Chapter 18 - 9-2 恐慌 หวาดกลัว

ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมายในเขตแดนของนีเทียนต้าเซิน นับตั้งแต่การมาเยือนและจากไปของจิตวิญญาณที่เสียสละ เทพมรณายังคงนำทัพยมทูตไปรวบรวมวิญญาณ นำพาลูกแก้ววิญญาณเดินทางเข้าสู่ปรภูมิเพื่อชำระความด้วยกระจกส่องบาป ส่งต่องานพิพากษาดวงวิญญาณให้เป็นหน้าที่ของเจ้านรกอีกสิบแปดกษัตริย์

หลังวิญญาณบาปถูกส่งไปรับโทษในสิบแปดขุมนรก หน้าที่ลงทัณฑ์เป็นของผู้คุมนรก อสูรลงทัณฑ์ รับโทษในเรือนจำนับหลายหมื่นปี จึงสามารถเดินทางข้ามสะพานที่รายล้อมด้วยดอกปี่อั้นเหนือแม่น้ำแห่งการลืมเลือนเพื่อไปเกิดในภพภูมิใหม่ หากโทษไม่หมดแล้วไซร้ วิญญาณเหล่านั้นจะรับทัณฑ์ทรมานต่อจากภูมิเดิมในระหว่างมีชีวิต ยังมีวิญญาณบางส่วนตกลงมายังนครมรณา รับกรรมต่ออีกหนึ่งภพชาติการเป็นยมทูต

สามเทพมรณาจะใช้สักกี่ร่างจิตก็มิใช่ปัญหา บางคราเทพมรณาอาจมีถึงพันร่างจิต นีเทียนต้าเซินพึ่งพบอีกสองเทพในปรภูมิ มาช่วยงานพิพากษาในภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์ พักนี้ดวงวิญญาณบาปมากเกินไป ทั้งโลกมนุษย์ เทวโลก โลกปีศาจไม่ว่างเว้นจากความชั่วร้าย

กลุ่มเมฆาสีขาว-ดำลูกใหญ่ปรากฏขึ้นกลางเรือนยมทูต สีหน้ากังวลของเทพมรณาเป็นที่น่าแปลกใจของท่านลุง ต่างฝ่ายยกมือประสานเคารพซึ่งกันและกัน

"รบกวนพวกท่านแล้ว... ลุงสาม ลุงแปด"

"ลมอะไรพัดท่านมาหรือ? นีเทียนต้าเซิน"

ลุงสามลูบจับหนวดเคราสีเงินในฝั่งตรงข้ามลุงแปด มีร่างเป็นบุรุษรูปงามเช่นในภพชาติเดิมเคยเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์

เมฆายมทูตพัดหายไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าเพื่อเดินหมากฝั่งดำ

หมากกระดานนี้ดูไม่ยากว่าใครเป็นผู้มีประสบการณ์มากกว่า ลุงสามเป็นยมทูตอาวุโสมาห้าหมื่นปี ลุงแปดสองหมื่นปี ถนัดงานสู้รบกว่าการใช้สติปัญญา

นีเทียนต้าเซินก้มมองกระดานหมากรุก รู้สึกกระดากอายขึ้นมายามเอ่ย "ถิงถิง... ข้าส่งนางกลับเรือนใต้เมื่อหลายวันก่อน... ข้าไตร่ตรองอยู่นานว่าควรขอคำปรึกษาจากท่านลุงหรือไม่?"

ลุงสามเอื้อมมือไปหยิบถ้วยชาลายคราม รินชาให้ผู้มาเยือนด้วยท่าทางสุขุม "ข้าขอเสียมารยาทหน่อยเถิด อะไรทำให้ท่านผู้ค้นพบวิชาพิสดารในการโกงความตายยมทูต ส่งตัวนางกลับไปเล่า?"

"ที่ผ่านมาข้าใช้งานนาง แสนเหน็ดเหนื่อยทรมานจากพิษบาดแผล นางต่ออายุขัยให้ยมทูตทั้งกองทัพ กระทั่งเทือกเขายี่หรุนเติมเต็มด้วยดวงไฟหยินหยางไม่ว่างเว้นสักเรือน ความเสียสละของนางสมควรได้รับการตอบแทน"

"ท่านหมายถึงการมอบอิสรภาพให้นางหรือ? มิใช่ว่าจะเป็นการลงโทษนางซะมากกว่า"

นีเทียนต้าเซินปิดตาลงพลางผ่อนลมหายใจ ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกถึงกลิ่นหอมของดอกเหมยฮวาในห้วงนิทราผีเสื้อ แต่เมื่อคาดคิดว่านางถึงมือเจ้าบ่าวที่แท้จริง ปีศาจจิ้งจอกแปดหางฝีมือเก่งฉกาจย่อมปกป้องนางได้

"อื้ม... ข้าลืมแจ้งข่าวท่านลุง ฮุ่ยเหอเยว่ชิงมาเอาเรื่องข้า แต่ก็อยากให้ข้ายืดอายุขัยยมทูตอีกสองเขตแดนด้วย ข้าปฏิเสธพวกเขาไป"

สองเทพมรณาอาจระแคะระคายเรื่องจิตวิญญาณที่เสียสละ หลังจากที่ลานกว้างกลางนครมรณานีเทียนต้าเซิน สถานที่ติดยศศักดิ์ความกล้าหาญมอบศัสตราวุธว่างเปล่าไร้การมาเยือนของดวงไฟหยินหยาง ไม่มีการยกย่องสรรเสริญคุณงามความดีในหนึ่งภพชาติของท่านลุงทั้งหลาย

สามเทพมรณาแทบไม่เคยสนทนา ต่อให้พบหน้าในปรภูมิก็ราวกับว่าจะเป็นลมพัดผ่าน นีเทียนต้าเซินเลือกที่จะไม่ต่ออายุขัยให้ยมทูตในสังกัดอีกสองนคร หากมุ่งไปยังกองทัพตน นั่นทำให้เขาเก็บความลับมาได้นานร่วมปี

"พูดถึงเรื่องเจ้าถิงถิง ได้เข้าที่ประชุมเมื่อไร ท่านมักหลีกเลี่ยงที่จะพูดจา กระทั่งยมทูตไม่ยอมจำศีลใต้อาภรณ์ ส่งเสียงดังโวยวายว่าเบื่อหน่าย ยมทูตเริ่มมีความรู้สึกนึกคิด จดจำอดีตชาติได้ มียมทูตหลบหนีและหายตัวไปเพราะไม่อยากทำงานของตน…"

พวกเขายังมีความเห็นชอบและไม่ชอบ เพียงแต่จะพูดหรือไม่ก็เท่านั้น

ท่านลุงผลัดกันบ่นเทพมรณา นีเทียนต้าเซินยืนเอามือไพล่หลังมองหมากสีดำที่กำลังจนมุม ไม่ต่างจากตัวเขาในยามนี้ ท่านลุงอีกสามปรากฏกายและพูดขึ้น

"ข้าเคยได้ยินเรื่องปีศาจตระกูลแมลงบุปผาโปรดปรานสีสัน กลิ่นหอมของดอกไม้ แสงอรุณและพรรณพฤกษาเปรียบเสมือนชีวิตของพวกนาง ปีศาจแห่งแมลงบุปผายอมสละชีพเพื่อต้นไม้ดอกไม้และแสงสว่าง..."

"ได้แต่หวังว่านางจะไม่มีความรู้สึกต่อท่าน มิฉะนั้นท่านคงเสียแรงเปล่า นางตายแน่ ท่านส่งนางไปตาย..."

"ดีเสียออก นับเป็นการเก็บงานที่เรียบร้อย ไม่มีผู้รู้เรื่องนครมรณารอดชีวิต"

คำพูดมีนัยเรียกสัมปชัญญะเทพมรณา ก่อนที่พวกเขาจะลืมมัน เมื่อลุงสามมองไปทางยมทูตมาใหม่ห้าตน มีทั้งสตรีสูงวัย ชายวัยกลางคนต่างประสานมือทักทาย ร่วมวงสนทนา

"ว่าแต่ท่านไปทำอะไรให้นางโกรธรึ? นีเทียนต้าเซิน นางออกจะเป็นปีศาจอารมณ์ดี หัวเราะได้ทุกวี่ทุกวัน ข้ามีความคิดว่าถ้านางไม่เอ่ยขอไปจากเมืองมรณาด้วยตนเอง ท่านไม่น่าจะส่งนางกลับเรือนใต้ นางเคยบอกข้าว่าชอบเมืองมรณามากกว่าบ้านเก่านางเสียอีก"

"นางเป็นบุคคลภายนอก ไม่เกี่ยวข้องกับกิจธุระของยมทูต ข้าว่านางไปแล้วก็ดี"

ท่านลุงแย่งกันพูด เทพมรณาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ถอนหายใจไม่รู้รอบที่เท่าไร ลุงแปดตบหัวเข่า ทำเสียงดัง ตาจ้องกระดานหมากรุก

"แต่ข้าเบื่อ! ข้าแพ้ลุงสามเกมที่เท่าไร? ข้ามาเดินหมากกับท่านกี่คราก็แพ้ ข้าเล่นต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ"

"สักวันท่านย่อมชนะ เพียงท่านต้องใช้ความอดทนและสติปัญญา เชื่อข้าซี การประลองเชาว์อาจนำไปใช้การรวบรวมดวงวิญญาณ เพื่อพัฒนาสติปัญญาท่านได้ ท่านจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อรู้จักการแก้ปัญหา"

"ข้าเบื่อจะเดินหมากกับยมทูตด้วยกันเต็มกลืน เมื่อไรจะได้กลับสู่วัฏสงสาร"

ยมทูตสบประสานสายตา โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการยืดอายุขัย เทพมรณาส่ายหน้าไปมา

"ข้าขออภัยอีกครั้งเรื่องใช้งานพวกท่านเกินวาระ ข้ารบกวนสักนิดเถิดท่านลุง ขอให้ผ่านพ้นสงครามเมืองต้าไป ข้าจะให้พวกท่านได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี..."

เทพมรณารับปากว่าท่านลุงผู้ตรากตรำทำงานมาหลายหมื่นปี จะได้รับการส่งดวงวิญญาณอย่างสมเกียรติ ไปเป็นบุตรผู้ร่ำรวย เป็นผู้มั่งคั่งมั่งมี เป็นลูกผู้ดีมีสกุลรุนชาติ อาจมีแม้กระทั่งไปถือกำเนิดเป็นกษัตริย์แล้วแต่วาสนาของพวกเขา

ยมทูตไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ลุงสามลุงแปดสนทนากับเทพมรณาไม่นาน ท่านลุงอื่น ๆ มาไถ่ถามเรื่องคืนวาน นีเทียนต้าเซินไล่ตะเพิดสองเทพที่อายุขัยน้อยกว่ามาก ทะเลาะวิวาทฟาดพลังใส่กันเสียงดังอึกทึกจนเขาไท่ซานหายไปทั้งลูก พอพวกเขากลับไป ก็ฟื้นคืนมันขึ้นมาใหม่

สองเทพผู้ถือกำเนิดจากสระมรกตไม่สามารถเอาชนะเทพโดยกำเนิดจากดวงจิตเทพ ขนาดว่าสองรุมหนึ่ง ตอนนี้ฮุ่ยเหอเยว่ชิงคงถูกขังอยู่ที่ไหนสักแห่ง ใช้ร่างจิตแยกไปทำงานของตน บริภาษนีเทียนต้าเซินเป็นเทพจองหองอวดดี คงไม่กล้ามาหาเรื่องไปอีกสักระยะ

"ท่านว่าอย่างไรข้าก็ว่าตามนั้น ข้าจะอยู่ทำงานแล้วกัน" ลุงสามโบกมือไปมา ก้มมองโต๊ะหมากรุกหน้าตาเคร่งเครียด ฉับพลันนั้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน

"ท่านไม่เคยเป็นเช่นนี้นะ นีเทียนต้าเซิน ท่านกินของผิดสำแดงอะไรเข้าไปหรือเปล่า?"

"รึท่านจะ... ท้องไส้ปั่นป่วน?"

ด้วยความคิดพิสดารของท่านลุงสาม หัวเราะจนน้ำตาเล็ด มือทุบโต๊ะหมากรุกกระเด็น

ลุงแปดนึกตลกขบขันอะไรไม่รู้ได้ เขาพูดเรื่องเทพมรณา ถ้าหากว่าเกิดท้องเสียอย่างมนุษย์บนโลก ต้องวิ่งหาห้องปลดทุกข์ให้วุ่นเป็นแน่ แล้วลูกแก้วจำศีลในอาภรณ์เล่าจะทำอย่างไร ไม่เหม็นไปกับเขาด้วยหรือ?

ท่านลุงทั้งสองหัวเราะ ผู้อื่นก็หัวเราะตามเสียงดังลั่น ด้านหน้าเรือนไม้ที่มียมทูตมารวมตัวกัน ลุงสามหัวเราะจนตกที่นั่ง กลิ้งลงบนพื้น

นีเทียนต้าเซินยืนเบิกตากว้างตะลึง เห็นด้วยตาตนเรื่องที่เยว่ชิงและฮุ่ยเหอกล่าว

ยมทูตไม่หัวเราะ!