Chereads / สุดแสงสีหม่น / Chapter 10 - โชคชะตาที่กำหนดโดยคนอื่น

Chapter 10 - โชคชะตาที่กำหนดโดยคนอื่น

หลังจากที่คุณหญิงวิไลรัตน์และป้านุชตกลงกันได้ พวกเขาก็แยกย้ายกัน โดยป้าเดินออกมาจากห้องทำงานพร้อมคุณหญิง และพาตรงไปยังห้องรับแขกที่ตอนนี้เหลือแค่คุณพ่อกรชวัล คุณแม่ฐิติวรรณ และวีรภัทรานั่งอยู่

ขณะที่พวกเขา 3 คนนั่งดูทีวีกันอยู่นั้น ป้านุชก็เอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงว่า คุณหญิงวิไลรัตน์จะกลับบ้านแล้ว ทุกคนเลยร่ำลากัน และวีรภัทราไม่ลืมที่จะขอบคุณคุณหญิงและเธอก็ได้รับรอยยิ้มที่มีแต่ความเอ็นดูกลับมา

ผ่านไป 1 สัปดาห์นับจากวันนั้น ป้านุชเรียกวีรภัทรามานั่งคุยด้วยกันในห้องทำงานส่วนตัว

"หลานวีทำงานมาสักพักแล้ว เป็นยังไงบ้าง" ป้านุชถามขณะเดินนำวีรภัทราเข้าไปในห้องทำงานตัวเอง

"ก็ดีค่ะ มีพริมอยู่ด้วย ทุกอย่างก็เลยไม่มีปัญหาค่ะ" วีรภัทราตอบตามความจริง ขณะที่มือจับลูกบิดประตูอยู่ ก่อนที่ประตูจะปิดลงด้วยมือเธอ

"มานั่งตรงนี้ มา" ป้านุชมองไปที่วีรภัทรา แล้วก็หันกลับมาชี้เก้าอี้นั่งสีน้ำตาลเข้มที่มีเบาะหุ้มนั่งนุ่ม ๆ สีขาว พอวีรภัทราได้ยินป้าเรียก จึงเดินไปยังที่นั่งตรงข้ามป้า หลังจากที่ก้าวขาเข้ามาใกล้โต๊ะทำงานที่ป้านุชนั่งอยู่ เธอค่อย ๆ เลื่อนเก้าอี้และนั่งลง

วีรภัทรานั่งเกร็งเล็กน้อย กลัวว่าป้านุชจะเรียกมาดุอะไรเธออีกหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เลย สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปอย่างน่าแปลกใจ เธอมองป้าด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ในใจกลับงุนงง

"แล้วเพื่อนสนิทของหลานคนนั้นน่ะ เป็นยังไง" ป้านุชพูดน้ำเสียงนิ่ง ๆ พลางเอนตัวไปที่พนักพิง และใช้สายตาเฉียบคมของเธอมองมาที่วีรภัทราอย่างไม่วางตา

"ก็ดีค่ะ" วีรภัทราหลบสายตาที่โดนจ้องมา เธอเลือกที่จะมองไปที่มือของตัวเอง พลางตอบกลับมาอย่างเกร็ง ๆ พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ

"เป็นอะไร ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ทำเป็นกลัวไปได้" ป้านุชเขยิบตัวมาชิดโต๊ะ ยกมือขึ้นมาประสานใต้คางตัวเอง

"ค่ะ ก็...ดีเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ" วีรภัทราค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตาป้านุช แล้วตอบกลับอย่างช้า ๆ

"ก็ดีแล้วที่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ป้าอยากให้หลานวีรู้จักคน ๆ หนึ่ง เขาเป็นคนที่ดีมาก" ป้านุชพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนแจ้งให้ทราบ และป้าก็ไม่ได้ถามความเห็นวีรภัทราอะไรต่อ เพียงแค่สายตาที่ป้ามองวีเหมือนกับครูใหญ่ประจำบ้าน

"ค่ะ แต่...วีมีคนที่คบแล้วนะคะ" วีรภัทรารู้ดีแก่ใจว่าป้านุชไม่ชอบที่เธอมีแฟน ถึงได้ทำแบบนี้ แต่เธอก็อยากจะลองพูดสู้ให้กับความสัมพันธ์ของตัวเองดูสักครั้ง เธอพยายามใช้สายตาอ้อนวอนไปที่ป้า แต่ไม่ได้ผล เพราะป้าเธอใจแข็งและเชื่อมั่นในสิ่งที่เลือกให้แล้ว เธอจึงได้แต่กุมมือ ก้มหน้าจมอยู่กับตัวเองแทน

"เดี๋ยวถ้าป้านัดได้ ป้าจะมาบอกอีกทีละกัน เตรียมตัวดี ๆ ดูแลตัวเองด้วย อย่าให้โทรมล่ะ" ป้านุชพูดกำชับวีรภัทราเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องทำงานไป โดยไม่สนใจที่จะฟังคำตอบของวีเลย

หลังจากป้านุชเดินออกไป วีรภัทราได้แต่สะอึกสะอื้นร้องไห้อยู่กับตัวเอง และเธอรู้สึกได้ว่า ป้าจริงจังกว่าทุกครั้ง และเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกแฟนตัวเองยังไงดี ขณะที่เธอกำลังรู้สึกกระวนกระวายใจกับตัวเองอยู่นั้น ป้าก็เดินกลับมาอีกรอบ

"มัวแต่ร้องไห้ เรื่องแค่นี้ อย่ามาทำตัวเป็นเด็กไปได้" ป้านุชเดินมาหยุดพูดตรงหน้าวีรภัทราด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ไร้ซึ่งการประนีประนอมใด ๆ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองหมดหนทางหนี

"แต่ถ้าไปดูแล้วไม่ชอบ ก็ค่อยว่ากัน โอเคไหม" ป้านุชเปลี่ยนวิธีในการโน้มน้าววีรภัทรา ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมา

ผ่านไปอีก 3 วันหลังจากที่ป้านุชได้โทรแจ้งคุณหญิงวิไลรัตน์ว่า วีรภัทราตกลงที่จะยอมไปเจอ คุณหญิงเองก็เช่นกัน แต่พอถึงวันนัดหมายกลับกลายเป็นว่า เหลือแค่ป้า คุณหญิง และวี ส่วนอัคราวิชญ์ชิ่งหนีไปต่างประเทศแบบกะทันหัน

ในร้านคาเฟ่น่ารักที่มีกระจกติดรอบด้าน สีสันของผนังเป็นโทนพาสเทล อีกทั้งยังมีเพลงที่ฟังเพลิน ๆ ได้ตลอดการดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรด พอจะช่วยให้ผู้ใหญ่ 2 คนที่ตอนนี้สีหน้าบึ้งตึง ไม่พอใจในการกระทำของผู้ชายที่เลือกมาให้หลานสาวและคนเป็นแม่ที่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกับสิ่งที่ลูกชายตัวเองได้ทำไว้ แต่สำหรับวีรภัทราแล้ว เธออยากจะหนีได้เหมือนผู้ชายคนนั้นมาก แต่รู้ว่าทำไปก็เท่านั้น สุดท้ายก็ต้องวกกลับมาเจอกันที่บ้านอยู่ดี

"รัตน์ขอโทษจริง ๆ นะคะ ยังไงรัตน์จะพาตัวคินน์มาหาคุณพี่ให้ได้ค่ะ" คุณหญิงวิไลรัตน์รับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ หวังให้ป้านุชกลับมาเชื่อใจในคำพูดตนเองอีกครั้ง พลางยกมือขอโทษไปด้วย และป้านุชก็รับไหว้ แต่ก็ไม่วายปล่อยหมัดแรงใส่คุณหญิง

"ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณหญิงว่าเช่นนั้น แต่หากรอบนี้ยังเป็นแบบวันนี้อยู่ พี่เองคงต้องขอยกเลิกข้อตกลงที่เคยคุยไว้ทั้งหมดนะคะ" ป้านุชตอกกลับคำพูดคุณหญิงอย่างแรง พร้อมทั้งแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ และหันไปดึงแขนวีรภัทรา เพื่อชวนกลับบ้าน

"เข้าใจค่ะ ขอโทษจริง ๆ นะคะ" คุณหญิงวิไลรัตน์ลุกขึ้นตามและยกมือไหว้อีกครั้ง

เมื่อวีรภัทราเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีเช่นนี้ ในใจก็ได้แต่โล่งใจ พอถึงเวลา 6 โมงเย็น เธอก็ออกไปหาแฟนตามที่นัดกันไว้ วันนี้พิเศษกว่าวันไหน ๆ เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 3 ปี นับตั้งแต่คบกันตอนปี 4 ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เรียนด้วยกัน แต่ความเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็ก และติดต่อกันเรื่อยมา ทำให้วันหนึ่งความรู้สึกที่เก็บลึกในใจของเพื่อนสนิทเธอได้กลายมาเป็นคำสารภาพรักและตัดสินใจคบหากันตั้งแต่นั้นมา

วีรภัทราแต่งตัวสวยจัดเต็ม ทั้งชุดเดรสเปิดไหล่ มีสายบ่า 2 เส้น ความยาวสั้นเหนือเข่าขึ้นไปเล็กน้อยสีฟ้าอ่อน รองเท้าส้นสูงสไตล์แองเกิ้ลสแตรปสีโทนอ่อนเข้าคู่กับชุด สร้อยคอที่มีจี้เป็นรูปหัวใจ และที่สำคัญคือแหวนแทนใจที่คนรักเธอมอบให้

เมื่อมาถึงแฟนของวีรภัทราไม่ได้สนใจที่เธอแต่งตัวมา แต่กลับเป็นเธอที่ชมว่าอีกฝ่ายแต่งตัวสวยมาก เพราะตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายก้าวเดินมาด้วยท่าทางคล่องแคล่วในชุดเดรสสั้นพอดีเข่าลักษณะขนปุยสีขาวกับรองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน ยิ่งเสริมความดูดีเข้าไปอีก

"ไปกินข้าวเย็นกัน" มาถึงกัลย์กมลก็คว้ามือวีรภัทราเดินตรงไปยังร้านอาหารที่ทำการจองไว้ด้วยท่าทางที่เร่งรีบ

"จะรีบไปไหนเนี่ย" วีรภัทราก้าวขาตามเกือบไม่ทันจังหวะเดินของแฟน พลางถามไปด้วย

"ใกล้จะเลยเวลาจองไว้ ถ้าไปสายมาก เขาจะยกเลิกโต๊ะที่จองไว้น่ะ" เสียงหอบเหนื่อยของวีรภัทราสลับกับเสียงพูดของกัลย์กมล

"อ๋อ..." วีรภัทราทำได้แค่ตอบสั้น ๆ เพราะตอนนี้หายใจไม่ทัน รู้สึกเหมือนกับไปวิ่งมาอย่างหนักยังไงยังงั้น

เมื่อมาถึงร้านกัลย์กมลแจ้งชื่อที่จองไว้ พนักงานในร้านก็เดินนำเข้าไปในโซนวีไอพี ซึ่งเป็นห้องส่วนตัว ที่ปกติแล้วต้องจองทิ้งล่วงหน้าเป็นเดือน เล่นทำเอาวีรภัทราที่ทำหน้าเศร้าและเหนื่อยจากการฉุดลากกันมาเมื่อกี้หายเป็นปลิดทิ้งไปเลย

"หื้ม... เธอจองไว้จริง ๆ เหรอ" วีรภัทรามองด้วยสายตาทึ่งและตะลึงที่แฟนทำให้ในวันพิเศษนี้ ขณะเดินมองไปรอบ ๆ ห้อง

"ใช่ เราจองไว้เองแหละ" กัลย์กมลตอบกลับพลางอมยิ้มให้กับความน่ารักของวีรภัทราที่ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่มาสวนสนุกครั้งแรกในชีวิต

"มาสั่งอาหารกันก่อนเลยไหม" กัลย์กมลชวนวีรภัทราให้มานั่ง และเปิดเมนูอาหารให้เธอเลือก

"เลือกได้กี่อย่างเหรอ" วีรภัทรารู้ดีว่าแฟนก็ไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น จึงไม่อยากรบกวนมาก เลยกระซิบถามเบา ๆ ไปที่ข้างหูของกัลย์กมล

"เลือกเซตไหนก็ได้เลย" กัลย์กมลแสดงท่าทางชิล ๆ ออกมาจนวีรภัทราทำตาโตใส่ ประหนึ่งว่าแฟนถูกหวยอย่างนั้นแหละ ทำไมถึงสั่งเยอะได้ เลยโน้มตัวไปกระซิบถามอีกรอบ เพื่อความแน่ใจ

"ได้จริงเหรอ จ่ายไหวนะ" วีรภัทราถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลถึงสถานภาพทางการเงินของอีกฝ่าย พอกัลย์กมลได้ยินอย่างงั้นแล้วก็ระเบิดขำออกมาดังจนลั่นห้อง

"ได้สิ ไหวอยู่แล้ว" กัลย์กมลตอบอย่างไม่ใส่ใจกับเงินในกระเป๋าเลยแม้แต่น้อย พอวีรภัทราได้ยินคำตอบก็สูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อผ่อนคลายความเครียดเล็กน้อยจากเมื่อกี้ที่จินตนาการไปไกลว่า ถ้าสั่งเยอะไป แล้วไม่มีปัญญาจ่ายสงสัยต้องโดนขังให้ล้างจานเป็นแน่เลย

"งั้นสั่งเป็นเซต A นะ อยากกินเป็ดปักกิ่งพอดี" แววตาวีรภัทราเป็นประกายขึ้นมาจนเธอนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย บ่งบอกถึงความตื่นเต้นในใจ ขณะมองเห็นเมนูที่อยากกินในวันนี้

"โอเค สั่งล่ะนะ" กัลย์กมลมองตาวีรภัทรา เพื่อเช็คว่าตกลงเลือกเซตเมนูนี้แล้ว ก่อนจะกดกริ่งสั่งอาหาร หลังจากสั่งอาหารเสร็จ วีรภัทราก็คุยเรื่อยเปื่อยจนไปถึงประเด็นที่ไม่ควรกล่าวถึง อย่างการนัดบอด ดูตัว

"ป้าเราเอาอีกแล้วน่ะ แต่ดีที่ผู้ชายเบี้ยวนัด ไม่งั้นต่อให้เราบอกป้ายังไง ป้าก็คงบังคับเราอยู่ดี" วีรภัทราเล่าให้กัลย์กมลฟังทุกเรื่องอย่างไม่ปิดบังด้วยท่าทางที่เบื่อหน่ายพร้อมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ไปด้วย

"เอาอีกแล้วเหรอ หรือเราควรขอเธอให้เป็นกิจลักษณะดี" กัลย์กมลเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางจริงจังมากกว่าทุกครั้งที่เคยคุยกัน เธอวางแขนบนโต๊ะพลางกุมมือไปด้วย ขณะที่พูดคุยกันอยู่

"ไม่ได้หรอก ป้าเราไม่ชอบเธอ ยังไงก็เป็นไปไม่ได้" วีรภัทราพูดความจริงออกมาอย่างขมขื่นในใจ สีหน้าที่เศร้าสร้อย บวกกับคอที่ตกลงมากขึ้นกว่าเดิม ทำเอากัลย์กมลขอโทษแทบไม่ทัน ไม่อยากให้เธอรู้สึกแย่ไปกับเรื่องนี้

"เราเลือกได้ที่ไหนล่ะ เพศที่เกิดมา ทุกอย่างถูกกำหนดโดยใครก็ไม่รู้ แต่ความรักที่เรามีให้เธอมันจริงเสมอนะ" กัลย์กมลพยายามพูดปลอบใจ และเอื้อมมือไปกุมมือวีรภัทราไว้

"เรามาฉลองวันครบรอบกันนะ ใครก็ไม่รู้แต่งตัวมาซะสวยเชียว" กัลย์กมลแซวพลางเล่นหูเล่นตาแหย่ใส่วีรภัทราไปด้วยจนวีขำออกมาได้ บรรยากาศทุกอย่างเลยดีขึ้น

หลังจากที่พวกเขาทั้ง 2 คนกินข้าวเสร็จ วีรภัทราก็ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยดอกกุหลาบสีขาวช่อโต และสร้อยข้อมือโซ่จี้รูปดาวที่ทำจากเงิน เมื่อเธอเห็นน้ำตาแห่งความสุขล้นทะลักสะท้อนผ่านดวงตาเธอทันที

"เป็นอะไร วันนี้วันสำคัญของเรานะ" กัลย์กมลเอ่ยทักขึ้น พลางปาดน้ำตาที่แก้มนวลของวีรภัทราและยิ้มอย่างเอ็นดู

"ฮือ... ก็ดีใจนี่นา ไม่คิดว่าจะเตรียมมาให้ขนาดนี้" วีรภัทราพูดพลางร้องไห้เบะปากออกมา

"ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ" กัลย์กมลลุกขึ้นเดินอ้าแขนเข้าไปกอดวีรภัทราที่กำลังนั่งอยู่ และวีก็กอดตอบ

พอเสร็จจากการกินข้าว ก็พากันไปดูหนังรักโรแมนติกต่อในโรงหนัง จากนั้นก็แยกย้ายกลับบ้าน และเมื่อวีรภัทราก้าวขามาในบ้านได้แค่ 2 ข้าง ก็โดนเรียกตัวจากป้านุชที่กำลังยืนรอเธออยู่

"วันนี้ไปทำอะไรมา กลับบ้านมาดึกกว่าทุกวันนะ" ป้านุชตำหนิเล็กน้อย

"วี...ไปกินข้าวกับเพื่อนมาค่ะ" วีรภัทราหลบสายตาเล็กน้อย แล้วกลับมามองตาป้านุช เพื่อไม่ให้จับผิดเพิ่มขึ้น

"อืม โอเค พริมน่ะเหรอ" ป้านุชซักต่อ

"เอ่อ...ค่ะ" วีรภัทราเหลือบมองบนเล็กน้อยก่อนตอบป้า

"อืม ไปนอนได้แล้ว" ป้านุชพูดตัดจบ ทั้ง ๆ รู้ดีอยู่แก่ใจว่าวีรภัทราไปเจอใครมา