ได้มีจังหวะเดียว เทควันโดนั้นเป็นการใช้เท้าเพื่อโจมตีต่อเนื่อง เมื่อเท้าขวาพลาด เท้าซ้ายก็ตามมาอย่างรวดเร็วทั้ง ๆ ที่เท้าขวายังไม่สัมผัสกับพื้นด้วยซ้ำ ชีฟเก้าถอยหลังและยังคงเอนศีรษะหลบได้เช่นเคย เมื่อเท้าทั้งสองข้างสัมผัสพื้น แดอุนก็ย่อเข่าลงเล็กน้อยก่อนจะกระโดดหมุนตัวเตะสุดแรง ฝ่าเท้าขวาเหวี่ยงใส่มือขวาของชีฟที่ยกมากันใบหน้าเอาไว้อย่างแรง เสียงเนื้อสัมผัสกันดังลั่นไปทั่วสนาม

ชีฟนั้นไม่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บตัวฟรี มือขวาคว้าข้อเท้าของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ขาซ้ายเตะขาซ้ายอีกฝ่ายที่กำลังจะสัมผัสพื้นให้เหวี่ยงกลับขึ้นไปในอากาศ จนอีกฝ่ายเสียสมดุลแล้วล่วงหลังกระแทกกับพื้นดังปัก

แดอุนรีบลุกขึ้นด้วยกลัวว่าชีฟจะตามมาซ้ำ แต่ชีฟนั้นเพียงแค่ยืนรอ แดอุนตั้งการ์ดอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เป็นฝ่ายเขยิบเข้าไปใกล้ชีฟแทน แดอุนเหวี่ยงเท้าขวาใส่ชีฟอีกรอบ แต่คราวนี้เล็งไปที่ลำตัว ชีฟเขยิบหลบถอยหลัง และใช้มือสองข้างจับข้อเท้าของแดอุนไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แดอุนกะไว้อยู่แล้ว แดอุนใช้การจับของชีฟเป็นฐานในการหมุนตัวเหวี่ยงเท้าซ้ายขึ้นมา ฝ่าเท้าซ้ายฟาดใส่ใบหน้าชีฟอย่างจังจนหน้าสะบัด แต่มีสิ่งหนึ่งที่แดอุนคาดไม่ถึง นั่นคือแรงจับของชีฟ แม้จะโดนเตะเต็มแรง แต่ชีฟก็ไม่ยอมปล่อยเท้าขวาของแดอุ่นแถมยังจับแน่นกว่าเดิม นั่นทำให้การหมุนตัวเตะของแดอุน เป็นการหักกระดูกข้อเท้าของตัวเองไปด้วยในตัว แถมการเซถอยหลังไปของชีฟ ยังดึงให้แดอุนเสียหลักล่วงหน้าฟาดพื้นเข้าเต็มเต็ม

กรรมการรีบเข้ามาดูทั้งสองคนทันที ชีฟลุกขึ้นมายืนตามปกติ ส่วนแดอุนนั้นได้แต่นอนจับข้อเท้าอย่างเจ็บปวด กรรมการเข้าไปสอบถามอาการของแดอุนว่าสู่ต่อได้หรือไม่ ซึ่งแดอุนก็ยืนยันว่าจะสู้ต่อ จากนั้นเพียงแค่กรรมการถอยออกไป ชีฟก็อาศัยความได้เปรียบอย่างสูงเดินเข้าไปเตะเข้าเบ้าหน้าของอีกฝ่ายที่ยืนขากะเผลกให้สลบในดอกเดียว เป็นอันจบการแข่งขันในรอบแรกของชีฟ

ชีฟนั่งพักกินขนมดื่มน้ำได้หนึ่งชั่วโมงก็ต้องเข้าสู่สนามเพื่อเริ่มการต่อสู้รอบที่สอง คราวนี้คู่ต่อสู้ของชีฟคือเด็กสาวหน้าตาดี การแข่งขันคัดเลือกนี้ไม่ได้แยกชายหญิง แต่แค่พยายามจับคู่ให้ดูเหมาะสมเท่านั้นจึงไม่ค่อยจะได้เห็นชายหญิงได้สู้กันมากนัก นอกจากจะหมดคู่จริง ๆ

เด็กสาวผมทองชาวยุโรปถอดเสื้อวอมแขนยาวของตัวเองออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาว ซึ่งมันได้เผยความเซ็กซี่ของเธอออกมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่มีวัฒนธรรมการไม่สวมใส่ชุดชั้นในบวกกับหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ นั่นทำให้เหล่าสาวใหญ่ที่เชียร์ฝั่งชีฟพากันมองอย่างไม่พอใจเป็นการใหญ่ ซึ่งการทำแบบนี้ของอีกฝ่ายไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นในรอบนี้ ในรอบก่อนที่เธอเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นผู้ชาย เธอก็ทำแบบนี้เช่นกัน ซึ่งเหตุผลที่ทำก็เพื่อรบกวนสมาธิในการต่อสู้ของอีกฝ่าย

เมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้ เด็กสาวก็ตั้งการ์ดและค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ชีฟหน้าอกของเธอขยับขึ้นลงทุกครั้งที่เธอขยับตัว เมื่อเข้าระยะหมัดเด็กสาวก็เหวี่ยงหมัดขวาใส่ชีฟอย่างรวดเร็ว

ชีฟถอยหลังหลบทันที เมื่อพ้นระยะหมัดเด็กสาวก็เหวี่ยงเท้าขวาขึ้นมาแทน ขายาว ๆ ของเธอพุ่งตรงไปยังใบหน้าของชีฟ

ชีฟจับขาของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วยกขาขวาของตัวเองถีบเข้าไปตรงกลางหว่างขาของอีกฝ่ายอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มหลังกระแทกพื้น

ผู้ชมต่างพากันอึ้ง โดยเฉพาะสาว ๆ ที่พากันเอามือกุมท้อง ชีฟมองเด็กสาวที่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีอาการจุกเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองครูฝึกสาวที่นั่งดูอยู่ข้าง ๆ คาเร็น

ครูฝึกสาวที่เห็นสายตาเชิงคำถามของชีฟก็เอามือตบหน้าตัวเองดังแป๊ะ เพราะวิธีนี้เธอสอนชีฟเอาไว้โดยลืมบอกไปว่ามันใช้ได้ผลเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน ซึ่งการที่ชีฟหันมามองเธอนั้น มันก็คือการถามว่า ทำไมไม่เห็นได้ผลตามที่เธอสอนเลย ครูฝึกสาวหันมาพูดกับคาเร็นด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ

"คุณคาเร็น ฉันขออนุญาตสอนเรื่องเพศศึกษาให้กับเด็กคนนี้ด้วยจะได้มั้ย"

คาเร็นและคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบก็พากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ชีฟหันกลับมาสนใจคู่ต่อสู้เหมือนเดิม และการที่ชีฟยังไม่ตื่นรู้เรื่องเพศเหมือนจะกลายเป็นข้อดีในรอบนี้ไปเลย เมื่อหน้าอกอันใหญ่โตที่เด้งขึ้นเด้งลงนั้นมันไม่มีผลอะไรกับชีฟเลยแม้แต่น้อย

เด็กสาวระวังตัวมากขึ้นหลังจากที่โดนเตะหว่างขาในครั้งแรก คราวนี้เด็กสาวไม่ยอมเป็นฝ่ายบุก แต่กลับรอให้ชีฟเข้าไปหาแทน ซึ่งชีฟก็ไม่ได้คิดแต่ที่จะรับฝ่ายเดียว ชีฟถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะวิ่งเข้าใส่เด็กสาวแล้วสไลด์ไปกับพื้นหญ้าเพื่อถีบข้อเท้าของอีกฝ่าย เด็กสาวกระโดดหลบไปทางขวาอย่างง่ายดาย แต่ในจังหวะที่เด็กสาวลอยตัว ชีฟก็คว้าข้อเท้าซ้ายของเด็กสาวเอาไว้ก่อนจะอาศัยแรงส่งจากการสไลด์กระชากให้เด็กสาวเสียหลักหน้าทิ่มลงกับพื้น

พื้นดินที่มีหญ้าเพียงน้อยนิด ก็ทำให้หน้าอกอันใหญ่โตและใบหน้าอันงดงามประทับลงบนพื้นดินอย่างสวยงาม และชีฟยังไม่หยุดแค่นั้น ชีฟรีบลุกขึ้นฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายยังนอนแนบพื้นจับข้อเท้าทั้งสองข้าง แล้วออกแรงเหวี่ยงอีกฝ่ายให้กระเด็นออกไปนอกสนาม แต่เหมือนเด็กสาวโชคจะยังดีที่เธอเพียงแค่มาหยุดอยู่ตรงขอบเส้นของสนามเท่านั้น แต่โชคดีของเด็กสาวก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเธอกำลังพยายามจะลุกขึ้น ชีฟก็วิ่งเข้ามากระโดดถีบขาคู่จนเธอออกนอกสนามในที่สุด

การชนะสองรอบนั้นก็เท่ากับว่าสามารถเข้าไปสู่ระดับที่สามได้แล้ว ซึ่งโดยปกติเด็กคนไหนที่ชนะได้ครบสองรอบก็จะมีคนจากบริษัทผลิตชุดเกราะมากมายพากันมารุมล้อมเพื่อนำเสนอชุดเกราะของพวกเขา แต่ชีฟนั้นไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่น้อย ด้วยเสื้อของชีฟนั้นด้านหน้ามีโลโก้ของบริษัทคาเรร่าประดับอยู่บนเสื้อจนเห็นได้อย่างชัดเจน และด้านหลังก็มีโลโก้ของร้านอาวุธของเอ็ดดี้อยู่ด้วย สิ่งนี้จึงเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าชีฟนั้นมีบริษัทอื่นจองตัวไว้เรียบร้อยแล้ว

ในเช้านี้ชีฟได้สู้เพียงแค่สองรอบ และรอบสองของชีฟก็จบในตอนสิบโมงพอดี นั่นทำให้ชีฟมีเวลาอีกมากในการพักผ่อน

พอเข้าช่วงบ่าย ชีฟก็ได้สู้เป็นคู่แรก คู่ต่อสู้ของชีฟในช่วงบ่ายนั้นชื่อฟางหลง เมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้ ฟางหลงก็เข้าประชิดตัวชีฟอย่างรวดเร็วก่อนจะรัวหมัดใส่จนชีฟต้องรีบยกการ์ดขึ้นมากันไว้ หมัดของฟางหลงนั้นแม้จะแรงไม่มากแต่ก็เร็วจนน่าเหลือเชื่อ เมื่อฟางหลงหยุดรัวหมัด ชีฟก็พยายามถอยห่างออกมา แต่ฟางหลงไม่ปล่อยชีฟไปง่าย ๆ ไม่ว่าชีฟจะถอยหลบไปไหน ฟางหลงก็จะตามประชิดเข้ามาติด ๆ นั่นทำให้ชีฟไม่มีโอกาสตั้งหลักเลยแม้แต่น้อย ฟางหลงหาจังหวะรัวหมัดใส่ชีฟเรื่อย ๆ มีทั้งแบบรัวยาวและรัวสั้น สับไปสับมาให้ชีฟเดาทางไม่ออก

แต่ละหมัดของฟางหลงเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ เพื่อหาช่องโหว่ง แต่ชีฟก็เปลี่ยนตำแหน่งการ์ดตามทุกครั้ง ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีเขาได้โดยตรง การไล่ตามของฟางหลงนั้นน่ากลัวมากเพราะสามารถตามติดชีฟได้ตลอด แต่เมื่อไล่ตามมาได้สักพัก ฟางหลงก็ผ่อนแรงลงแล้วเป็นฝ่ายถอยออกไป พอชีฟผ่อนการ์ดลงฟางหลงที่รอจังหวะอยู่แล้วก็กระโดดหมุนตัวถีบใส่กลางหน้าอกของชีฟเต็มแรงจนชีฟกระเด็นและหงายหลังล้มไปกับพื้น

ฟางหลงยืนรอให้ชีฟลุกขึ้น ก่อนจะหงายมือแล้วกวักเรียกชีฟให้เข้าไปหา ชีฟมีน้ำโหเล็กน้อยก่อนจะวิ่งชาร์ตเข้าใส่ แล้วสไลด์ไปกับพื้นอีกครั้ง ฟางหลงกระโดดสูงตีลังกาหลังอย่างสวยงามนั่นทำให้ชีฟไม่สามารถที่จะใช้มุกเดิมได้ แถมตอนขาฟางหลงเหวี่ยงลงมา หลังเท้าของฟางหลงยังหวดใส่หน้าชีฟเต็ม ๆ ฟางหลงมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม และยืนรอให้ชีฟลุกขึ้นอีกครั้ง

ชีฟลุกขึ้นมาอย่างเจ็บใจ ก่อนจะเดินเข้าหาฟางหลงอย่างช้า ๆ ฟางหลงที่เห็นว่าชีฟมีท่าทางแปลก ๆ ก็ระวังตัวมากขึ้น ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่พักหนึ่งก่อนที่ชีฟพยายามคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยมือขวา ฟางหลงถอยหลังแล้วปัดมือชีฟออกไป ก่อนจะกระโดดถีบขาคู่ ชีฟคว้าข้อเท้าทั้งสองข้างของฟางหลงไว้ทันทีที่เท้าสัมผัสตัว ด้วยแรงถีบชีฟกับฟางหลงล้มไปด้วยกัน

ชีฟที่ล็อกข้อเท้าฟางหลงไว้ได้ ก็ใช้เท้าขวาของตัวเองถีบอัดไปที่หว่างขาของอีกฝ่ายทันที ฟางหลงรีบเอามือสองข้างมาสกัดเท้าของชีฟไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มแล้วยักคิ้วอย่างยียวนชีฟโมโหหนักปล่อยขาซ้ายฟางหลงไปก่อนจะกอดขาขวาไว้แน่แล้วพลิกตัวกลิ้งไปกับพื้น คล้ายกับวิธีการที่จระเข้กำลังฉีกกระชากเหยื่อ ฟางหลงที่ไม่ทันตั้งตัวกับท่าโจมตีแปลก ๆ ก็ต้องรีบกลิ้งตามเพื่อป้องกันขาโดนหัก ชีฟอาศัยจังหวะที่ตัวเองเป็นผู้นำในการกลิ้งสปริงตัวลุกขึ้นแล้วลากอีกฝ่ายไปกับพื้นในสภาพคว่ำหน้า เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตั้งหลักได้ จากนั้นชีฟก็กระโดดทิ้งศอกใส่กลางหลังของฟางหลงเต็มแรงแล้วตามต่อด้วยการรัดคอของฟางหลงเอาไว้ แค่ครู่เดียวที่ขาดอากาศหายใจ ฟางหลงก็เอามือตีพื้นก่อนจะตะโกนว่ายอมแพ้

ชีฟและฟางหลงลุกขึ้นยืนมามองหน้ากัน ฟางหลงยื่นมือขวามาข้างหน้าแล้วยิ้มให้ ความโกรธของชีฟหายไปจนหมด ก่อนจะยื่นมือขวาของตัวเองไปจับมือกับอีกฝ่าย

เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องด้วยความชื่นชมดังไปทั่วสนาม ชีฟมองฟางหลงที่ทั้งตัวมีแต่ฝุ่นดินและหญ้า ซึ่งชีฟก็ไม่ต่างกัน ทั้งสองยิ้มให้กันและหัวเราะออกมา