Chereads / ไฉนข้ามาอยู่ในเมืองยมทูต 杀我 爱我 阎罗王 / Chapter 16 - 8-2 恶魔的陷阱 กับดักปีศาจ +++++++

Chapter 16 - 8-2 恶魔的陷阱 กับดักปีศาจ +++++++

"ท่านไม่ควรดูแคลนผู้ใด ไม่ว่าแดนมรณา แดนปีศาจ แดนเทพ แม้แต่มนุษย์ผู้ไร้ซึ่งพลัง ผู้มีความคิดดียิ่งใหญ่เกรียงไกร มีหัวใจกล้าหาญเสียสละ นีเทียนต้าเซิน ท่านรู้ไหม? ราชาแห่งสวรรค์ปกครองแดนเทพด้วยเมตตาธรรม ท่านอ่อนน้อมกับผู้น้อยกว่า มิเคยจะดูแคลน"

"เจ้าเพียงได้ยินมา ส่งสารผ่านปากต่อปาก เจ้ารู้จักคน แต่หารู้จักใจเขาไม่"

ถิงถิงส่ายหน้า ค่อนขอดเทพผู้ผยองตนที่หลุบตามองนาง ส่งเสียงหัวเราะชั่วร้าย นางกล่าวว่าแม่เฒ่าเล่าให้นางฟัง นางคงอดไม่ไหวต้องสั่งสอนเทพซะบ้าง

"ท่านเงียบเสีย... จูบข้า"

"เจ้า..." เขาจ้องตานางในความเงียบ ฝืนการบังคับจากแสงสีอำพันพัดไหวอยู่ข้างใบหู เข่นเขี้ยวกัดกรามกรอด "อยากตายมากนักหรือ?"

"จูบข้า ที่หน้าผาก แก้ม ริมฝีปาก"

นีเทียนต้าเซินโน้มใบหน้าลงประทับจูบกลางหน้าผากเนียน บนแก้มนุ่มหอม มอบสัมผัสนุ่มนวลบนริมฝีปากสีชาด ปีศาจสาวพริ้มปิดตาลงรับจูบอ่อนหวานด้วยหัวใจเป็นสุข ทว่าเพียงไม่นาน นางรับรู้ถึงท่อนกระดูกร้อนผ่านรอยยิ้มร้ายเล่ห์ ลืมตาพรึบมองนัยน์ตากลวงโบ๋ใต้เพลิงกัลป์

"เจ้ายัง..."

วาจาที่กล่าวไม่จบว่านางเปลี่ยนใจหรือไม่ นางจูบโครงกระดูก กลิ่นสาปความตายแผ่ซ่านอยู่บนปากนาง กุมมือกระดูกยกขึ้นวางบนแก้มเย็นเฉียบ

"ข้าอ่านความคิดท่านได้ เทพผู้ถูกสาปให้อยู่ในร่างมาร เทพมารผู้เสียสละเพื่อเหล่าดวงวิญญาณ หากเป็นคราแรกพบกันข้าก็คงกลัวอยู่หรอก แต่นี่ข้าพบท่านมาตั้งเท่าไร ข้าไม่กลัวท่านแม้สักน้อย ข้าชอบท่าน นีเทียนต้าเซิน"

ครู่นั้น ไฟกัลป์ในหลุมดวงตาวูบไหว สั่นคลอนดั่งเปลวเทียนต้องลม

นีเทียนต้าเซินย่อมแปลกใจ เมื่อผู้คนล้วนประหวั่นพรั่นกลัวในความตาย รูปวาดโครงกระดูกอัปลักษณ์ซึ่งผู้ไม่มีโอกาสได้พานพบเพื่อบอกเล่ากล่าวขานต่อไป ทำให้เทพมรณาถูกโจษจัณฑ์ผลักไสจากทุกภพภูมิโลก

"ข้าคิดว่าเจ้า... จะพิศวาสคาดคั้น ถามหาเจ้าร่างปลอมนั่น"

"หามิได้เลย ข้าพยายามไล่เขาไป แต่ข้ายังสับสน ข้าสัมผัสได้ว่าเขาคือท่าน"

กระทั่งยามดึก มือสั่นเทาใส่ยาบนแผ่นหลังบาง กลิ่นหอมอบอวลจากปีกสีม่วงอร่าม ราวกับว่าเขาได้แตะต้องมันด้วยสองมือตน นีเทียนต้าเซินปิดบังเรื่องนี้จากนาง... เขาหวงแหนนางจากร่างจำแลงของตน เพียงเพราะบังคับเจ้าร่างปลอมตามใจไม่ได้ ในขณะที่เขารู้สึกและมองเห็นทุกสิ่ง

"ข้ายินดีพิสูจน์ความจริงใจต่อท่าน ค่ำคืนนี้เราสองจะนั่งชมพฤกษชาติ นอนร่วมเตียง ท่านปรารถนาจะอยู่ในร่างใด ข้าไม่รังเกียจ..."

"เจ้าบ้าไปแล้ว ปีศาจเสียสติ... เยี่ยงเจ้า..."

เทพในร่างกระดูกถูกบังคับให้นอนร่วมเตียงกับนางจนได้ นางชิดแผ่นหลังด้านกำแพงลายเมฆา ขยับอกอวบอัดเข้าแนบชิด ปัดมือสลับเปลี่ยนอาภรณ์สีนิลสำหรับเข้านอน

สุดจะสรรหาถ้อยคำมาปรามห้ามนาง สองกายแนบชิดใต้แสงจันทราที่ลอดผ่านบานประตูหน้าต่าง เสียงสาวใช้เดินไปมาบนระเบียง หาได้มีผู้ใดกล้าชะโงกหน้ามองดูไม่ ทำได้เพียงซุบซิบนินทาเรื่องนายท่านทั้งสอง

ที่ใดมีเขา ย่อมมีนาง กุมมือเดินคู่เคียง เปิดเผยความรักลึกซึ้งต่อกัน แม้เป็นเรื่องต้องห้าม เทพและมารจะมีสัมพันธ์อันดีต่อกันมิได้เป็นอันขาด

บัดนี้เขาและนางนอนร่วมเตียง บนหมอนใบเดียวกัน นางไม่ปล่อยเวลาล่วงพ้นไปโดยไร้ค่า ยิ่งเขาคอยแต่จะเร่งเร้านางให้หยุดห้วงนิทรานี้เสีย นางลุกขึ้นเปลื้องอาภรณ์สีนิล หลุดหล่นกองบนพื้นเรือน เหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่า นางซุกตัวลงนอนในอ้อมแขนกระดูก เมื่อเขาจ้องมองนางอย่างไม่ละวางตา

ในที่สุดเขาก็ยอมคืนร่างบุรุษ สวมอาภรณ์เป็นเนื้อผ้าเบาบางสีนิล นางปลดเชือกผูกเอว วางมือบนแผงอกที่ขยับไหวรุนแรงตามเสียงลมหายใจ

"เจ้า... ไยเสกสร้างห้วงนิทราสกปรก... เจ้ากำลังคิดอะไร? เจ้าเป็นปีศาจน้อย รุ่นเหลนข้าได้"

"ข้าเป็นปีศาจสาว ข้าบอกท่านนับพันครั้งได้ ท่านไม่เคยจำ คงสมองปลาทองเหมือนข้า"

"ไว้ข้าออกไปเมื่อไร ข้าจะลงโทษเจ้าสถานหนัก ข้าจะขังเจ้าในกรงเหล็ก ให้อดข้าวอดน้ำ อนาคตของเจ้ามืดมนแน่"

"นครมรณาไม่ต่างจากกรงขัง ข้ามีความมืดมิดเป็นสหายมาร่วมแรมปี มีเพียงแสงยมทูตคอยนำทาง การได้พบหน้านีเทียนต้าเซิน เป็นความสุขของข้า"

ปีศาจสาวพร่ำพรอดกอดเทพมรณาที่ไม่ขัดขืนนาง ฝ่ามือเย็นเฉียบลูบไล้ผิวกายอุ่น ผ่อนลมหายใจครืดคราด เขาพริ้มปิดตาลงบ่อยครั้งจนนางขมวดคิ้วสงสัย กว่าจะรับรู้ได้อีกคราจากสัมผัสของมืออุ่นร้อน เขาลูบผ่านแผ่นหลังนางผู้เต็มใจยินดีเป็นของเขา นางกระถดกายเข้าหาเขา แทรกกายเข้าหว่างกลางกายสตรี ไอปีศาจห้อมล้อมทั้งสองเรือนกาย

"ร่วมแรมปีในนครมรณา ใต้ต้นไม้วิญญาณ ในเรือนไม้ที่ข้ามานั่งทำงานเคียงข้างเจ้า เฝ้ามองเจ้า วัน ๆ เจ้าเอาแต่นอนเกียจคร้าน ถิงถิง"

"นานขนาดนั้นเชียวหรือ?"

"อื้ม... ตอนข้าไม่อยู่ เจ้าไปเที่ยวเล่น ข้ามเทือกเขาไปก่อกวนยมทูตในหลายเขตแดน เจ้าทักทายพวกเขาทุกรุ่งอรุณ ยมทูตกลับมาจากการรวบรวมดวงวิญญาณ ไยเจ้ายืนกรานว่ามีความมืดมิดเป็นสหาย?"

นางคลี่ยิ้ม กลอกแววตาซุกซนไปมา หวนคิดถึงท่านลุงทั้งหลาย

ท่ามกลางราตรีมืดมิดของเมืองมรณา กลุ่มเมฆาสีขาวสลับดำเป็นดวงกลมนับหลายหมื่นลอยละล่องในเวหา ไม่ไกลจากตัวนางซึ่งเป็นผีเสื้อตัวน้อยในวงยมทูต

ยมทูตมักปิดวาจา ไม่ใคร่สนทนา นอกเสียจากกับยมทูตด้วยกัน พวกเขาสื่อสารกันด้วยกระแสจิต ท่านลุงค่อนข้างรำคาญนางเอามาก ๆ หากเห็นนางเดินไปเดินมาในเรือน พวกเขาจะหายตัวไปในทันที ในขณะที่บางตนยอมให้นางเกาะไหล่อย่างท่านลุงอาวุโสมีร่างเป็นชายชรา มักเอ็นดูนางเป็นลูกหลาน ทอดสายตามองนางบินไปบินมาโดยไม่รำคาญใจ

การมีอยู่ของนางเป็นการปลุกเร้าจิตยมทูตให้เริ่มจดจำอดีตชาติได้ พวกเขาเกิดความรู้สึกเศร้าศัลย์อาลัย ใจคะนึงหาผู้คนในโลกอดีต

ท่านลุงเป็นเยี่ยงไร เทพมรณาผู้แสนเย็นชาไม่หนีไปจากพวกเขา ทั้งสายตาริษยายามนางไปยุ่งวุ่นวายกับท่านลุงรูปงาม วันต่อมาเขาจะย้ายงานท่านลุงจากเขตแดนนั้นไปที่อื่น ทั้งสายตาอ่อนโยนหยุดอยู่บนใบหน้างาม เสียงหัวเราะเริงร่าของผีเสื้อน้อย พาให้ใจปรารถนาจะพบนาง

"แต่กฎจำต้องเป็นกฎ จะมีผู้รู้เรื่องนครมรณาเช่นเจ้า หลุดรอดออกไปไม่ได้"

"ข้าได้ยินมาว่า... ท่านเป็นเทพผู้ชอบละเมิดกฎ พวกเขาเอ่ยนามท่านว่าอย่างนั้น นีเทียน..."

นีเทียนต้าเซินเอาปลายนิ้วเคาะหน้าผากนาง ก้มลงจูบริมฝีปากสีชาด

เป็นครั้งแรกของเทพมรณา มอบจุมพิตแด่สตรี แปลกที่ริมฝีปากนุ่มละมุนมิได้แอบแฝงกลิ่นอายของราคะอย่างปีศาจพึงเป็น เขาขบริมฝีปากบนอย่างอ้อยอิ่ง กว่าจะขยับลงชิมชมริมฝีปากล่าง ส่วนนางเอาแต่โยนลมหายใจสั่นไหว นางไม่รู้ว่าจูบคืออะไร ซ้ำยังเผลอคิดว่าเขาจูบเทพธิดาไหนมาก่อนหรือไม่ นางนึกริษยา โอบรอบคอเขาแนบแน่น

นีเทียนต้าเซินกอดนาง ลากฝ่ามือผ่านหน้าท้องแบนราบ ลูบจับไปทั่วเรือนกายขาวผ่อง ขยับกายแนบชิดทรวงอกงามจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว กระทั่งนางเผยอริมฝีปาก จึงแทรกปลายลิ้นเข้าเกี่ยวพันลิ้นน้อยของนาง

บุรุษเทพยอมมอบจุมพิตหวานตราตรึงซึ่งนางมิบังอาจกล้าใฝ่ฝันถึง แม้ในอีกครู่หนึ่งเขากลับจูบนางราวจะสูบวิญญาณ เขาจูบนางด้วยอารมณ์แสนโหยหา ราวกับว่าเขาจะไม่ได้พบนางอีกในภพชาตินี้ เขาไม่คิดจะปล่อยนางไป เขาจะกักขังนางไว้ในกรงเหล็กเป็นปีศาจผีเสื้อตัวโปรด

เขาหลอกนาง!

ความรู้สึกแสนอัศจรรย์บังเกิดในห้วงใจปีศาจ รสชาติขมหวานปะปนอยู่ในโพรงปาก นางผลักกายขึ้นคร่อมทับอาภรณ์หอมดอกปี่อั้น บุรุษเทพมิได้ยอมนาง จับนางให้นอนลงใต้พันธนาการ ประสานมือเข้าหานาง ตรึงฝ่ามือน้อยวาดวางข้างหมอน มืออีกข้างลอดผ่านเอวคอดบาง

จุมพิตเนิ่นนานใต้แสงจันทราสีชาด หาได้รู้ว่านานเท่าไรไม่ ถิงถิงหยุดลมหายใจหอบสั่นเอาไว้

"ข้า... ไม่ได้สั่งให้ท่านจูบข้า กอดข้า..."

"ปีศาจโอหัง... เจ้ากล้าสั่งข้าด้วยหรือ?"

เขาผู้นี้เป็นเทพมารปากอย่างใจอย่าง เขาจูบนางอีก

เรือนกายโล่งเย็นของนางแนบชิดใต้อาภรณ์หลุดล่น นางลูบแผงอกกำยำ นัยน์ตาสีอำพันเอ่อล้นหยาดน้ำตา เขาพิงหน้าผากไว้กับหน้าผากของนาง

เสียงคร่ำครวญของผีเสื้อน้อยดังก้อง นางเสียน้ำตาด้วยความหวาดกลัว... ด้วยใจคะนึงหา ปรารถนาจะหยุดห้วงนิทรานี้ไว้ชั่วกัลป์

'นีเทียนต้าเซิน!'

เสียงตวาดดังผ่านห้วงนิทรา เมื่ออีกสองเทพบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตเมืองมรณา นัยน์ชาสีชาดลืมพรึบ เงื้อมมือมัจจุราชสะบัด เปิดช่องแสงกลางเวหา

"ไม่มีเวลาแล้วเจ้าปีศาจน้อย สองเทพนั่นกำลังมาเอาเรื่องข้า ค่อยวิวาทกับเจ้าใหม่ภายหลัง" สิ้นคำ เขาผ่อนลมหายใจเหนื่อยหน่าย สตรีใต้ร่างมองตามการกระทำของเขาอย่างงุนงง เขาก้มหนาจูบหน้าผากนางครั้งหนึ่ง มองนางด้วยสายตาอาวรณ์ เมื่อนางปิดตาลงหลับใหลในนิทรา