ไนท์...
อยู่ที่ไหน...
อ่า ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน
คนรู้จักของท่านทุกคนก็คิดถึงท่านอยู่นะ แม้แต่ตัวประหลาดที่ออกล่าอัลฟ่า ยังเรียกหาแต่ท่านเลย...
มันมีทุกพลังของอัลฟ่า จริงๆคือมันใช้พลังอัลฟ่าเก่งกว่าผมอีก นั่นยิ่งทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่านี่ผมควรจะเป็นอัลฟ่าจริงๆหรือ?
ทำไมท่านถึงอยากให้ผมเป็นอัลฟ่า? ทำไมท่านต้องจากไปด้วย?
กลับมาตอบผมก่อนได้มั้ย ท่านไนท์...
…
ผมลืมตาขึ้น
รอบตัวมืดเหลือเกิน มืดจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองลืมตาขึ้นมาแล้วหรือยัง
"สว่าง"
ผมเอ่ยแค่นี้ ทั้งห้องก็สว่างดังกลางวัน ที่นี่เป็นห้องนอนประจำของผมเอง ผมจำมันได้ดี แต่ที่ผมจำไม่ได้ก็คือตัวเองกลับมาเหยียบที่ห้องนี้ตอนไหน คุ้นๆแค่ว่ามีคนเหวี่ยงผมผ่านสะพานข้ามดารามาเท่านั้นเอง หรือจักรพรรดิอาเบลใจดีขนาดส่งผมตรงถึงเตียงนอนเลยเรอะ ไม่หรอก ผมไม่เชื่อ ถ้าผมตื่นมากลางดงหนาม หรือปากปล่องภูเขาไฟนั่นค่อยน่าเชื่อหน่อย
หืม?
มีลมหายใจร้อนรดอยู่ข้างๆ ผมตกใจรีบหันไปดูก็พบคนตัวใหญ่นอนซุกอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าเคลิ้มฝัน หลับตาพริ้มสนิท ผิวสีเข้มเหมือนช็อกโกแลตอันโดดเด่นของเขาทำให้ผมไม่มีทางลืมได้
"อ้าว มู มายังไงน่ะ?"
เจ้าของชื่อผงกหัวขึ้นมาทันที ดวงตาใสกระจ่างเบิกกว้างมีเงาสะท้อนของผมในนั้นเพียงอย่างเดียว
"เช้าแล้วล่ะ ลุกได้แล้ว" ผมบอก พลางชี้ไปที่ประตูห้อง สีหน้ามูเศร้าหมองลงเหมือนประหนึ่งดวงดาวของมันได้ดับสลายไปอีกครั้ง อ่า พอเห็นแบบนี้แล้วผมจะใจสลายไปด้วย
โอ๋นะโอ๋ แต่ตัวใหญ่ๆแบบนี้มาอ้อนมันไม่น่ารักเลยนะ มู
ผมลูบหัวถุยๆของมู เส้นผมสีทองอ่อนนุ่มของเขาลู่ไปตามฝ่ามือของผม
นิ่มชะมัด เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านไนท์ถึงชอบกอดผม แค่กอดอะไรนิ่มๆก็หลับสบายได้อีกตื่นแล้วล่ะ
เห็นแก่ที่ทำตัวดี และขนนิ่มดี ให้นอนต่ออีกสักพักก็ได้...
ขณะผมกำลังเคลิ้มๆ ก็มีความคิดเส้นตรงหนึ่งทิ่มเข้ามาในหัว
'อือ ทำยังไงดีๆ เจ้าบ้าเวสต์ฆ่าข้าแน่ อ่า จริงด้วย ท่านนิกกลับมาแล้วนี่หน่า ให้ท่านนิกเป็นโล่ดีกว่า'
หืม? เสียงนี้มัน...ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูโครมครามเข้ามา
"ท่านนิกขอรับบ"
อีสต์วิ่งไปสะอื้นไป เข้ามาเกาะขาผมแล้วเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ
"ข้าน้อยทำมูหายไปแล้ว แต่มันไม่ใช่ความผิดข้าน้อยนะ เจ้านั่นมันไม่เชื่องกับข้าน้อยเลย ข้าน้อยพยายามจะไม่ใช้กำลังกับมันเลยนะท่านนิก ท่านต้องช่วยตามหามันนะ ไม่อย่างนั้นมันต้องอดอยากหิวโหยแน่เลยท่านนิก"
"…"
ผมชี้ไปที่ก้อนข้างๆตัวผม สีหน้าอีสต์พลันว่างเปล่า และอีกอึดใจถัดมา เขาก็โพล่งออกมาเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจ
"ท่านนิก!! ถ้าแอบเอามากกก็บอกข้าน้อยก่อนสิขอรับ ให้ข้าน้อยวิ่งหาตั้งนานสองนาน"
อะไรนะ ใครเอาอะไรมากก? ผมไม่ใช่แม่ไก่นะ
'ข้าเองก็อยากจะกกท่านนิก ไม่สิ ไม่ใช่ ข้าหมายถึงให้ท่านนิกกกก็ได้ เจ้ามูถอยออกไปซะ!'
เอิ่ม ผมทำหน้าเพลียใส่อีสต์ มากงมากกอะไรของนาย ถามผมซักคำหรือยังก่อนคิดอะไรแบบนี้น่ะ
พอเห็นสีหน้าเย็นชาของผม อีสต์ก็สะดุดโหยง เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกอ่านใจ
"ขอโทษด้วยขอรับ ท่านนิก ขะข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจ"
อีสต์ลนลานจนสะดุดอากาศขมำเข้าทับผมและมู
ถัดจากการรับสินบน และคิดลวนลามอัลฟ่า นายเลื่อนขั้นไปเป็นการเล่นปาหี่แล้วเรอะ แต่ความสามารถในการเล่นละครของนายมันห่วยมาก อีสต์ ท่าล้มอย่างเชื่องช้าของนายมันห่วยจนทนดูไม่ได้เลย
ผมเขยิบตัวออกแล้วผลักมูไปรองอีสต์แทน ทำให้อีสต์ล้มกระแทกแผ่นอกมูเข้าจังๆ
"มู" ผมเรียก โอเมก้าตัวยักษ์ก็กระดิกหูรอรับคำสั่ง
"กกคนคนนั้นไว้"
มูเอียงคอทำสีหน้าเหมือนไม่อยาก แต่เมื่อขัดคำสั่งผมไม่ได้ มูก็ตรงเข้าล็อคคอ และล้มทับอีสต์เอาไว้ ดูเหมือนมูจะเข้าใจอย่างตรงไปตรงมาว่ากกหมายถึงให้นอนทับ...
"อ้ากก ยกโทษให้ข้าน้อยด้วยท่านนิก"
อีสต์วิงวอนร้องขอชีวิต พยายามดิ้นหนีแต่มูที่ตัวใหญ่ย่อมมีกว่าเรี่ยวแรงเยอะกว่า การกระทำของเขาจึงไร้ประโยชน์
ไม่ใช่ว่านายอยากโดนกกหรอกเรอะ งั้นก็อยู่ตรงนั้นไปน่ะแหละ คิดแต่ละอย่างทำเอาผมปวดหัวมากพอแล้ว
ผมเริ่มรู้สึกว่ามูเป็นท่าไม้ตายที่ไม่เลวเลย เหมาะจะเป็นบอดี้การ์ดข้างกายผมมาก มีพละกำลังเหลือเชื่อ ซ้ำยังเชื่องไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่มันก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งของประชาชนดาวออลเรียไม่ธรรมดาจริงๆ นี่แค่ระดับโอเมก้า ผมไม่อยากนึกถึงราชาแม็กซิมัสเลยว่าจะเป็นอย่างไร
"ข้าน้อยยอมแล้วท่านนิก ข้าน้อยยอมให้ท่านกกกี่ครั้งก็ได้ แต่บอกให้เจ้านี่ปล่อยข้าน้อยไปเถอะขอรับบ"
ผมกรอกตา...อีสต์ นายจะกกจะอะไรกับใครก็อย่าเอาผมไปเกี่ยวด้วย ไม่งั้นนายก็โดนกกไปซะ!
ขณะที่ผมกำลังคิดจะสั่งให้มูลงโทษคนคิดผล่อยๆ ประตูห้องก็เปิดผ่างออก
เป็นเวสต์ มหาดเล็กหน้าตึงผู้มาพร้อมความเยือกเย็น ที่กำลังจะถูกทดสอบจากฉากเหตุการณ์ตรงหน้า
อ่า ช่างเป็นจังหวะที่ไม่ดีสุดๆเลย
"…"
"…"
บรรยากาศความเงียบวังเวงจึงถูกทิ้งไว้ระหว่างกลาง มูที่ไม่เข้าใจบรรยากาศก็หันศีรษะมองซ้ายขวาอย่างงุนงง ว่าทำไมทุกคนจึงเล่นจ้องหน้ากัน
เป็นครั้งแรกที่ทั้งผมและอีสต์คิดสิ่งเดียวกัน
ว่าฉิบหายแล้ว
แต่ต่างกันที่ผมเลอะเลือนหาคำแก้ตัวไม่ได้ ส่วนอีสต์ที่มีลิ้นเป็นงูก็ชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน
"ท่านนิกแค่นึกคึกอยากกกข้าหลังจากหายป่วยน่ะ จ้าก ข้าน้อยขอโทษท่านนิก ข้าน้อยหมายถึงมูมันอยากกอดข้า ว้าก"
มูที่อยากกอดอีสต์ได้ลงมือล็อคคอเล็กๆของเบต้าปากผล่อยด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่ง อีสต์ดิ้นพะงาบๆ ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่เพื่อนร่วมงานทันที
น่าเสียดายที่เวสต์ทำเป็นมองไม่เห็น หรือตั้งใจจะเมินตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ไม่ทราบได้ ดวงตาสีน้ำเงินฟ้าจ้องมาที่ผมอย่างไม่สนใจสิ่งอื่น
"ท่านนิก ข้าน้อยมีเรื่องจะเรียนให้ท่านทราบ"
สีหน้าเวสต์ดูจริงจังจนทุกคนในห้องรู้สึกยำเกรงไม่กล้าเล่นมุขสุ่มสี่สุ่มห้าออกไปอีก กระทั่งมูที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกับบรรยากาศรอบตัวยังต้องวางตัวสงบเสงี่ยมทันที
"ด่วน...ขนาดนั้นเลยเรอะ?" ผมถามเมื่อหาเสียงตัวเองเจอ
"ท่านได้รู้เร็วที่สุดย่อมมีประโยชน์ที่สุด" เวสต์ย้ำ
ผมจึงหันไปทางอีสต์
"งั้นรบกวนนายพามูไปพักหน่อยสิ อีสต์"
สีหน้าอีสต์สยองขวัญมาก ส่วนมูทำหน้าเศร้าอีกครั้ง ผมตีไหล่มันพลางว่า
"กอดอีสต์แก้เหงาไปก่อนนะ แล้วเสร็จธุระแล้วผมจะไปเล่นด้วย"
มูพยักหน้าอย่างจำใจ ส่วนอีสต์ก็วิ่งหนีไปซะแล้ว