เสียงเพลงบรรเลงคลาสสิคร่วมสมัยกำลังดังแผ่กระจายไปทั่วทั้งเรือสำราญขนาดย่อมๆ ที่ลอยเอื่อย ๆ โดดเด่นอยู่บนผืนน้ำยามค่ำคืน และตลอดจนสองริมฝั่งของแม่น้ำที่ทอดยาวเห็นสะพานข้ามแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ๆ ประดับประดาไปด้วยแสงไฟ และริมสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าที่พาเกิดเปิดไฟสว่างคอยสู้กับสายฝนโปรยปรายย่อมๆ
" อึนบี " ภาษาเกาหลีขนาดใหญ่ตรงท้ายเรือ และป้ายผ้าผืนใหญ่ " MD Pharmacist 1 anniversary "
และเสียงของผู้คนเหล่าบรรดาเซเลปและอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงต่างทยอยเข้ามาร่วมงานเลี้ยงฉลองของบริษัทยายักษ์ใหญ่ที่กำลังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศตอนนี้ เสียงชื่อชมท่านประธานวัยยี่สิบปลาย ๆ
"ชเวมินจุน " ประธานบริษัท และ " อีซองอา " ภรรยาแสนสวย พวกเขาในชุดสูทและราตรีสีฟ้าหรูหรา และผู้ชายในชุดสูทสีขาวที่คอยยืนเคียงข้างพวกเขา " มินโดฮยอน " ตำแหน่งเลขาท่านประธาน
เสียงพูดคุยจากคนในรัฐบาลกระทรวงสาธารณะสุขของประเทศที่กำลังพูดให้ความสนับสนุนบริษัทของเชวมินจุนและครอบครัวอย่างครืนเครง และบรรดาแขกเหรื่อมากมายที่ต่างพากันสนุกสนานอยู่ในงานเลี้ยงสรรสังค์แสดงความยินดี
เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีต่าง ๆ หลากหลายชนิดที่ยังคงบรรเลงดังต่อเนื่องกันซะจนกลบเสียงฟ้าร้องคำรามอยู่นอกเรือ
เปรี้ยงๆ เสียงฟ้าผ่าที่ดังอยู่ใกล้ ๆ หัวเรือ และเสียงฟ้าร้องที่ดังตามกันมาติดๆ และเด็ก ๆ ที่พากันวิ่งเล่นไล่จับลูกโป่งสีสวยๆ อยู่กันอย่างสนุกสนานใกล้ประตูทางออกด้านหัวเรือ
ลูกโป่งสีชมพูลูกใหญ่เผลอหลุดจากมือเด็กอายุราวๆ 4 ขวบเศษ และลูกโป่งที่กำลังลอยและกำลังจะปลิวหลุดหายออกไปจากประตู
เพราะฉะนั้นเด็ก ๆ ที่ไว้ทรงผมสั้น ๆ ทั้ง 3 คน และใส่ชุดเอี๋ยมยีนส์เหมือนกัน ๆ 2คน และเด็กอีกคนใส่ชุดเอี๋ยมสีฟ้าต่างพากันรีบวิ่งกระโจนไปคว้าลูกโป่งลูกนั้นก่อนที่มันจะหลุดหายไปจากสายตา แต่ว่าในที่สุดลูกโป่งลูกนั้นก็หลุดผ่านประตูห้องงานเลี้ยงไปจนได้
พวกเด็กๆ ทั้งสามคนต่างพากันหยุดวิ่ง และมองออกไปนอกประตูบานนั้น พวกเขาสามคนที่ต่างพากันมองตามลูกโป่งสีชมพูสุดสวยวิบวับของพวกเขาลอยไปตามกระแสลมและลอยฝ่าสายฝน ลูกโป่งที่ลอยอย่างเอื่อย ๆ ไกลออกไป ๆ จนในที่สุด พวกเด็ก ๆ ทั้งสองคนที่พากันยื่นสงสัยว่า
"ลูกโป่งลูกนั่นมันจะลอยออกไปจากเรืองของพวกเขาจริงๆ หรือไม่กันนะ" เด็กคนที่ใส่ชุดเอี๋ยมสีฟ้า ๆ สองคนที่พากันยืนจ้องมองตามลูกโป่งอยู่ที่ปากประตู
" ไม่หรอก " เด็กที่ใส่ชุดเอี๋ยมยีนส์คนหนึ่งทางซ้ายที่รีบหันมาและเถียง
"ดูนั่นสิ" เด็กคนที่ใส่ชุดเอี๋ยมสีฟ้าลายตารางที่กำลังชี้นิ้วไปทางเสาบนหัวเรือ ลูกโป่งลูกนั่นที่จู่ ๆ ก็ลอยไปติดอยู่บริเวณขอบที่กั้นของหัวเรือ
เด็ก ๆ พากันจับจ้องไปที่ลูกโป่งใบนั้น และต่างพากันยืนมอง จนเสียงของเด็กคนแรกที่พูดขึ้นมาอีกครั้ง
" ลูกโป่งของฉัน" เด็กแรกที่พูดพร้อมกับรีบวิ่งฝ่าสายฝนเพื่อจะไปเก็บของเล่นของตัวเอง
" ไม่นะ อย่าไป" น้ำเสียงประหม่าของเด็กคนที่สามที่พยายามห้ามเธอ และเด็กคนนั่นที่ค่อยๆ ขยับเท้าถอยหลังกลับ
แต่แล้วเด็กคนที่สองก็รีลวิ่งตามเด็กน้อยใส่ชุดเอี๋ยมลายตารางนั่น พวกเด็กสองคนที่รีบวิ่งตามกันไปติดๆ เพื่อจะไปเก็บลูกโป่ง
" อย่าไปนะ พวกเธอหยุดเดี๋ยวนี้ " เด็กคนที่สามที่ดูสูงกว่าพวกเขาสองคนเล็กน้อยที่พยายามส่งเสียงร้องห้าม แต่พวกเขาสองคนก็ได้แต่วิ่งห่างออกไปเรื่อย ๆ
แต่ว่า...พวกเด็กทั้งสองคนพากันวิ่งเล่นฝ่าสายฝนเพื่อจะไปเก็บลูกโป่งและไม่มีความกลัวให้เห็นกันเลยสักนิด มิหนำซ้ำพวกเด็กทั้งคู่ยังส่งยิ้มให้กันในขณะที่กำลังจะวิ่งเข้าไปคว้าลูกโป่งอีกครั้ง..
เปรี้ยง !!!!!
ผ้าม่านสีฟ้าอ่อนปลิวกระทบกับหน้าต่างบนกระจก เสียงเม็ดฝนกระทบกับหน้าต่างราวกับว่ากระจกหน้าต่างกำลังแตกระเอียด
แจกันสีขาวนวลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่สะท้อนเห็นภาพดำทะมึนของท้องฟ้าหน้าต่างบนกระจก ดอกไม้ไฮเดรนเยียสีม่วงที่เป็นดอกไม้ปลอมสั่นไหวเล็กน้อย และภาพวาดสีน้ำมันของนักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง " ภาพวาดท้องฟ้าที่แสนอึมครึ่ม แต่ผู้คนในเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ในปลายยุคศตวรรษที่ 80 ก็ยังพากันเดินจูงมือตามถนน สตรีสูงวัยสองคนนั่งเล่นพูดคุยอยู่บนรถม้าไร้หลังคา พวกเธอมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองหลวงนั่น ผู้คนหนุ่มสาว ครองครัว เด็ก คนชรา พากันเดินหันหลังให้ จนไม่รู้ว่า พวกเค้าพวกนั้นกำลังเดินมุ่งหน้าไปที่หนแห่งใด"
" หืด.... หาด "
เสียงลมหายใจสั่น ๆ ถี่ ๆ ของผู้หญิงที่นอนตะเคียงอยู่บนเตียงถัดจากแจกกันและภาพวาดสีน้ำมัน ผ้าห่มที่เลิกถลกขึ้นมาจนเห็นเสื้อชุดนอนกางเกงขายาวลายขวางสีน้ำตาลอ่อน
พรึบ !
หญิงสาวที่รีบผลุดลุกขึ้นมานั่ง และตามหน้าตาที่เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อเม็ดโต
" เห้อ..."
เสียงถอนหายใจยาวของหญิงสาว
พัคจีอึนส่ายหน้าเบาๆ บ่งบอกว่าฝันร้ายนั่นไม่ใช่เรื่องน่าจดจำสำหรับตัวเอง ใบหน้าที่แสนซีดเซียวของหญิงสาวที่ตื่นขึ้นมากลางดึง ดวงตากลมโตที่แสดงความสับสน และพยายามมองไปรอบๆ เหมือนมองหาอะไรบางอย่างในห้อง ริมฝีปากอวบอิ่มที่ขบหากันเบาๆ ที่เหมือนจะโหยหาน้ำดื่มมาแก้อาการตื่นตระหนก ผมเผ่ายาวอันยุ่งเหยิงและพันกันจนถึงกลางหลังคล้ายคนที่กำลังสระผมเสร็จมาหมาด ๆ และใบหน้ารูปไข่ โหนกแก้มยกสูงที่มีผมเผ่ารกรุงรังเต็มหน้าไปหมด
ตุบ
เธอทิ้งตัวลงไปนอนที่หมอนสีฟ้าอ่อนลายใบไม้ แต่ก็ยังไม่วายรีบใช้มือควานหาโทรศัพท์มือถือที่กลิ้งไปอยู่ใต้หมอนและรีบหยิบขึ้นมาดูเวลา
05.30 น. เวลาที่แสดงอยู่บนรูปถ่ายบอลลูนบนหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสีดำ
หืมม...
พัคจินอูนอนถอนหายใจเบา ๆ อีกครั้ง และผล่อยหลับไปกับความฝันนั่น!!!
ตี๊ด....ด ! นาฬิกาปลุกในมือถือส่งเสียงดังทั่วห้อง
พัคจินอูนอนบิดขี้เกียจไปๆ มา ๆ บนที่นอนขนาด 6 ฟุต จนผ้าปูสีฟ้าลายขวางเลื่อมสลับมีรอยยับย่น แต่ดวงตาของเธอก็ยังคงหลับสนิทมีเพียงมือซ้ายขวาที่พยายามขวนหาโทรศัพท์ที่ซ่อนอยู่ใต้หมอนเหมือนเดิม เธอหยิบมือของของตัวเองขึ้นมาและพยายามที่จะหรี่ตาดูที่หน้าจอ และเวลาบนหน้าปัดมือถือบอกเวลา 10.00 น.
พรึบ
เธอผุดลึกขึ้นนั่ง
" เห้ออออ.....อ" เสียงถอนหายใจลากยาวๆ ของเธอดังไปทั่วห้อง และค่อย ๆ หรี่ตาหันไปมองรอบ ๆ ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันไปมองที่ประตูห้องน้ำบานใหญ่ และโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวลายหินอ่อนที่มีข้าวของเครื่องใช้วางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบ้าง และไม่เรียบร้อยบ้าง ข้าวของเครื่องใช้บางชิ้นที่ก็มีราคาถูกแพงตามวิถีชีวิตสาวโสดอายุรุ่น ๆ ใกล้จะแตะเลขสามสิบเข้าไปทุกที ๆ
เธอหันไปดูที่ประตูห้องบานที่ใหญ่กว่าและก็ค่อยๆ คืบคลานลงจากที่นอนและเดินตรงดิ่งไปที่ประตูห้องและชะงักหยุดอยู่ที่ประตู เธอกำลังหันกลับไปมองที่หน้าต่างและหยุดมองไปที่โน้ตบุ๊คที่เปิดทิ้งไว้ถึงเช้า
" ไม่นะ ! " เธอกรี๊ดร้อง
ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวและแต่งตัวดีมาก ๆ กำลังเดินเลือกซื้อหนังสืออยู่ในร้านหนังสือชื่อดัง และที่นี้ยังเป็นร้านหนังสือสาขาใหญ่ระดับประเทศ และเขาที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษสำหรับแมกกาซีนที่มีดาราผู้ชายชื่อดังของประเทศอย่าง " เชวมินแจ " ขึ้นปกเท่านั้น และมิหนำซ้ำเขาก็ยังหยิบหาเลือกซื้อหน้าปกที่มีชเวมินแจขึ้นปกเอามาจับไว้ตั้งหลายเล่มจนแทบจะล้นมือ
"ฮ่า ๆ " ผู้หญิงที่ใส่ชุดเครื่องแบบสีเหลืองของร้าน และเธอกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านแมกกาซีนที่มีเชวมินแจขึ้นปกอยู่ข้างๆ เขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเขาก็เลยต้องคอย ๆ ที่จะถอยหลังขยับให้ห่างๆ กันเล็กน้อย
ตุบ !
พัคจินอูรีบหันไปมองและเห็นหนังสือสีเหลืองๆ กำลังตกอยู่ที่พื้น และที่หน้าปกบอกชื่อหนังสือ " Autumn"
เธอที่รีบวางแมกกาซีนและโผเข้าไปก้มเก็บมันขึ้นมา และยังรีบเหลียวมองหาคนทำให้หนังสือเล่มนั้นหล่นมาจากกองหนังสือขายดี !
ผู้ชายรูปร่างสูง ๆ หนึ่งที่ยืนหันหลังและยังจะคอยเลือกแมกกาซีนอยู่อย่างไม่สนใจใยดีหนังสือเล่มนั้น
" นี่คุณค่ะ !!! " เธอเรียกผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งคนนั้น
" นี่คุณ !!! " เธอเพิ่มน้ำเสียงในการเรียกผู้ชายรูปร่างสูงๆ เพียงเพราะเขาไม่หันมาขอโทษ และพอเขาได้ยินถึงได้รีบหันหน้ามา
เขาหันหน้ามาและมองไปที่หนังสือเล่มนั้น
" ครับ ว่ายังไงนะครับ " เขาที่หันไปมองแต่หนังสือและค่อย ๆ กวาดสายตาไปมองและเห็นว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นิดเดียวใส่ชุดพนักงานร้าน
เธอก็เลยได้มองเห็นหนังสือแมกกาซีนเป็นตั้งที่เขาหอบอยู่ และที่สำคัญยังมองเห็นอีกว่า หน้าปกของเชวกียุลทั้งนั้น
"นี่คะ " เธอทั้งพูดทั้งยิ้ม แต่เขาก็ยังทำหน้าตางง ๆ อยู่ดีและยังจะพยายามส่ายหน้าปฏิเสธเธอด้วย
" ฉันยกให้ "
" ไม่ใช่สิ ฉันแถมให้คุณถือซะว่าเป็นโปรโมชั่นพิเศษ" พัคจินอูยิ้มอย่างจริงใจ และรีบเดินเอาหนังสือเล่มนั้นไปวางบนกองหนังสือของเขา
" เออ....คือ.." เขาสงสัยและพยายามที่จะปฏิเสธ แต่ทว่าเขาก็กลับเหลียวมองตามเธอไปจนลับสายตาแล้วถึงค่อยกลับมาก้มมองหนังสือเล่มนั้น
" Autumn ..งั้นเหรอ" " เขาพูดไปและยังจะคอยแอบยิ้มๆ มองตามเธอไป
พัคจินอูที่กำลังก้มหน้าก้มตากดอ่านดูข่าวในโซเชียลและกดอ่านตามคอมเมนต์ข่าวใหญ่ของวันนี้ของพวกดารานักแสดงในงานประกาศรางวัลประจำปีอีกไม่กี่ชั่วโมง
เธอที่คอยเอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาสวมเสื้อมีฮู้ดตัวใหญ่โคร่งสีชมพูเดินไปตามริมถนน เธอเงยหน้าหันไปมอง ๆ ที่ร้านสะดวกซื้อและยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เดินเข้าไปเลือกซื้อของกินตอนหัวค่ำ
พัคจินอูก้มหน้าก้มตารีบเลือกซื้อน้ำผลไม้รสองุ่นสีเขียว เจลลี่รสองุ่น ขนมมันฝรั่งกรอบถุงใหญ่และช๊อคโกแลตอีกสองสามกล่อง และเธอก็รีบเดินไปต่อแถวหน้าแคชเชียร์ซึ่งมีผู้ชายตัวสูงๆ ใส่สูทสีดำ ๆ คนหนึ่งกำลังซื้อของและจ่ายเงินของเขา
ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งคล้าย ๆ กันที่เธอเจอที่ร้านหนังสือเมื่อกลางวันกำลังซื้อข้าวของสองสามอย่างและช๊อคโกแลตชนิดเดียวกัน
พัคจินอูที่พยายามชะเง้อมองว่า เมื่อไหร่ผู้ชายที่ยืนหันหลังให้เธอจะจ่ายเงินเสร็จสักที แต่เธอก็ยังรอต่อแถวไปและก้มดูโทรศัพท์ในมืออยู่ตลอด และพอเธอซื้อของเสร็จก็รีบหิ้วถุงใส่ของพวกนั้นตามหลังผู้ชายคนนั้นออกไปดื้อ ๆ
เธอก้มหน้าก้มตาเดินเดินดูผลการประกาศผลรางวัลผ่านหน้าจอมือถือและมือหนึ่งที่คอยหิ้วถุงจากร้านสะดวกซื้อ และมิหนำซ้ำเสียงถ่ายทอดสดของงานประกาศก็ยังค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ จากมือถือ
จนกระทั่ง ผู้ชายที่เดินออกจากร้านสะดวกซื้อก่อนหน้า เขาที่ถึงกับลดความเร็วของฝีเท้าและหยุดเดินไปครู่หนึ่ง
เขาติดสินใจปิดหน้าจอโทรศัพท์ของเขาและเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทิ้งระยะห่างจากผู้หญิงคนที่เดินเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างหลังของเขาเองออกไปไม่กี่ก้าว
เขาเดินกลับเข้าไปในตึกอาคารพาร์ทเมนต์ และกลางห้องโถงของอพาร์ทเมนต์มีโต๊ะไม้สีมุกตั้งเด่นอยู่ตรงกลางห้องโถงรูปวงรีมีแจกันไม้ทรงกระบอกปากกว้างเสียบประดับด้วยดอกไฮเดรนเยียสีม่วง
เขากำลังเดิน ๆ กลับเข้าไปลิฟต์ แต่ทว่าผู้หญิงคนนั้นจากร้านของขายสะดวกซื้อก็ยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะหยุดวางมือถือและเดินตามเขาเข้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกัน
และตอนนั้นเขาก็เลยแอบเหลือบสายตาหันไปมองเธอเล็กน้อย และถึงได้ค่อยๆ หันไปกดปุ่มลิฟต์
" ชั้น 21 ขอบคุณค่ะ " พัคจินอูบอกกับผู้ชายที่อยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกับเธอและขอบคุณเขาแบบผ่าน ๆ และไม่นานประตูลิฟต์ก็ปิด
ติ๊ง !
ประตูลิฟต์ที่ค่อย ๆ เปิดออก และมือของผู้ชายกับผู้หญิงที่วางพาดทับกันอยู่ตรงปุ่มกดเปิดประตูลิฟต์
ตุบ !!
ถุงจากร้านสะดวกซื้อในมือของพัคจินอูหล่นออกจากมือไปซะดื้อ ๆ และเธอก็แทบไม่อยากหันไปเหลือบมองว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครด้วยซ้ำ
พัคจินอูหน้าซีด ! แต่ก็ยังพยายามหันไปขอโทษ
" ขอ ! ขอโทษค่ะ"
พัคจินอูพูดตะกุกตะกักและมือไม้ที่สั่นๆ แต่ว่าเธอก็ยังพยายามตั้งสติและรีบก้มลงเก็บถุงของตัวเองและกึ่งรีบเดินรีบวิ่งพุ่งตรงไปที่หน้าประตูห้อง
พัคจินอูพยายามที่จะกดรหัสประตูของอพาร์ทเมนต์อย่างรีบร้อน แต่ว่ามือไม้มันก็ยังสั่นๆ ไปหมด เธอรีบกดรหัสรัวๆ เพราได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้ชายคนเมี้อกี้กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ
ปัง !
เธอเปิดและปิดประตูห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว เหมือนพยายามที่จะหนีอะไรบางอย่าง เหมือนเธอกำลังวิ่งหนีสัตว์ประหลาด
ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งและใส่ชุดสูทสีดำคนที่เธอเดินหนี เขากำลังเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องฝั่งตรงข้าม!!
เขา..ที่เหลียวหันไปมองที่หน้าประตูของเธอเล็กน้อย และถึงจะกลับมากดรหัสเปิดประตูห้องของตัวเองกลับเข้าไป