การเดินทางของยมทูตไม่เหมือนเผ่าพันธุ์ใด พวกเขาเดินทางแสนง่ายดายเพียงพริบตา เพ่งกระแสจิต หายเป็นเถ้าควัน ปรากฏ ณ ที่นั้น เว้นเสียแต่ว่า...
'ถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่เคยไปเช่นนิมิตปีศาจ สถานที่ไม่มีอยู่จริง ไม่สามารถไปได้'
'จริงหรือท่านลุง!? พวกท่านไปมาแล้วทุกที่ ทั้งโลกมนุษย์ ในพระราชวังฮ่องเต้ ตลาดลับในเมืองปีศาจ นทีอันธการล่ะ? แล้วใน ๆ เมืองเทพ เทวโลกชั้นฟ้า พวกท่านก็เคยไป มีที่ไหนท่านลุงไม่เคยไปบ้าง?'
'มี... แม่น้ำลืมเลือน จะได้ไปก็ต่อเมื่อหมดหน้าที่ยมทูตน่ะ'
ลุงสามลุงแปดเล่าให้นางฟังตอนเจ้าของเรือนไม่อยู่… พวกเขาปรารถนาการกลับคืนสู่วัฏสงสาร อยากไปเกิดใหม่เต็มทน ดันมีปีศาจมายืดอายุขัยให้ทำงานต่อ
ข้อมูลในเมืองมรณามีทั้งท่านลุงพลั้งปากเล่า และที่นางได้ยินโดยบังเอิญ
ใช่... นางเข้าใจภาษายมทูตตั้งแต่วันแรกพำนักอาศัยในเมืองมรณา นางข้ามเทือกเขายี่หรุนไปลอบดูยมทูตฝึกเคล็ดวิชามากมาย นางแค่แกล้งโง่ ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว
ถ้าข้าตาย... ท่านจะดีใจหรือไม่? ข้าจะได้พบท่านในปรภูมิ ข้ามผ่านแม่น้ำลืมเลือน ดื่มน้ำแกงชามหนึ่งเพื่อลืมท่าน...
ไยเทพผู้อยู่เหนือความตาย ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนาง อยู่ร่วมเรือน นอนร่วมเตียง นั่งจิบชาเคียงข้าง มีบทสนทนาอย่างถูกคอใต้ต้นไม้วิญญาณนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ไยดีนางสักนิด?
หัวใจปีศาจเจ็บปวดยิ่งเสียกว่าทัณฑ์ทรมาน สิบราตรีผ่านพ้นมานางไม่พบนีเทียนต้าเซิน แม้จะได้กลิ่นดอกปี่อั้นสักเล็กน้อยก็หาได้มีไม่ ในขณะที่ท่านลุงทั้งหลายยังแวะเวียนมาหานาง แจ้งข่าวสำคัญว่าเทพใจดำตัดขาดนาง ส่งนางแล้วไม่ต้องแจ้งข่าวใด ให้ท่านลุงอาวุโสตัดสินใจดำเนินการ
ความมืดมิดในคุกใต้ดินราวกับว่าจะเป็นมิตรสหายที่ดีที่สุดของนาง ทว่าปีศาจเสียงดังน่ารำคาญไม่มีน้ำตาให้เห็นสักหยดหนึ่ง ต่อให้นางอยากทุบอกร่ำไห้ เรียกร้องความสนใจจากนีเทียนต้าเซินเท่าไร เพียงไม่มีน้ำตาออกมา
ทุกรุ่งอรุณในคุกใต้ดินมองไม่เห็นแสงตะวัน นางจะรู้ได้ว่าเป็นยามใดเมื่อปีศาจในเรือนใต้เดินทางมาตามคำสั่งท่านปู่ ทรมานนางด้วยน้ำกรดและเหล็กร้อน ถ่มน้ำลายใส่แผลนาง หัวเราะเยาะนาง แถมมีจิตอกุศลต่อนาง ถ้าไม่ติดว่าผู้อาวุโสตั้งใจแน่วแน่จะให้นางเป็นมารดาผีเสื้อ นางจำต้องมอบพรหมจรรย์ให้ผู้นำตระกูลเสียก่อน จึงจะส่งมอบนางให้จิ้งจอกเงิน นางคงไม่รอดพ้น ได้ร่วมสัมพันธ์กับปีศาจนับร้อยในคุกใต้ดินแน่
สองราตรีสุดท้ายนางเจ็บปวดทรมานจนไร้สติการรับรู้อีกต่อไป จากนั้นร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลได้รับการรักษาด้วยลูกแก้วปีศาจ สาวรับใช้จับนางสวมชุดขาวเก่าเหมือนผ้าขี้ริ้ว ล่ามด้วยโซ่เยี่ยงนักโทษในลานประหาร
เมืองปีศาจมีหอประจานให้อับอาย นางยืนตัวแข็งทื่อบนลานกว้างทำจากไม้ซอมซ่อ แม้สองขาไร้เรี่ยวแรง ลมเยียบเย็นพัดผ่านใบหน้านาง รู้สึกหนาวถึงขั้วกระดูก ริมฝีปากเกรอะเลือดสั่นระริก นางฟุบลงบนพื้น
"เจ้าถิงถิง... ปีศาจทรยศ!"
หลี่หวังหยางมอบตราประทับ '爱[1]' กลางหน้าผากให้นาง เวทหยินสลักลงมาแสบร้อนครู่เดียว นางส่ายตาพร่าเลือนมองโดยรอบ ลูกแก้วหลากสีสันน่าจะเป็นหมู่ปีศาจที่มารวมตัวกัน กลิ่นปีศาจจิ้งจอกลอยอยู่ไกล ๆ
ฝั่งจิ้งจอกเงินกำลังหาทางช่วยนาง ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมให้นางเป็นมารดาผีเสื้อก่อนไปเป็นมารดาจิ้งจอกแน่ นั่นเหยียดหยามเกียรติกันเกินไป
ฮู่โหมวบำเพ็ญตบะปีศาจครบแปดหางแล้ว การดื่มด่ำพรหมจรรย์สตรีในคืนเดือนเพ็ญเพิ่มพูนพลังมหาศาลร่วมร้อยปี เขาน่าจะยึดอำนาจจากอาวุโสเพื่อเป็นผู้นำรุ่นต่อไป หลังดื่มด่ำพลังจากภรรยาผีเสื้อ
จะอย่างไรนางมิได้โกรธเคืองฮู่โหมวเลย มิตรภาพนั้นเรื่องหนึ่ง อำนาจในเมืองปีศาจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่นางเหลือเวลาไม่มาก อาจไม่ทันคืนเพ็ญ...
ถิงถิงยิ้มดีใจท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เมื่อนางปรารถนาความตาย นางกำลังจะได้พบนีเทียนต้าเซินในปรภูมิ นางมีความในใจจะถามเทพผู้ยิ่งใหญ่
ทันใดนั้นเอง ฝันร้ายของนางสิ้นสุดลง...
'ทำดีขึ้นสวรรค์ ทำชั่วลงนรก ใช้กรรมในภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์นับหมื่นปี วันนี้ข้ามาโปรดสัตว์ บ้านของพวกเจ้าจะกลายเป็นเรือนจำใหม่... ให้นามว่า… เรือนจำเหมิงกั๋ว ใครจะหนี ก็รีบไป...'
เสียงหัวเราะอันน่าสะพรึงกลัวของผู้มาเยือนดังกลบคำสบถของหลี่หวังหยาง
ร่างกระดูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มควัน อาชากระดูกลุกท่วมไฟกัลป์เหยียบยืนบนพสุธา อาชาแห่งความมืดกระแทกเท้า พ่นลมหายใจสีชาด
ไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นปีศาจประเภทนี้ ในตำราเล่มไหนก็ไม่มีข้อมูลให้สืบทราบได้ พวกชั้นต่ำพลังน้อยที่ยืนล้อมรอบลานไม้ไม่ยื่นมือเข้าช่วย พอสบโอกาสก็อันตรธานไป
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของผู้แปลกหน้าที่มาสร้างความโกลาหล ยิ่งไม่น่าจะเป็นเทพ...
บุรุษเทพส่วนใหญ่ล้วนรูปงาม สวมอาภรณ์ขาวหรือฟ้าสว่าง ถือครองพลังหยางบริสุทธิ์ แต่เขาผู้นี้มีทั้งหยินและหยาง ออกไปทางปีศาจเสียมากกว่า
ถิงถิงหรี่ตามองตามทิศทางลมพัดผ่าน กลิ่นดอกปี่อั้น เทพมรณา! นางคลำหาบางสิ่งบนพื้นไม้ คลานไปคว้าชายอาภรณ์พี่รองซึ่งมาส่งนาง
"ท่านผู้นั้น? ใช่หรือไม่... พี่รอง... ท่านดูให้ข้าที ข้ามองไม่ค่อยเห็น เขาเป็นร่างกระดูกหรือเทพรูปงาม"
"ร่างกระดูก... อาชากระดูก ฟะ ไฟ... สีชาด นั่นตัวอะไร? ปีศาจกระดูกหรือ..."
"ใช่... ใช่เขาจริง ๆ พวกท่านรีบหนีไป... เร็วเข้า"
"รักษาตัวด้วยน้องเล็ก ข้าลา!"
พี่สาวทั้งสองไม่อาลัยอาวรณ์ หลังผู้มาเยือนสะบัดชายอาภรณ์ฟาดเวทหยินหยางใส่ปีศาจกระเด็นไปคนละทิศทาง ผู้อาวุโสในเรือนใต้ต่างล้มลงบาดเจ็บสาหัส ไม่ทันให้น้องเล็กได้บอกเรื่องสำคัญ เทพมารผู้นี้เกลียดชังปีศาจและความชั่วร้ายเข้ากระดูก!
แล้วผู้พิพากษาลงทัณฑ์ มาหยุดยืนท่ามกลางปีศาจนับร้อย...
นัยน์ตาสีชาดเปล่งประกายด้วยความคั่งแค้น ซึมลึกลงไปถึงก้นบึ้งจิตใจ
หากนีเทียนต้าเซินไม่อยู่ในร่างกระดูกคงแยกเขี้ยว หน้าตายับเยินดูไม่ได้แน่ ๆ เขาจะลงทัณฑ์พวกชั่วช้าทีละตัว ไม่ต้องให้ถึงมืออสูรลงทัณฑ์ในนรกภูมิ!
เทพมารผู้นี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ต่อให้เป็นหลี่หวังหยางก็ตาม เขาสะบัดมือไล่แมลงรำคาญ เหมือนบี้มดตัวเล็ก ๆ ปีศาจหลายตนสลายไปเป็นเถ้าควัน อีกส่วนเฉลียวใจ เลือกที่จะหนีเพื่อรักษาชีวิต
เมื่อปลายมีดพระจันทร์เสี้ยวปรากฏขึ้นพร้อมโซ่ที่ลากผ่านพื้นดินเขียวชอุ่ม กลับกลายเป็นผืนดินแห้งแตกไร้หยาดน้ำหล่อเลี้ยง ฮู่โหมวฝ่าเวทหยินหยางเข้าไป ถิงถิงตะโกนไล่ปีศาจจิ้งจอกให้หนี นางกางเขตอาคมหยินหยางปิดล้อมกาย บรรดาปีศาจอาวุโสยังไม่สามารถเข้าถึงตัวนาง
สายตาทุกคู่ล้วนมองนางเป็นตาเดียว เทพมรณาไหวไหล่มองอัสดงครึ่งดวง ท่ามกลางเสียงตะโกนเกรี้ยวกราด ปีศาจทรยศ! ชักศึกเข้าบ้าน ปกป้องศัตรู
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่านางใช้เวทวิชายมทูตได้ตั้งเมื่อไร แม้แต่เทพมรณา เขาสร้างกรงเวทขนาดใหญ่กักขังนางอีกชั้นหนึ่ง ก่อนหันไปพลิกผืนดินให้กลายเป็นนรกภูมิ
บัดนี้ดินแดนแห่งแมลงบุปผาประดับด้วยทะเลเพลิง พื้นดินไหม้เกรียมเหลือเป็นดวงกลมเพียงตรงที่นางนั่งอยู่เท่านั้น
[1] อ้าย = รัก