Chapter 17 - 9-1 恐慌 หวาดกลัว

กระดิ่งลางร้ายในเรือนใต้ที่สั่นดังทำให้มิอาจชะล่าใจ หลี่หวังหยางนัดแนะบรรดาปีศาจให้เล่นละครไปตามน้ำ ตบตากลุ่มควันหยินหยางซึ่งอาจปรากฏตัวอีกเมื่อใดก็ได้ ตามคาดการณ์ว่ายมทูตอาจกลับมา เมื่อศัตรูตายใจ จะได้ไม่เสียการใหญ่ ค่อยส่งสารแจ้งฝั่งจิ้งจอกเงินให้สลักอักษรไว้บนฝ่ามือว่า '忘' ลืม หมายถึงเวทลบเลือนความจำของยมทูต

"ที่ใดมีความตาย ที่นั่นมียมทูต พวกนั้นรวบรวมดวงวิญญาณมากมายไปเพื่ออะไร?"

สีหน้าสงสัยแกมเจ้าเล่ห์ของปีศาจเฒ่าในร่างบุรุษรูปงามซักไซ้เอาความจริงจากร่างไร้สติ

สตรีในอาภรณ์สีชาดอยู่ในเงื้อมมือ เวทหยินห้อมล้อมรอบลำคอ ยามนี้จะบีบคั้นนางก็ตายเปล่า นางสูญสลายเป็นเถ้าควันได้ในพริบตา

ข้างกันนั้นเป็นพี่สาวทั้งสองนอนฟุบบนพื้นหญ้า ญาติผู้พี่อีกสาม บุรุษจิ้งจอกผู้ติดตามฮู่โหมวยังคงไม่ฟื้นจากแรงปะทะของเวทปีศาจราตรี การสะบัดพิษจากปีกของหลี่หวังหยางทำลายเวทหยินหยางใต้อักษร 忘 กลางหน้าผากจนแตกเป็นเสี่ยง ดวงตาสีอำพันเปิดเผยบนปีกสีนิลทั้งแปดคู่ หลังจากนั้นเรือนไม้ในงานวิวาห์กลายเป็นพื้นที่โล่งเปล่าเยียบเย็น

"พวกมันใช้เวทลบเลือนความทรงจำ ส่งตัวเจ้าสาวกลับคืนสู่งานวิวาห์เช่นคืนที่ลักพาตัวเจ้าไป อื้ม... นับว่าเป็นผู้ซื่อตรง ไม่คิดอ้อมค้อม หากไร้กลยุทธ์…" ปลายเสียงเย้ยหยันนางซึ่งไม่มีเรี่ยวแรงตอบคำถาม ปีศาจเฒ่าในเรือนผมสีเงินส่งเสียงหัวเราะดังไปทั่ว "จะเทพ มาร ยมทูต ข้าไม่สน บังอาจมาลูบคมหลี่หวังหยาง พวกหมาลอบกัด ไยไม่ปรากฏตัวซึ่งหน้า เจ้ารู้อะไรมาบ้าง เจ้ามีเรื่องจะบอกข้าไหม? ถิงถิง"

นัยน์ตาสีอำพันเจือไอสังหาร หลี่หวังหยางบีบคอนางจนสำลัก กดดันนางต่อหน้าปีศาจตนอื่น ก่อนพานางไปขังไว้ในคุกใต้ดิน ตรึงโซ่ไว้เยี่ยงทาส

ข้อมือข้อเท้าของนางแดงช้ำเช่นเดียวกับบริเวณรอบคอ มีโซ่เหล็กผูกแน่นหนา เหล็กเย็นเฉียบอาบด้วยเวทหยางของเทพใช้สำหรับการกักขังนักโทษ เรียกสตินางให้ฟื้นคืน นางรู้สึกแสบร้อนที่คอ ข้อมือและข้อเท้า

"หลี่หวังหยาง เจ้าทำอะไร? นางเป็นภรรยาข้าแล้ว ปล่อยนาง!"

"ช้าก่อน ๆ ท่านน่ะใจร้อนเกินไป นางต้องรับโทษในตระกูลเหม่ยเตี๋ย ข้าจึงจะส่งตัวนางให้จิ้งจอกเงิน"

แสงสีนิลจากหางทั้งแปดของผู้นำฝั่งจิ้งจอกเงินยังคงสงบนิ่ง ฮู่โหมวพร้อมเข้าห้ำหั่นกับมารดาผีเสื้อและผู้อาวุโสเรือนใต้ ทว่าถูกห้ามปรามจากอาวุโสฝั่งตน เมื่อการส่งตัวเจ้าสาวยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ผู้กุมอำนาจโดยเด็ดขาดยังเป็นหลี่หวังหยาง

ฮู่โหมวทำได้เพียงยืนมองร่างบอบบางบนกองหญ้าใต้พันธนาการ อุ้งมือปีศาจใต้กรงเล็บแหลมคมบีบกรามนาง มิใช่เพียงการข่มขู่

"ผู้อื่นอย่างไรก็คือผู้อื่น จะฆ่าเจ้าเมื่อไร หาได้รู้ถึงจิตใจพวกเขาไม่ แต่นี่... ข้าเป็นท่านปู่ของเจ้า บอกความจริงมาเถิดปีศาจน้อย เจ้าหายไปไหนมา?"

 

ในห้องมืดแคบไร้แสง ไม่มีแม้บานหน้าต่างให้มองเห็นดวงตะวัน ร่างบางในชุดขาดเก่านั่งสั่นกลัวบนกองหญ้าเปียกชื้น นางไม่กล้าสบนัยน์ตาสีอำพัน ไอปีศาจที่ห้อมล้อมรอบอาภรณ์สีนิลบอกถึงตบะอันกล้าแกร่ง

นานแล้วที่นางพบท่านปู่แล่เนื้อปีศาจตระกูลมัจฉาเพื่อทำการทดลอง มันดีดดิ้นกรีดร้องอย่างทรมานกระทั่งเหลือเพียงหัวใจและก้างโดยที่ยังมีชีวิต นางเก็บไปฝันร้ายอยู่นานจนเขานำของขวัญมาปลอบนาง แต่ท่านปู่พูดจาดีกับนางไม่กี่วัน กลับมาขอปีกนางไปใส่ไว้ในขวดโหล

นางแน่ใจว่ากรงเล็บปีศาจวาดในอากาศเพียงครั้ง นางอาจตายอย่างเจ็บปวดทรมาน สองสามวันมานี้ท่านปู่ต้องการความจริงจากนาง เมื่อครู่นี้มือหยาบกร้านสะบัดจากใบหน้าเกรอะคราบเลือด นางก้มศีรษะอย่างขลาดกลัว

"...ตอบข้ามา ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า อย่างไรข้าก็ต้องส่งตัวเจ้าให้จิ้งจอกเงินอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การขยายดินผีเสื้อสำคัญที่สุด เจ้ารู้ดีปีศาจน้อย"

"พะ... พวกเขา... จับผิดตัว การเข้าออกเมืองมรณามีระยะเวลา ข้าสบโอกาสขโมยของสำคัญ ยื่นเงื่อนไขให้ข้ากลับบ้าน นั่นเป็นเรื่องยากยิ่งนัก ข้าไม่คิดว่าจะกลับมาได้ด้วยซ้ำ พวกเขาคงตามมาลบความทรงจำท่าน"

"ข้าจะใช้ไม้อ่อนกับเจ้าอย่างใจดี ตราบใดที่เจ้าพูดความจริง เจ้ารู้ไหม?"

"ข้าไม่กล้าโกหกท่านปู่เจ้าค่ะ ข้าถูกจับตัวไว้ ยมทูตไม่ฆ่าข้า เพราะ…" นางสั่นศีรษะ สำลักโลหิตออกมาระลอกหนึ่ง หลี่หวังหยางเลิกคิ้วขึ้นถาม

"เพราะ?"

"ข้า… ปลูกผักทำอาหารได้ ข้าพยายามทำตัวให้มีประโยชน์ การฆ่าข้าก็แสนง่ายดาย ศัตรูชะล่าใจ เก็บข้าไว้ใช้งานในฐานะทาส พวกเขามีเมตตาและโง่เง่าเหมือนเทพ มองข้าเป็นภูตผีเสื้อจิตใจดี ข้าแสร้งอ่อนน้อมยอมตาม..."

"งั้นรึ? แล้วระหว่างนั้นเจ้าเสียเวลาทำอะไร ทำไมจึงไม่รีบขโมยของแล้วออกมา เจ้ารู้ไหมว่าสามปีมานี้ฮู่โหมวจะแต่งกับเจ้าผู้เดียว แม้ข้าจะส่งตัวพี่สาวเจ้าไปแทน…"

เล่าไปคงไม่จบในวันเดียว ฮู่โหมวปฏิเสธพี่สาวนาง ส่งตัวเจ้าสาวกลับคืนในสภาพบาดเจ็บ แถมนำไฟประหลาดจากภพภูมิอสรพิษมาเผาต้นไม้ใบหญ้าด้วยความโกรธแค้น เขาทำร้ายผีเสื้อและจิ้งจอกที่ขัดขวาง ตามหานางไปทั่วทุกภพภูมิ พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องการขยายดินแดนให้เป็นเช่นเดิม

หลี่หวังหยางไม่อยู่เฉยแม้สักวัน แม้ตระกูลเหมยเตี๋ยพยายามค้นหาตัวนางเท่าไรก็ไม่พบ พวกเขาดั้นด้นไปถามจากแม่เฒ่าอาวุโสถึงเทวโลก ได้ความมาว่านครมรณาแยกจากเทวโลกและภพภูมิปีศาจโดยสิ้นเชิง

"ทำไมข้าได้ยินจากพวกเทพว่ามีปีศาจ… พบเจ้าใต้ต้นไม้วิญญาณกับบุรุษเทพรูปงาม?"

"เป็นกลลวงของข้า! อ้างว่ากินอะไรไม่ได้นอกจากผลต้นไม้วิญญาณ ท่านปู่ได้โปรดเชื่อข้า ข้าพูดความจริง ถึงข้าจะเป็นจุดด่างพร้อยของตระกูลอย่างไร ข้าไม่ไปเข้าพรรคพวกยมทูต ใครเล่าจะอยากอยู่กับผู้กุมความตาย ข้าเป็นปีศาจขี้กลัว พี่รองพี่ใหญ่รู้ดีว่าข้ากลัวผี กลัววิญญาณ อีกอย่าง... ยมทูตผู้นั้นแข็งแกร่งเกินไป ข้าหนีข้าก็ตาย เขาไม่เคยละสายตาจากข้า เมื่อไรพาข้าออกจากนครมรณา เขาจะจับข้าใส่กรงขัง"

ปีศาจที่ไม่ได้โง่เง่าจนเกินไปคิดเรื่องคำแก้ตัวอยู่ทุกค่ำคืน นางจะตอบท่านปู่ยังไง หากนางได้กลับเรือนใต้ อย่างน้อยก็น่าจะผ่อนหนักเป็นเบา

จอมมารแห่งเหม๋ยเตี๋ยผู้นี้สังหารเครือญาติมือเปล่าโดยไม่ลังเลใจ หากพวกเขาไร้ประโยชน์แล้วละก็ นางหวาดกลัวจนริมฝีปากสั่นเทา น้ำตาไหลพราก อุ้งมือเยียบเย็นของท่านปู่กระชากโซ่หยาง ลำคอของนางปลิวไปตามแรง จากนั้นก็เริ่มข่มขู่นางด้วยการเผาโซ่ให้ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

ลมหายใจของนางแผ่วเบาลง ในความหวังริบหรี่ว่านีเทียนต้าเซินจะมาช่วยนาง ความเป็นจริงแล้วเขาผู้นั้นเพียงสลัดนางให้หลุดพ้นจากห้วงนิทรา ส่งนางกลับแท่นประหาร ทันทีที่นางไร้ประโยชน์

"เจ้ายังเป็นหลานคนดีของปู่ ถิงถิง งานวิวาห์จำต้องเลื่อนไป เพราะเจ้าต้องฝึกวิชาสำคัญก่อนออกเรือน เจ้าปีศาจทรยศ... อย่าให้มีครั้งที่สาม"

"ถิงถิงจะไม่ทำให้ท่านปู่ผิดหวัง! ท่านปู่เฉลียวฉลาด เป็นหนึ่งในใต้หล้า ท่านปู่ได้โปรดเชื่อใจข้า พ้นผิดเมื่อไร ข้าจะหาทางแก้แค้นพวกยมทูต"

"ดีมากปีศาจน้อย ข้ามีของวิเศษหลายอย่างให้เจ้าเป็นของขวัญต้อนรับการกลับมา... เพียงแต่..." นัยน์ตาสีอำพันหลุบมองสตรีปีศาจในโซ่ตรวน เอามือแตะคางครุ่นคิดเรื่องชั่วร้ายแล้วหัวเราะ "การขยายดินแดนผีเสื้ออาจกินเวลาสองถึงสามปี อาจเป็นสิบปี ร้อยปี... ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้า แต่จะใช้งานเจ้าทั้งที ก็ต้องบังคับให้ทำ ข้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เจ้าน่ะพูดอย่างทำอย่าง[1] คำพูดเชื่อถือไม่ได้[2] ประจบสอพลอเก่ง ถิงถิง"

[1] สำนวนจีน : 言行不一 ( yánxíng bùyī )

[2] สำนวนจีน : 言而无信 ( yán'ér wúxìn)