Chapter 29 - ตอนที่28.

"เมื่อไม่มีใครขัดข้องในเรื่องนี้ก็ขอกล่าวจบการประชุมครั้งนี้ครับ"พิธีกรเอ่ยลาแก่ทุกคนก่อนจะเดินออกไปจากหอประชุม กิลด์และตระกูลแต่ละประเทศเองก็รวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุย

นอกจากจะกล่าวถึงแนวทางความร่วมมือยังมีเรื่องของสถานที่มาเกี่ยวข้อง อย่างดันเจี้ยนที่เกิดในพื้นที่ของตระกูลก็ให้คนในตระกูลมีส่วนร่วมมากกว่า

เมื่อความคิดเห็นบางส่วนยังไม่ลงตัว พวกเขาก็กลับประเทศและไปประชุมกันต่อเพื่อหารือให้ตรงกัน เพื่อลดความขัดแย้งในอนาคต

หลังจบการประชุมอย่างเป็นทางการผู้คนก็เริ่มแยกย้ายกันไปเพื่อประชุมกิลด์ในเรื่องของการรับมือกับดันเจี้ยนที่อาจจะปรากฏได้ตลอดเวลา

ซึ่งแน่นอนว่ากิลด์หมื่นดาบและกิลด์ลูกอย่างตำหนักเทพอสูรก็มีการประชุมที่ห้องใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่แต่ละฝ่ายได้เห็นหน้าเห็นตากันชัดเจน

คนที่เยว่ชิงสนใจคือเพื่อนอีกคนในกลุ่มของหลงจือหยางที่คนรักได้พูดคุยกับเขาตอนที่อยู่บนรถหลังออกจากที่ประชุมของทางมหาลัย

ช่างลี่ คนที่หลงจือหยางตั้งชื่อให้โดยตรงมีความหมายถึงพลังอำนาจแห่งอสระหรือเสรีภาพ บุรุษที่ถูกทอดทิ้ง จากการเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของหลงจือหยางทำเอาเยว่ชิงสะท้อนใจ

เขาถูกคาดหวังจากคนรอบข้างจึงเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เขาไม่สามารถเปร่งเสียงออกมาได้หลังจากพ่อและแม่ต่างฝ่ายต่างฆ่ากันเอง ส่วนคนในตระกูลก็ไม่เอาเด็กต้องคำสาปคนนี้

หลงจือหยางจึงบอกได้ว่าแม้ครอบครัวตระกูลหลงจะแย่ แต่ก็ไม่หนักหนาเท่าที่ช่างลี่พบเจอ ซึ่งเยว่ชิงก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนั้น

"มาเริ่มประชุมกันเถอะ"หลงจือหยางเปิดปาก ก่อนจะเริ่มจัดกลุ่มทั้งหมดสิบกลุ่มเพื่อวนเวียนในแต่ละครั้ง โดยแต่ละกลุ่มนอกจากจะหมุนเวียนกันเข้าดันเจี้ยนยังรวมถึงการลาดตะเวนโชคดีที่ความสามารถของเกอหลายคนใช้คลื่นเสียงในการตรวจจับความผันผวนได้

"ในกลุ่มจะมีการแจกแจงลำดับพลังเอาไว้ ในกรณีที่ดันเจี้ยนนั้นระดับต่ำ ให้คนที่แข็งแกร่งน้อยที่สุดทำผลงานให้มากที่สุด เพื่อพัฒนาศักยภาพ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หากมีการฝ่าฝืนฉันจะไล่ออกจากกิลด์ทันที"ทุกคนต่างพยักหน้ารับก่อนจะออกจากที่ประชุมของห้องใหญ่ มุ่งตรงไปประชุมแผนการกับคนในกลุ่มของตัวเอง

"งั้นเรามาดูลำดับพลังของแต่ละคนแล้วจัดตั้งเป็นกลุ่มย่อยดีกว่าเพื่อความสะดวก"หัวหน้าทีมที่รับผิดชอบเอ่ยขึ้น พวกเขาไม่อยากมีเรื่องผิดพลาด การถูกไล่ออกจากกิลด์มันค่อนข้างจะแย่ ไม่ได้เหมือนกับการออกกิลด์อย่างสมัครใจ

หลายๆ ทีมประชุมแยกย่อยกันออกไป อีกทั้งสอบถามถึงจิตวิญญาณของแต่ละฝ่าย เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องของพลังที่ถือครองว่าเหมาะจะยืนตำแหน่งไหน

ถ้าพลังเน้นไปที่โจมตีก็จะอยู่ตำแหน่งหน้าสุด ป้องกันก็แถวกลางและรักษาฟื้นฟูก็อยู่ด้านหลัง

พวกเขาต้องขอบคุณหัวหน้ากิลด์ที่จัดกลุ่มได้อย่างเหมาะเจาะ ทุกทีมมักรวบรวมพลังที่หลากหลายไม่ว่าจะตั้งรับหรือรุกก็ตาม แถมมีจิตวิญญาณที่เหมาะสมกับทีมพวกเขาจริงๆ

โดยเฉพาะเกอที่มีจิตวิญญาณประเภทสัตว์ปีกหรือการโจมตีด้วยคลื่นเสียง จะถูกแยกย้ายกันไปแต่กลุ่มเพื่อทำหน้าที่ลาดตะเวนเบื้องต้น เนื่องจากพื้นที่บริเวณที่รับผิดชอบมีขนาดใหญ่ แถมพื้นที่มีมากกว่าประเทศหนึ่งประเทศเสียอีก

"แน่ใจเหรอว่าจะไม่เข้าร่วมช่วงแรก"หลงจือหยางคว้าเอวบางของเยว่ชิงรวบเข้ามานั่งบนตัก ก่อนจะจูบหลังมือคนงาม หลังจากที่ห้องประชุมเหลือเพียงพวกเขาแค่สองคน

"ครับ ผมต้องยกระดับคงใช้เวลาสักพัก"เยว่ชิงมองก่อนจะมองกระดานภารกิจที่ระบบมอบหมายให้ เนื่องจากแต่เดิมระบบมีการอัพเกรดตัวเองจนถึงระดับเงิน แถมเยว่ชิงเองก็วิ่งเข้าดันเจี้ยนไร้ระดับยกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นมา

จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากสามภารกิจก่อนหน้าเรื่องการถ่ายแบบ เยว่ชิงก็ใช้คะแนนเหล่านั้นเตรียมการยกระดับ ซึ่งมันขาดคะแนนอีกไม่มากและเยว่ชิงมั่นใจว่าทำได้ทั้งหมดในวันนี้ จึงเอ่ยเรื่องการยกระดับกับหลงจือหยางไป

" ภารกิจที่ 17 เสร็จสิ้น

รางวัลภารกิจ:30point "

" ภารกิจที่ 18 เสร็จสิ้น

รางวัลภารกิจ:30point "

" ภารกิจที่ 19 เสร็จสิ้น

รางวัลภารกิจ:40point "

นอกจากภารกิจสามอย่างจะรวมได้ร้อยคะแนนแล้ว ยังมีภารกิจต่อเนื่องนับจากค่าความฟินของหลงจือหยางที่ทำเอาจิตวิญญาณของเยว่ชิงถูกเติบเต็มจนแทบจะยกระดับทันที

เมื่อขาดคะแนนนิดๆ หน่อยๆ ระบบจึงมอบภารกิจง่ายๆ ให้

แม้ว่าหลงจือหยางจะเสียดายที่คนรักอาจจะใช้เวลานานสักนิดในการยกระดับแต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่ขัดขวางทั้งยังส่งเสริมโดยให้ใช้ห้องยกระดับจิตวิญญาณได้ตลอดเวลา

"ขอบคุณครับ"เยว่ชิงกดปลายจมูกเข้าที่แก้มนุ่มของคนรัก ใบหน้าเรียวสวยคลอเคลียที่บ่ากว้างซุกซบอีกฝ่ายก่อนทั้งคู่จะแยกจากกัน

หลงจือหยางเข้าร่วมการลาดตะเวนเมื่อมีดันเจี้ยนปรากฏขึ้นก็เข้าไปพร้อมกับกลุ่มแรก เพื่อสำรวจถึงความร่วมมือของทั้งสามฝ่าย บุรุษ เกอและสตรี หากมีข้อบกพร่องเกิดขึ้น เขาจะต้องคิดหาวิธีใหม่

อย่างที่สองเพื่อวัดระดับของดันเจี้ยนและดูแนวทางการสั่งการของหัวหน้าทีมว่าไปเป็นตามจุดประสงค์ไหม จากนั้นก็เฝ้าดูตารางคะแนนและไอเทมที่แต่ละคนจะได้ครอบครอง

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทีมต่อไป โดยที่ทีมแรกเสวียนอวี้เป็นคนรับผิดชอบโดยนำจิวอิงติดสอยห้อยตามไปด้วย แต่ข้อกำหนดของจิวอิงคือไม่ให้มีส่วนร่วมในดันเจี้ยนมากเกินไป

แน่นอนว่าข้อกำหนดนี้มาจากเยว่ชิงโดยตรง เนื่องจากระบบกังวลว่าจิวอิงจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้ในครั้งเดียว จึงขอให้อีกฝ่ายใช้มันในหอคอยชั้นถัดไปจะเหมาะกว่า เพราะจำนวนอสูรแตกต่างกันมากเกินไป

ทางฝั่งเยว่ชิงที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นก็นั่งหอบอยู่บนพื้น มองภารกิจยาวเหยียดเป็นหางว่าวที่ถ้าทำสำเร็จก็ได้รับคะแนน ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะเข้ามิติจิตเพื่อยกระดับถัดไป

" ภารกิจที่ 22

1.ปั่นจักรยาน45นาทีโดยไม่หยุดพัก

2.วิ่ง60นาทีโดยไม่หยุดพักไม่ผ่อนแรง

3.ว่ายน้ำ30นาทีไม่พัก

4.กระโดดเชือก200ครั้งไม่พัก

5.วิดพื้น100ครั้งไม่พัก

6.สควอท100ครั้งไม่พัก

7.แพลงค์15นาทีไม่พัก

รางวัลภารกิจ1:มิติพิเศษยกนะดับจิตวิญญาณจากระดับEไประดับD

รางวัลภารกิจ2: ปรากฏหางที่สาม จำแลงร่างจิ้งจอกเก้าหางชั่วคาว เพื่อขึ้นระดับศักดิ์สิทธิ์ ระยะเวลาที่กำหนด7นาที "

เยว่ชิงใช้เวลาไปสองวันเต็มจากการออกกำลังกายจนผ่านมาแล้วหกภารกิจ เหลือเพียงภารกิจสุดท้ายจนต้องพักขาที่อ่อนล้าชั่วคราวโดยนอนในห้องที่หลงจือหยางส่งมอบให้ใช้คนเดียวในขณะนี้

เยว่ชิงอยู่ในท่าแพลงค์เกร็งหน้าท้องและช่วงแขน จนครบสิบห้านาทีก็ทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้นด้วยความดีใจเสียจนน้ำตาปริ่ม

"ภารกิจที่ 22 เสร็จสิ้น

รางวัลภารกิจ1:มิติพิเศษยกนะดับจิตวิญญาณจากระดับEไประดับD

รางวัลภารกิจ2: ปรากฏหางที่สาม จำแลงร่างจิ้งจอกเก้าหางชั่วคราว เพื่อขึ้นระดับศักดิ์สิทธิ์ ระยะเวลาที่กำหนด7นาที "

[กำลังโอนย้ายเข้าสู่มิติยกระดับ]ร่างกายของเยว่ชิงขยายใหญ่กลายร่างเป็นจิ้งจอกสองหางอัตโนมัติ ส่วนร่างกายก็ไปปรากฏที่มิติขนาดเล็ก 

จากครั้งก่อนที่มีเพียงแท่นหินที่ขึ้นไปนอนจากนั้นก็รอรับความเจ็บปวดจากการงอกหางที่สอง เยว่ชิงยังจำได้ดีจนต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะนอกจากแท่นหินจะอยู่ที่เดิมแล้ว ด้านนอกยังมีหุ่นไม้สิบหุ่นยืนอยู่

[กำจัดหุ่นไม้ทั้งสิบตัวทิ้ง ข้อควรระวังอัตราการฟื้นฟูรวดเร็วมาก โปรดกำจัดทั้งสิบตัวโดยเร็ว ตราบใดที่หุ่นหนึ่งตัวไม่ตาย หุ่นอีกเก้าตัวจะลุกขึ้นมาได้เสมอ]

"นี่มันโคตรยากเลยนะระบบ"

[แน่นอนครับ เพราะถ้าง่ายโฮสต์ต้องรับทันฑ์สวรรค์หนักหน่วงแน่นอน นี่ระบบช่วยสุดๆแล้วนะ]

"ขอบคุณนะระบบ"เยว่ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงปราบปลื้ม ก่อนจะกลายร่างเป็นจิ้งจอกเก้าหางชั่วคราว เขามีเวลาเพียงห้านาทีในการกำจัดหุ่นตรงหน้า

ถ้าหากในร่างจิ้งจอกเก้าหางทำไม่ได้ เขาคงจะต้องรอไปก่อน จนกว่าจะมีวิธีจัดการ แต่กว่าจะถึงตอนนั้นก็ขอให้เขาได้ทุ่มสุดกำลังเสียก่อน

เยว่ชิงตะปบฝ่าเท้าลงไปเบื้องหน้าที่หุ่นยืน อยู่จากนั้นหางทั้งเก้าก็พวยพุ่งเข้าแทงที่หุ่นอีกเก้าตัว 

"อ้าว พวกมันเดินได้นี่"เยว่ชิงยกฝ่าเท้าขึ้นจากนั้นก็กางเล็บแล้วเขี่ยที่หัวอย่างมึนงง ไม่ใช่ว่าหุ่นเหล่านี้ต้องอยู่กับที่ไม่ใช่รึไง ทำไมมันถึงวิ่งหนีได้ละ แถมหลบพ้นทุกตัว

[โอ้ ตื่นเต้นไหมล่ะ]ระบบพูดออกมาเยว่ชิงก็น้ำตาซึม มันไม่ได้น่าตื่นเต้นเลยระบบ มันยิ่งยากเข้าไปใหญ่

แต่เยว่ชิงก็ไม่ได้ยินยอมกระโจนไล่ทุบตีจนหุ่นแตกแต่พอกำจัดตัวที่ห้าที่หกทีไร ตัวที่เคยแตกละเอียดก็กลับมารวมตัวเป็นหุ่นอีกครั้ง

"ว๊าก กลืนลงคอแม่มเลย"เยว่ชิงตัดสินใจเขมือบมันทุกตัวก่อนจะพบว่าหุ่นเหล่านี้มีไว้เพื่อกินตั้งแต่แรก เจ้าตัวนั่งหูลู่หางตก นึกภาพตัวเองวิ่งไล่ราวกับหมาบ้า ก่อนจะพบว่าแค่กลืนมันลงท้องก็จบ

[นอนบนแท่นหินเลยโฮสต์ เจ้าหุ่นไม้พวกนั้นจะช่วยลดความเจ็บปวดลง] เยว่ชิงรู้สึกร้อนวูบวาบที่หน้าท้อง เจ้าตัวคืนร่างเหลือเพียงจิ้งจอกสองหางที่นอนบนแท่นหิน

ไม่นานด้านบนหัวก็ปรากฏเมฆฝนคลึ้มดำน่ากลัว ในกลางของมันมีสายฟ้าฟาดลงมาเป็นระยะจนขนสีขาวของเยว่ชิงลุกชัน ทั่วทั้งตัวราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน

"อึก"เยว่ชิงรีบปิดปากแน่นไม่ส่งเสียงใดๆ รอเพียงสายฟ้าด้านบนที่ฟาดลงมาเป็นระยะยาวนานหลายนาทีก่อนจะสงบลง จากนั้นร่างกายก็รู้สึกเบาหวิวก่อนที่หางที่สามจะค่อยๆยืดยาวขยายเท่าหางที่หนึ่งและสอง

"สำเร็จ"เจ้าตัวฉีกยิ่มอย่างดีใจ ก่อนจะถูกดึงกลับไปที่เดิม ด้วยแรงกายและแรงใจที่อ่อนล้าจนเผลอหลับไป และคืนสภาพมนุษย์ที่หลับสนิท

หลงจือหยางเช็ดตัวให้คนที่นอนหลับสนิทมองจิตวิญญาณจิ้งจอกของคนรักที่ตอนนี้ปรากฏหางที่สามอย่างภาคภูมิใจ ประทับรอยจูบก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายในยามที่เข้านอน