ธีร์ยังไม่เคยรู้ว่าเมฆชอบไปห้องหนังสือบ่อย ๆ เพราะเวลานั้นเป็นช่วงที่เขาไม่ค่อยได้อยู่เรือนใหญ่ หรืออาจยุ่งกับงานจนไม่ได้สนใจว่ามีใครเดินเข้าออกที่นั่นบ้าง แต่พอวันหนึ่งเขาบังเอิญเดินผ่านหน้าห้องหนังสือแล้วเห็นเงาของคนคุ้นตาอยู่ตรงชั้นวางรูปภาพ เขาจึงหยุดมอง
เมฆยืนอยู่ตรงนั้น กำลังจ้องมองรูปภาพใบหนึ่งด้วยสายตาอ่อนโยน เป็นภาพธีร์ในวัยเด็ก หน้าตาน่ารัก ยิ้มแย้มอย่างไร้เดียงสา
"หาอะไรเหรอ?" วิภาแม่ของธีร์เดินเข้ามาถาม ธีร์ก็ได้แต่ยืนฟังทั้งคู่คุยกัน
เมฆสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะหันมายิ้มบาง ๆ "แค่มาดูรูปคุณธีร์ตอนเด็กครับ"
"ดูบ่อยเลยเหรอ?" วิภาแปลกใจเล็กน้อยที่เด็กตรงหน้าชอบมาดูรูปลูกชายเธอตอนเด็กๆเกมือนกับเธอ
เมฆพยักหน้าช้า ๆ "ครับ ผมชอบมากจริง ๆ นะ"
ธีร์ขมวดคิ้วนิด ๆ คาดไม่ถึงว่าเมฆจะให้ความสนใจเขาขนาดนี้
"คุณธีร์ตอนเด็กน่ารักมากครับ" เมฆเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ "ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองตอนเด็กเป็นยังไง ไม่มีรูป ไม่มีใครให้ถาม เลยได้แต่คิดว่า ถ้าก้อนนุ่นโตขึ้นมาแล้วน่ารักเหมือนคุณธีร์ก็คงดี"
ธีร์ชะงักไปกับคำพูดนั้น อยู่ ๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ก่อนที่เขาจะต้องหันไปมองทางอื่นเตรียมจะเดินจากไป ก็ที่เขาทำอยู่คือแอบฟังนี่
แต่เมฆไม่ได้สังเกตเลยส่ามีธีแอบฟังอยู่ตลอด เขายังคงมองรูปเด็กชายในกรอบนั้นอยู่ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างใช้ความคิด แล้วจู่ ๆ ก็ถามขึ้น
"แล้ว...รูปของผู้หญิงคนนั้นล่ะครับ?"
ธีร์หันกลับมามองทันที เมฆยังคงไล่สายตามองหาบางอย่าง
"รูปผู้หญิงคนสวยๆที่ตั้งไว้ตรงโต๊ะใหญ่ ที่คุณป้าบอกว่าอยากให้เธอเป็นลูกสะใภ้ คนที่จะได้แต่งงานกับคุณธีร์คนนั้นไงครับ"
ธีร์เข้าใจทันทีว่าเมฆหมายถึงใคร ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงของแม่ตนเองตอบในทันที
"ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้แล้วล่ะ ฉันมีลูกสะใภ้ที่ดีอยู่แล้ว"
เสียงของวิภาทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลง เมฆถึงกับคิดไปใหญ่ ว่าในความหมายนั้นไม่ใช่ตัวเองที่กำลังอุ้มท้องลูกของธีร์ก็คงเป็นใครคนอื่นที่ดีกว่าผู้หญิงในรูปนั้นอีกแน่
วิภามองเมฆด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนทุกครั้งก่อนหน้านี้
"ฉันจะไปอยากได้ลูกสะใภ้อีกทำไม ลูกชายฉันก็มีเมียดีแล้วนี่" เธอกล่าวเสียงเรียบก่อนจะจากไป
เมฆกะพริบตาปริบ ๆ เหมือนไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปมองตามวิภา
"ลูกชายฉัน..." วิภาเอ่ยช้า ๆ แล้วทอดสายตามองไปยังรูปของธีร์ในวัยเด็ก "นอกจากเธอ เขาคงแต่งงานกับใครไม่ได้อีกแล้วล่ะนะ"
เมฆเม้มริมฝีปากอย่างไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า แต่ธีร์กลับชะงักและรีบหลบออกไปก่อน
บรรยากาศในห้องเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เมฆจะหันกลับไปมองรูปเด็กชายอีกครั้ง
...แม้ว่าจะไม่เข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เมฆรู้สึกได้ว่า คำพูดนั้นของวิภา ทำให้หัวใจของธีร์เต้นแรงไม่แพ้เขาเลย
ธีร์คิดว่าเขาเริ่มคุ้นกับความแปลกของเมฆแล้ว แต่ดูเหมือนจะยังมีเรื่องให้ประหลาดใจได้เสมอ
เช้าวันนี้ เขาเห็นเมฆนั่งพับกระดาษอะไรสักอย่างอยู่ที่ระเบียง พอมองใกล้ ๆ ถึงได้รู้ว่าเป็นกล่องใบเล็ก ๆ ที่พับจากกระดาษโน้ต "ทำอะไร?" เขาถาม
เมฆเงยหน้าขึ้นมาตอบแบบจริงจัง "ทำกล่องใส่ความฝันครับ"
"…อะไรนะ?"
"พอดีผมคิดอะไรขึ้นมาได้ ว่าอยากเขียนสิ่งที่อยากทำหลังคลอดก้อนนุ่นไว้ จะได้ไม่ลืม" เมฆว่าพลางหยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง "เช่น พาก้อนนุ่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปกินข้าวที่ร้านอร่อย ๆ ซักที่ หรือปลูกต้นไม้ด้วยกัน"
ธีร์มองกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่เขียนว่า 'อยากลองกินขนมที่ทำจากเกาลัด' แล้วรู้สึกว่าเมฆประหลาดกว่าที่คิด ทำไมถึงมีไอเดียแบบนี้กันนะ? แต่ที่ทำให้เขาคุมหัวหนักกว่าเดิมคือ...
"แล้วถ้าทำสำเร็จ ผมจะพับกระดาษเป็นนกกระเรียนแล้วใส่กลับเข้าไปแทนครับ" เมฆพูดหน้าตาเฉย "สุดท้ายพอกล่องเต็ม ผมจะเอานกกระเรียนพวกนี้ไปปล่อยให้บิน—"
"หยุดเลย" ธีร์ยกมือขึ้นมาห้าม "มันบินไม่ได้"
เมฆชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา "อ้อ จริงด้วยครับ ผมลืมไปเลย"
ธีร์หลับตาลง ถอนหายใจอย่างปลงตก…เขาไม่น่าแปลกใจเลยที่เมฆจะคิดอะไรแบบนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะอยากดูว่ากล่องใส่ความฝันนี้จะเต็มเมื่อไหร่
ธีร์คิดว่าเขาเริ่มเข้าใจเมฆมากขึ้นแล้ว แต่พอได้ฟังเหตุผลของอีกฝ่าย เขาก็ยังอดที่จะคุมขมับไม่ได้อยู่ดี
"ทำไมต้องเขียนใส่กระดาษ?" เขาถาม หลังจากเห็นเมฆพับกระดาษอย่างตั้งใจ
เมฆเงยหน้าขึ้นมามองเขา ก่อนจะตอบอย่างจริงจัง "ก็เพราะกลัวลืมครับ"
"มือถือก็มี ทำไมไม่จดไว้ในนั้น?"
"มือถือมันไม่แน่นอนนี่ครับ" เมฆพูดเสียงเบาแต่หนักแน่น "ถ้าผมจำรหัสปลดล็อกไม่ได้ล่ะ? ถ้าผมเผลอลบแอปจดโน้ตไปเอง? ถ้ามือถือพัง? หรือถ้าผมเปลี่ยนไปจนมันจำหน้าผมไม่ได้ ผมก็เข้าไปดูไม่ได้อีกเลย"
ธีร์ชะงักไปกับตรรกะที่ละเอียดเกินคาดของเมฆ แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เมฆก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดู…น่าเอ็นดูอย่างประหลาด
"แล้วถ้านิ้วที่ใช้สแกนนิ้วหายไปล่ะครับ?"
"..."
"ถ้าผมเกิดอุบัติเหตุจนไม่มีลายนิ้วมือพอให้มันจำล่ะ? ถ้าสุดท้ายแล้วผมลืมทุกอย่างไปจริง ๆ มือถือมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย"
ธีร์ยกมือขึ้นมากุมขมับ "แล้วกระดาษมันช่วยตรงไหน?"
"อย่างน้อยถ้าผมลืมว่าผมเป็นใคร แต่ยังมาเจอพวกนี้ ผมก็จะรู้ว่าครั้งหนึ่ง ผมเคยอยากพาก้อนนุ่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น" เมฆยิ้มบาง ๆ พลางลูบกระดาษเบา ๆ "มันเหมือนสำรองความทรงจำไงครับ สำรองไว้เยอะ ๆ เผื่อวันไหนผมลืมก้อนนุ่น…เผื่อวันไหนผมลืมคุณ"
ธีร์เงียบไปครู่หนึ่ง
เขาไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือเอ็นดูความคิดของเมฆกันแน่ เพราะในขณะที่มันฟังดูแปลกและเต็มไปด้วยความกลัว แต่มันก็บอกได้ชัดเจนว่าเมฆรักลูกมากแค่ไหน
"ไม่ต้องสำรองหรอก" สุดท้าย ธีร์พูดออกมาเบา ๆ พลางยกมือวางบนศีรษะของเมฆ "ฉันจะทำให้แน่ใจเองว่านายจะไม่มีวันลืม"