เช้าวันถัดมา เมฆตื่นแต่เช้า หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ถือเสียมเล็ก ๆ และเมล็ดพันธุ์พืชติดมือออกไปที่สวนด้านหลัง
"จะทำอะไร?"
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง เมฆหันไปมอง เห็นธีร์ยืนกอดอกมองเขาอยู่
"ปลูกผักครับ" เมฆตอบพลางยิ้ม "เมื่อวานเดินผ่านตรงนี้ เห็นว่าดินดี เลยอยากลองปลูกอะไรเล่น ๆ"
ธีร์เดินเข้ามาใกล้ มองพื้นที่ที่เมฆเลือกใช้ปลูก "แถวนี้ปลูกขึ้นเหรอ?"
"ถ้าดูแลดี ๆ ก็น่าจะขึ้นนะครับ" เมฆว่า "อีกอย่างผมไม่ได้จะปลูกเยอะ เอาไว้กินเองกับก้อนนุ่นก็พอ"
ธีร์เลิกคิ้ว "แล้วคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอกับลูกอยู่แบบลำบากเหรอ?"
เมฆหัวเราะเบา ๆ "ผมไม่ได้คิดว่าลำบากนะครับ แค่รู้สึกว่าได้ทำอะไรให้ตัวเองแล้วก็ลูกมันก็ดี"
ธีร์มองคนตรงหน้าที่กำลังขุดดินไปพลางยิ้มไปพลางอย่างพอใจ
"ต้องการให้ช่วยไหม?"
เมฆเงยหน้าขึ้น "คุณธีร์จะช่วยเหรอครับ?"
"ทำไม? คิดว่าทำไม่เป็น?"
"ก็ไม่นึกว่าคุณธีร์จะทำพวกนี้"
ธีร์ถอนหายใจ "ไปนั่งพักเถอะ เดี๋ยวฉันทำให้"
เมฆขมวดคิ้ว "ผมทำเองได้นะครับ"
"แต่เธอท้อง"
"ก็ท้องไม่ได้แปลว่าทำอะไรไม่ได้สักหน่อย" เมฆหัวเราะ "แค่ขุดดินเอง"
ธีร์มองเมฆอย่างไม่สบอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วทรุดตัวลงข้าง ๆ ช่วยขุดดินด้วยอีกแรง
"โอ๊ะ คุณธีร์" เมฆชี้ไปที่ดินตรงหน้า "ตรงนี้ดินร่วนดี น่าจะปลูกได้ดีเลย"
ธีร์พยักหน้า "งั้นก็ปลูกตรงนี้"
เมฆอมยิ้ม ก่อนจะค่อย ๆ หย่อนเมล็ดลงไปแล้วใช้มือเกลี่ยดินกลบเบา ๆ
"แบบนี้ใช่ไหม?" ธีร์ทำตามที่เมฆทำ
"ครับ แค่รดน้ำแล้วก็รอดูว่ามันจะขึ้นรึเปล่า"
ธีร์พยักหน้าช้า ๆ มองคนข้าง ๆ ที่กำลังตั้งใจดูแปลงผักเล็ก ๆ ของตัวเองด้วยสีหน้าพึงพอใจ
"จะปลูกอะไรอีกไหม?"
"อืม...อาจจะลองมะเขือเทศด้วยครับ"
"งั้นเดี๋ยวให้คนไปหามาให้"
"ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ"
"ไม่ลำบาก"
เมฆเงียบไปนิด ก่อนจะยิ้มบาง ๆ "ขอบคุณนะครับ"
ธีร์ไม่ได้ตอบอะไร แค่ยื่นมือไปลูบท้องเมฆเบา ๆ แล้วพูดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ
"หวังว่าก้อนนุ่นจะชอบกินผัก"
เมฆหัวเราะออกมาเบา ๆ "คุณธีร์นี่..."
ธีร์มองเมฆที่ยังคงยิ้ม ก่อนจะหลุบตาลงมองแปลงผักเล็ก ๆ ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรต่อ
"ครับ ถ้าจะเปลี่ยนสเปคของวัสดุ ต้องใช้เวลาเพิ่มอีกประมาณสองสัปดาห์..."
ธีร์ยืนถือโทรศัพท์แนบหู ขณะเดียวกันอีกมือก็ถือสายยางค่อย ๆ รดน้ำต้นอ่อนในแปลงผักเล็ก ๆ อย่างระมัดระวัง
"ใช่ครับ ได้ครับ เดี๋ยวผมให้ฝ่ายประสานงานส่งรายละเอียดให้ภายในวันนี้"
น้ำจากสายยางค่อย ๆ ไหลลงบนผืนดินชุ่มชื้น ต้นอ่อนเริ่มตั้งตัวขึ้นมา แม้ธีร์จะกำลังคุยงาน แต่สายตาก็ยังเหลือบมองต้นกล้าที่เมฆปลูกไว้ทุกครั้งที่ขยับสายยาง เปลี่ยนตำแหน่งรดน้ำให้ทั่ว
"คุณธีร์ ทำอะไรอยู่ครับ?"
เสียงทุ้มของพ่อเกริกดังขึ้น ธีร์ละสายตาจากต้นอ่อน หันไปมองพ่อกับแม่ที่ยืนมองเขาอยู่ไม่ไกล แม่วิภาถึงกับชะงักไปนิด ขณะที่พ่อเกริกเลิกคิ้วมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ
ธีร์ยังคุยโทรศัพท์ไม่จบ แต่ก็พยักหน้าให้เป็นเชิงทักทาย ก่อนจะหันไปพูดกับปลายสายต่อ "ครับ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมให้ทีมสรุปเอกสารแล้วส่งให้ครับ"
พ่อเกริกกับแม่วิภามองลูกชายตัวเองที่ยืนอยู่กลางแปลงผัก มือข้างหนึ่งถือสายยางรดน้ำต้นอ่อน อีกข้างถือโทรศัพท์คุยงานด้วยท่าทีจริงจัง ภาพนี้ทำให้ทั้งคู่เงียบไปครู่หนึ่ง
"ลูกเรานี่... รักเมียเด็กเข้าแล้วแน่ ๆ" พ่อเกริกพึมพำเบา ๆ แต่ก็ชัดพอให้ภรรยาข้าง ๆ ได้ยิน
แม่วิภาไม่ตอบ แต่สายตาก็มีแววลังเลปนกับความตกใจเล็ก ๆ
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ธีร์ก็หันกลับมามองพ่อกับแม่ "มาทำอะไรกันครับ?"
พ่อเกริกยกยิ้มบาง ๆ "แค่เดินมาดูรอบ ๆ บ้าน แล้วก็เห็นนายยืนรดน้ำผักอยู่"
ธีร์มองแปลงผักเล็ก ๆ แล้วตอบเรียบ ๆ "เมฆเป็นคนปลูก ผมแค่ช่วยดูแล"
แม่วิภายังคงมองลูกชายอย่างจับสังเกต "ทำไมต้องช่วยดูแล?"
"ก็ผักของลูกกับเมฆ"
คำตอบนั้นทำให้บรรยากาศเงียบลงไปครู่หนึ่ง พ่อเกริกกับแม่วิภาหันมามองหน้ากัน ก่อนที่พ่อเกริกจะหัวเราะออกมาเบา ๆ
"ขนาดผักยังเป็นของลูกกับเมฆเลยนะ"
ธีร์ไม่ได้ตอบอะไร แค่หันกลับไปปิดน้ำแล้วเดินออกจากแปลงผัก "พ่อแม่จะเข้าบ้านเลยไหมครับ?"
แม่วิภามองลูกชายอย่างพินิจ ก่อนจะพยักหน้า "อืม ไปเถอะ"
ขณะที่ธีร์เดินนำเข้าไปในบ้าน พ่อเกริกหันไปกระซิบกับภรรยาเบา ๆ
"ถึงจะไม่พูด แต่ดูจากการกระทำก็รู้แล้วว่าลูกเราคงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ"
แม่วิภาเม้มริมฝีปากแน่น มองแผ่นหลังของลูกชายแล้วถอนหายใจเบา ๆ โดยไม่พูดอะไรอีก