ตอนที่ 1 อิกไนท์ คลอร์ว
"ปีพรีโมเดียลที่ 414 หรือ สี่ร้อยสิบสี่ล้านปีที่จักรวาลกำเนิด จักรพรรดิแม็กซิมัสที่เจ็ด อัลฟ่าหนึ่งเดียวที่ต่อต้านระบบของภาคี ผู้กบฎต่อบทบัญญัติของพระเจ้า ทอดทิ้งเบต้าและโอเมก้าในอาณาเขตปกครองของตัวเองเป็นจำนวนกว่าหนึ่งหมื่นล้านคนด้วยการครอบงำของปีศาจ แม็กซิมัสได้ถูกพิพากษาลงโทษใต้บัญชาการของจักรพรรดิอาเบล ผู้นำภาคีลำดับที่หนึ่ง
สหพันธ์ดาว MILLE แห่งดาราจักร IC1011 ได้ล่มสลายไปพร้อมกับประชากรที่ปฏิเสธการอพยพกว่าสองพันล้านคน ในจำนานนั้นมีประชากรที่หันกลับมาสวามิภักดิต่อบทบัญญัติของพระเจ้าอีกครั้ง เป็นจำนวนแปดพันล้านคน สหพันธ์ดาว FALCONIA และสหพันธ์ดาว ABELL รับเป็นประชากร
จบมหาสงครามแม็กซิมัส สิ้นสุดยุคแรกเริ่ม เข้าสู่ยุคสเตลลิเฟอรัสที่หนึ่งเป็นต้นไป"
พรั่บ
เสียงหน้าหนังสือปิดลงตามด้วยเสียงถอนหายใจดังขึ้นใต้ท้องฟ้ารัตติกาลที่คลี่ตัวลงปกคลุม
"ถ้าหากเรามองขึ้นไปจากดาวของเราตอนนี้ ก็เหมือนเหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเลยเนอะ"
ชายหนุ่มร่างสูงยืนเงยหน้ามองดวงดาวจากดาดฟ้าของพระราชวังที่เงียบสงบ
'นิทธารา' คือชื่อของวังหลวงแห่งนี้ มันตั้งอยู่บนเกาะขนาดใหญ่ กลางทะเลสาบสีมรกตที่สะท้อนภาพระยิบระยับของหมู่ดาวเบื้องบน
เส้นผมสีดำยาวถูกลมพัดเรี่ยปลายคาง ดวงตาสีเดียวกับก้อนเมฆจ้องไปที่จุดเดิมโดยไม่กะพริบ จุดแสงที่โดดเด่นอยู่กลางท้องฟ้าทางทิศเหนือเป็นแสงสว่างที่ยิ่งกว่าควอซาร์*ใดในจักรวาล
"ตอนนี้เรายังเห็นเหตุการณ์การระเบิดของดวงดาวออลเรียในปกครองของแม็กซิมัสได้เลยนะ แม้ว่าจริงๆเวลาจะผ่านไปกว่าหมื่นห้าพันล้านปีแล้วก็ตาม เพราะแสงใช้เวลาเดินทางกว่าหมื่นล้านปีกว่าจะมาถึงดาวของเราไง นิก"
ชายหนุ่มผู้เป็นอัลฟ่าแห่ง 'ดาวเฟลม่า' วางหนังสือ 'แม็กซิมัส กบฎผู้ก่อสงครามกับพระเจ้า' ลงข้างตัว นี่เป็นหนังสือที่เขายืมมาจากห้องสมุดของภาคี เนื้อหาทั้งหมดล้วนถูกผ่านการพิจารณาและทำให้เหมาะสมกับการเผยแพร่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หวังว่าจะเจอข้อเท็จจริงอะไรมากไปกว่าการฟังความข้างเดียว
"นิก นายคิดว่าแม็กซิมัสกบฎต่อพระเจ้าเพราะอะไร?" เขาเอ่ยถามแล้วหันมามองคู่สนทนาที่นั่งพิงหมอนใบเดียวกับเขาอยู่ และพบว่า...
'นิก' หลับไปแล้ว
"…"
นิ้วเรียวเอื้อมมือมาเขี่ยๆ จิ้มๆ แก้มนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย แต่ก็ดูท่าจะไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ
ผู้เป็นอัลฟ่ากรอกตา แต่เขาก็ไม่อยากปลุกอีกฝ่ายด้วยวิธีรุนแรง จึงยอมเอ่ยปากออกคำสั่งที่น้อยครั้งนักจะได้ทำ
"นิก...ตื่น"
เพียงจบประโยค คนที่ไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆกลับเด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใด แม้จะยังทำหน้าสะลืมสะลืออยู่บ้างก็ตาม
"เรื่องราวห่างไกลอีกฟากหนึ่งของจักรวาลคงเป็นนิทานก่อนนอนที่ดีสินะ นิก"
ตาใสๆ กรอกกลิ้งมาจับจ้องใบหน้าของเขา ดวงตาสีเทาราวหิมะในคืนฟ้าหม่นสะท้อนภาพอัลฟ่าหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวของดาว 'เฟลม่า' และกำลังตั้งตารอคำสั่ง...ถัดไป
แต่นี่คงเป็นโชคร้ายของนิก โอเมก้าที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุด เพราะ 'ไนท์' คืออัลฟ่าที่ไม่ชอบออกคำสั่ง และไม่ชอบที่จะให้ใครทำตามคำสั่ง
"หลับไปตอนไหนน่ะ"
โอเมก้าน้อยเค้นสมองสุดตัว จนได้ตัวเลขชุดหนึ่งออกมาตอบคำถามของอัลฟ่า
"…ปีพรีโมที่..."
นั่นมันตั้งแต่บรรทัดแรกที่เขาอ่านเลยไม่ใช่เรอะ?
"แล้วเจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้เรอะ นิก"
ไนท์ลองถามนำพร้อมกับเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากของคู่สนทนาที่นั่งหน้าซื่อทำกระดิกหูตาแป๋วเหมือนไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนว่า
อัลฟ่าถือว่าเป็นระดับที่สูงสุด เขาสามารถทำลายหรือสร้างสิ่งใดก็ได้ตามต้องการ ดังนั้นกับสิ่งมีชีวิตที่เขาสร้างแค่มองก็รู้แล้วว่าแต่ละคนคิดอะไร อยากทำอะไร แต่ถ้าอยากมองลึกลงไปกว่านั้นเพื่อที่จะแก้ไขหรือแทรกแซงสภาพจิตใจ และพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต ก็ต้องอาศัยการสัมผัสโดยตรงด้วย
'ง่วง แต่ไนท์กำลังพูดอะไรบางอย่าง...ต้องฟัง ต้องตอบ'
ความคิดอันไร้เดียงสา และตรงไปตรงมาของโอเมก้าส่งต่อมาที่ไนท์ แต่ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ นิกก็ยังไม่มีคำตอบให้
'???' ในใจนิกตอนนี้มีแต่คำถาม เขาคิดสงสัย และพยายามหาคำตอบมาให้ หน้าน่ารักงุนงงเปลี่ยนเป็นอึดอัด วุ่นวาย เป็นกังวลอย่างมากว่าไม่สามารถทำตามความต้องการของอัลฟ่าได้
"นายนี่มันน่ารักจริงๆ"
ไนท์ยอมแพ้ ยกมือดึงแก้มขาวๆเล่นแทน
ไนท์ชินกับการพูดคนเดียวแล้ว เพราะโลกนี้เขาคืออัลฟ่า ต่อให้มีเบต้าที่ชาญฉลาดแค่ไหน แต่ในท้ายที่สุดด้วยข้อจำกัดที่สร้างไว้ เบต้าเหล่านั้นก็ไม่อาจเข้าใจเรื่องของมิติและดวงดาวมากไปกว่าอัลฟ่าได้ และบางครั้งก็อาจไม่มีทางเข้าใจตัวตนที่เรียกว่าอัลฟ่าได้เลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงโอเมก้าที่ถูกสร้างมาในระดับชั้นที่ต่ำกว่าเลย
พวกโอเมก้าแทบจะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย นอกจากการทำตามคำสั่ง ไม่ว่าคำสั่งนั่นจะเป็นคำสั่งแบบไหน โหดร้ายหรือเลวทรามแค่ไหนก็ตาม อันที่จริงในนิยามของราชาเพียงหนึ่งเดียวของดวงดาว ไม่มีใครเคยบัญญัติสิ่งที่เรียกว่าโหดร้ายหรือเลวทรามหรอก ทุกสิ่งเป็นเพียงแค่สิ่งที่อัลฟ่าประสงค์ และสรรพสิ่งต้องดำเนินตามเท่านั้นเอง
ไนท์จ้องมองใบหน้าเล็กๆได้รูป ตากลมโตวาววับ ทั้งคิ้ว แพขนตา และผมล้วนเป็นสีขาวสะอาดพองม้วนไปถึงปลายเท้าเหมือนหางกระรอก ขนาดลำตัวก็แสนจะพอดีกับการโอบกอด ขนปุยขาวหิมะตามผิวด้านนอกที่ต้องสัมผัสลมหนาว เห็นแล้วน่าเข้าไปกอด นอนทับก็คงจะนุ่มนิ่ม
มองมุมไหนก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นโอเมก้าที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่น่าสงสาร ใครก็ตามที่ขาดการควบคุมตัวเองไปเสี้ยววินาทีที่คงไม่อาจอดใจไม่ให้กระโจนเข้าใส่ได้
ไม่มีทางเลือก และไม่มีโอกาสได้เลือก โอเมก้าและเบต้ากำเนิดมาแบบนั้น พวกเขาไม่มีอยากหรือไม่อยาก ไม่มีตกลงหรือปฏิเสธ ไม่มีดีงามหรือเลวร้าย มีแต่ต้องทำตามอำนาจที่เหนือกว่าเท่านั้น
"เอาเถอะ ถือว่าผมพูดกล่อมให้นายหลับแล้วกัน นายแค่ฟังไปเรื่อยๆก็พอนะ"
นิกพยักหน้ามุดตัวเข้าไปให้ใกล้ชิดที่สุดเพื่อที่จะรับฟังได้สะดวก และก็สบายที่สุดเพื่อที่จะได้นอนหลับอย่างที่ไนท์สั่ง ดวงตาสีหิมะหม่นจ้องใบหน้าของอัลฟ่าหนุ่มที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดพอๆกับประโยคคำสั่งของเขา
"สำหรับเรื่องของแม็กซิมัส ผมน่ะได้ข้อคิดว่า การทำการใหญ่ไม่ควรรีบร้อน แต่องค์จักรพรรดิก็ทำเพื่อประชาชนของเขาจริงๆ แต่สิ่งที่ผมติดใจสงสัยก็คือ การปลดปล่อยโอเมก้าและเบต้าให้มีความคิดเป็นของตัวเองมันเป็นความผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ? มันจะเลวร้ายได้อย่างไรกัน ในเมื่อต่อให้พวกเขาเป็นอิสระ ก็ไม่มีทางมีพลังทัดเทียมกับอัลฟ่าที่เป็นเจ้าของดวงดาวมิใช่หรือ?
และอีกอย่าง หมู่ดาวก็ของแม็กซิมัส ประชาชนหรือทาสก็ของเขาไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมภาคีอัลฟ่าคนอื่นๆต้องเดือดร้อนด้วยล่ะ? นั่นแสดงว่าภาคีไม่ได้กลัวเบต้ากับโอเมก้าที่เป็นอิสระหรอก แต่พวกนั่นน่ะกลัว 'การคงอยู่และความสำเร็จ' ของแม็กซิมัสจะเป็นตัวอย่างให้อัลฟ่าคนอื่นทำตามต่างหาก
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นหรือ? ภาคีจะต้องแบ่งเป็นสองฝ่ายหรือเปล่า ฝ่ายของดาวที่ปลดปล่อยกับดาวที่ตีตราประชาชน แม้จะไม่รู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง แต่ไม่มีใครชอบการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ ความแตกต่างและความเสี่ยงที่จะต้องเป็นเสียงส่วนน้อยแน่นอน
คำถามคือ แม็กซิมัสมีความสัมพันธ์กับใครกัน อัลฟ่าคนไหนที่เป็นพันธมิตรที่น่ากลัวของแม็กซิมัส ที่ทำให้ภาคีไม่อาจปล่อยให้แม็กซ์อยู่ต่อไปได้"
ไนท์แสยะยิ้ม เคาะนิ้วลงบนหนังสือที่วางอยู่ข้างตัว
"ซึ่งแน่นอนว่าตำราห่วยแตกเล่มนี้ย่อมไม่ได้เขียนไว้ แต่ให้เดาก็คงติดหนึ่งในสิบอับดับสหพันธ์ดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดน่ะแหละ ก็ใครมันจะสนล่ะ ถ้าแม็กซิมัสมีเพื่อนเป็นอัลฟ่าของดาวขี้ประติ้วสักอัน อย่างเช่นดาวของเราเป็นต้น"
ไนท์ว่าจบก็หัวเราะแผ่วๆให้ตัวเอง แล้วหันมามองก้อนขาวๆที่ตั้งหน้าตั้งตาฟัง
"เข้าใจที่ผมพูดบ้างมั้ย นิก"
'ไนท์ถาม ต้องตอบ'
"…" นิกทำหน้าอึดอัด มีแต่คำว่าไม่ลอยไปมาในหัว แทนคำว่า ไม่เข้าใจ ไม่ทราบ และไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
ไนท์หัวเราะขบขันกับท่าทางเงอะงะของโอเมก้าตัวน้อย
"สำหรับนายคงยากเกินไป งั้นก็ช่างมันไปเถอะ ตอนนี้หิวหรือยังน่ะ"
นิกพยักอย่างกระตือรือร้น
"แล้วกินอะไรดีล่ะ"
'กินไนท์'
"หืม?" อัลฟ่าเลิกคิ้ว ประหลาดใจที่นานๆจะมีคำตอบแบบคาดไม่ถึงออกมาเช่นนี้
"แล้วจะกินยังไงล่ะ" คนเป็นอัลฟ่าอยากเล่นต่อ ไนท์อยากรู้ว่าในความคิดเรียบๆนี้จะตอบอะไรกลับมา
"…"
ไม่มีสัญญาณตอบรับ โอเมก้าน้อยกำลังงงอีกครั้ง หัวสมองเขาว่างเปล่า ได้ทำตาใสๆมองเขาอย่างน่าสงสาร
"งั้นเปลี่ยนใหม่ ไม่ต้องตอบก็ได้ ผมให้นายเลือกได้ อยากกินตรงไหนของผม ก็เข้ามากินเลยสิ"
นิ้วเล็กๆยื่นมาจิ้มแก้มอัลฟ่าหนุ่มอย่างอาจหาญ ไม่เคยมีใครคิดจู่โจมอัลฟ่าของดวงดาวด้วยนิ้วๆเดียวมาก่อน
"กินข้าว...กับ...ไนท์"
น่ารักจนแกล้งไม่ลง โอเมก้าตรงหน้าทำให้เขาหยุดอมยิ้มไม่ได้ แต่ก็ทำให้กังวลจนนอนไม่หลับเช่นกัน
"อีกหน่อยผมไม่อยู่ ผมคงทนไม่ได้ถ้านายจะถูกใครรังแกแล้วไม่รู้ตัวแบบนี้..."
ไนท์ลูบหัวร่างในอ้อมกอดอย่างถนุถนอมและอาลัย
"นิก ผมน่ะจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อาจไม่ยิ่งใหญ่และเป็นประวัติศาสตร์แบบแม็กซิมัส แต่สิ่งที่ผมจะทำให้นายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึงจะรู้แบบนี้แล้ว นายจะยังมากับผมมั้ย นิก"
ดวงตากลมๆสีฟ้าหม่นไม่ได้แวววับด้วยความเข้าใจใดๆเลย หากแต่เต็มเปี่ยมด้วยคุณสมบัติเพียงอย่างเดียวที่มันมีอยู่
ความจงรักภักดี...
"ไนท์ไปไหน ผมไปด้วย"
คำตอบสั้นๆที่มอบทั้งความอิ่มเอมใจ และปวดร้าวให้กับผู้ฟังพร้อมๆกัน
ไนท์ยิ้มเศร้า กอดร่างเล็กๆในอ้อมอกไว้แน่น หลับตาลงจดจำคืนวันที่เขาได้ท่องไปกับเหล่าเบต้าและโอเมก้าที่สำคัญที่สุด จดจำทุกสิ่งล้ำค่าเอาไว้
เพราะเขารู้ว่าเมื่อรัตติกาลนี้ผ่านไป ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ควอซาร์* : ความสว่างที่ปรากฏจากการแผ่พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากหลุมดำยักษ์ (Supermassive Black Holes) ซึ่งมีมวลมหาศาลอยู่ในบริเวณใจกลางกาแล็กซีขนาดใหญ่