Chereads / ไฉนข้ามาอยู่ในเมืองยมทูต 杀我 爱我 阎罗王 / Chapter 20 - 10-2 冷漠而沉默 นิ่งเฉยเย็นชา

Chapter 20 - 10-2 冷漠而沉默 นิ่งเฉยเย็นชา

ในตำราปรากฏชื่อจิตวิญญาณที่เสียสละ วันตายของนางเป็นอีกสองถึงเจ็ดวัน นีเทียนต้าเซินได้รับรายงานจากยมทูตในร่างสตรีองอาจ มีความรู้เรื่องปีศาจแต่ละเผ่าพันธุ์ในขั้นชำนาญการ

การประชุมดำเนินไปร่วมครึ่งราตรีแล้ว ยมทูตทั้งหลายมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อนาง ย่อมอยากจะไปช่วยนาง

"ไยปีศาจชั่วช้าไม่ใช้ยาจับโกหกนางเรื่องยมทูต? จะสร้างเวทลวงขึ้นมาเพื่อเอาความจริงก็ได้"

"นางคุยโวโอ้อวดว่าไม่มีพิษใดทำอันตรายนางได้ แม้แต่ยาจับโกหกของท่านปู่ นางเป็นผู้ต้องขังมาร่วมร้อยปี ทดลองสารพัดยาให้ท่านปู่นาง... อีกอย่าง ยมทูตไม่ใช่จุดประสงค์ของหลี่หวังหยาง ปีศาจเฒ่าละโมบโลภมาก ปรารถนาการขยายดินแดน ฝักใฝ่อำนาจความเป็นใหญ่"

"เช่นนั้นข้ารบกวนท่านหน่อยเถิด นีเทียนต้าเซิน หากใช้ดวงตาพิพากษามองผ่านนางว่าเกิดอะไรขึ้นในเรือนใต้ ง่ายดายกว่าการใช้คันฉ่องเทพ ข้าสังหรณ์ใจไม่ดี ฝั่งจิ้งจอกเงินรวบรวมกำลังเข้าห้ำหั่นแดนบุปผา..."

"ใช่แล้วล่ะ ถึงหัวหน้าตระกูลจิ้งจอกจะวางกลยุทธ์มานาน ในเขตแดนหลี่หวังหยางระเบียบเข้มงวด ปีศาจทรยศจะถูกประทับเหล็กร้อนกลางหน้าผาก ว่าด้วยความผิดที่กระทำ พันธนาการด้วยลวดหนาม ลากพาไปรอบเมืองเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง เชือดไก่ให้ลิงดู[1] หลี่หวังหยางเป็นผู้ควบคุมดินแดนที่เหี้ยมโหด..."

ลุงแปดลุงสามกล่าวว่าขอให้เห็นแก่ความดีของนาง แม้ถูกทรมานหนักหนาสาหัสกลับไม่ยอมเอ่ยแม้กระทั่งนามเทพมรณา และต่อให้นางพูดเรื่องพวกนั้นไป ปีศาจไม่สามารถก้าวข้ามความตายหรือล่วงล้ำแดนยมทูตได้ นางไม่จำเป็นต้องเก็บความลับหากมิใช่เพราะนางรักษาสัจจะวาจา

"เจ้าปีศาจน้อยเคยพูดว่าเมืองมรณาคือบ้านนาง หากนางมีโอกาสได้กลับเรือนใต้ ให้ท่านปู่นางทรมานจนตาย นางจะไม่เปิดเผยเรื่องท่านลุงโดยเด็ดขาด นางจะไม่ทำให้ท่านลุงผิดหวัง ฮือ..."

"ใจเย็นก่อนเถิดลุงสาม ท่านลุงในเขตแดนที่เจ็ดพันตั้งฐานทัพในเมืองปีศาจ รอการรวบรวมวิญญาณ ลุงแปดพึ่งเข้าไปพบนาง ข้าไม่แน่ใจว่านีเทียนต้าเซิน... ควรทราบเรื่องนี้หรือไม่?"

ท่าทางลังเลใจของยมทูตในร่างชายหนุ่มเรียกความสนใจจากเทพมรณา ในขณะที่กลุ่มเมฆาส่วนหนึ่งลอยหายไปทำงานของตน เหลือเพียงยมทูตอาวุโส

"มีรายงานอะไรอีกหรือท่านลุง? ข้าจะได้ตัดสินใจให้ชัดเจนเด็ดขาด"

"ปีศาจฮู่โหมวร่วมมือกับพี่สาวนาง บุรุษเทพจากเทวโลกชั้นดินภพภูมิบาดาล สหายนางไปช่วยนาง แต่นางไม่ยอมออกจากคุกใต้ดิน... นางยืนกรานว่ามีเรื่องต้องทำให้สำเร็จเสียก่อน พวกข้า... ลักลอบเข้าไปในคุกใต้ดิน..."

เหล่ายมทูตใช่เพียงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเทพมรณา พวกเขาลับลอบเข้าเมืองปีศาจราตรี โดยใช้ข้ออ้างว่าไปรวบรวมดวงวิญญาณ

ลุงแปดปรากฏกาย ในอ้อมแขนมีแผนที่ในเรือนใต้แห่งแมลงบุปผาอย่างละเอียด หลังสำรวจมันทุกซอกมุม เข้าไปไถ่ถามจากนักโทษในคุกใต้ดิน นางสารภาพว่าเข้าใจภาษายมทูต ระหว่างนี้ให้ใช้ภาษายมทูตในการสื่อสารกับนางเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปพบนางตอนไม่มีใครอยู่ก็ตาม

"ถิงถิงบอกข้าว่าหลี่หวังหยางเสกสร้างตาข่ายมารด้วยการนำทารกมาสังเวย ตาข่ายนี้เกิดจากเวทบริสุทธิ์ใช้ดักพลังหยินหยางได้ หอสมบัติหลังเรือนใต้จำเป็นต้องใช้กุญแจไขค่ายกล นางเป็นผู้รู้ทางเข้าออก นางได้ยินเรื่องเมืองมรณามียมทูตหายตัวไป นางเชื่อว่าท่านลุงไม่เกียจคร้านบ่ายเบี่ยงการงาน เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้อง..."

"เสียสติไปแล้วรึไง! หน้าอย่างนางรึจะไปช่วยท่านลุง ลำพังยังเอาตัวไม่รอด"

นัยน์ตากลวงโบ๋แผดเผาด้วยเพลิงโทสะ ไฟกัลป์ลุกท่วมกายกระดูก เทพมรณาผ่อนลมหายสีชาด อาชาแห่งความมืดเตะกีบม้าเกรี้ยวกราด เขาเสียมารยาทกับเหล่ายมทูตอาวุโสอย่างช่วยไม่ได้ แถมนึกถึงคำพูดหนึ่ง เขาดูแคลนศัตรู! ความประมาทเป็นจุดอ่อนของการทำศึก

เพราะไม่เคยเห็นปีศาจพวกนั้นเป็นข้าศึก แค่พานางไปส่ง... หมดหน้าที่เพียงเท่านั้น

มองอย่างไรเขาก็เป็นผู้ร้ายของเมืองมรณา เขาถึงได้ชี้เป็นชี้ตายนาง คันฉ่องเทพสะท้อนภาพปีศาจน้อยที่เคยส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่บนกองหญ้า สภาพของนางเหมือนเศษซากมนุษย์ อาภรณ์เก่าขาดเต็มไปด้วยโลหิต

ขนาดว่าผู้โปรดปรานทัณฑ์ทรมานเสียยิ่งกว่าใครยังไม่กล้ามองสภาพอันน่าอดสูของนาง

เงื้อมมือมัจจุราชเรียกลูกแก้วกลับคืนใต้อาภรณ์ นิ่งสงบไปชั่วขณะ

กิจธุระสำคัญคือการนับลูกแก้วยมทูตใต้อาภรณ์ว่าอยู่ครบหรือไม่ ในเขตแดนนีเทียนนั้นครบถ้วน ส่วนอีกสองเทพมีเจตนาไม่บริสุทธิ์

มือกระดูกคว้าอาวุธเป็นโซ่ที่มีปลายมีดพระจันทร์เสี้ยว เฉกเช่นออกไปรวบรวมดวงวิญญาณ เกราะสีนิลลุกโชติช่วงด้วยเพลิงสีชาด เขาสลัดลูกแก้วยมทูตออกจากอาภรณ์ แสงหยินหยางกระจายไปทั่วดินแดน

"ข้าจะไปรับท่านลุงกลับเมืองมรณา ข้าจะจัดการงานนี้ด้วยตัวข้าเอง พวกท่านไปทำงานเถิด ดวงวิญญาณทั้งหลายเฝ้ารอการนำทางจากยมทูต"

 

พักหลังมานี้ยมทูตไม่ใคร่จำศีลใต้อาภรณ์ เรียกกลับมาไม่นานก็ขอออกไป บ่นว่าอยู่เฉย ๆ เป็นลูกแก้วน่าเบื่อหน่าย ใครเล่าจะทนดมกลิ่นความตาย กลิ่นดอกปี่อั้น คงมีเพียงเจ้าถิงถิงที่คลั่งไคล้หลงใหลนักหนา ไม่ว่าเทพมรณาหรือยมทูตก็ควรมีความเป็นส่วนตัวบ้าง

ท่านลุงช่างเจรจาผิดปรกติวิสัย หลังกลับมาจากการรวบรวมดวงวิญญาณจะลุกขึ้นมาฝึกวิชา ทำอาหาร นั่งเดินหมากรุก ประลองกระบี่วิชา ฝึกฝนวิทยายุทธ

ถัดจากเทือกเขายี่หรุนไป ยมทูตในร่างบุรุษกลุ่มหนึ่งนั่งขัดกระบี่ วางแผนจัดการกับวิญญาณร้ายที่หลบหนีการจับกุม บำเพ็ญเพียรอย่างมุมานะเสมือนเหล่าเซียน พวกเขาทำความสะอาดเรือน ดูแลรูปลักษณ์ภายนอกของตน น่าประหลาดที่สุด! มียมทูตหลับใหลใต้ต้นไม้ที่ไร้กิ่งใบ ยมทูตหัวเราะและร้องไห้ มีความรู้สึกเสมือนมนุษย์ปุถุชน

การเปลี่ยนแปลงมีทั้งดีร้าย แม้กระทั่งเจ้าเมืองมรณา อดนึกถึงเรื่องระหว่างเขาและนางมิได้ เสียงหวานกังวานในห้วงนิทราผีเสื้อ ตราตรึงในทุกชั่วขณะจิต

"ข้ามีความลับจะบอกท่าน ข้าจะยอมบอกเรื่องเดียว ท่านจะฟังเรื่องใด?"

"ทำไมเจ้าพูดอ้อมค้อมมากเรื่อง ไม่บอกข้าเสียที เจ้าบอกข้ามาทุกเรื่อง..."

"ปีศาจล้วนหมกมุ่นในราคะ ความโลภหลง แต่ผีเสื้ออย่างข้ามีข้อยกเว้น... เอ้อ! ข้าไม่พูดดีกว่า ท่านลืมไปเถิด ท่านเป็นเทพ จะมาใส่ใจเรื่องอารมณ์รักใคร่ ตัณหาราคะ การเสพสำราญของปีศาจได้ยังไง"

"เจ้าพูดเรื่องความรัก? หมายถึงปีศาจน่ะหรือ..."

"เจ้าค่ะ ข้ากำลังจะบอกว่า... ยามปีศาจผีเสื้อเกิดความรักใคร่ พวกนางมักหลงใหลในสามี อาจมากกว่าวันละสามเวลาของพวกนาง..."

"ข้าเป็นผู้เรียนรู้ทั้งหยินและหยาง เทพมารเช่นข้ามีภริยาได้ ข้าร่ำเรียนมาทุกเรื่องจากตำราสีชาด เพียงแต่ข้าไม่ชอบเปิดมันขึ้นมาบ่อย ๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น"

"ท่านพูดแล้วนะเจ้าคะ เทพมรณามีภริยาได้ เอ๊ะ! ท่านเป็นเทพปีศาจหรือ?"

"ใช่ และต่อให้ข้ามีภรรยาได้… ก็คงไม่ใช่เจ้า ปีศาจน้อย"

"ท่านเอาแต่ผ่อนผันให้พ้นตัว ข้าเบื่อท่านแล้วล่ะ เราเข้านอนเถิด"

ในอ้อมแขนเทพมรณาปรารถนาการกลับมาของสตรีนางหนึ่ง แถมเกิดความฝันระหว่างวัน มองนางนอนหันก้น อมลมในแก้มป่อง น่าเอ็นดูนัก ดวงตากลิ้งกลอกของนางดีใจเมื่อเขาพูดว่าสามารถรับภริยา จากนั้นเขาก็หลอกนาง แสร้งทำเป็นหาทางออกจากห้วงนิทราผีเสื้อไม่ได้ เพื่อจะได้อยู่ข้างกายนางเป็นครั้งสุดท้าย

สามีนางควรเป็นปีศาจจิ้งจอก!

ความตั้งมั่นมลายหายไปเสียเฉย ๆ นีเทียนต้าเซินทุกข์ร้อนใจสาหัสเมื่อพบว่านางบาดเจ็บเจียนตาย เขาแทบจะไปปรากฏกายเบื้องหน้านาง หากไม่ติดว่าจำต้องแจ้งเทพมรณาอีกสองเรื่องลูกแก้วยมทูตเสียก่อน จึงปลดอาคมกักขัง มอบอิสระให้ฮุ่ยเหอเยว่ชิง ปรากฏกายในเรือนไม้สวยงาม ทั้งสองทำเมินเฉยไม่ทุกข์ร้อน ฮุ่ยเหอกางฝ่ามือเรียกลูกแก้วกลับคืนอาภรณ์ไม่ได้ ทำเฉยเมย นั่งหลับตาทำงานในห้วงจิต

นีเทียนต้าเซินสะบัดศีรษะ เตรียมมุ่งตรงไปเมืองปีศาจ ดันเกิดเรื่อง!

'นีเทียนต้าเซิน'

'ทัณฑ์ที่ 1'

เสียงหัวเราะดังกลางท้องนภามืด บทลงโทษเทพมรณาผู้จองหองเริ่มต้นขึ้นโดยตำราสีชาดส่องแสงจรัสจ้า โซ่ตรวนใต้เปลวเพลิงพันล้อมรอบร่างกระดูก

พันธนาการถูกคลายออกด้วยเพลิงกัลป์ในชั่วอึดใจ นัยน์ตาสีชาดพิจารณาศัตรูในฝั่งตรงกันข้าม ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตัวเขาแม้ปลายเส้นผม ในมือกระดูกมีอาวุธเป็นโซ่ ปลายมีดพระจันทร์เสี้ยวเช่นเดียวกัน

นีเทียนต้าเซินเป็นเทพเดียวนับตั้งแต่ถือกำเนิดเมืองมรณา... ที่ต่อสู้กับร่างจำแลงหลายชั่วยาม เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันของฮุ่ยเหอเยว่ชิง ออกมานั่งจิบชา เอ่ยปากชื่นชมการวาดวิทยายุทธวิชา สมเป็นศิษย์มีอาจารย์ ทั้งสองแลดูสำราญใจนัก

กว่าจะสามารถผนึกตำราสีชาดลงได้ ร่างกระดูกขบเขี้ยวฟัน

มันก็น่าโมโห! ครั้นจะให้ฉีกตำราทั้งสามเล่มทิ้งเสีย แดนมรณาไม่มีวันสิ้นสลาย เทพมรณาโดยกำเนิดถือครองร่างอมตะ หาใช่จิตเทพจากสระมรกตไม่ ทำลายสระมรกตก็ดับสิ้น

"สาบานได้ว่าข้าจะเผาเจ้า... จนไม่เหลือสักหน้าแผ่นเดียว... ฮุ่ยเหอเยว่ชิง พวกเจ้าก็ด้วย ฝากไว้ก่อนเถอะ"

'จำ'

สิ้นเสียงดังก้องในท้องนภาสีชาด มือกระดูกฟาดมีดพระจันทร์เสี้ยวแลกรับกับบุรุษในร่างเสมือน มันหัวเราะเยาะเขาอีกรอบหนึ่งก่อนหายไป

[1] 杀鸡儆猴 ฆ่าไก่เตือนลิง