Chapter 8 - ปมที่ (สาม)

ผู้ชายวัยกลางคน สวมแว่นสายตา ผมเผ้ายุ่งเหยิงและตัวผอมบางที่กำลังนั่งกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม ห้องๆ หนึ่งที่พนังห้องด้านหนึ่งเป็นกระจกและเข้านั่งกุมมือตัวเองวางอยู่บนโต๊ะ และฮวังอินซองที่กำลังเดินเปิดประตูเข้ามา และพัคจินอูที่เดินตามกันเข้ามา

" ไม่เป็นไร " พัคจินอูที่หันไปบอกฮวังอินซองให้ออกไปรอเธอข้างนอก มิหนำซ้ำฮวังอินซองยังทำตามที่เธอบอกโดยไม่ลังเล

" ฉันบอกกับคังยูนา ! " แต่ว่าเป็นเธอที่รีบร้อนหันกลับมาพูดคุยกับผู้ชายคนนั้น

" ลูกสาวของคุณว่า คุณกำลังทำงานสำคัญอยู่ " และเธอเพิ่งจะหย่อนก้นลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้ชายคนที่เธอเคยพาลูกสาวของเขาไปส่งที่อพาร์ตเมนท์เมื่อวันก่อนแต่ว่า ผู้ชายคนนั้นก็เอาแต่นั่งนิ่งและก้มหน้าไม่พูดไม่จา

" จริงๆ คุณน่าจะรู้จักฉันแล้วนะคะ " เธอชวนคุย

" คุณคังโดจิน ผู้ช่วยฝ่ายครัวการบิน " และก็สอบถามผู้ชายคนนั้นอย่างตรงไปตรงมา และดูเหมือนว่าเขาก็ยังคงนั่งเงียบและไม่ยอมปริปาก

" ฉันไม่ได้มาที่นี้เพื่อสืบสวนคุณ "

" แต่ว่า...ฉันมาที่นี้เพื่อเป็นพยานให้คุณเท่านั้น " เธอเริ่มสอบถาม และก็ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะเงยหน้าขึ้นมาชำเลือง

" พยาน ! " คังโดจินเริ่มพูดแต่ก็ยังไม่ค่อยกล้าสบตาของพวกเธออย่างตรงไปตรงมาได้ และก็ยังมองไปที่ผนังๆ ห้องที่เป็นกระจก

" ถ้าคุณเป็นพยานจริง ๆ " คังโดจินหันมองที่พนังฝั่งกระจกอยู่แทบที่จะตลอดเวลา

" ทำไม ! " และเขาชำเลืองหันกลับมามองเธอสลับกันไปมาไปพร้อมๆ กับแววตาที่ดูน่าสงสัย

" แล้วทำไม ! เจ้าหน้าที่พวกนั้นถึงยอมให้พยานอย่างคุณ เข้ามาคุยกับผู้ต้องสงสัย "

" มันฟังดูแล้ว "

" ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยจริง ๆ คุณคิดอย่างงั้น หรือเปล่า "

" คุณนักเขียน " คังโดจินที่ไม่ยอมเอ่ยชื่อของเธอแต่เรียกเธอแบบนี้แทน

" ถ้าอย่างนั้น " เธอตอบกลับ

"คุณคิดว่า ฉัน ....." และก็นั่งนึก

" เป็นใครละ " เพราะฉะนั้น เธอถึงถามคังโดจินในสิ่งที่เขาสงสัย

" หึๆ " คังโดจินเริ่มฉีกยิ้มและส่ายหัวเบาๆ

" คนของตึกสีฟ้า "

" เพราะถ้าไม่ใช่ ! คุณนักเขียน " และคังโดจินที่พยายามยื่นหน้าโน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างช้า ๆ

" คุณคงจะไม่ได้เข้ามาเดินเล่นๆ อยู่ที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ "

" และก็ เข้ามานั่งสอบสวนผู้ต้องสงสัยในคดี ผู้ก่อการร้าย "

" ได้แบบนี้หรอก "

" จริงไหม " คังโดจินย้อนถามในสิ่งที่เธอย้อนถามเขาตั้งแต่ต้น

เธอเงียบและผงกหัวเล็กน้อย

" ถึงตอนนนี้....." เธอตอบคังโดจิน

" คุณคังโดจิน "

" คุณจะยังไม่ยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด "

" แต่ว่า อีกไม่นาน "

" เจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวกรองแห่งชาติ ก็จะตามตัวพวกของคุณมาได้ทั้งหมด "

" แต่ถ้าหากคุณยอมบอกว่า ใคร ! เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ละก็ "

" ฉันจะยอมปล่อยครอบครัวคุณไป แต่ถ้าไม่ !!! "

" ครอบครัวของคุณคังโดจิน ก็อาจจะต้องถูกพวกนั้นฆ่าตาย " แต่คราวนี้ เธอหลบสายตาของคังโดจิน

"ฉันจะให้เวลาคุณคิดและไตร่ตรองให้ดี "

" ตามที่คุณต้องการ " เธอพูดเสร็จและกำลังลุกขึ้น

"เธอเป็นใคร !! " คังโดจินสงสัยในตัวของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามที่จะมองตามเธอไป

" เธอเป็นใครกันแน่ " คังโดจินที่พยายามเค้นถามเอาความจริงจากเธอ และเธอก็ยอมหันกลับมามองสบตาของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา

" Shadow 11 " เธองจ้องมองเข้ไปในดวงตาของคังโดจิน

" เป็นนามปากกา ที่ฉันเอาไว้ใช้สำหรับ "

" เขียนหนังสือยังไงละ " เธอเลิกจ้องเขาและเดินกลับออกไปที่ประตู แต่ว่าคังโดจินกลับตั้งใจที่จะรั้งเธอเอาไว้

" มันเพิ่งจะเริ่ม ! " คังโดจินบอก

" เหตุเครื่องบินที่ตก มันแค่น้ำจิ้มสำหรับพวกเขาเท่านั้น " และคังโดจินที่เหมือนมีอะไรอึดอัดภายในใจและกำลังพยายามจะอธิบายออกมา

และเธอก็ค่อยๆ หันกลับ

" เพิ่งจะเริ่ม " และก็หันไปสบสายตาของคังโดจินอีกครั้ง

" อย่างงั้นเหรอ" แต่คราวนี้ เธอกลับมองเห็นแต่ความว่างเปล่าในดวงตาของคังโดจิน เธอจึงขยับและเดินเข้าหาคังโดจินใกล้ๆ

และคังโดจินผงกหัวให้เล็กน้อย

" พวกเขาน่ากลัวมาก และสามารถที่จะทำได้ทุกอย่าง "

" ทั้งระเบิดสถานีรถไฟ ระเบิดศูนย์การค้า หรือไม่ก็อาจจะกราดยิงผู้คนบนท้องถนน ระเบิดพลีชีพ "

" พวกเขาก็คิดที่จะทำมันทั้งนั้นแหละ "

" หึๆ " คังโดจินยิ้มเยาะ

พัคจินอูมือไม้เริ่มสั่น

" พวกเขา คิดที่จะ...ทำเรื่องพวกนั้นทั้งหมด "

" จริงๆ ใช่ไหม " เธอเริ่มหวาดกลัว และคังโดจินก็ยังจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตาของเธอด้วย

" คนพวกนั้น คนที่ติดต่อฉันให้ทำเรื่องพวกนี้ " และสายตาที่เป็นกังวลของคังโดจินที่มีเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

" ฉันได้ยินว่า เค้าจะให้คนธรรมดา ๆ อย่างพวกเรา "

" สร้างความหายนะให้กับโลกทั้งใบ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกขึ้นมาใหม่ " คังโดจินแสร้งยิ้มตาม และเขายังสบตาของเธออยู่ตลอด จนทำให้เธอต้องยอมหลบ

" ขอบคุณ " เธอขอบคุณเขาและรีบเปิดประตูกลับออกมาหาฮวังอินซองที่รออยู่หลังประตูข้างนอก ทันที

" เธอไม่น่าเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เลยสักนิด " ฮวังอินซอบอกกับเธอ

" ไม่เห็นจำเป็น! " ฮวังอินซองย้ำกับพัคจินอู แต่เธอก็ไม่มีได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบและเดินกลับออกไปซะดื้อ ๆ

ฮวังอินซองที่ได้แต่มองตามพัคจินอูอย่างไม่เข้าใจในตัวเธอเลยสักนิด แต่ตอนนี้เขาก็แค่มองเธอด้วยสายตาห่วงใยและก็ไม่อยากให้เธอได้รับอันตรายอีกก็เท่านั้น

บริเวณด้านหน้าค่าเฟ่ 123 คังจูวอนกับคังมินจุน พวกเขาสองคนต่างคนต่างเดินกระสับกระส่ายไปๆ มาๆ อยู่แถวๆ หน้าร้านด้วยท่าทีที่ร้อนอกร้อนใจ และพวกเขาต่างคนก็ต่างแสดงออกสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

" เวลาแบบนี้ ทำไมเขาถึงได้ช้าแบบนี้นะ " คังมินจูบ่นพึมๆ พำๆ แต่ก็ยังคอยสอดส่องสายตาไป ๆ มา ๆ บริเวณริมถนน

" เห้อ ..." และคังจูวอนที่ก็ทำเหมือนๆ กัน และก็ยังคอยแต่จะถอนหายใจซ้ำๆ ไปๆ มา ๆ อยู่ข้างถนน และพอพวกเขามองหันกลับเข้าไปภายร้านทั้งเยอึน ฮวังอินซอกที่ต่างคนก็ต่างทำงานช่วยเสิร์ฟกาแฟกันอยู่ แต่เท่า ๆ ที่สังเกตพวกเขาทั้งคู่ก็ดูมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้พวกเขาสองคนเหมือนกัน และพอหันกลับไปมองที่ถนนอีกรอบพัคจิอูก็ลงมาจากแท็กซี่พอดี

" เป็นยังไงบ้าง ! " คังจูวอนรีบร้อนเดินเข้าไปหาพัคจินอูทันที

" พี่แทซัน ไม่เป็นอะไรมากใช่หรือเปล่า " และคังมินแจก็ถามด้วยท่าทีที่ร้อนใจเป็นที่สุด แต่พัคจินอูก็แทบที่จะไม่มองสบตากับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ

เธอเอาแต่ยืนนิ่งและแสดงสีหน้าเฉยๆ ไปซะอย่างนั้น

" พวกนายสองคน "

" กลับเข้าไปข้างในได้แล้ว "

" ส่วนเรื่องพี่ชายฉันนะ " เธอตอบคำถามพวกเขาไปพร้อมๆ กับก้มหน้าลงต่ำ

" ฉัน ! "

" ฉันจะหาวิธีช่วยพวกเขาเอง เรื่องนี้ "

" ฉันจะต้องหาวิธีช่วยพวกเขา " เธอบอกแค่นี้และก็เดินกลับเข้าไปข้างในคาเฟ่ และปล่อยให้เด็กสองคนได้แต่ตั้งคำถามตามหลังของเธอไปติด ๆ

ฮวังอินซองเอาเครื่องดื่มที่มีส่วนผลมของแอลกอฮอล์สองสามกระป๋องเดินขึ้นไปหาพัคจินอูที่บนบริเวณดาดฟ้าของคาเฟ่ และพอไปถึงก็ยังมองเห็นเธอนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาเก่าๆ

ฮวังอินซองก็เลยต้องเอาเครื่องดื่มไปวางที่โต๊ะไม้เตี้ยๆ ให้เธอ

" จูวอน กับ มินจุน กำลังไปเฝ้าพี่แทซันที่โรงพยาบาล " เขาบอกและยังหันไปเปิดกระป๋องเครื่องดื่มและยื่นมันให้กับเธอ

" จินอู "

" เธอเคยบอกกับฉัน เมื่อนานมาแล้วว่า...เธอจะไม่ทำตามที่พวกเขาขออีกต่อไป "

" แต่ดูจากหลายวันที่ผ่านมา "

" เธอก็ยังจะช่วยพวกเขาอยู่อีก " ฮวังอินซองพยายามช่วยเตือนสติ

" งั้นเหรอค่ะ " และเธอดูตั้งใจพยักหน้าและยอมรับ และหยิบกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จิบมันเบาๆ

" พี่กำลังจะบอกฉันว่า "

" ฉันไม่เอาไหน ! ใช่ไหมละค่ะ " เธอตัดพ้อตัวเองกลายๆ เหมือนจะบอกให้ฮวังอินซองรู้ว่า เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันออกมาเป็นแบบนี้

ฮวังอินซองกระดกเบียร์ยกซดตาม

" ฉันนะรู้ดี "

" ว่า...ที่เธอต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะเธอมีเหตุผล "

" แต่ว่า...มันจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย "

" ฉันไม่อยาก! "

" พี่ค่ะ !!! " เธอเหลียวมองฮวังอินซองอย่างตรงไปตรงมา

" ไหนๆ เราก็มากันถึงขนาดนี้แล้ว "

" มันคงจะเป็นโชคชะตาของเราไป ! ซะแล้วละคะ "

"ว่าไหม ! " เธอยอมรับว่า ฝืนตัวเองไม่ได้จริงๆ และฮวังอินซองที่ก็ได้แต่แอบเหลียวมองเธอด้วยความหนักอกหนักใจ

" แต่ฉันว่า....พัคจินอู " ฮวังอินซองที่ได้แต่คิดและพูดในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด

" ตอนนี้. ! "

" เธอคงอยากจะเดินตามไปโชคชะตา ของเธอแล้วจริง ๆ ละนะ " ฮวังอินซองที่เอาจริงๆ ก็ได้แค่ปลอบและยกซดเบียร์ตามเธอต่อไป

พัคจินอูเหลียวมองฮวังอินซองและขอบคุณเขาผ่านรอยยิ้มนั้น และไม่นานนักคังมินจุน ซนเยอึน กับยุนเยจีก็ตามขึ้นมาที่บนดาดฟ้า

บริเวณประตูทางเข้าของตึกกระสูง รถหรูสีดำราคาแสนแพงและในนั้นมีคนขับรถใส่ชุทสูทสำดำ อีกทั้งพนักงานนับสิบชายหญิงที่พากันออกมายืนคอยอยู่หน้าประตูทางเข้า

ประตูทางเข้าตึกกระจกสูงที่มีป้ายเหนือตึกว่า " Middle Pharmacy and Lab "

และเลขามินโดฮยอนที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของพนักงานเหล่านี้ และเมื่อรถจอดสนิทและทันทีที่มีคนคอยช่วยเปิดประตู

" ยินดีตอนรับท่านประธานกลับมาทำงานครับ " เลขามิน

ได้นำบรรดาพนักงานมาคอยต้อนรับท่านประธานบริษัท

ประธานชเวมินจุกลับกหันไปมองคนอีกคนที่กำลังลงมาจากรถ และชเวกียุลก็ก้าวเท้าลงตามมาติด ๆ

" นี่ ! รองประธานชวกียุล " ประธานชเวกำลังหันมายิ้มอย่างดีอกดีใจ

" ลูกชายอีกคนของฉัน "

" เขาจะมาช่วยแบ่งเบาภาระให้ฉันต่อจากนี้ "

" ฉันขอฝากพวกเราทุกคนด้วย "

ประธานชเวแนะนำลูกชายคนเล็กกับเหล่าบุคคลกรของบริษัทอย่างยิ้มแย้ม และก็ยังจะคอยช่วยพูดแนะนำตัวให้เหล่าบุคคลกรในบริษัทได้ทำความรู้จักกันเอาไว้

ชเวกียุลตอบรับทุกๆ คนด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองเหมือนที่พ่อของเขาทำให้เป็นตัวอย่าง และเขาก็ยังต้องคอยเดินตามท่านประธานชเวเข้าไปที่ข้างในบริษัท และเลขามินที่กำลังพาชเวกวียุลไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของท่านรองประธานคนใหม่ ที่ ๆ ข้างในได้จัดสรรห้องทำงานไว้อย่างประณีตและเหมาะสม

" หวังว่า....ท่านรองประธานคงจะถูกใจนะครับ " เลขามินเชิญให้ท่านรองประธานเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว

ชเวมินแจที่ทำได้แต่คอยเดินตามเลขาโดฮยอนเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง และมองเห็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ใกล้ๆ ผนังกระจก

"จริงๆ ผมก็แค่....." เขาแสดงความไม่มั่นใจออกมาเล็กน้อย

" มาช่วยงานท่านประธานในช่วงนี้ก็เท่านั้น " และเขาก็ถ่อมตนด้วย

เลขามินโดฮยอนคราวนี้ที่เป็นฝ่ายเดินเข้าหาและคอยยิ้มแย้ม

"ผมเข้าใจที่....ท่านรองประธานอยากจะมาช่วยงานตอนที่ท่านยังคงต้องรักษาตัว "

" แต่ว่า..... " ว่าแต่คราวนี้เลขาโดฮยอนกับแสดงสายตาที่ครุ่นคิด

" ถึงยังไงซะ ! "

"ถ้าหากพี่ชายของท่านรองประธาน ! เออ...." และเลขามินที่ได้แต่คิดจนไม่กล้าพูด แต่ชเวมินแจก็พยักหน้า

" ผมรู้ !! "

เพราะฉะนั้นเขาก็เลยเลือกที่จะหันไปยิ้มให้กับเลขามินอีกครั้ง เพื่อที่ว่าจะแสดงความมั่นใจออกมาให้เห็น

เลขามินยิ้มตอบแทนในความช่วยเหลือของท่านชเวกียุล และก็ยังคอยอำเลืองมือของชเวกียุลอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็ยื่นมือขวาข้างนั้นออกมา

แต่ว่าชเวกียุลกลับค่อย ๆ ดึงมือกลับช้า ๆ และก็ยิ้มๆ ออกไปแทน

" ผมคงทำให้คุณอึดอัด ! " เขายิ้ม ๆ

เลขามินโดฮยอนจนแล้วจนรอดก็แค่ทำได้แต่พยักหน้าให้เขา และยังจะรีบขอตัวกลับออกไปทำงานต่อ

เลขามินโดฮยอนกำลังเดินนำหน้าและพาพัคจินอูเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานของ Middle Pharmacy & Lab และป้ายชื่อที่อยู่บนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ " ประธานชเวมินจุน"

" เธอมาแล้วครับ ท่านประธาน "

เลขามินโดฮยอนกล่าวรายงานและก็ถอยห่างๆ ออกมายืนเยื้องๆ กับพัคจินอูที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะท่านประธาน เพราะฉะนั้นท่านประธานชเวจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เธอ และพัคจินอูที่โน้มตัวให้กับเขาอย่างให้เกียรติ

"ไม่เจอกันเลยนะ " ประธานชเวเอ่ยคำทักทาย

" ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง "

" ระหว่างนี้ ไม่เห็นทั้งเธอแล้วก็พี่ชาย "

" ที่คาเฟ่ 123 ได้ข่าวว่า กำลังโด่งดังทีเดียว " ประธานชเวเอ่ยชื่นชมพวกเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

พัคจินอูได้แต่น้อมรับคำชม

" สวัสดี ค่ะ คือว่า...ช่วงนี้พวกเราค่อนข้างทำงานกันยุ่งแทบทุกวัน ฉันต้อง... " เธอพยายามพูดให้ช้า

" ไปที่ร้านหนังสือ และก็ช่วยงานที่กองถ่ายอีกนิดหน่อย "

" และต้องขอโทษที่ ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาล "

เธอโน้มตัวช้า ๆ เพื่อแสดงความจริงใจและท่านประธานชเวที่เข้าใจพวกเธอด้วยการพยักหน้าตอบรับสองถึงสามครั้ง

"เอาละ ๆ " ประธานชเวที่ก็พอจะเข้าใจ

" วันนี้ ที่ฉันให้เลขามินตามเธอมา "

ประธานชเวมินจุนพูดไปด้วยและคอยเหลือบมองเลขาโดฮยอนและถึงจะหันมามองไปที่พัคจินอูอยู่นิ่งๆ

" เอาเข้าจริง ! ฉันก็แค่...."

" มีเรื่องอยากจะไหว้วานเธอสักเล็กน้อย " คราวนี้ที่ทั้งประธานชเวและเลขาโดฮยอนต่างพากันเปลี่ยนสีหน้า

" จินอู..." ประธานชเวที่คอยแต่เรียกชื่อเธอ

" คือว่า...พวกเราอยากจะให้เธอ มาช่วยงานรองประธานของเอ็มดี สักช่วงหนึ่ง พอจะเป็นไปได้ไหม"

ว่าแต่ว่าคราวนี้ทั้งประธานชเวมินจุนและเลขามินโดฮยอนที่ต่างฝ่ายต่างก็พากันคอยดูท่าที ๆ ของพัคจินอูอยู่แทบที่จะตลอด

พัคจินอูที่แทบจะรีบก้มหน้าก้มตารับข้อเสนอ

" ค่ะ " และเธอรับปากแทบจะทันที

" ถ้าเป็นความต้องการของท่านประธาน " เพราะฉะนั้นเธอจึงคอยมองไปที่ท่านประธานของเอ็มดีอีกครั้ง

" ฉันไม่ติดตรงไหนเลยค่ะ ฉันยินดีมาก ๆ เลยค่ะ" เธอรับปากอย่างขยันขันแข็ง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังสงสัย

ก๊อก ๆ

ประตูห้องทำงานดังขึ้นและประตูที่เปิดสวนเข้ามาแทบที่จะทัน และเลขามินโดฮยอนก็ได้รีบกล่าวแทบจะทันทีด้วยเหมือนกัน

"เชิญทางนี้ครับ ท่านรองประธาน " เลขามินช่วยผายมือให้เขาเดินเข้าไปที่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานของบริษัท

ชเวกียุลที่ก็เลยต้องคอยเดินเข้ายืนอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ก่อนหน้า แต่พอตอนที่เขาจะเงยหน้าทักทายท่านประธาน

สายตาของเขากลับดันหันไปเจอเธอเข้า ! และเขากับเธอที่ต่างฝ่ายก็ต่างจ้องมองกันและกันด้วยสายตาที่สงสัยของคนทั้งคู่

" นี่เธอ... "

" นี่คุณ...งั้นเหรอ" ชเวมินแจกับพัคจินอูแทบที่จะเปล่งเสียงพูดออกมาพร้อมกัน และพวกเขาทั้งคู่ที่ได้แต่หันกลับไปมองที่ท่านประธาน

" นี่เลขาของผมที่ว่า ใช่หรือเปล่า "

" นี่ท่านจะให้ฉันช่วยเขา อย่างงั้นเหรอค่ะ " ที่นี้ที่พวกเขาสองคนยังจะคอยแย่งกันพูดต่อหน้าท่านประธานและเลขาโดฮยอน

และเลขามินโดฮยอนจึงเข้ามาคอยช่วยพวกเขา

" ถูกต้องแล้วครับ "

" พวกคุณทั้งสองคนเข้าใจได้ถูกต้อง " เลขามินพยายามกล่ามเสริมให้ท่านประธาน และคราวนี้ท่านประธานชเวที่ถึงกับต้องค่อยๆ ลุกขึ้นมาและยังจะคอยเดินไปหาชเวมินแจและพัคจินอู

ประธานชเวที่คอยเดินหยุดอยู่ระหว่างกลางพวกเขาทั้งสองคน และยังที่จะคอยหันไปพูดคุยพร้อมๆ กับคำอธิบาย

" พวกเธอทั้งสองคนคงจะเคยเจอกันมาบ้างแล้ว ใช่ไหม "

" เลขามิน " ประธานชเวหันไปหาแรงหนุน และเลขามินก็คอยสนับสนุนอย่างเต็มที่

" อพาร์ทเมนท์ของท่านรองประธานที่อยู่ตอนนี้ "

" ผมเป็นคนจัดเตรียมให้เอง เผื่อที่ว่า....." เลขาโดฮยอนที่คราวนี้ได้ช่วยอธิบายให้สองคนที่ยังคงต่างพากันสงสัย

" ทั้งท่านรองประธานกียุลเอง และ "

" เธอ ! พัคจินอูจะได้ช่วยท่านรองประธานทำงานได้อย่างเต็มที่ " เลขาโดฮยอนอธิบายไปพร้อมๆ สลับชำเลืองมองไปที่ประธานของเขาเป็นระยะ

ว่าแต่ว่าถึงยังไง ๆ ซะ.. กียุลกับจินอูก็ยังต่างสงสัยในตัวของกันและกันอยู่ดี

" ถึงจะเป็นอย่างนั่นก็เถอะนะครับ " ชเวกียุลที่ต้องขยับถอยออกมาและหันไปมองที่เลขามินโดฮยอน

และเธอก็ด้วยเหมือนกัน

" นี่หมายความว่า....." พัคจินอูที่ได้แต่หันไปมองท่านประธานของเอ็มดีและสลับหันไปมองท่านรองประธานของเอ็มดีที่ไม่ใช่คน ๆ นั้นที่เธอกำลังคิดในใจอยู่

ประธานชเวมินจุนที่หันไปพยักหน้าทันที

" ใช่แล้ว "

" ถูกต้อง " ประธานชเวย้ำกับพวกเขาทุก ๆ คน

" รองท่านประธาน ชเวกียุล " ประธานชเวที่คราวนี้หันไปมองและคอยสบตากันกับพัคจินอู

" จินอู เธอเองรู้ดีกว่าฉันสะอีก ใช่ไหม ? " และย้ำ ๆ เธอ

"เพราะสาเหตุนี้ ฉันคงไม่อาจจะไว้ใจใครได้อีก "

ประธานชเวมินจุนที่ดูเหมือนๆ จะคอยหันไปขอร้องพัคจินอูเพราะเหตุผลอะไร ๆ บางอย่างที่ก็ไม่อาจจะพูดออกมาได้

" และส่วนรองประธานเอง " และคราวนี้ที่ประธานชเวได้หันไปและขอร้อง

" ในฐานะน้องชายของเขา " ประธานชเวที่หันไปหันคอยขอร้องและเดินไปจับ ๆ ที่หัวไหล่ของรองประธานในฐานะลูกชาย

" การที่....ต้องคอยห่างกันถึงสิบๆ ปีแล้ว "

" ฉันคิดว่า... เราควรที่จะหันหน้าและยอมรับความจริงกันได้สักที "

ประธานชเวขอร้องลูกชาย มิหนำซ้ำสายตาที่เขาได้คอยมองลูกชายของตัวเอง และบางอย่างที่ประธานชเวมินจุนแสดงออกผ่านทางสายตามันช่างดูน่าอึดอัด

สายตา 2 คู่ ระหว่างรองประธานชเวกียุล กับ เลขาคนใหม่พัคจินอู ระหว่างพวกเขาสองคนที่กำลังยืนจ้องๆ คอยมองกันอยู่ ๆ ภายในห้องทำงานของรองประธานคนใหม่ และพวกเขาทั้งสองมองคนที่คอยมองกันอยูกันอย่างจริงจังอยู่ในห้องทำงานที่ทันสมัย พนังกระจกรองด้าน ผ้าม่านไฟฟ้า และการตกแต่งที่เหมือนจะอยู่บนอวกาศ

รองประธานชเวกียุลที่ก็กำลังเพ่งพินิจพิจารณาเลขาของตัวเองตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า และเลขาของเขาก็เช่นกัน

พัคจินอูยืนกอดอกและสำรวจรองประธานของเอ็มดี ฟาร์มาซี เพราะฉะนั้นเธอถึงพยายามคิดยังไงๆ ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องพันนี้

" อย่าเพิ่งรีบหนีซิครับ" รองประธานเอ็มดีที่พอชำเลืองเห็นทางฝั่งเลขามินจะชิ่งรีบหนีออกไปจากห้องก็เลยต้องรีบห้าม

" เลขามิน !"

เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้เลขาคนเก่งของท่านประธานเดินออกจากห้องทำงานของตัวเองออกไปง่ายดาย

แต่ที่จู่ๆ เลขามินกลับคอยเดินเข้ามาใกล้ๆ ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน

" ผม ! หรือครับที่จะหนีท่านรองประธาน " เลขามินยิ้มและนัยน์ตาที่แฝงอะไรบางอย่าง

" ผมก็แค่...."

และเลขามินก็ยังที่จะคอยมองออกไปนอกผนังกระจกข้างนอก ที่ ๆ เวลานี้พนักงานส่งของกำลังช่วยกันขนโต๊ะเก้าอี้อยู่

" ผมก็แค่จะออกไปดูความเรียบร้อย "

" ให้กับเลขาของท่านรองประธานยังไงละครับ " เลขามินยิ้มให้กับพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้ง

" ขอตัวออกไปตรวจตราก่อนนะครับ ท่านรองประธานแล้วก็...."

แต่ว่าคราวนี้เลขามินที่หันไปยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากให้กับเธอ

" คงต้องเรียกว่า เลขาพัค ! "

" จริง ๆ แล้วสิ !! "

เลขามินโดฮยอนรีบขอตัวออกไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ด้านนอก เพื่อที่จะคอยเปิดโอกาสให้กับพนักงานหน้าใหม่ได้ใช้เวลาพูดคุยกันก่อนที่จะเริ่มงาน

แต่ว่าพัคจินอูไม่เห็นที่จะยินดีด้วยสักเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนี้เธอเองมีแต่ที่จะคอยยืนกอดอกและชักสีหน้างุนงง

" ฉันไม่เข้าใจ "

" คุณรู้เรื่องนี้ ! "

" ใช่หรือเปล่า " เธอซัก

และรองประธานที่พยายามหันมายืนทำท่ากอดอกเลียนแบบ และเพิ่มท่าทียียวนกวนประสาทเข้าใส่

" เลขาพัค! "

" คุณนี่...."

" น่าจะไปเป็นนักแสดง เหมือน...."

" พี่ชายผม ! "

เขายังคอยทำท่าทีเลียนแบบเธอ และที่น่า ๆ ตอนนื้ที่เธอก็ยังจะทำท่าทางเลียนแบบเขาตอบกลับมาด้วย

" แต่..ฉันกำลังคิดว่า ! " เธอเชิดหน้า

" คุณเอ็นจิเนีย ไม่ใช่ ๆ "

" ท่านรองประธาน เหมาะกับอาชีพนั่นมากกว่า ! " เธอยิ้มเยาะ

" เชอะ !!"เขาเบือนหน้าหนี

" ยังไง ! ก็ไม่ต่างกันมากแน่ๆ " เขายิ้มเยาะเอาด้วย

แต่ว่าคราวนี้เขาเองที่ต้องคอยหันกลับมาและได้แต่ส่ายหน้าให้เธอ และเขาก็ยังจะหันชำเลืองไปมองที่โต๊ะทำงานของเธอที่แทบจะอยู่ตรงกันข้ามโต๊ะทำงานตัวเอง

" เพราะแบบนี้เองสินะ ! "

" เลขาพัค ! "

" คุณ !! " เขาที่หันกลับมาและเอาแต่ยืนจ้อง !

" คุณถึงได้ มีอพาร์ทเมนต์หรู " และเขาที่คอยยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

" อะไร !! " เธอรีบย้อนถาม !

แต่เขาก็ยังคอยแต่จะเบือนหน้า

" และก็ ! เสื้อผ้า ! รองเท้า ! "

แต่ที่จู่ ๆ เขากลับสะดุด เพราะนอกจากเสื้อเชิ้ตผู้หญิงเข้ารูปสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาด ๆ ที่หัวเข่าสองข้าง รองเท้าผ้าใบพื้นโฟมที่หนาๆ และที่น่าแปลกเธอไม่ถือกระเป๋าแบบผู้หญิงออฟฟิตทั่วไปเลยด้วยซ้ำ

" แต่ยังไงซะ ! "

" ดูจากรสนิยมทั้งหมดนี่แล้ว ! " เขาส่ายหน้าและคอยหันเบือนหน้าหนีกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน และปล่อยทิ้งให้เธอยืนทำหน้าสงสัยอยู่ตรงหน้า

" เชอะ ! " เธอกำลังยิ้มเยาะกลับอีกที !

" คุณนี่มัน !! "

" ก็ดูไร้รสนิยมเหมือนฉันนั่นแหละ ! " คราวนี้เธอก็เลยเดินอ้อมโต๊ะทำงานของเขา เพื่อที่จะได้หันไปมองสบตาของเขาใกล้ๆ

เธอโน้มตัวลงต่ำเพื่อมองหน้าเขาอย่างชัด ๆ และสำรวจ และเขาที่ได้แต่คอยพยายามดึงตัวเองให้ติดพนักเก้าอี้เข้าไว้

" ไร้รสนิยม ! " เขาย้อนถาม

" ยังไง !! " เขาได้แต่ย้อนถามกับเธอ !

แต่ว่าเธอก็ยังคอยโน้มตัวและยื่นหน้าเข้ามาคอยสำรวจรองประธานของตัวเองอย่างใกล้ ๆ และเริ่มตั้งแต่เท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ

" ก็เรื่องที่ว่า...อพาร์ทเมนต์หรูพวกนั้น ! "

เธอหันไปคอยมองและสบตาของเขานานต่อไปเรื่อย ๆ และนานจนกระทั่งสายตาของคนทั้งสองคนก็เริ่มสบสายตาของกันและกัน !

" จะบอกอะไรท่านรองประธาน เอาไว้เลยนะว่า "

" ฉัน ! ไม่ได้มาเป็นเลขาของรองประธานเพียงเพราะว่าฉัน ! "

" เป็นเพื่อนของพี่ชายคุณ ! " เธอบอกกับเขาอย่างตรงไปตรงมา

" เพื่อน ! " เขาพูดขัดและเขยิบตัวเข้าใกล้

" เธอบอกว่า เธอเป็นเพื่อนกับเขา ! "

เพราะฉะนั้น เขาก็เลยพยายามที่จะขยับตัวเข้าหากันอีกอย่างช้า ๆ เพื่อจะทดสอบเธอผ่านทางสายตาและท่าทาง

แต่ว่าเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมถอยห่าง และเธอเองก็ยังไม่ยอมแพ้สบตาของเขาอย่างไม่ยอมที่จะหลบสายตากันเลยด้วยซ้ำ

และเธอกลืนน้ำลายก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

"พี่ชายของนาย ! " และน้ำเสียงที่ฟังก็พอรู้ว่าเริ่มสั่น

" ที่ต้องคอยเก็บเรื่องบางอย่างไว้กับตัวเองเพียง....ลำพัง "

" เพราะฉะนั้น ฉัน! "

" ก็คงจะเป็นคนที่สำคัญ ไม่ใช่สิ! เพื่อนที่รู้ใจเลยละ" เธอพูดย้ำ

มิหนำซ้ำ เธอพยายามที่จะย้ำกับเขาด้วยทั้งคำพูดและก็สายตา และเธอก็ยังจะสบตาของเขานาน ๆ และก็นานจนเขาที่เริ่มเป็นฝ่ายประหม่ากับสายตาที่ธรรมดา ๆ ของเธอ

" อะอืม ! "

เขาแกล้งกระแอม และพยายามให้หลังตัวเองแนบกับผนักเก้าอี้ไว้ให้มากถึงมากที่สุด แต่ถึงอย่างเขาก็ไม่คิดที่จะลดราวาศอกให้

" ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ! " เขาสวนแต่ก็หลบสายตา !

" แน่นอน !! " เธอเอาคืนและยอมล่าถอยออกมาง่าย ๆ เพียงเพราะเธอที่ก็ไม่ได้คิดที่จะอยากที่จะรู้จักกับเขามากขึ้นไปกว่านี้อยู่นักหรอก

เพราะฉะนั้นเธอถึงยอมถอยออกมายืนห่างๆ และยังหันไปชำเลืองที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของเขา

" ประวัติของพนักงานบริษัท ! "

" อ่านบ้างก็ได้ ! "

" ไม่มีใครห้ามหรอก !!! "

เธอเดินเชิดหน้าและเดินก็รีบเดินหนีกลับออกไปจากห้องทำงานของรองประธานคนใหม่อย่างไม่แยแสเขาเลยสักนิดเดียว

แต่ในทางตรงกันข้ามเขาเองนั้นแหละที่กลับเป็นฝ่ายนั่งไม่ติด และจนต้องรีบหันไปหมกหมุ่นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แทบจะไม่ทัน !!!