ก่อนที่องค์ราชาจะมีโอเมก้าคู่ใจมาดูแลอยู่ใกล้ๆ คนที่คอยอยู่ข้างๆพระองค์ในทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องออกไปเที่ยวเล่นก็คือมหาดเล็กประจำวัง ที่หน้าที่ไม่ได้เล็กอย่างชื่อ
นอร์ทเวสต์ไม่ได้มีความยินดียินร้ายใดๆกับช่วงเวลานั้นเลยหลังจากรับสืบทอดตำแหน่ง เขาเพียงทำมันตามหน้าที่ และทำอย่างดีที่สุด
"ทั่วดาราจักรกล่าวขานถึงจักรพรรดิที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ปกครองอย่างยุติธรรม จิตใจกว้างขวาง ความเมตตาล้นเหลือ สยบสงครามทั้งน้อยใหญ่ มีพันธมิตรอยู่สามย่านสมุทรสี่ทิศดารา จักรวาลนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขา นามนั้นคือราชาอิกไนท์ รุ่นที่46 ผู้ถูกสรรเสริญว่าเป็นมหาราชาที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยมีมา โดยเฉพาะความหล่อเหลาของเขาที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของชาวเฟลม่าทุกๆคน...นายก็คิดอย่างนั้นใช่มั้ย เวสต์?"
"มีแค่ท่านเท่านั้นแหละครับที่คิดเช่นนั้น"
มหาดเล็กผู้รับฟังอยู่นานตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่หวาดกลัวว่าศีรษะจะหลุดจากหัว เพราะนี่คือหน้าที่ของมหาดเล็กที่จะต้องบอกความจริงแก่ราชาของตน โดยเฉพาะราชาที่ออกไปเที่ยวเล่นและกลั่นแกล้งประชาชน ซ้ำยังใช้เวลาราชการในการเขียนบทกลอนสรรเสริญตัวเอง ยิ่งสมควรรู้ความจริงอย่างยิ่ง
เวสต์ถอนหายใจเพลียๆและเริ่มเหนื่อยใจกับการทำงานเป็นครั้งแรก โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองเริ่มรู้สึกถึงความ 'เหนื่อยใจ' ต่ออัลฟ่าขึ้นมาได้เมื่อไร น่าจะเป็นหลังจากที่ราชาทำอะไรบางอย่างกับตราประทับของเบต้าทุกคน
"เวสต์" ราชาเอ่ยเรียกด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไร "ผมยอมรับไม่ได้จริงๆนะ..."
เวสต์ไม่สะทกสะท้านเพราะเขารู้ว่าราชาไม่ได้ด่าเขา แต่กำลังพูดถึงเรื่องเมื่อวานก่อน ที่ราชาได้ปลอมตัวออกไปเยี่ยมราษฎร์ และได้พบกับเบต้าที่กำแหงใช้อำนาจบาตรใหญ่ เป็นประชาชนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคิดว่าท่านเป็นโอเมก้าจึงเข้ามาใช้งานตามใจชอบ
แต่พอท่านเอ่ยประโยคทักทายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนอันเป็นเอกลักษณ์ เบต้าผู้โชคดีคนนั้นแทนที่จะปลาบปลื้มกลับใช้ไม้ตายหมดสติหนีความผิดไป จนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น คาดว่าจิตใจของเขาคงยังรับความกระทบกระเทือนครั้งนี้ไม่ได้
"นั่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้วขอรับ" เบต้าที่โง่เขลาพอจะชี้นิ้วสั่งราชาของตัวเองสมควรดับสูญไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าท่านไนท์ไม่ละเว้นโทษให้ ข้าราชบริพารทั้งหลายคงรุมพิพากษาเบต้าคนนั้นไปแล้ว
"นั่นน่ะเป็นเพราะนายต่างหากเวสต์ เพราะนายมาขัดขวางการทำสารานุกรมเรื่องชีวิตประจำวันและผลงานของของราชาอิกไนท์รุ่นที่ 46 แจกให้พลเมืองทุกคน ประชาชนถึงได้ไม่รู้จักผม เลยไม่มีใครสรรเสริญผมเหมือนแม็กซิมัส"
อิกไนท์ ราชาของเขากำลังบ่นกระปอดกระแปดอยู่บนบัลลังค์สีทองอย่างเป็นกิจวัตรประจำวัน
"น่าสงสารเหลือเกิน ทั้งที่มีโอกาสได้มองหน้าราชาคนใหม่ชัดๆ แต่กลับหมดสติไปเสียได้ หน้าตาหล่อๆของผมไม่ได้ออกไปให้ชมบ่อยๆหรอกนะ"
เวสต์พยายามไม่ปล่อยให้เกิดความคิดแง่ลบต่อองค์ราชาของตัวเองในระยะประชิด แล้วตัดสินใจถามสิ่งที่เขาสงสัย
"ข้าน้อยขออนุญาตออกความเห็นสักเรื่องหนึ่งได้หรือไม่ขอรับ"
เวสต์เอ่ยอย่างนอบน้อมที่สุด เพราะมหาดเล็กอย่างเขาเป็นตำแหน่งเดียวที่ได้รับการยกเว้นให้สามารถเอ่ยทักท้วง หรือแสดงความคิดเห็นตรงๆต่อจักรพรรดิได้ อันเป็นสาเหตุให้ตำแหน่งนี้มีความสำคัญมาก และผู้ที่ยืนในตำแหน่งนี้ได้จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งความรู้ และไหวพริบการเอาตัวรอด เพราะแม้ว่าการคอยเตือนจะทำได้โดยไม่ผิดกฎ แต่กฎก็ไม่ได้ปกป้องเขาจากการโดนทำลายล้างถ้าไปขัดใจจักรพรรดิผู้มีอารมณ์ไม่แน่นอน มากๆเข้า
เพราะกฎที่แท้จริงบนดวงดาวก็คือ อัลฟ่า
"ว่าไปสิ" ไนท์เอ่ยพลางเริ่มต้นสั่งอาหารมารับประทานทั้งที่จริงแล้ว อัลฟ่าไม่จำเป็นต้องกินก็ได้
เวสต์ก้มหน้าขอบคุณแล้วแสดงมุมมองของเขาออกมาอย่างไม่รอช้า
"เรื่องของการผ่อนผันการตีตราประทับขอรับ ข้าน้อยไม่เห็นว่าการทำเช่นนี้จะเป็นผลดีต่อการปกครองประชาชนและอนาคตของดาวเฟลม่านะขอรับ"
เวสต์กลั้นใจถามออกไป ยอมเปิดประเด็นที่เสี่ยงต่อการโดนตัดหัวมากที่สุด เพราะเรื่องนี้คือสิ่งที่ส่งผลกระทบมากที่สุด และเป็นหน้าที่ที่เขายอมตายเพื่อมันได้
หน้าที่ในการเตือนอัลฟ่าว่ากำลังไปผิดทาง...
แต่อัลฟ่าที่ว่าก็เพียงแค่พยักหน้าแล้วก้มหน้าก้มตาตักซุปกินต่อด้วยท่าพาดเท้าไว้บนโต๊ะและยกจานซุปขึ้นซด ราชาเลิกคิ้วอย่างฉงนเมื่อเห็นว่ามหาดเล็กกำลังจ้องเขาด้วยดวงตาโหลลึกจนน่ากลัว
"นายอยากกินซุปนี่เรอะ เอามั้ยล่ะผมแบ่งให้"
ราชาเอ่ยอย่างโอบอ้อมอารี ราวกับไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มหาดเล็กอยากได้จริงๆคืออะไร
เวสต์หลับตาลง ทำใจให้สงบ เขารู้ดีว่าจักรพรรดินิสัยเสียคนนี้ชอบกลั่นแกล้งคนอื่นมากแค่ไหน เขาต้องทำเป็นไม่เห็นมารยาทบนโต๊ะอาหารที่บกพร่อง แล้วรีบเข้าเรื่องสำคัญ
"จากผลสำรวจ ตรวจพบการกระทำผิดของเบต้าในช่วงเดือนนี้มากถึงสองร้อยสี่สิบหกครั้ง พวกเขาตามอำเภอใจมากขึ้นเรื่อยๆ เบต้าหลายระดับเริ่มวางแผนการและทำตัวนอกกฎระเบียบ ท่านไนท์ ข้าน้อยคิดว่าการที่ท่านละเลยการประทับตราในช่วงเวลาที่สมควร จะทำให้อำนาจของการจัดระเบียบ และวินัยของข้าราชบริพารอ่อนแอลง ส่งผลต่องานราชการในภาพรวมและปัญหาอาชญากรที่มากขึ้น ปัญหาหลายอย่างเราก็ยังไม่มีข้อกฎหมายที่จะใช้ลงโทษเลยด้วยซ้ำ"
มหาดเล็กกล้ำกลืนคำตักเตือนในเรื่องมารยาทเล็กๆน้อยๆ เพื่อที่จะเอ่ยเรื่องที่สำคัญกว่าออกมาอย่างใจเย็นที่สุด ด้วยหวังลึกๆว่าจักรพรรดิจะไม่บอกปัดเรื่องอันตรายเช่นนี้เหมือนครั้งก่อนๆ
"อืม.." มีแค่เสียงครางในลำคอ ผ่านริมฝีปากที่บรรจงละเลียดกินขนมปังด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
"ขนมปังจากไร่ทางเหนือรสชาติดีเยี่ยมจริงๆ นายจงไปบอกห้องเสวยให้เอาเข้ามาอีกเยอะๆ แล้วให้มีขนมปังอยู่ในอาหารเช้าของผมทุกเช้านะ"
มหาดเล็กคนสนิทค้อมศีรษะการรับคำสั่ง และรอคอยด้วยความอดทนให้อีกฝ่ายรับสั่งสิ่งที่สมควรกระทำต่อ แต่จนขนมปังหมดไปหลายแถวผู้เป็นราชายังไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนอารมณ์สุนทรีจากการกินมาสนใจเลยแม้แต่น้อย เอาแต่เชยชมความละเอียดอ่อนของแป้งขนมปังชิ้นแล้วชิ้นเล่าเผาผลาญความอดทนของมหาดเล็กให้เหลือเพียงเถ้าถ่าน
เวสต์จึงทรุดตัวลงคุกเข่า สองมือประสานกันข้างหน้าด้วยความมั่นคง
"ท่านไนท์ โปรดเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญด้วยเถอะขอรับ โปรดประทับตราพวกเราด้วย ประชาชนของดวงดาวนี้สมควรจะรับใช้ท่านอย่างไม่บิดพลิ้ว มิใช่รับใช้ความต้องการของตัวเอง"
เวสต์สบตากับอัลฟ่าผู้เป็นนายชีวิตอย่างไม่หวาดกลัว และเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ไนท์หรี่ตามองอย่างรู้ทันแล้วถอนใจ
"นายนี่นะ พอเห็นว่าผมไม่สนใจ ก็ชอบใช้วิธีคุกเข่าเรียกร้องความสนใจตลอดเลยนะ อยากให้ผมลงไม้ลงมือถึงจะพอใจงั้นเรอะ?"
ราชายังพูดทีเล่นทีจริง แต่มหาดเล็กก็ไม่ย่อท้อ
"หากท่านไม่ประทับตรา ประชาชนจะทำตามอำเภอใจ ส่งผลต่อระบบการปกครอง และอำนาจอันเด็ดขาดในภายภาคหน้าขอรับ"
เวสต์ไม่ยอมถอย เขากำลังทำหน้าที่มหาดเล็กอย่างเต็มความสามารถ เขาอาจจะตายในวันนี้ก็ได้ แต่ทั้งหมดก็เพื่อดาวเฟลม่าและองค์ราชา
แต่ทำไมท่านไนท์จึงทำเช่นนั้น? เวสต์เองก็ไม่เข้าใจ และไม่รู้เช่นกันว่าทำไมแววตาของราชาที่มองมาถึงเศร้าสร้อยลง ทั้งที่เขาหวังสิ่งที่ดีที่สุดให้กับราชาของเขาแท้ๆ
"ผมเองก็ทำตามอำเภอใจอยู่นะ แปลว่ามันไม่ดีหรอกเรอะ?"
"เพราะท่านคืออัลฟ่าของพวกเรา แต่พวกเขาไม่ใช่!"
"อัลฟ่าแล้วอย่างไร เบต้าแล้วอย่างไร ถ้าพวกเราเป็นสีเดียวกัน ทุกสิ่งก็คงจะจืดชืด วันนี้ดวงดาวนี่มีสีสันมากขึ้น นายไม่คิดว่ามันสนุกขึ้นเรอะ?"
"...ไม่...ขอรับ"
"แต่ผมกำลังสนุกนะ เพราะงั้นก็ตามใจอัลฟ่าอย่างผมหน่อยสิ เวสต์"
ไนท์ว่าพรางยื่นขนมปังชิ้นสุดท้ายให้เขาด้วยรอยยิ้มกดลึก
"ไม่อย่างนั้น...ก็แปลว่าตราประทับของนายก็ชักจะอ่อนลงแล้วด้วยล่ะมั้ง ให้ผมเริ่มจากประทับตรานายก่อนดีมั้ย?"
"…"
เวสต์หมดถ้อยคำจะทัดทาน ได้แต่รับคำยื่นมือไปรับของขวัญอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วถอนหายใจ เขาหมดโอกาสจะท้วงติงในเรื่องนี้แล้ว
หน้าที่มหาดเล็กของเขาช่างลำบากจริงๆ พอตามน้ำก็คือไม่ทำหน้าที่มหาดเล็กอย่างเหมาะสม ปล่อยองค์จักรพรรดิทำตามพระทัย จนผลสุดท้ายย่อมเป็นภัยกับพระองค์เอง แต่พอท้วงติงก็กลายเป็นว่าเขาล้ำเส้นเกินไป มหาดเล็กอย่างเขาจะทำยังไงได้!
จักรพรรดิขี้เล่นคนนี้มีหลายบุคลิกจนใครต่อใครก็รับมือไม่ไหว ภายนอกพระองค์อาจดูเหมือนไม่ใคร่ใส่ใจในเรื่องใด ไม่คิดแย่งชิงอำนาจในจักรวาล มีความเป็นอยู่เรียบง่าย ชอบออกไปสอดส่องความเป็นอยู่ของประชากร และปล่อยปะละเลยกฎเกณฑ์ด้วยอ้างว่ากำลังแก้ไขกฎหมายอยู่ แต่น่าประหลาดที่ความเป็นอยู่ของพวกเขาไม่เคยต้องขัดสน ไม่มีมรสุมหรือภัยสงคราม ทั้งเบต้าและโอเมก้าที่นี่มีความสุขสมฐานะของตัวเองทุกคน
แต่ก็เพราะท่านอิกไนท์ไม่ได้กระตือรือร้นใช้แรงงานเพื่อพัฒนาดาว ทำให้เทคโนโลยีของดาวเฟลม่าออกจะล้าหลังดาว อื่นๆไปหลายหมื่นปี ล่าสุดจึงถูกจัดเป็นดาวที่ด้อยพัฒนาเสียแล้ว เวสต์เองก็ได้พยายามท้วงติงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ก็ได้แต่คำตอบกลับมาว่า
"ผมชอบนั่งเกวียนนะ นายไม่ชอบหรอ?"
หรือไม่ก็
"ผมไม่ชอบแสงสีน่ะ เห็นท้องฟ้าครามปุยเมฆขาวชัดๆแบบนี้ก็ดีแล้ว จะสร้างสิ่งก่อสร้างไปบดบังทำไม"
เขาค้นพบแล้วว่าเรื่องใดที่พระองค์ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าจะหลุมดำหรืออุกกาบาตพุ่งใส่ ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจองค์ราชาองค์นี้ได้เลย เช่นเดียวกับเรื่องการประทับตราที่เขาพยายามท้วงติงอยู่หลายครั้งแล้ว
"นายนินทาอะไรผมใจในน่ะ เวสต์"
ในฐานะอัลฟ่า ท่านไนท์สามารถอ่านความคิดของผู้ใต้บัญชาทั้งหมดได้ หรือก็คือประชากรทั้งหมดของดวงดาวถ้าเขาคิดจะทำ แต่เนื่องจากมันวุ่นวายและชวนปวดหัวมาก เวสต์ก็เข้าใจดีว่าราชามักเลือกทำเป็นครั้งๆไป
"ข้าน้อยแค่อยากให้ท่านรู้ว่าเหล่าข้าราชบริพารทั้งหมดกำลังเป็นห่วงสถานการณ์ล่อแหลมในตอนนี้กันอย่างมาก และหวังว่าเราจะสามารถขอให้ท่านเปลี่ยนใจได้สักเรื่องหนึ่ง"
ไม่มีคำตอบรับจากองค์ราชา ท่านไนท์เพียงแค่ยิ้ม...รอยยิ้มอ่อนโยนที่ย้อมโลกและจักรวาลทั้งผืนให้กลายเป็นสถานที่ที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีอัลฟ่าคนใดทำได้มาก่อน
"แล้วถ้าผมไม่เปลี่ยนใจล่ะ เวสต์ ยังจะมีใครร่วมทางไปกับผมมั้ย?"
ประโยคคำถามที่แฝงความหมายลึกซึ้งจนเวสต์สั่นสะท้าน ทั้งยำเกรง ทั้งหวาดหวั่น ทั้งยังมองไม่เห็นปลายทาง แต่กลับไม่อาจคลายความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยมนี้ลงได้
เชื่อมั่นแม้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด แต่อย่างไรนี่ก็คือหน้าที่ของมหาดเล็กอย่างเขาอยู่แล้วที่จะเชื่อในราชาของตนเอง
เขาทรุดเข่าลงด้วยความภักดีอย่างที่สุด
"ข้าน้อยจะติดตามท่านไปจนสุดขอบเอกภพ ชั่วสิ้นจักรวาลขอรับ"
เขาไม่อาจปฏิเสธมันได้ อย่างไรพวกเขาทั้งหมดก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับใช้คนคนนี้ แต่มันมีอยู่จริงๆหรือ อัลฟ่าที่ยินดียืนในระดับเดียวกับพวกเขา อัลฟ่าที่เห็นใจและเห็นพวกเขาอยู่ในสายตาอย่างแท้จริง
ถ้าหากมีอยู่ คนคนนั้นจะเป็นแบบไหน? ใช่คนตรงหน้าเขาหรือเปล่า
และชวนให้สงสัยว่าพระเจ้าสร้างคนผู้นั้นขึ้นมาเพื่ออะไร? เพื่อต่อต้านตัวเองอย่างนั้นหรือ?
ท่านไนท์ยิ้มกว้าง วางมือบนบ่าของบริวารผู้ภักดี
"นั่นไม่จำเป็นหรอก เพราะนายก็ต้องมีชีวิตของนายเอง ใช่มั้ยเวสต์" เขายื่นมือมาข้างหน้า แล้วเอ่ยอย่างแน่วแน่
"จับมือผม แล้วจงเป็นอิสระตั้งแต่วินาทีนี้"
ในวินาทีแรก เวสต์ไม่เข้าใจว่าองค์ราชาต้องการจะสื่ออะไร แต่พอสบสายตาที่มั่นคง และรอยยิ้มเด็ดขาดบนใบหน้า เวสต์ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าอัลฟ่าของตนหมายถึงอะไร
อิสระ? ท่านไนท์กำลังจะมอบอิสระให้กับเขา!?
แต่แทนที่จะดีใจ เวสต์กลับรู้สึกตกใจและยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาไม่อาจหยุดร่างกายที่สั่นเทาได้เลย
"ข้าน้อยขอปฏิเสธ..." เวสต์ก้มหน้าคุกเข่า เอ่ยตอบอย่างยากลำบาก
"นายปฏิเสธอัลฟ่าไม่ได้ ไม่ใช่เรอะ?"
ท่านไนท์เอ่ย แล้วยื่นมือเข้ามา เหมือนจะเอาบางสิ่งบางอย่างไปจากเขา บางสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้
"เรียนองค์ราชา มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ข้าน้อยยอมรับไม่ได้..."
"ทำไม?" อัลฟ่าเลิกคิ้วฉงน
"เพราะถ้าข้าน้อยไม่ใช่เบต้า ข้าน้อยก็ต้องไปจากที่นี่"
"นายสามารถอยู่ที่นี่ต่อไป จะอยู่ที่ไหน และนานเท่าใดก็ได้ตามแต่นายต้องการ"
"ถ้าข้าน้อยไม่ใช่มหาดเล็ก ข้าน้อยก็จะไม่ได้รับใช้ท่าน"
"ถ้านายยังสมัครใจจะรับใช้ผม ผมก็จะให้นายเป็นมหาดเล็กต่อไปได้"
ทุกสิ่งเป็นแค่ข้ออ้าง เวสต์รู้ดี ยิ่งพออัลฟ่าอนุญาต เขาก็ได้แต่เงียบ ไม่อาจตกลงรับปาก...
"นาย...กำลังกลัวงั้นเรอะ?"
เวสต์เบิกตากว้าง เขาเพิ่งเข้าใจว่านี่คือความกลัว เขาเบต้าอันดับหนึ่งที่ถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์กำลังหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ได้ ราวกับกำลังถูกโยนลงไปในใจกลางหลุมดำอันมืดมิด
เวสต์พยักหน้ายอมรับในที่สุด
เขากำลังกลัว กลัวที่จะเป็นอิสระ...
จากความรู้ที่เขามี เขานึกภาพไม่ออกเลยว่า หากไม่ได้เป็นเบต้าของดาวเฟลม่าแล้ว เขาจะกลายเป็นอะไร? ในบันทึกทั้งหมดไม่มีการกล่าวถึง เบต้าและโอเมก้าคนสุดท้ายที่เป็นอิสระได้สูญสิ้นไปหมดแล้ว ตั้งแต่สมัยจักรพรรดิแม็กซิมัส
"นายกำลังกลัวที่จะเป็นอิสระ เพราะไม่รู้โชคชะตาของตัวเองต่อจากนั้น"
องค์ราชาวางมือบนบ่าเขาอย่างแผ่วเบา ความอบอุ่นแทรกผ่านฝ่ามือ
"ไม่ต้องกังวลหรอก ผมจะไม่ปล่อยให้นายเป็นอะไร จนกว่าจะแน่ใจว่านายสามารถเดินไปบนเส้นทางของตัวเองได้ ผมจะดูแลนายอย่างดีที่สุด แม้ว่านายจะไม่ใช่เบต้าของผมแล้วก็ตาม เวสต์"
เวสต์คุกเข่าก้มหน้าลงแทบเท้า
"ข้าน้อยรับความหวังดีนี้ไว้ไม่ได้ อย่างไรข้าน้อยก็ต้องขออนุญาตปฏิเสธ"
ท่านไนท์ขมวดคิ้ว แต่ยังไม่ทันเอ่ยอะไร เวสต์ก็เอ่ยขอร้องต่อ
"ได้โปรดอย่าฝืนใจข้าน้อยเลย องค์ราชา"
"…"
อัลฟ่าถอนใจยาวออกมาในที่สุด แววตาเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
"เอาเถอะ ถ้านายว่างั้นนะ" น้ำเสียงอัลฟ่าเหมือนคนน้อยใจ ทำเอาคนฟังใจฝ่อด้วยความรู้สึกผิดที่ทิ่มแทง
"ท่านไนท์ ถ้าเป็นเรื่องอื่น ข้าน้อยยินดีทำตามรับสั่ง...ทุกเรื่อง"
อัลฟ่ายังคงมีสีหน้าสะเทือนใจ พลางต่อว่า
"งั้นเรอะ? เรื่องอะไรนายก็ยอมทำให้หมด ยกเว้นแต่เรื่องที่ผมอยากให้นายทำไม่ใช่เรอะ"
"องค์ราชา..."
เวสต์รู้สึกลำคอตีบตัน เขาทำได้ทุกสิ่งเพื่ออัลฟ่า แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่อัลฟ่าต้องการ ท่านไนท์ต้องการสิ่งที่เบต้าไม่อาจทำให้ได้ และไม่ต้องการให้เขาเชื่อฟังอัลฟ่า
ทำไม? แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก
"ช่วยไม่ได้ งั้นเอานี่ไป"
"ขอรับ?"
อัลฟ่าแตะที่ข้อมือของเขา แล้วกำไลงาช้างสีขาวมุกเรียบๆไร้ลวดลายก็ปรากฎรอบข้อมือขวาของเขา มันดูเปราะบางและพร้อมแตกหักได้ทุกเมื่อ
"เมื่อไรที่นายอยากเป็นอิสระ ก็ถอนกำไลนี้ออก ผมย่อสัญญาและอำนาจตราประทับทั้งหมดมาใส่ไว้ในนี้แล้ว"
เวสต์อ้าปากเหวอเป็นครั้งแรก นั่นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเสียมารยาทต่อหน้าอัลฟ่ามาก แต่เขาก็ไม่อาจทำสิ่งอื่นใดได้นอกจากเบิกตาโตจ้องกำไลสุดอันตรายที่เขาไม่สมควรได้รับ แล้วมองอัลฟ่าที่ยิ้มแฉ่งมาให้
"ไม่ต้องห่วง มันไม่ระเบิดหรอก นายไม่ใช่หนูทดลอง วางใจได้"
ถ้อยคำนี้ไม่ทำให้เวสต์คลายความกังวลเลย ตรงกันข้ามกลับทำให้สงสัยบางอย่างมากยิ่งขึ้นไปอีก
"ท่านไนท์...ท่านเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่าขอรับ"
เวสต์เอ่ยถามด้วยเหงื่อแตกพลั่ก จ้องหน้าราชาของตนที่พยักหน้าช้าๆ อย่างไม่อยากเชื่อ
"ท่านเคยปลดปล่อยประชาชนของท่านเช่นนี้?" ราชาพยักหน้าซ้ำ
"นานแล้วล่ะ เป็นโอเมก้าคนหนึ่ง"
สีหน้าเวสต์ซีดลงทันที
การทำเช่นนี้นับว่าหักหลังพระผู้เป็นเจ้าและภาคีหรือไม่ เขารู้ว่าอัลฟ่าของตนรู้ดีที่สุด และเลือกที่จะไม่สนใจ เขาปล่อยโอเมก้าคนหนึ่งไป ปล่อยเป็นอิสระ??
"แล้วเกิดอะไรขึ้นกับโอเมก้าตนนั้นขอรับ..." เวสต์หยุดถามไม่ได้
ท่านไนท์เหมือนไม่สนใจว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาแค่ไหน เขาเท้าคางทำสีหน้าเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง สู่พื้นที่ว่างในจักรวาล
"ไปแล้วล่ะ ไปจากผมแล้ว ผมไม่รู้ว่าตนเองทำถูกหรือไม่ แต่สุดท้ายวันหนึ่งพวกเราก็คงได้เจอกันอีกครั้งในจักรวาลที่กว้างใหญ่ ผมเชื่ออย่างนั้นนะ"
สีหน้าเบต้ายิ่งแย่ลงไปอีก เขาหวังว่าจะไม่มีใครรู้ และหวังว่าสิ่งมีชีวิตนั่น ถ้าได้เจอกันอีกครั้งก็ไม่รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะโอเมก้าคนนั้นจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่หลุดจากนิยามของพระผู้เป็นเจ้าไป กลายเป็นสิ่งที่ไร้นิยามในจักรวาลนี้ ท้ายที่สุดจะกลายเป็นสิ่งใดก็สุดจะรู้ได้
ท่านไนท์ยันตัวลุกขึ้นแล้วบอกราตรีสวัสดิ์
"ตอนนี้นายยังไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ เวสต์ เพราะถ้าลองจินตนาการถึงวันเวลาที่ไม่มีนายคอยเตือนนู่นนี่ข้างๆ
ผม มันคงจะเหงาน่าดู..."
"…"
เวสต์รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก เขาไม่ทันได้ตอบอะไร ราชาของเขาก็กลับไปแล้ว ทิ้งเขาไว้กับกำไลสีขาวนวล และความกลัดกลุ้ม
มือหนาลูบกำไลที่สร้างจากแร่ธาตุใต้เปลือกโลก โลหะชั้นเลิศที่มีแต่อัลฟ่าเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ เนื้อโลหะแวววับแต่กลับไม่เย็นเยือกจนแสบผิว ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอุ่นวาบทุกครั้งที่สัมผัส ปัดเป่าทุกความหวาดกลัวและกังวลให้สลายไป
ต่อให้วันไหนเขาปรารถนาจะเป็นอิสระ เวสต์ก็สงสัยว่าเขาจะกล้าพอที่จะถอดกำไลอันนี้ออกหรือ
ใครกันจะกล้าละทิ้งบ้านอันแสนอบอุ่น ออกไปเผชิญจักรวาลอันไพศาลที่ไม่เคยรู้จัก ทั้งไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไร้หน้าที่ที่ถูกมอบให้ เราจะกลายเป็นอะไร จะดำรงอยู่เพื่อสิ่งใด และที่สำคัญจะมีโอกาสได้รับความอบอุ่นเช่นนี้อีกหรือเปล่า?
…
"ท่านนิกกลับมาแล้ว"
เสียงตะโกนภายในพระราชวังทำให้เวสต์ได้สติกลับมาสู่ปัจจุบัน เขาคลายมือที่กุมกำไลสีขาวออก และออกวิ่งไปตามทิศทางของเสียงร้องทันที
"ตามหน่วยรักษามาเร็วเข้า ท่านนิกบาดเจ็บ!"
เป็นอีกครั้งที่เวสต์ตื่นตระหนกอย่างที่สุด มีความคิดมากมายจุกอยู่ในอก และความรู้สึกที่ชัดเจนยิ่งว่าเขา...ไม่อยากสูญเสียคนคนนั้นไปอีกแล้ว