ผู้ชายวัยกลางคน สวมแว่นสายตา ผมเผ้ายุ่งเหยิงและตัวผอมบางที่กำลังนั่งกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม ห้องๆ หนึ่งที่พนังห้องด้านหนึ่งเป็นกระจกและเข้านั่งกุมมือตัวเองวางอยู่บนโต๊ะ และฮวังอินซองที่กำลังเดินเปิดประตูเข้ามา และพัคจินอูที่เดินตามกันเข้ามา
" ไม่เป็นไร " พัคจินอูที่หันไปบอกฮวังอินซองให้ออกไปรอเธอข้างนอก มิหนำซ้ำฮวังอินซองยังทำตามที่เธอบอกโดยไม่ลังเล
" ฉันบอกกับคังยูนา ! " แต่ว่าเป็นเธอที่รีบร้อนหันกลับมาพูดคุยกับผู้ชายคนนั้น
" ลูกสาวของคุณว่า คุณกำลังทำงานสำคัญอยู่ " และเธอเพิ่งจะหย่อนก้นลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้ชายคนที่เธอเคยพาลูกสาวของเขาไปส่งที่อพาร์ตเมนท์เมื่อวันก่อนแต่ว่า ผู้ชายคนนั้นก็เอาแต่นั่งนิ่งและก้มหน้าไม่พูดไม่จา
" จริงๆ คุณน่าจะรู้จักฉันแล้วนะคะ " เธอชวนคุย
" คุณคังโดจิน ผู้ช่วยฝ่ายครัวการบิน " และก็สอบถามผู้ชายคนนั้นอย่างตรงไปตรงมา และดูเหมือนว่าเขาก็ยังคงนั่งเงียบและไม่ยอมปริปาก
" ฉันไม่ได้มาที่นี้เพื่อสืบสวนคุณ "
" แต่ว่า...ฉันมาที่นี้เพื่อเป็นพยานให้คุณเท่านั้น " เธอเริ่มสอบถาม และก็ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะเงยหน้าขึ้นมาชำเลือง
" พยาน ! " คังโดจินเริ่มพูดแต่ก็ยังไม่ค่อยกล้าสบตาของพวกเธออย่างตรงไปตรงมาได้ และก็ยังมองไปที่ผนังๆ ห้องที่เป็นกระจก
" ถ้าคุณเป็นพยานจริง ๆ " คังโดจินหันมองที่พนังฝั่งกระจกอยู่แทบที่จะตลอดเวลา
" ทำไม ! " และเขาชำเลืองหันกลับมามองเธอสลับกันไปมาไปพร้อมๆ กับแววตาที่ดูน่าสงสัย
" แล้วทำไม ! เจ้าหน้าที่พวกนั้นถึงยอมให้พยานอย่างคุณ เข้ามาคุยกับผู้ต้องสงสัย "
" มันฟังดูแล้ว "
" ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยจริง ๆ คุณคิดอย่างงั้น หรือเปล่า "
" คุณนักเขียน " คังโดจินที่ไม่ยอมเอ่ยชื่อของเธอแต่เรียกเธอแบบนี้แทน
" ถ้าอย่างนั้น " เธอตอบกลับ
"คุณคิดว่า ฉัน ....." และก็นั่งนึก
" เป็นใครละ " เพราะฉะนั้น เธอถึงถามคังโดจินในสิ่งที่เขาสงสัย
" หึๆ " คังโดจินเริ่มฉีกยิ้มและส่ายหัวเบาๆ
" คนของตึกสีฟ้า "
" เพราะถ้าไม่ใช่ ! คุณนักเขียน " และคังโดจินที่พยายามยื่นหน้าโน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างช้า ๆ
" คุณคงจะไม่ได้เข้ามาเดินเล่นๆ อยู่ที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ "
" และก็ เข้ามานั่งสอบสวนผู้ต้องสงสัยในคดี ผู้ก่อการร้าย "
" ได้แบบนี้หรอก "
" จริงไหม " คังโดจินย้อนถามในสิ่งที่เธอย้อนถามเขาตั้งแต่ต้น
เธอเงียบและผงกหัวเล็กน้อย
" ถึงตอนนนี้....." เธอตอบคังโดจิน
" คุณคังโดจิน "
" คุณจะยังไม่ยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด "
" แต่ว่า อีกไม่นาน "
" เจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวกรองแห่งชาติ ก็จะตามตัวพวกของคุณมาได้ทั้งหมด "
" แต่ถ้าหากคุณยอมบอกว่า ใคร ! เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ละก็ "
" ฉันจะยอมปล่อยครอบครัวคุณไป แต่ถ้าไม่ !!! "
" ครอบครัวของคุณคังโดจิน ก็อาจจะต้องถูกพวกนั้นฆ่าตาย " แต่คราวนี้ เธอหลบสายตาของคังโดจิน
"ฉันจะให้เวลาคุณคิดและไตร่ตรองให้ดี "
" ตามที่คุณต้องการ " เธอพูดเสร็จและกำลังลุกขึ้น
"เธอเป็นใคร !! " คังโดจินสงสัยในตัวของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามที่จะมองตามเธอไป
" เธอเป็นใครกันแน่ " คังโดจินที่พยายามเค้นถามเอาความจริงจากเธอ และเธอก็ยอมหันกลับมามองสบตาของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา
" Shadow 11 " เธองจ้องมองเข้ไปในดวงตาของคังโดจิน
" เป็นนามปากกา ที่ฉันเอาไว้ใช้สำหรับ "
" เขียนหนังสือยังไงละ " เธอเลิกจ้องเขาและเดินกลับออกไปที่ประตู แต่ว่าคังโดจินกลับตั้งใจที่จะรั้งเธอเอาไว้
" มันเพิ่งจะเริ่ม ! " คังโดจินบอก
" เหตุเครื่องบินที่ตก มันแค่น้ำจิ้มสำหรับพวกเขาเท่านั้น " และคังโดจินที่เหมือนมีอะไรอึดอัดภายในใจและกำลังพยายามจะอธิบายออกมา
และเธอก็ค่อยๆ หันกลับ
" เพิ่งจะเริ่ม " และก็หันไปสบสายตาของคังโดจินอีกครั้ง
" อย่างงั้นเหรอ" แต่คราวนี้ เธอกลับมองเห็นแต่ความว่างเปล่าในดวงตาของคังโดจิน เธอจึงขยับและเดินเข้าหาคังโดจินใกล้ๆ
และคังโดจินผงกหัวให้เล็กน้อย
" พวกเขาน่ากลัวมาก และสามารถที่จะทำได้ทุกอย่าง "
" ทั้งระเบิดสถานีรถไฟ ระเบิดศูนย์การค้า หรือไม่ก็อาจจะกราดยิงผู้คนบนท้องถนน ระเบิดพลีชีพ "
" พวกเขาก็คิดที่จะทำมันทั้งนั้นแหละ "
" หึๆ " คังโดจินยิ้มเยาะ
พัคจินอูมือไม้เริ่มสั่น
" พวกเขา คิดที่จะ...ทำเรื่องพวกนั้นทั้งหมด "
" จริงๆ ใช่ไหม " เธอเริ่มหวาดกลัว และคังโดจินก็ยังจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตาของเธอด้วย
" คนพวกนั้น คนที่ติดต่อฉันให้ทำเรื่องพวกนี้ " และสายตาที่เป็นกังวลของคังโดจินที่มีเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ
" ฉันได้ยินว่า เค้าจะให้คนธรรมดา ๆ อย่างพวกเรา "
" สร้างความหายนะให้กับโลกทั้งใบ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกขึ้นมาใหม่ " คังโดจินแสร้งยิ้มตาม และเขายังสบตาของเธออยู่ตลอด จนทำให้เธอต้องยอมหลบ
" ขอบคุณ " เธอขอบคุณเขาและรีบเปิดประตูกลับออกมาหาฮวังอินซองที่รออยู่หลังประตูข้างนอก ทันที
" เธอไม่น่าเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เลยสักนิด " ฮวังอินซอบอกกับเธอ
" ไม่เห็นจำเป็น! " ฮวังอินซองย้ำกับพัคจินอู แต่เธอก็ไม่มีได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบและเดินกลับออกไปซะดื้อ ๆ
ฮวังอินซองที่ได้แต่มองตามพัคจินอูอย่างไม่เข้าใจในตัวเธอเลยสักนิด แต่ตอนนี้เขาก็แค่มองเธอด้วยสายตาห่วงใยและก็ไม่อยากให้เธอได้รับอันตรายอีกก็เท่านั้น
บริเวณด้านหน้าค่าเฟ่ 123 คังจูวอนกับคังมินจุน พวกเขาสองคนต่างคนต่างเดินกระสับกระส่ายไปๆ มาๆ อยู่แถวๆ หน้าร้านด้วยท่าทีที่ร้อนอกร้อนใจ และพวกเขาต่างคนก็ต่างแสดงออกสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
" เวลาแบบนี้ ทำไมเขาถึงได้ช้าแบบนี้นะ " คังมินจูบ่นพึมๆ พำๆ แต่ก็ยังคอยสอดส่องสายตาไป ๆ มา ๆ บริเวณริมถนน
" เห้อ ..." และคังจูวอนที่ก็ทำเหมือนๆ กัน และก็ยังคอยแต่จะถอนหายใจซ้ำๆ ไปๆ มา ๆ อยู่ข้างถนน และพอพวกเขามองหันกลับเข้าไปภายร้านทั้งเยอึน ฮวังอินซอกที่ต่างคนก็ต่างทำงานช่วยเสิร์ฟกาแฟกันอยู่ แต่เท่า ๆ ที่สังเกตพวกเขาทั้งคู่ก็ดูมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้พวกเขาสองคนเหมือนกัน และพอหันกลับไปมองที่ถนนอีกรอบพัคจิอูก็ลงมาจากแท็กซี่พอดี
" เป็นยังไงบ้าง ! " คังจูวอนรีบร้อนเดินเข้าไปหาพัคจินอูทันที
" พี่แทซัน ไม่เป็นอะไรมากใช่หรือเปล่า " และคังมินแจก็ถามด้วยท่าทีที่ร้อนใจเป็นที่สุด แต่พัคจินอูก็แทบที่จะไม่มองสบตากับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ
เธอเอาแต่ยืนนิ่งและแสดงสีหน้าเฉยๆ ไปซะอย่างนั้น
" พวกนายสองคน "
" กลับเข้าไปข้างในได้แล้ว "
" ส่วนเรื่องพี่ชายฉันนะ " เธอตอบคำถามพวกเขาไปพร้อมๆ กับก้มหน้าลงต่ำ
" ฉัน ! "
" ฉันจะหาวิธีช่วยพวกเขาเอง เรื่องนี้ "
" ฉันจะต้องหาวิธีช่วยพวกเขา " เธอบอกแค่นี้และก็เดินกลับเข้าไปข้างในคาเฟ่ และปล่อยให้เด็กสองคนได้แต่ตั้งคำถามตามหลังของเธอไปติด ๆ
ฮวังอินซองเอาเครื่องดื่มที่มีส่วนผลมของแอลกอฮอล์สองสามกระป๋องเดินขึ้นไปหาพัคจินอูที่บนบริเวณดาดฟ้าของคาเฟ่ และพอไปถึงก็ยังมองเห็นเธอนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาเก่าๆ
ฮวังอินซองก็เลยต้องเอาเครื่องดื่มไปวางที่โต๊ะไม้เตี้ยๆ ให้เธอ
" จูวอน กับ มินจุน กำลังไปเฝ้าพี่แทซันที่โรงพยาบาล " เขาบอกและยังหันไปเปิดกระป๋องเครื่องดื่มและยื่นมันให้กับเธอ
" จินอู "
" เธอเคยบอกกับฉัน เมื่อนานมาแล้วว่า...เธอจะไม่ทำตามที่พวกเขาขออีกต่อไป "
" แต่ดูจากหลายวันที่ผ่านมา "
" เธอก็ยังจะช่วยพวกเขาอยู่อีก " ฮวังอินซองพยายามช่วยเตือนสติ
" งั้นเหรอค่ะ " และเธอดูตั้งใจพยักหน้าและยอมรับ และหยิบกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จิบมันเบาๆ
" พี่กำลังจะบอกฉันว่า "
" ฉันไม่เอาไหน ! ใช่ไหมละค่ะ " เธอตัดพ้อตัวเองกลายๆ เหมือนจะบอกให้ฮวังอินซองรู้ว่า เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันออกมาเป็นแบบนี้
ฮวังอินซองกระดกเบียร์ยกซดตาม
" ฉันนะรู้ดี "
" ว่า...ที่เธอต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะเธอมีเหตุผล "
" แต่ว่า...มันจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย "
" ฉันไม่อยาก! "
" พี่ค่ะ !!! " เธอเหลียวมองฮวังอินซองอย่างตรงไปตรงมา
" ไหนๆ เราก็มากันถึงขนาดนี้แล้ว "
" มันคงจะเป็นโชคชะตาของเราไป ! ซะแล้วละคะ "
"ว่าไหม ! " เธอยอมรับว่า ฝืนตัวเองไม่ได้จริงๆ และฮวังอินซองที่ก็ได้แต่แอบเหลียวมองเธอด้วยความหนักอกหนักใจ
" แต่ฉันว่า....พัคจินอู " ฮวังอินซองที่ได้แต่คิดและพูดในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด
" ตอนนี้. ! "
" เธอคงอยากจะเดินตามไปโชคชะตา ของเธอแล้วจริง ๆ ละนะ " ฮวังอินซองที่เอาจริงๆ ก็ได้แค่ปลอบและยกซดเบียร์ตามเธอต่อไป
พัคจินอูเหลียวมองฮวังอินซองและขอบคุณเขาผ่านรอยยิ้มนั้น และไม่นานนักคังมินจุน ซนเยอึน กับยุนเยจีก็ตามขึ้นมาที่บนดาดฟ้า
บริเวณประตูทางเข้าของตึกกระสูง รถหรูสีดำราคาแสนแพงและในนั้นมีคนขับรถใส่ชุทสูทสำดำ อีกทั้งพนักงานนับสิบชายหญิงที่พากันออกมายืนคอยอยู่หน้าประตูทางเข้า
ประตูทางเข้าตึกกระจกสูงที่มีป้ายเหนือตึกว่า " Middle Pharmacy and Lab "
และเลขามินโดฮยอนที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของพนักงานเหล่านี้ และเมื่อรถจอดสนิทและทันทีที่มีคนคอยช่วยเปิดประตู
" ยินดีตอนรับท่านประธานกลับมาทำงานครับ " เลขามิน
ได้นำบรรดาพนักงานมาคอยต้อนรับท่านประธานบริษัท
ประธานชเวมินจุกลับกหันไปมองคนอีกคนที่กำลังลงมาจากรถ และชเวกียุลก็ก้าวเท้าลงตามมาติด ๆ
" นี่ ! รองประธานชวกียุล " ประธานชเวกำลังหันมายิ้มอย่างดีอกดีใจ
" ลูกชายอีกคนของฉัน "
" เขาจะมาช่วยแบ่งเบาภาระให้ฉันต่อจากนี้ "
" ฉันขอฝากพวกเราทุกคนด้วย "
ประธานชเวแนะนำลูกชายคนเล็กกับเหล่าบุคคลกรของบริษัทอย่างยิ้มแย้ม และก็ยังจะคอยช่วยพูดแนะนำตัวให้เหล่าบุคคลกรในบริษัทได้ทำความรู้จักกันเอาไว้
ชเวกียุลตอบรับทุกๆ คนด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองเหมือนที่พ่อของเขาทำให้เป็นตัวอย่าง และเขาก็ยังต้องคอยเดินตามท่านประธานชเวเข้าไปที่ข้างในบริษัท และเลขามินที่กำลังพาชเวกวียุลไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของท่านรองประธานคนใหม่ ที่ ๆ ข้างในได้จัดสรรห้องทำงานไว้อย่างประณีตและเหมาะสม
" หวังว่า....ท่านรองประธานคงจะถูกใจนะครับ " เลขามินเชิญให้ท่านรองประธานเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว
ชเวมินแจที่ทำได้แต่คอยเดินตามเลขาโดฮยอนเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง และมองเห็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ใกล้ๆ ผนังกระจก
"จริงๆ ผมก็แค่....." เขาแสดงความไม่มั่นใจออกมาเล็กน้อย
" มาช่วยงานท่านประธานในช่วงนี้ก็เท่านั้น " และเขาก็ถ่อมตนด้วย
เลขามินโดฮยอนคราวนี้ที่เป็นฝ่ายเดินเข้าหาและคอยยิ้มแย้ม
"ผมเข้าใจที่....ท่านรองประธานอยากจะมาช่วยงานตอนที่ท่านยังคงต้องรักษาตัว "
" แต่ว่า..... " ว่าแต่คราวนี้เลขาโดฮยอนกับแสดงสายตาที่ครุ่นคิด
" ถึงยังไงซะ ! "
"ถ้าหากพี่ชายของท่านรองประธาน ! เออ...." และเลขามินที่ได้แต่คิดจนไม่กล้าพูด แต่ชเวมินแจก็พยักหน้า
" ผมรู้ !! "
เพราะฉะนั้นเขาก็เลยเลือกที่จะหันไปยิ้มให้กับเลขามินอีกครั้ง เพื่อที่ว่าจะแสดงความมั่นใจออกมาให้เห็น
เลขามินยิ้มตอบแทนในความช่วยเหลือของท่านชเวกียุล และก็ยังคอยอำเลืองมือของชเวกียุลอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็ยื่นมือขวาข้างนั้นออกมา
แต่ว่าชเวกียุลกลับค่อย ๆ ดึงมือกลับช้า ๆ และก็ยิ้มๆ ออกไปแทน
" ผมคงทำให้คุณอึดอัด ! " เขายิ้ม ๆ
เลขามินโดฮยอนจนแล้วจนรอดก็แค่ทำได้แต่พยักหน้าให้เขา และยังจะรีบขอตัวกลับออกไปทำงานต่อ
เลขามินโดฮยอนกำลังเดินนำหน้าและพาพัคจินอูเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานของ Middle Pharmacy & Lab และป้ายชื่อที่อยู่บนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ " ประธานชเวมินจุน"
" เธอมาแล้วครับ ท่านประธาน "
เลขามินโดฮยอนกล่าวรายงานและก็ถอยห่างๆ ออกมายืนเยื้องๆ กับพัคจินอูที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะท่านประธาน เพราะฉะนั้นท่านประธานชเวจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เธอ และพัคจินอูที่โน้มตัวให้กับเขาอย่างให้เกียรติ
"ไม่เจอกันเลยนะ " ประธานชเวเอ่ยคำทักทาย
" ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง "
" ระหว่างนี้ ไม่เห็นทั้งเธอแล้วก็พี่ชาย "
" ที่คาเฟ่ 123 ได้ข่าวว่า กำลังโด่งดังทีเดียว " ประธานชเวเอ่ยชื่นชมพวกเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
พัคจินอูได้แต่น้อมรับคำชม
" สวัสดี ค่ะ คือว่า...ช่วงนี้พวกเราค่อนข้างทำงานกันยุ่งแทบทุกวัน ฉันต้อง... " เธอพยายามพูดให้ช้า
" ไปที่ร้านหนังสือ และก็ช่วยงานที่กองถ่ายอีกนิดหน่อย "
" และต้องขอโทษที่ ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาล "
เธอโน้มตัวช้า ๆ เพื่อแสดงความจริงใจและท่านประธานชเวที่เข้าใจพวกเธอด้วยการพยักหน้าตอบรับสองถึงสามครั้ง
"เอาละ ๆ " ประธานชเวที่ก็พอจะเข้าใจ
" วันนี้ ที่ฉันให้เลขามินตามเธอมา "
ประธานชเวมินจุนพูดไปด้วยและคอยเหลือบมองเลขาโดฮยอนและถึงจะหันมามองไปที่พัคจินอูอยู่นิ่งๆ
" เอาเข้าจริง ! ฉันก็แค่...."
" มีเรื่องอยากจะไหว้วานเธอสักเล็กน้อย " คราวนี้ที่ทั้งประธานชเวและเลขาโดฮยอนต่างพากันเปลี่ยนสีหน้า
" จินอู..." ประธานชเวที่คอยแต่เรียกชื่อเธอ
" คือว่า...พวกเราอยากจะให้เธอ มาช่วยงานรองประธานของเอ็มดี สักช่วงหนึ่ง พอจะเป็นไปได้ไหม"
ว่าแต่ว่าคราวนี้ทั้งประธานชเวมินจุนและเลขามินโดฮยอนที่ต่างฝ่ายต่างก็พากันคอยดูท่าที ๆ ของพัคจินอูอยู่แทบที่จะตลอด
พัคจินอูที่แทบจะรีบก้มหน้าก้มตารับข้อเสนอ
" ค่ะ " และเธอรับปากแทบจะทันที
" ถ้าเป็นความต้องการของท่านประธาน " เพราะฉะนั้นเธอจึงคอยมองไปที่ท่านประธานของเอ็มดีอีกครั้ง
" ฉันไม่ติดตรงไหนเลยค่ะ ฉันยินดีมาก ๆ เลยค่ะ" เธอรับปากอย่างขยันขันแข็ง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังสงสัย
ก๊อก ๆ
ประตูห้องทำงานดังขึ้นและประตูที่เปิดสวนเข้ามาแทบที่จะทัน และเลขามินโดฮยอนก็ได้รีบกล่าวแทบจะทันทีด้วยเหมือนกัน
"เชิญทางนี้ครับ ท่านรองประธาน " เลขามินช่วยผายมือให้เขาเดินเข้าไปที่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานของบริษัท
ชเวกียุลที่ก็เลยต้องคอยเดินเข้ายืนอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ก่อนหน้า แต่พอตอนที่เขาจะเงยหน้าทักทายท่านประธาน
สายตาของเขากลับดันหันไปเจอเธอเข้า ! และเขากับเธอที่ต่างฝ่ายก็ต่างจ้องมองกันและกันด้วยสายตาที่สงสัยของคนทั้งคู่
" นี่เธอ... "
" นี่คุณ...งั้นเหรอ" ชเวมินแจกับพัคจินอูแทบที่จะเปล่งเสียงพูดออกมาพร้อมกัน และพวกเขาทั้งคู่ที่ได้แต่หันกลับไปมองที่ท่านประธาน
" นี่เลขาของผมที่ว่า ใช่หรือเปล่า "
" นี่ท่านจะให้ฉันช่วยเขา อย่างงั้นเหรอค่ะ " ที่นี้ที่พวกเขาสองคนยังจะคอยแย่งกันพูดต่อหน้าท่านประธานและเลขาโดฮยอน
และเลขามินโดฮยอนจึงเข้ามาคอยช่วยพวกเขา
" ถูกต้องแล้วครับ "
" พวกคุณทั้งสองคนเข้าใจได้ถูกต้อง " เลขามินพยายามกล่ามเสริมให้ท่านประธาน และคราวนี้ท่านประธานชเวที่ถึงกับต้องค่อยๆ ลุกขึ้นมาและยังจะคอยเดินไปหาชเวมินแจและพัคจินอู
ประธานชเวที่คอยเดินหยุดอยู่ระหว่างกลางพวกเขาทั้งสองคน และยังที่จะคอยหันไปพูดคุยพร้อมๆ กับคำอธิบาย
" พวกเธอทั้งสองคนคงจะเคยเจอกันมาบ้างแล้ว ใช่ไหม "
" เลขามิน " ประธานชเวหันไปหาแรงหนุน และเลขามินก็คอยสนับสนุนอย่างเต็มที่
" อพาร์ทเมนท์ของท่านรองประธานที่อยู่ตอนนี้ "
" ผมเป็นคนจัดเตรียมให้เอง เผื่อที่ว่า....." เลขาโดฮยอนที่คราวนี้ได้ช่วยอธิบายให้สองคนที่ยังคงต่างพากันสงสัย
" ทั้งท่านรองประธานกียุลเอง และ "
" เธอ ! พัคจินอูจะได้ช่วยท่านรองประธานทำงานได้อย่างเต็มที่ " เลขาโดฮยอนอธิบายไปพร้อมๆ สลับชำเลืองมองไปที่ประธานของเขาเป็นระยะ
ว่าแต่ว่าถึงยังไง ๆ ซะ.. กียุลกับจินอูก็ยังต่างสงสัยในตัวของกันและกันอยู่ดี
" ถึงจะเป็นอย่างนั่นก็เถอะนะครับ " ชเวกียุลที่ต้องขยับถอยออกมาและหันไปมองที่เลขามินโดฮยอน
และเธอก็ด้วยเหมือนกัน
" นี่หมายความว่า....." พัคจินอูที่ได้แต่หันไปมองท่านประธานของเอ็มดีและสลับหันไปมองท่านรองประธานของเอ็มดีที่ไม่ใช่คน ๆ นั้นที่เธอกำลังคิดในใจอยู่
ประธานชเวมินจุนที่หันไปพยักหน้าทันที
" ใช่แล้ว "
" ถูกต้อง " ประธานชเวย้ำกับพวกเขาทุก ๆ คน
" รองท่านประธาน ชเวกียุล " ประธานชเวที่คราวนี้หันไปมองและคอยสบตากันกับพัคจินอู
" จินอู เธอเองรู้ดีกว่าฉันสะอีก ใช่ไหม ? " และย้ำ ๆ เธอ
"เพราะสาเหตุนี้ ฉันคงไม่อาจจะไว้ใจใครได้อีก "
ประธานชเวมินจุนที่ดูเหมือนๆ จะคอยหันไปขอร้องพัคจินอูเพราะเหตุผลอะไร ๆ บางอย่างที่ก็ไม่อาจจะพูดออกมาได้
" และส่วนรองประธานเอง " และคราวนี้ที่ประธานชเวได้หันไปและขอร้อง
" ในฐานะน้องชายของเขา " ประธานชเวที่หันไปหันคอยขอร้องและเดินไปจับ ๆ ที่หัวไหล่ของรองประธานในฐานะลูกชาย
" การที่....ต้องคอยห่างกันถึงสิบๆ ปีแล้ว "
" ฉันคิดว่า... เราควรที่จะหันหน้าและยอมรับความจริงกันได้สักที "
ประธานชเวขอร้องลูกชาย มิหนำซ้ำสายตาที่เขาได้คอยมองลูกชายของตัวเอง และบางอย่างที่ประธานชเวมินจุนแสดงออกผ่านทางสายตามันช่างดูน่าอึดอัด
สายตา 2 คู่ ระหว่างรองประธานชเวกียุล กับ เลขาคนใหม่พัคจินอู ระหว่างพวกเขาสองคนที่กำลังยืนจ้องๆ คอยมองกันอยู่ ๆ ภายในห้องทำงานของรองประธานคนใหม่ และพวกเขาทั้งสองมองคนที่คอยมองกันอยูกันอย่างจริงจังอยู่ในห้องทำงานที่ทันสมัย พนังกระจกรองด้าน ผ้าม่านไฟฟ้า และการตกแต่งที่เหมือนจะอยู่บนอวกาศ
รองประธานชเวกียุลที่ก็กำลังเพ่งพินิจพิจารณาเลขาของตัวเองตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า และเลขาของเขาก็เช่นกัน
พัคจินอูยืนกอดอกและสำรวจรองประธานของเอ็มดี ฟาร์มาซี เพราะฉะนั้นเธอถึงพยายามคิดยังไงๆ ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องพันนี้
" อย่าเพิ่งรีบหนีซิครับ" รองประธานเอ็มดีที่พอชำเลืองเห็นทางฝั่งเลขามินจะชิ่งรีบหนีออกไปจากห้องก็เลยต้องรีบห้าม
" เลขามิน !"
เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้เลขาคนเก่งของท่านประธานเดินออกจากห้องทำงานของตัวเองออกไปง่ายดาย
แต่ที่จู่ๆ เลขามินกลับคอยเดินเข้ามาใกล้ๆ ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน
" ผม ! หรือครับที่จะหนีท่านรองประธาน " เลขามินยิ้มและนัยน์ตาที่แฝงอะไรบางอย่าง
" ผมก็แค่...."
และเลขามินก็ยังที่จะคอยมองออกไปนอกผนังกระจกข้างนอก ที่ ๆ เวลานี้พนักงานส่งของกำลังช่วยกันขนโต๊ะเก้าอี้อยู่
" ผมก็แค่จะออกไปดูความเรียบร้อย "
" ให้กับเลขาของท่านรองประธานยังไงละครับ " เลขามินยิ้มให้กับพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้ง
" ขอตัวออกไปตรวจตราก่อนนะครับ ท่านรองประธานแล้วก็...."
แต่ว่าคราวนี้เลขามินที่หันไปยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากให้กับเธอ
" คงต้องเรียกว่า เลขาพัค ! "
" จริง ๆ แล้วสิ !! "
เลขามินโดฮยอนรีบขอตัวออกไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ด้านนอก เพื่อที่จะคอยเปิดโอกาสให้กับพนักงานหน้าใหม่ได้ใช้เวลาพูดคุยกันก่อนที่จะเริ่มงาน
แต่ว่าพัคจินอูไม่เห็นที่จะยินดีด้วยสักเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนี้เธอเองมีแต่ที่จะคอยยืนกอดอกและชักสีหน้างุนงง
" ฉันไม่เข้าใจ "
" คุณรู้เรื่องนี้ ! "
" ใช่หรือเปล่า " เธอซัก
และรองประธานที่พยายามหันมายืนทำท่ากอดอกเลียนแบบ และเพิ่มท่าทียียวนกวนประสาทเข้าใส่
" เลขาพัค! "
" คุณนี่...."
" น่าจะไปเป็นนักแสดง เหมือน...."
" พี่ชายผม ! "
เขายังคอยทำท่าทีเลียนแบบเธอ และที่น่า ๆ ตอนนื้ที่เธอก็ยังจะทำท่าทางเลียนแบบเขาตอบกลับมาด้วย
" แต่..ฉันกำลังคิดว่า ! " เธอเชิดหน้า
" คุณเอ็นจิเนีย ไม่ใช่ ๆ "
" ท่านรองประธาน เหมาะกับอาชีพนั่นมากกว่า ! " เธอยิ้มเยาะ
" เชอะ !!"เขาเบือนหน้าหนี
" ยังไง ! ก็ไม่ต่างกันมากแน่ๆ " เขายิ้มเยาะเอาด้วย
แต่ว่าคราวนี้เขาเองที่ต้องคอยหันกลับมาและได้แต่ส่ายหน้าให้เธอ และเขาก็ยังจะหันชำเลืองไปมองที่โต๊ะทำงานของเธอที่แทบจะอยู่ตรงกันข้ามโต๊ะทำงานตัวเอง
" เพราะแบบนี้เองสินะ ! "
" เลขาพัค ! "
" คุณ !! " เขาที่หันกลับมาและเอาแต่ยืนจ้อง !
" คุณถึงได้ มีอพาร์ทเมนต์หรู " และเขาที่คอยยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
" อะไร !! " เธอรีบย้อนถาม !
แต่เขาก็ยังคอยแต่จะเบือนหน้า
" และก็ ! เสื้อผ้า ! รองเท้า ! "
แต่ที่จู่ ๆ เขากลับสะดุด เพราะนอกจากเสื้อเชิ้ตผู้หญิงเข้ารูปสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาด ๆ ที่หัวเข่าสองข้าง รองเท้าผ้าใบพื้นโฟมที่หนาๆ และที่น่าแปลกเธอไม่ถือกระเป๋าแบบผู้หญิงออฟฟิตทั่วไปเลยด้วยซ้ำ
" แต่ยังไงซะ ! "
" ดูจากรสนิยมทั้งหมดนี่แล้ว ! " เขาส่ายหน้าและคอยหันเบือนหน้าหนีกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน และปล่อยทิ้งให้เธอยืนทำหน้าสงสัยอยู่ตรงหน้า
" เชอะ ! " เธอกำลังยิ้มเยาะกลับอีกที !
" คุณนี่มัน !! "
" ก็ดูไร้รสนิยมเหมือนฉันนั่นแหละ ! " คราวนี้เธอก็เลยเดินอ้อมโต๊ะทำงานของเขา เพื่อที่จะได้หันไปมองสบตาของเขาใกล้ๆ
เธอโน้มตัวลงต่ำเพื่อมองหน้าเขาอย่างชัด ๆ และสำรวจ และเขาที่ได้แต่คอยพยายามดึงตัวเองให้ติดพนักเก้าอี้เข้าไว้
" ไร้รสนิยม ! " เขาย้อนถาม
" ยังไง !! " เขาได้แต่ย้อนถามกับเธอ !
แต่ว่าเธอก็ยังคอยโน้มตัวและยื่นหน้าเข้ามาคอยสำรวจรองประธานของตัวเองอย่างใกล้ ๆ และเริ่มตั้งแต่เท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ
" ก็เรื่องที่ว่า...อพาร์ทเมนต์หรูพวกนั้น ! "
เธอหันไปคอยมองและสบตาของเขานานต่อไปเรื่อย ๆ และนานจนกระทั่งสายตาของคนทั้งสองคนก็เริ่มสบสายตาของกันและกัน !
" จะบอกอะไรท่านรองประธาน เอาไว้เลยนะว่า "
" ฉัน ! ไม่ได้มาเป็นเลขาของรองประธานเพียงเพราะว่าฉัน ! "
" เป็นเพื่อนของพี่ชายคุณ ! " เธอบอกกับเขาอย่างตรงไปตรงมา
" เพื่อน ! " เขาพูดขัดและเขยิบตัวเข้าใกล้
" เธอบอกว่า เธอเป็นเพื่อนกับเขา ! "
เพราะฉะนั้น เขาก็เลยพยายามที่จะขยับตัวเข้าหากันอีกอย่างช้า ๆ เพื่อจะทดสอบเธอผ่านทางสายตาและท่าทาง
แต่ว่าเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมถอยห่าง และเธอเองก็ยังไม่ยอมแพ้สบตาของเขาอย่างไม่ยอมที่จะหลบสายตากันเลยด้วยซ้ำ
และเธอกลืนน้ำลายก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"พี่ชายของนาย ! " และน้ำเสียงที่ฟังก็พอรู้ว่าเริ่มสั่น
" ที่ต้องคอยเก็บเรื่องบางอย่างไว้กับตัวเองเพียง....ลำพัง "
" เพราะฉะนั้น ฉัน! "
" ก็คงจะเป็นคนที่สำคัญ ไม่ใช่สิ! เพื่อนที่รู้ใจเลยละ" เธอพูดย้ำ
มิหนำซ้ำ เธอพยายามที่จะย้ำกับเขาด้วยทั้งคำพูดและก็สายตา และเธอก็ยังจะสบตาของเขานาน ๆ และก็นานจนเขาที่เริ่มเป็นฝ่ายประหม่ากับสายตาที่ธรรมดา ๆ ของเธอ
" อะอืม ! "
เขาแกล้งกระแอม และพยายามให้หลังตัวเองแนบกับผนักเก้าอี้ไว้ให้มากถึงมากที่สุด แต่ถึงอย่างเขาก็ไม่คิดที่จะลดราวาศอกให้
" ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ! " เขาสวนแต่ก็หลบสายตา !
" แน่นอน !! " เธอเอาคืนและยอมล่าถอยออกมาง่าย ๆ เพียงเพราะเธอที่ก็ไม่ได้คิดที่จะอยากที่จะรู้จักกับเขามากขึ้นไปกว่านี้อยู่นักหรอก
เพราะฉะนั้นเธอถึงยอมถอยออกมายืนห่างๆ และยังหันไปชำเลืองที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของเขา
" ประวัติของพนักงานบริษัท ! "
" อ่านบ้างก็ได้ ! "
" ไม่มีใครห้ามหรอก !!! "
เธอเดินเชิดหน้าและเดินก็รีบเดินหนีกลับออกไปจากห้องทำงานของรองประธานคนใหม่อย่างไม่แยแสเขาเลยสักนิดเดียว
แต่ในทางตรงกันข้ามเขาเองนั้นแหละที่กลับเป็นฝ่ายนั่งไม่ติด และจนต้องรีบหันไปหมกหมุ่นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แทบจะไม่ทัน !!!