Chapter 13 - เป็นยาม

ฟิวส์ ลุกค์กำลังประคองอาซามิ มินาโมะโตะไปตามริมระเบียงทางเดินของโรงแรม และกำลังจะพาเธอเปิดประตูห้องพัก

" รีบพาเธอเข้ามาก่อนเร็วเข้า " แต่ว่าอิเลฟเวนท์กลับเปิดประตูห้องพักตรงกันข้ามเปิดออกมาซะก่อน

อาซามิที่รีบผละออกจากเจ้าหน้าของอังกฤษและพยายามจะพยุงตัวเข้าไปในห้องพักของอิเลฟเวนท์ทันที และลุกค์ที่กำลังรีบตามพวกเธอกลับเข้าไปข้างใน

อิเลฟเวนท์ที่เข้าไปช่วยประคองอาซามิให้นั่งลงบนโซฟาห้องรับแขกภายในโรงแรม แต่ว่าลุกค์ที่กำลังสังเกตข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้อยู่แล้วบนโต๊ะกระจกตรงหน้าทั้งชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์เข็มฉีดยาและอุปกรณ์รักษาอาการบาดเจ็บอื่นๆ และก็ยังมีกระปุกยาแก้ฟกช้ำสีเขียวๆ

" คุณช่วยฉัน !! " แต่อิเลฟเวนท์ที่รีบหันมาของความช่วยเหลือจากเขา

" ประคองอาซามิจัง !!! เอาไว้ให้ที ! " เพราะฉะนั้นทั้งอิเลฟเวนท์และก็ลุกค์ต่างก็เลยช่วยกันจับประคองตัวอาซามิที่ใกล้จะหมดสติเต็มทีเพราะเสียเลือด

แต่ว่าอยู่ๆ อาซามิก็กลับหันมาคว้ามืออิเลฟเวนท์เอาไว้

" ครอบครัวของเรา !! "

" ไม่ได้... ! "

" ทำอะไรผิดสักนิด !! " ภาษาญี่ปุ่นที่ฟังดูแล้วน่าอิดโรยของอาซามิ มินาโมะโตะพลอยแต่จะทำให้อิเลฟเวนท์พยักหน้าเบาๆ

แต่ว่าอาซามิก็พยายามจะฝืนอาการบาดเจ็บของเธอเพื่อจะอธิบายให้พวกเธอได้เข้าใจ

" เรื่องระเบิดนิวเคลียร์พวกนั้น !! "

" คุณพ่อ.. !! "

" ไม่ได้ !! "

" รู้เรื่องอะไรด้วยเลยจริงๆ นะคะ !! "

" ได้โปรด... !! "

" เชื่อใจคุณพ่อเหมือนเดิมด้วยนะคะ !! " อาซามิพยายามพูดให้อิเลฟเวนท์และลุกค์เชื่อใจเธอ

แต่ในระหว่างที่อาซามิพยายามอธิบายอิเลฟเวนท์ ระหว่างนั้นสายตาของฟิวส์ ลุกค์ก็ยังคงเฝ้ามองอากัปกิริยาของพวกเธอสองคนไม่ยอมห่าง

และอิเลฟเวนท์ที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหยิบจับอุปกรณ์ทำแผลบนโต๊ะที่เธอเตรียมเอาไว้อยู่แล้วอย่างเข็มฉีดยาขนาด 12 มิลลิเมตรขึ้นมาที่ข้างในกระบอกฉีกยามีสิ่งที่คล้าย ๆ กับฟองน้ำจิ๋วเรียงตัวกันอยู่ข้างใน และเธอก็กำลังจะฉีดลงที่บาดแผลที่ถูกกระสุนเฉี่ยวที่เอวของอาซามิ

" เดี๋ยว... "

" ฉันจะช่วยฉีดยาห้ามเลือดให้เธอก่อน !! " อิเลฟเวนท์หันมาอธิบายกับอาซามิอักครั้ง

และลุกค์ที่ก็เลยต้องรีบเข้ามาช่วยจับตัวประคองอาซามิเอาไว้พร้อมกัน

" เข็มฉีดยาพวกนี้ !! "

" พวกมันจะช่วยห้ามเลือดและลดอาการอักเสบที่บาดแผลของเธอให้ได้ !! " ลุกค์อธิบายและหันไปพยักหน้าให้อิเลฟเวนท์

แต่ว่าอิเลฟเวนท์ที่รีบปักเข็มฉีดยาไปก่อนหน้านั้นแล้ว และจนเธอดึงเข็มออกจากบาดแผลของอาซามิก่อนที่เขาจะพูดจบซะอีก

ลุกค์ที่ได้แต่มองตามอิเลฟเวนท์ที่คราวนี้เธอรีบหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยทำแผลให้อาซามิอย่างรีบร้อน และเขากับอาซามิก็ยังเห็นเธอรีบเดินตรงไปที่ประตูห้องและปิดสวิตส์ไฟอย่างรีบร้อน

พรึบ !

ไฟภายในห้องพักของอิเลฟเวนท์ดับลง และไม่นานอยู่ๆ พวกเขาทุก ๆ คนในห้องก็กำลังได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาหยุดอยู่ที่ตรงประตูห้องของพวกเขา และตามไปด้วยเสียงพังประตูห้องตรงกันข้าม และเสียงทำลายข้าวของในห้องพักฝั่งตรงกันข้ามทยอยดังกันตามมาติด ๆ

ลุกค์ที่พยายามจะถือปืนและค่อยๆ เดินตรงไปที่ประตู ในขณะที่อิเลฟเวนท์ยังคงยืนจ้องมองไปที่ลูกบิดประตู แต่ว่าไม่นานเสียงฝีเท้าพวกนั้นก็เงียบลงไป และเธอก็เดินเข้าไปสับสวิตท์ไฟฟ้า

อิเลฟเวนท์ทันทีที่สับสวิตท์ไฟภายในห้องพัก และเธอก็ยังรีบร้อนเข้าไปหยิบเอากระเป๋าเป้สีเขียวเข้มและจับหยุดอุปกรณ์ต่างๆ บนโต๊ะกระจกเก็บลงไปในกระเป๋า และเหลือเพียงกระปุกยาแก้ฟกช้ำเอาไว้

ลุกค์ และอาซามิที่พยายามจะเหลียวมองตาม

" เราต้องรีบหนีไปจากที่นี้ " ลุกค์เหมือนจะเห็นด้วยกันกับอิเลฟเวนท์ในขณะที่เธอกำลังก้มเก็บของด้วยความรีบร้อน เพราะฉะนั้นเขาถึงรีบเข้าไปช่วยประคองอาซามิกลับขึ้นมา

" ไม่จำเป็น " อิเลฟเวนท์ปฏิเสธ และเงยหน้าขึ้นมาหาพวกเขาทั้งคู่

" อาซามิต้องการพักผ่อน " และเธอก็อธิบาย

" เอาเป็นว่า ตอนนี้ที่นี้ปลอดภัยที่สุด " เธอหันไปบอกอาซามิ และทันทีอาซามิก็พยักหน้าตอบกลับมา

" ขอบคุณมาก " อาซามิตอบสั้น ๆ และพยายามล้มตัวลงนอน

แต่ว่าลุกค์ก็ยังไม่เข้่าใจว่าทำไมพวกเธอถึงไม่กลัวว่า คนกลุ่มนั้นที่อาจจะเป็นพวกของวอร์ริงตันจะกลับมาทำร้าย

" หมายความว่ายังไง !! " ลุกค์ที่กำลังรีบปรี่เข้าไปถามและหันมองพวกเธออย่างสงสัย แต่อิเลฟเวนท์กลับรีบเดินตรงไปที่ประตู

" ฝากอาซามิด้วย " อิเลฟเวนท์มองลุกค์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย และแม้ลึก ๆ แววตาของเธอกลับพยายามที่จะบอกอะไรมากกว่านั้น แต่ว่าเธอก็ตัดสินใจรีบเดินเปิดประตูห้องพักของตัวเองและรีบเดินออกไปอย่างรีบร้อน