เวลาประมาณสี่ทุ่มบริเวณภายในโรงจอดเครื่องบินที่มีเพียงเครื่องบินลำเลียง และยังต้องคอยใช้เจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลอยู่อีกนับหลายสิบนาย และภายในโรงจอดเครื่องบินก็ยังได้จัดโต๊ะชั่วคราวเพื่อวางแผนการประชุมที่ๆ มีคาเตอร์เป็นหัวหน้าวางแผนร่วมอยู่กับเมดิสัน และเจ้าหน้าทหารแต่ละฝ่ายอีกสองสามคน และก็รวมไปถึงอิเลฟเวนท์กับฟิวส์ ลุกค์
และเมดิสันที่กำลังขะมักเขม้นอยู่บนโต๊ะประชุมแบบหน้าจอสัมผัส และนำเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมแบบสามมิติขึ้นมากางซึ่งแสดงภาพสามมิติที่อาคารและพื้นที่โดยรอบของสถานีศูนย์อวกาศที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า " Hope 2 The World " ซึ่งเป็นสถานีศูนย์อวกาศภาคพื้นดิ้นขนาดใหญ่ลำดับที่ 4 ของโลก และยังตั้งอยู่แถบเทือกเขาหินที่สลับซับซ้อนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากอ่าวเปอร์เซียอยู่ประมาณ 95 กิโลเมตรทางทิศใต้กินพื้นที่มากกว่า 100 เอเคอร์ และหอควบคุมสัญญาณดาวเทียมขนาดหลายช่วงตึก และยังจะประกอบไปด้วยอาคารอื่นๆ โดยรอบอีกทั้งหมด 3 อาคาร และทุก ๆ อาคารก็ยังมีจานรับส่งสัญญาณดาวเทียมขนาดใหญ่อยู่ที่บริเวณบนหลังคา และอาคารหลังใหญ่ที่สุดอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอาคารหลังนี้ใช้เป็นโรงงานในการผลิตจรวด
อีกทั้งบริเวณด้านหน้าของสถานีศูนย์อวกาศของอิหร่าน Hope 2 ก็ยังจะมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ กับฐานที่ยิงจรวด และพื้นที่โดยรอบสถานนี้ก็ยังจะประกอบไปด้วยภูเขาสูงซึ่งในขณะนี้ก็ยังจะมีหิมะหล่นลงมาปกคลุม
คาเตอร์ที่ยังอดเป็นห่วงเรื่องทัศนวิสัยรอบๆ สถานีดาวเทียม
" ที่บนยอดเขา "
" ตอนนี้กำลังมีพายุหิมะ ! "
" เพราะฉะนั้น...ทางนักบินของเรา ! "
" อาจที่จะต้องไปส่งพวกเธอทั้งสองคน ห่างมาจากศูนย์อวกาศที่อิหร่านไกลเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ! " คาเตอร์ที่ช่วยบอกกับอิเลฟเวนท์และก็ลุกค์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
และเมดิสันที่ยังต้องช่วยขยายภาพกำแพงรั้วลวดหนามขนาดใหญ่ที่ทั้งสูง และยังจะทอดยาวไปอีกหลายร้อยเมตรหรืออาจจะยาวเป็นกิโล ๆ
" รั้วลวดหนามที่มีไฟฟ้าแรงสูงโดยรอบศูนย์ที่นี้ แล้วก็ "
" บริเวณนี้ก็ยังจะมีเจ้าหน้าที่ทหารและพวกสุนัขทหารคอยตรวจตรากันอยู่ทุก ๆ 35 นาที " เมดิสันอธิบายพร้อมสรรพ แต่ก็อดเป็นห่วงพวกเขาไม่ได้จริงๆ
" ถึงเวลานี้...พวกเราจะยังไม่มั่นใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นตว่า ! "
" หัวรบระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้จะซ่อนอยู่ที่นั่นจริง ๆ หรือเปล่า " แต่เมดิสันก็อดไม่ได้ที่จะกังวลมากขึ้นกว่าเดิม และพอพวกเขาแอบสังเกตอิเลฟเวนท์ที่เอาแต่ยืนมองภาพถ่ายอยู่นิ่งๆ
" แต่ว่าพวกเราคงต้องใช้เครื่องบินขับไล่คอยตามประกบพวกเธอไปด้วย "
" เพื่อช่วยย่นระยะการตรวจจับเรดาร์จากฐานทัพอื่นๆ ก็เพื่อป้องกันเอาไว้เท่านั้น " เมดิสันตั้งใจจะบอกกับทุกๆ คน
" เชิญทุกคนทางนี้ ! "
เมดิสันกำลังพาอิเลฟเวนท์และลุกค์ไปที่โต๊ะวางอุปกรณ์ติดๆ กัน และบนโต๊ะก็ยังมีเครื่องมือเครื่องไม้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ ๆ มีทั้งนาฬิกาดิจิทัลพิเศษรุ่นใหม่เอี่ยม กล่องใส่คอนเทคเลนส์สีฟ้าๆ อีก 1 คู่ กับ อุปกรณ์ชุดหูฟังอีกเพียงหนึ่งคู่ที่วางรออยู่บนโต๊ะ และอุปกรณ์อื่นๆ อย่างปืนยิงเลเซอร์ที่สามารถเอาไว้ตัดเหล็กกล้าได้ ท่อนพลาสติกเรืองแสง และคีมอันเล็กที่สามารถใช้ตัดเหล็กธรรมดาๆ ได้อีกอย่างละหนึ่งชิ้น
และเมดิสันที่หันไปหยิบเอาปืนรุ่น Compact ของเยอรมัน ขนาดกระสุนจุด 9 มิลลิเมตร และยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ของตัวเอง และก็หั่นมายื่นปืนของสหรัฐ รุ่น FNP – 45 ขนาดของกระสุนที่เหมือนๆ กันให้กับอิเลฟเวนท์ได้พกติดตัว
" เอาละ "
" และนี่ก็คืออุปกรณ์พื้นฐานสำหรับภารกิจนี้ ! " เมดิสันโชว์ของที่มีทั้งหมดตรงหน้า
แต่ว่าลุกค์ที่เพิ่งจะหันไปและคอยจับผิดอุปกรณ์ของเมดิสันทั้งหมด
" แล้วนี่อะไร ! "
" จะให้พวกฉัน ไปเป็นคุณครูสอนพวกทหารใหม่กระโดดร่มกันหรือยังไง ! "
" เมดิสัน !! " เพราะว่าแค่เห็นอุปกรณ์โดดร่มที่กองๆ อยู่ก็รู้สึกไม่อินสักเท่าไหร่
เมดิสันที่ก็ไม่ได้อยากจะอยู่ต่อปากต่อคำด้วย เพราะฉะนั้นถึงได้รีบหันกลับไปอธิบายอย่างตั้งหน้าตั้งตา
" ภารกิจในครั้งนี้ "
" พวกเรามีหน้าที่ "
" ที่จะต้องคอยแอบเข้าไปค้นหาหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ของทางรัฐบาลเกาหลีใต้ที่หายไป "
" แล้วก็.. ลุกค์ !! "
" นายมีหน้าที่ต้องถ่ายทอดสดจากสถานีศูนย์อวกาศกลับมา "
"ในขณะที่ อิเลฟเวนท์ต้องเข้าไปปลดชนวนหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ให้สำเร็จ " เมดิสันตั้งใจที่จะค่อยๆ อธิบายอย่างช้าๆ ให้เพื่อนร่วมงานฟังอย่างระเอียด
อิเลฟเวนท์อดไม่ได้ที่จะแอบยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
" งานแอบถ่ายนี่ฉันว่า "
" คุณน่าจะถนัดนะ ลุกค์ " เธอเอาใจช่วยเมดิสัน
ลุกค์ถึงกับต้องคอยเบือนหน้าหนี
" เชอะ !! "
" เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย !! "
" เหมือนอย่างกับ !! "
" สุนัขจิ้งจอกตัวผู้เจอกับสุนัขจิ้งจอกตัวเมีย !! " เขาประชด
และเมดิสันที่ก็แค่ต้องพยักหน้าให้เพื่อนร่วมงานทั้งคู่
" แต่ว่า...เธอ "
" เป็นสุนัขจิ้งจอก !! "
" ประเภทที่มี 9 หาง ด้วยซิท่า !! " เมดิสันยิ้มกริ่ม
แต่ว่าลุกค์ที่ก็แค่นึกหมั่นไส้สองคนนี้ขึ้นมาแล้วจริงๆ
" จิ้งจอกเก้าหางอะไรกัน " จนเขาไม่อยากจะฟังเรื่องไร้สาระของเมดิสันกับอิเลฟเวนท์ต่อสักเท่าไหร่ และกลับไปสนใจพวกสิ่งของตรงหน้าแทน
และเมดิสันที่หันไปหยิบเอานาฬิกาข้อมือพลาสติกสีน้ำเงินถือมันขึ้นมา และยื่นให้กับเพื่อนของเขา
" ของนาย ! " เมดิสันที่คอยถือและยื่นมันให้พร้อมๆ กับหยิบเอาหูฟังสื่อสารไร้สายสีดำขึ้นมาด้วย
" อุปกรณ์สื่อสารและก็ GPS แบบพื้นฐาน " และยังอธิบายแบบระเอียดยิบให้กับเจ้าหน้าที่ของตัวเอง
แต่เมดิสันก็ยังหันไปล้วงกระเป๋าเสื้อสูทและหยิบเอานาฬิกาข้อมือเรือนพลาสติกสีดำ ๆ เรือนหนึ่งกลับขึ้นมาและหมอบมันให้กับเธอ
อิเลฟเวนท์เพิ่งจะหันไปรับนาฬิกาเรือนนั้น
" ขอบคุณ "
และเมดิสันที่หันไปสนใจกล่องคอนเทคเลนส์คู่หนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆ และก็หยิบมันให้เพื่อนของเขาด้วยอีกที
" เลนส์ตาเทียมพวกนี้ !! "
" พวกมันสามารถที่จะมองผ่านในที่มืดได้อย่างสบายๆ " เมดิสันอธิบายเรื่อยๆ และค่อยหันไปควานหาของในกระเป๋าของเสื้อสูทด้านในจนเจอแว่นตากันลมสีชา ๆ และก็คอยยื่นให้กับเธอ
" ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม " เมดิสันชี้ ๆ ให้อิเลฟเวนท์สังเกตสายรัดใสๆ ที่ติดอยู่ที่แว่นตากันลม
" แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือ.. สายรัดที่หัวสีใส ๆ พวกนี้ "
" ลูกชายของดีลาโน !!! "
" เขาคงจะกลัวว่า... "
" เธอจะหงุดหงิดพวกมันเข้าเวลาใช้งาน !!! " แต่ที่อยู่ๆ เมดิสันก็กลับยิ้มหัวเราะชอบใจกันขึ้นมาซะอย่างนั้น
ลุกค์คอยมองตามและก็เพิ่งจะสังเกตว่า อิเลฟเวนท์ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับเพราะรู้ว่า แว่นตากันลมนี่มาจากที่ไหน
" ไม่ยักรู้ว่า อีเลฟเวนท์ของนาย "
" เธอจะขี้หงุดหงิดกับเขาด้วย !! " เขาแซว ๆ
เมดิสันที่พยักหน้ารัวๆ ให้เห็น
" อีเลฟเวนท์ "
" เธอทั้งขี้หงุดหงิด ! "
" และเผลอๆ ยังจะใจร้อนกว่านายสุดๆ ไปเลยละ " และยังคอนเฟิร์มซะจนมองเห็นภาพ แต่ว่าพอพวกเขาหันกลับไปมองอิเลฟเวนท์อีกที
อิเลฟเวนท์ที่ยังจะอุตส่าห์ยืนทำเป็นเท่ห์ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เพราะฉะนั้นเมดิสันที่อยู่ๆ ก็เลยต้องคอยล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
เมดิสันที่หันมายื่นชุดหูฟังไร้สายสีไทเทเนียมกลับคืนไปให้เธอ
" และทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน "
" อุปกรณ์ทั้งหมดนี้ "
" ลูกชายของดีลาโน !! "
" เขานะ ! ช่วยอุตส่าห์แอบส่งมาให้เธอ "
" เพราะฉะนั้น.อย่ากลับไปลงโทษเขาเชียวละ !! " เมดิสันจ้องที่แกล้งอิเลฟเวนท์
" อะอืม !!! " อิเลฟเวนท์กระแอมขู่เมดิสันไปหนึ่งทีและก็เดินหนีพวกเขาไปที่เครื่องบินลำเลียง
ลุกค์ก็เลยได้ยืนยิ้มๆ เพราะไม่คิดว่า เมดิสันก็อยากจะแทงข้างหลังเธอในเวลาแบบนี้ แต่ว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะจับผิดอุปกรณ์ต่างๆ ของอิเลฟเวนท์ทุก ๆ ชิ้น
และดูเหมือนว่าเมดิสันก็พอจะเดาใจของเขาได้ไม่ยาก
" ทำไมกันน่า... "
" แทนที่จะเป็นคนที่เก่งๆ อย่าง แฮริสัน " เมดิสันพูดพลางส่ายหัวเบา ๆ ไปพลางก็เพื่อไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานสงสัยในตัวอิเลฟเวนท์เพิ่มมากขึ้น
ลุกค์ที่รีบมองตาม
" ยังไง !!! " เพราะว่าเขายังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เมดิสันต้องการจะสื่อสารกับเขาจริงๆ
แต่ว่าสิ่งที่เขาเห็นก็คือ คราวนี้เมดิสันที่พยายามส่ายหัวไปๆ มาๆ ซ้ำๆ และแสดงท่าทางที่หนักอกหนักใจต่อหน้า
เมดิสันที่เพิ่งจะแอบถอนหายใจเบาๆ ต่อหน้าลุกค์และบอกว่า
" พวกเรา...ไม่ได้ "
" เป็นคนที่..."
" เลือกให้นายมาทำภารกิจนี้ !! "
" เธอ.... ! "
" อีเลฟเวนท์ !! ต่างหากที่เป็นคนเลือก !! " เมดิสันที่ได้แต่ส่ายหน้าเพราะความไม่เข้าใจในตัวอิเลฟเวนท์ แต่ทว่ามิหนำซ้ำเขายังต้องรีบเดินๆ ตามกันไปที่เครื่องบินลำเลียง
แต่ว่าตอนนี้ลุกค์ที่รู้สึกช็อคจนพูดอะไรไม่ออกกันไปเลย และตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เมดิสันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขากันแน่ !!!
" อีเลฟเวนท์ !! "
เมดิสันในขณะที่รีบร้อนเดินตามอิเลฟเวนท์ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นไปบนเครื่องบินลำเลียงของกองทัพ
แต่ว่าอิเลฟเวนท์กลับหันมาและปฏิเสธกันซ้ำๆ
" ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ " และเธอก็ยังช่วยย้ำๆ กับเมดิสันเหมือนกัน
เมดิสันที่ยังอดเป็นห่วงเธอไม่ได้จริง ๆ
" อีเลฟเวนท์ "
" เธอคงจะไม่ได้ เป็นกังวลเรื่องที่ทะเลสาบนั่นอยู่ ! "
" ใช่หรือเปล่า" เมดิสันที่ก็แค่อยากรู้
อิเลฟเวนท์พยักหน้าให้เขาสองสามครั้ง
" ก็นิดหน่อย ! " เธอยอมรับ
" ฉันก็แค่..เห็นแม่น้ำทีไร ! "
" ใจมันก็หวิวๆ ขึ้นมาซะให้ได้ทุกที "
" ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ ! "
" เมดิสัน "
" และก็ขอบใจมาก ๆ เรื่องชุดนี่ " เธอทั้งคอยปลอบใจตัวเอง และบอกขอบคุณเรื่องชุดเข้ารูปพิเศษสีเมทัลลิคที่เธอสวมใต้เสื้อชูชีพ
เมดิสันที่ก็คงจะทำอะไรไม่มากไปกว่าพยักหน้ารับรู้ แม้แววตาของเขาที่มองอิเลฟเวนท์ก็กลับไม่เข้าใจเธอมากนักว่าทำไมชอบเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยง
" ชุดที่เธอใส่อยู่ข้างใน " แต่ว่าเมดิสันก็ยังคงต้องให้คำแนะนำอยู่เรื่อยๆ
" ฉันเองตั้งใจที่จะทำขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะ"
"พวกมันทำมาจากแอโรเจลผสมกับเส้นไยสังเคราะห์พิเศษที่มีส่วนผสมของแกร์ไฟต์ !!! "
" เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ .."
" เธอได้รับรังสีของปฏิกิริยานิวเคลียร์โดยตรง !!! "
" และพวกมันยังจะช่วยลดการสูญเสียความร้อนในร่างกายได้ดีในระดับหนึ่ง " เมดิสันยังคงตั้งใจอธิบายเรื่องที่คาดว่าน่าจะจำเป็นที่สุดสำหรับเธอ
" แต่ว่า..ถ้าหากเกิน 45 นาทีไปแล้ว "
" อุณหภูมิภายในชุด "
" พวกมันก็จะลดลงไปอย่างฉับพลัน "
" เธอเข้าใจใช่ไหม " แต่ว่าเมดิสันที่ยังต้องรีบๆ อธิบายไปพร้อมๆ คอยแอบมองไปที่ลุกค์ที่ก็เดินเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นทุกที
อิเลฟเวนท์ที่ทำได้แค่ยิ้มๆ
" ไม่ต้องเป็นห่วง ! "
" ฉันมันเป็นพวกมาเร็ว เคลมเร็วอยู่แล้ว !! " เธอรับปากเมดิสัน และก็หันหลังเดินหนีกลับขึ้นไปเครื่องบินลำเลียงซะดื้อๆ
เพราะฉะนั้นเมดิสันที่ได้แต่มองตามหลังอิเลฟเวนท์จนสุดลูกหูลูกตา เพราะก็ไม่รู้ว่าความลับที่อิเลฟเวนท์ต้องการจะเปิดเผยนั้นมีมากแค่ไหนกันเชียว
เครื่องบินลำเลียงรุ่น C – 295 ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ว่าก็มีเครื่องบินขับไล่ร่องหนรุ่นวายเอฟเอฟรุ่น 20 คอยบินประกบอีกสองสามลำอยู่เหนือน่านน้ำทะเลอ่าวเปอร์เซีย และนักบินนิรนามทั้งสามลำที่ยังต้องคอยบินประกบหน้าหลังและท้ายเพื่อป้องกันเรดาร์จากกองกำลังอื่น ๆ
และอยู่ๆ นายทหารสองสามคนก็เพิ่งจะช่วงสงสัญญาณให้กับอิเลฟเวนท์กับลุกค์ว่า อีกไม่เกิน 25 ไมล์ก็ใกล้จะถึงเป้าหมายที่จุด Drop Zone
เพราะฉะนั้นระหว่างอิเลฟเวนท์กับลุกค์กำลังช่วยกันตรวจตราดูความเรียบร้อยของอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่ร่มชูชีพ รองเท้าสี แผ่นสกีและไม้ค้ำ
แต่ว่าเธอก็สังเกตว่า ลุคก์แอบส่งยิ้มให้เธออยู่เรื่อยๆ
" ยิ้มทำไม ! " เธอถามเพราะเห็นลุกค์แอบมองมาที่เธอบ่อยจนเกินไป
" เปล่า !! " ลุกค์ส่ายหน้าให้เธอทันที แต่ว่าอิเลฟเวนท์ก็กลับที่จะเดินเข้ามาหา แต่ว่ามิหนำซ้ำเธอยังนั่งลงและคอยช่วยล็อคบังเกอร์รองเท้ารองเท้าสกีให้
" อีเลฟเวนท์ !! " และเขาก็ห้ามเธอ
" คือ... " และยังต้องคอยขอร้องไม่ให้อิเลฟเวนท์ช่วยเหลือกันมากจนเกินไป แต่ว่าเธอก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมันจนเสร็จเรียบร้อย
อิเลฟเวนท์ที่ลุกกลับขึ้นมาและตรวจตาอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับเขาต่ออีก
" โอเค "
" เรียบร้อยพร้อมลงสู่สนามรบ " และเธอยังให้ความมั่นใจกับเขาตลอดเวลา
ลุกค์ที่ก็เกรงใจกันจนพูดไม่ออก แต่ว่าเขาก็ยังมองเห็นอิเลฟเวนท์ที่หันไปและก็หยิบไม้ค้ำสกีและสวมรองเท้าสกีโดยที่ไม่ขอร้องพวกเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆ เธอเลยสักคนเดียว
และอิเลฟเวนท์ที่พอจัดแจงชุดและอุปกรณ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเธอก็ยังต้องคอยเดินกลับเข้าไปหาลุกค์ที่เอาแต่ยืนจด ๆ จ้องๆ เหมือนมีเรื่องสำคัญ
" สาเหตุที่..."
" ฉันเลือกคุณ "
" เพราะว่า. ฉันเชื่อว่า ! "
" คุณเป็นคนดี " เธอยอมรับและแสดงรอยยิ้มที่จริงใจเป็นการตอบแทน และเขาที่ก็ไม่ได้ต่างไปจากเธอและยังคอยเอื้อมมือขวาออกมาหากันอีกครั้ง
อิเลฟเวนท์ยื่นมือขวาขออกมาเหมือนๆ กัน และเธอยังยอมรับมิตรภาพของฟิวส์ ลุกค์เอาไว้อย่างที่เธอเคยคิดเอาไว้ว่ามันจะต้องสำเร็จ
นักกระโดดร่มกำลังลอยตัวอยู่ที่ความสูงประมาณที่ 1055 เมตร และยังลอยตัวอยู่เหนือภูเขาสูงที่ไกลจนสุดลูกหูลูกตา และยังถูกพายุหิมะพัดกระหน่ำลงคลอบคลุมจนแทบมองอะไรไม่เห็น
อิเลฟเวนท์ในขณะที่ลอยตัวอยู่เหนือภูเขาที่มีหิมะปกคลุ่ม และเธอยังต้องคอยก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือว่า เมื่อไหร่จะเป็นเวลา 23 นาฬิกา 48 นาที และเมื่อถึงเวลาเธอกับลุกค์กฌระตุกร่มชูชีพทันทีที่อยู่เหนือสันเขาในระยะ 50 เมตร
ตุบ !
ตุบ !!
และร้องเท้าสกีของอิเลฟเวนท์กับลุกค์ก็เพิ่งจะเหยียบบนยอดเขาที่ปกคลุมหิมะ และพวกเธอสองคนก็ใช้รองเท้าสกีและก็ไม้ค้ำไถลไปตามความลาดชันของภูเขาหิมะพากันออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
และในขณะที่กล้องอินฟาเรทที่ติดอยู่กับแว่นตากันลมของอิเลฟเวนท์ และเธอกำลังใช้พวกมันตรวจสอบเส้นทางที่จะลงไปจากยอดเขาและต้องเป็นทางที่ใกล้ที่สุดที่แว่นตาจะคอยคำนวณเส้นทางให้กับพวกเธอ
แต่ทว่าลุกค์ก็กำลังมองเห็นภูเขาและเส้นทางลาดชั้นตรงหน้าทั้งหมดเป็นสีแดงๆ เพราะระบบอินฟาเรดที่ติดอยู่ในเลนส์ตาเทียมนาโนที่ใส่อยู่
และอิเลฟเวนท์กลับเป็นฝ่ายใช้สกีคอยนำทางให้กับลุกค์ ในขณะที่พวกเธอยังคงไต่อยู่บนความสูงที่ราว ๆ 2000 เมตร และด้วยความเร็วประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ฉึบ
ฉึบ !!!
เสียงสับของรองเท้าสกี 2 คู่จอดสนิทอยู่บนผิวหิมะบริเวณช่องแคบของภูเขาใกล้ ๆ กับสถานีศูนย์อวกาศ แต่ว่าอิเลฟเวนท์กับลุกค์ก็รีบถอดอุปกรณ์สกีทั้งหมดออกทันที
และลุกค์ยังตองคอยช่วยกันและกวาดสาวตามองไปรอบๆ ในขณะที่เลนส์ตาเทียมที่ใส่อยู่ก็ยังได้ช่วยส่งสัญญาณภาพไปที่กองบัญชาที่อ่าวเปอร์เซีย
แต่ว่าอิเลฟเวนท์ในขณะที่รีบร้อนเดินตรงเข้าไปที่รั้วลวดหนามของศูนย์อวกาศ Hope 2 The world และป้ายแสตนเลสขนาดใหญ่ที่เขียนป้ายชื่อของสถานีกำกับเอาไว้ที่ทางเข้า
อิเลฟเวนท์และก็ลุกค์กำลังช่วยกันแอบมองไปที่พวกเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งน่าสงสัยว่าจะเป็นทหารรับจ้างจากตะวันออก และพวกเขาทุกคนกำลังช่วยกันพาสุนัขทหารออกเดินลาดตระเวนอยู่บริเวณอาคารหลักๆ 3 อาคาร ยานพาหานะที่จอดเรียงรายนับสิบ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์อีกหนึ่งลำ และพอมองไปที่บนหลังคาของอาคารก็ยังเต็มไปด้วยจานรับส่งสัญญาณดาวเทียมหลายสิบและตู้คอนเทรนเนอร์ที่เรียงรายรอบอาคารของสถานีนับๆ แล้วอีก 15 ตู้
ลุกค์ที่ยังคงคอยกวาดสายตามองไปรอบๆ ศูนย์อวกาศ และอิเลฟเวนก็เพ่งมองไปที่รั้วลวดหนามที่มีหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทิศตะวันตกของอาคาร
" คุณช่วยไปจัดการที่รั้วลวดหนามพวกนั้น "
" ส่วนฉันจะช่วยไปจัดการที่หมอแปลงไฟฟ้าให้ก็แล้วกัน " และบอกแผนของเธอ
อิเลฟเวนท์วิ่งเข้าหารั้วลวดหนามตรงที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูงตั้งเรียงรายอยู่หลายๆ เสา และเธอก็ตรงเข้าไปเปิดตู้ควบคุมไฟฟ้าของศูนย์ และพยายามที่จะมองภาพรวมของสายไฟนับหลักร้อยเส้นที่พันกันเป็นแผงวงจรควบคุมระบบไฟฟ้า และตรวจดูมันอย่างระมัดระวังเพราะว่าอาจจะมีกระแสไฟแรงสูงสุดถึง 70000 โวลต์
และเธอก็หันกลับมาล้วงเอาคีมตัดสายไฟออกมาจากกระเป๋าสัมภาระเล็กในกางเกง และก็เริ่มลงมือนับสายไฟทีละเส้น ๆ จากแถวด้านล่างสุดขึ้นมาและจนถึงเส้นที่สิบเจ็ด
ฉับ !
อิเลฟเวนท์ตัดไฟฟ้าของระบบรั้วลวหนามได้สำเร็จ แต่ว่าเธอก็ต้องรีบหันไปหาลุกค์ที่นั่งรออยู่ไม่ห่างกันสักเท่าไหร่ และลุกค์ก็รีบใช้ปืนยิงเลเซอร์ตัดรั้วลวดหนามพวกนั้นให้เป็นประตูทางเข้าให้ทันที
แต่ว่าเธอก็ยังรีบหันมาล้วงเอาอุปกรณ์ที่คล้ายกับมือถือที่พับได้กลับขึ้นมา และเธอใช้สายพ่วงเส้นเล็ก 2 อันที่มีปลายหนีบอยู่สองข้างและค่อยๆ หนีบพวกมันเอาไว้กับสายไฟเส้นที่ 29 และ สายไฟเส้นที่ 32 และก็กดปุ่มเล็กข้างตัวเรือนของนาฬิกาข้อมือไปพร้อมกัน
" โทรหา อี ยองซุก !! " เธอกำลังพูดอยู่กับหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ
" พอฉันคิดถึงเธอปุ๊ป "
" เธอก็โทรหาฉันปั๊ปเลยน่า.. "
"อีเลฟเวนท์ !! " เสียงของอี ยองซุกที่ก็โผล่เข้ามารบกวนโสตประสาทของเธอแทบจะทันที่เธอโทรหาเขา
อิเลฟเวน์ที่อยู่ๆ ก็พลอยต้องหันมาทำหน้าตาเอือมระอาอยู่กับหน้าจออุปกรณ์ที่หน้าตาละคล้ายมือถือ ก็เพราะว่าพวกมันไม่ยอมให้เธอได้เข้าใช้งานง่าย ๆ
" พาสเวิร์ด...! " จนเธอต้องขู่เอารหัส
และอี ยองซุกที่ได้แต่หัวเราะชอบอกชอบใจ
" Oscar ! "
" Zulu ! "
" Whiskey ! "
" Seven ! Six ! Three ! Three ! Zero ! One !! " อี ยองซุกบอกไปพลางอมยิ้ม
และรหัสผ่านล๊อกอินเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เล็กๆ ในมือของอิเลฟเวนท์ก็กลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ว่าพวกเธอที่ยังไงก็ต้องรอให้อี ยองซุกเข้าไปเจาะควบคุมระบบวงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์ทั้งหมดของสถานีดาวเทียมให้ได้ทั้งหมดก่อน
อิเลฟเวนท์ชักสีหน้ากลอกตาเป็นเลขแปดอีกหลายที แต่ก็เหมือนๆ ว่า ปลายสายของเธออย่างอี ยองซุกก็ยังไม่คิดจะหยุดยั่วโมโหเธอในเวลาแบบนี้อีกจนได้
" นี่ฉันถามเธอจริงๆ เหอะน่า "
" อีเลฟเวนท์ !! "
"เธอคิดที่จะจำรหัสพวกนี้ !! "
" ของพวกฉันกันหน่อยจะได้ไหม !! " อี ยองซุกบ่นๆ แต่ปาก
แต่ว่ามือสองข้างของเขาก็ยังต้องขยับคอยควบคุมระบบรีโมททางไกลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อิเลฟเวนท์ถือมันอยู่
"ความจำของเธอนี่ก็เหลือเกินจริง ๆ "
" สั้นกว่าความจำของพวกปลาทองเยอะเลย !! " อี ยองซุกที่ได้แต่บ่น ๆ
และเธอที่รีบวางเครื่องคอมพิวเตอร์หยัดพวกมันกลับเข้าไปซ่อนในตู้คอยคุมไฟฟ้า
" แล้วก็ไอ้พาสเวิร์ดบ้าบอ คอแตก พวกนี้ !!! "
" เมื่อไหร่จะเปลี่ยนห๊ะ !! " แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่หงุดหงิดตอบ
" ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะของอี ยองซุกยังคงคอยเข้ามาทำลายสมาธิเธอ
" หืม... !!! " และเธอที่ถึงกับต้องหายใจเข้าออกลึกแล้วลึกอีก เพราะคำยียวนกวนประสาทของ อี ยองซุกที่คอยตามกัดกันไม่เลิก
" แล้วตอนนี้. !! "
" ท่านประธานาธิบดีของสหรัฐกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน !! " แต่ว่าเธอก็ยังต้องคอยตั้งสติและอยากจะรู้เรื่องของฝั่งของพวกเขา
อี ยองซุกคราวนี้ค่อย ๆ เอนหลังลงลงบนเก้าอี้ และหันไปเครื่องบินลำใหญ่ที่ถ่ายทอดสด ๆ อยู่บนหน้าจอประมวลผลบานเบ่อเริ้ม
" ไหน...เธอ ! "
"ช่วยลองทายดูหน่อยจะเป็นไรไป !! " อี ยองซุกท้า
และอิเลฟเวนท์ที่กำลังนั่งนิ่ง
" แอร์ ฟอร์ซวัน !!! " " เพราะว่าเธอกำลังมองเห็นภาพเครื่องบินลำหนึ่งในหัว
ลุกค์ถึงกับต้องรีบหันกลับและจ้องอิเลฟเวนท์ทันทีที่ได้ยินเธอพูดถึงเครื่องบินลำเมื่อกี้
" ฉันบอกคุณแน่ !" และเธอก็หันมา
" แต่ไม่ใช่ตอนนี้ !! " แต่ว่าเธอก็ไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธ
ลุกค์ที่ซ่อนความอยากรู้อยากเห็นกับความสามารถพิเศษของอิเลฟเวนท์เอาไว้ให้จนถึงที่สุด เพราะว่าตอนนี้เขากำลังมีภาระกิจที่สำคัญกว่า
ลุกค์วิ่งนำอิเลฟเวนท์และกำลังมุ่งหน้าไปทางอาคารฝั่งตะวันออกของสถานีศูนย์อวกาศ และในขณะที่พวกเขาสองคนแอบวิ่งฝ่าความมืดและลมพายุหิมะเข้าไปภายในบริเวณสถานี
แต่ว่าอิเลฟเวนท์กำลังรีบล้วงเอาแผ่นแม่เหล็กเล็กขนาดเล็กออกจากกระเป๋ากางเกงและก็โปรยพวกมันขึ้นไปบนอากาศ
ตุบ
ตุบ
ตุบๆๆ !!!!
แผ่นแม่เหล็กขนาดประมาณกว้างคูณยาวไม่เกินสองนิ้ว และพวกมันมีปุ่มไฟกระพริบสีแดงทยอยร่วงพากันไปติดที่รถที่จอดอยู่ใกล้ๆ อาคารของหอควบคุม
อิเลฟเวนท์รีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ที่ด้านข้างของอาคารๆ หลังใหญ่หลังหนึ่ง และในระหว่างนั้นเธอก็หันมาตั้งเวลาที่นาฬิกาข้อมือเอาไว้ที่ 17 นาที
ตุบ !
ตุบ !!
ในะหว่างนั้นลุกค์ก็จัดการทหารยามสองคนจนร่วงลงที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าอาคาร และเขาก็ยังต้องรีบจัดการลากพวกทหารสองคนนั้นไปซ่อน
แต่ว่าอิเลฟเวนท์ก็ยังต้องคอยเดินตามลุกค์ในขณะที่พาตัวพวกทหารไปซ่อนข้างๆ กำแพงของตัวอาคาร และเธอจำเป็นจะต้องคอยตามเข้าไปค้นตามกระเป๋าเสื้อของพวกทหาร
และเธอก็ค้นตัวพวกทหารที่หมดสติจนกระทั่งได้บัตรแสดงตนเข้าออก และพวกเธอก็ใช้แตะตรงบริเวณหน้าจอประมวลผลของประตูก่อนเข้าอาคาร
ตี๊ด... !!
ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ทยอยออกเปิดออก
" พระเจ้า !!! " ลุกค์ตาเบิกโพลงทันที่มองเห็นภาพข้างใน
เพราะว่าภายในบริเวณนี้ไม่ใช่แค่อาคารเก็บจรวดธรรมดา ๆ แต่เป็นอาคารที่ซ่อนหัวรบระเบิดนิวเคลียร์อยู่มากถึง 4 ลูก ทั้งหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ที่มีตราของสหรัฐ อังกฤษ จีน และก็หัวรบระเบิดนิเคลียร์เกาหลีใต้ที่ถูกขโมยมาทั้งหมด และพวกมันถูกรายล้อมไปด้วยสายไฟจำนวนมหาศาลเอาไว้เชื่อมต่อกับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีมากถึง 19 หน้าจอ พร้อมๆ กับเครื่องจักขนาดใหญ่ และเครื่องมือกลอีกหลายแท่น และที่วางอยู่ข้างๆ ระเบิดนิวเคลียร์ยังเป็นถังอะลูมิเนียมขนาดใหญ่อัก 2 ถัง และปั๊มชื่อว่าไฮโดรเจนข้าง และถังออกซิเจนอยู่นับสิบถัง และรวมถึงถังอะลูมิเนียมที่ถูกประทับตราปั๊มสีดำ ๆ เขียนไว้อย่าง Solid Fueled ขนาดใหญ่มากถึง 3 ถัง ทางด้านฝั่งทิศตะวันออก
และลุกค์ยังต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
" ดูเหมือนว่าพวกเขาทำมันสำเร็จ " เขายังคงทึ่งกับวิธีการของผู้ก่อความไม่สงบบนโลกนี้ที่เกิดขึ้นอยู่จริงๆ
อิเลฟเวนท์ถอดแว่นตากันลมออก และเธอก็ยังต้องคอยเดินๆ เข้าไปสำรวจบริเวณข้างในจนเห็นว่า จรวด 2 หัว ขนาดประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2. 55 เมตร ฐานถึงยอดสูงประมาณ 10 เมตร และน้ำหนักก็คงจะร่วม ๆ 46 ตัน และพวกมันกำลังถูกติดตั้งอยู่บนแท่นยิง และเจ้าของจรวดพวกนี้ยังเขียนชื่อติดเอาไว้ว่า " Hope Q2 "
" ลุกค์ " เพราะฉะนั้นเธอถึงอยากให้เขาช่วย
"ฉันอยากจะให้คุณช่วยจัดการกับหัวรบระเบิดนิวเคลียร์พวกนี้ "
ลุกค์พยักหน้ากลับมา
" เข้าใจแล้ว " และรับปากเธอทันที แต่ว่าเขากลับเห็นอิเลฟเวนท์กำลังทำท่าว่าจะเดินกลับออกไปจากอาคารเก็บจรวด
" อีเลฟเวนท์ !! "
" ระวังตัวด้วย" เพราะว่าเขาแค่ไม่อยากให้เธอได้รับอันตราย
อิเลฟเวนท์หยุดเดินแต่ยังคงไม่หันกลับมาทันที แต่ว่าเธอกลับเอาแต่ก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือที่บอกเวลาเที่ยงคืนกับอีกยี่สิบสองนาที และเธอก็รีบเร่งฝีเท้ารีบเดินออกจากอาคารเก็บจรวดและนิวเคลียร์กลับออกไป
" อี ยองซุก "
" ตอนนี้ เธอยังตั้งใจทำงานอยู่หรือเปล่า " อิเลฟเวนท์ที่พอก้าวเท้าพ้นประตูอาคารเก็บจรวดก็หันมาคุยสายกับอี ยองซุกที่ยังคงรอสายเธออยู่
" อีเลฟเวนท์ " แต่ว่าน้ำเสียงที่ต่ำๆ ของอี ยองซุกมันกำลังให้เธอต้องหยุดเดิน
และเธอยังจำเป็นต้องรีบเดินเข้าไปหลบข้างๆ พนังกำแพงของอาคารควบคุมสถานีสัญญาณดาวเทียมให้ไวที่สุด
อิเลฟเวนท์ที่เตรียมชักปืนออกมาจากซอง !
" นายเห็นแล้วใช่ไหม อี ยองซุก " และเธอยังอยากได้ยินคำยืนยันจากปากของเพื่อนร่วม และเสียงที่ต่ำ ๆ ของพวกเขาที่กำลังโต้ตอบกลับมาผ่านหูฟังไร้สายของเธอด้วยว่า
" ดาวเทียมของอิหร่าน "
" ที่เพิ่งจะถูกส่งไปเมื่อสองเดือนก่อน....."
" นั้นนะ !! " และพอมาตอนนี้ ! อี ยองซุก ก็ยังที่จะหันมามีน้ำเสียงที่ต่ำลงมาอีกเรื่อย ๆ
" พวกเขาได้แอบติดตั้งจรวดพิสัยไกลติดหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ไปด้วยจริง ๆ " และอี ยองซุกก็อธิบายถึงบันทึกที่ได้มากจากการเจาะเข้าระบบข้อมูลเชิงลึกของศูนย์อวกาศที่อิเลฟเวนท์เพิ่งใช้คอมพิวเตอร์ต่อให้พวกเขาก่อนหน้านี้
แต่ว่าเธอที่ยังคงคอยกระชับด้ามปืนและคอยเดินไปที่บริเวนมุมอาคารหอควบคุม
" งั้นที่นี้.!!! "
" พวกเราคงจะต้องรีบหาทางแฮกเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซวัน ให้เร็วขึ้นหน่อย " เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องคอยออกคำสั่งกับพวกเขา
อี ยองซุกยังคงมองหน้าจอประมวลผลเล็ก ๆ ตรงหน้า และเห็นอิเลฟเวนท์ตัวเป็นๆ พยายามหาทางเข้าไปในอาคารควบคุมสถานีอวกาศอย่างระมัดระวัง
" ถึงเธอไม่บังคับ. !! "
" ฉันก็เต็มใจทำสุด ๆ เลยละงานนี้"
" แอบเจาะเข้าระบบเครื่องบิน ! ประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐ "
"ให้ตายซิ !! "
" รู้สึกตื่นเต้นเป็นบ้า !! " อี ยองซุกหัวใจเต้นรัวๆ เหมือนจะหลุดออกมา
และที่อี ยองซุกก็รีบหันไปลงมือต่อสู้อยู่กับแป้นพิมพ์ตรงหน้าสองสามอันของตัวเองทีวางระเกะระกะอยู่ตรงหน้าให้กันทันที
และหน้าจอประมวลผลของอี ยองซุก ! ที่ก็กระจัดกระจายอยู่เต็มคันรถแวนสีเหลือง ๆ เพนท์ลายไข่ดาวสดใสจอดอยู่ในย่านการค้าชื่อดัง และอีกทั้งริมถนนที่คลาคลั่งไปด้วยสาวกแฟชั่นสตรีทพากันเดินแฮงค์เอาท์ริมแม่น้ำ และก็ระบำน้ำพุหลากสีกำลังพ่นออกมาจากกลางสะพานข้ามแม่น้ำ !