บทที่ 8 - ฟิลัน
.
.
เมื่อเผชิญกับลูกสุนัขที่เดินร่อนไปทั่วบ้าน วาลเรียสเริ่มติดนิสัยก้มลงมองพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฎกรรมอย่างการเผลอเหยียบเจ้าตัวเล็กโดยไม่ได้ตั้งใจ
"ว่าไงครับตัวเล็ก"
เด็กหนุ่มยิ้มถามลูกหมาที่เริ่มเดินได้มั่นคง สัมผัสนุ่มนิ่มยามอีกฝ่ายเดินเข้ามาเบียดตรงข้างขา ทำให้คนที่เตรียมอาหารเย็นอยู่ใจอ่อนยวบ
"โฮ่ง!"
เจ้าก้อนขนเห่ารับสั้นๆ คำหนึ่ง พวงหางสีเทาดำที่อยู่ด้านหลังกระดิกไปมาน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี
"พอใกล้หายดีก็เริ่มซนแล้วสิเรา อะๆ อย่าเพิ่งกระโดดสิ!"
วาลเรียสอุทานเมื่อเห็นว่าลูกสุนัขทำท่าย่อตัวลงหน้าเก้าอี้ เขารีบวางของในมือลงเพื่ออุ้มเจ้าลูกหมาขึ้นมาเสียเอง
"เฮ้อ…นั่งรอตรงนี้แป๊บนึงนะ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว"
เด็กหนุ่มผ่อนลงหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายหย่อนก้นลงด้วยท่าทีว่าง่าย ถึงเจ้าลูกหมาจะฟื้นตัวได้อย่างดี แต่เขายังไม่อยากให้มันเล่นซนจนแผลฉีกขึ้นมาหรอกนะ!
เมื่อเผชิญกับสายตาที่จ้องมองมาด้วยความคาดหวัง วาลเรียสทำได้เพียงเร่งมือขึ้นอีกนิด ครู่เดียวอาหารเย็นง่ายๆ สองสามอย่างก็ถูกวางลงบนโต๊ะ หนึ่งคนหนึ่งสุนัขนั่งลงกินส่วนของตนเองด้วยท่าทีพึงพอใจ
อาหารบนโต๊ะดูพรั่งพร้อมขึ้นไม่น้อยเมื่อรับตัวกินจุอย่างเจ้าก้อนขนเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ปริมาณเนื้อในแต่ละมื้อเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แลกมากับจำนวนเงินที่พร่องไปไม่น้อยยามจ่ายออกที่ตลาด
วาลเรียสรับเควสในแต่ละวันมากขึ้นเพื่อหาเงินมาชดเชยในส่วนนี้ แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่มากในช่วงแรก แต่เมื่อกลับมาเจอเจ้าก้อนขนที่กระดิกหางต้อนรับอยู่หน้าประตู เขาก็หายเหนื่อยในพริบตา
เพื่อเจ้าตัวเล็กแล้ว ภารกิจเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จะนับเป็นอะไรได้!
"อะฮะๆ ! เล่นแบบนี้เหรอ เจอนี่หน่อยเป็นไง!"
วาลเรียสนอนอยู่บนพื้นโดยมีเจ้าก้อนขนยืนทับอยู่ด้านบน เขายกมือขึ้นปัดป้องลูกสุนัขที่โถมเข้ามาเลียจนน้ำลายแทบเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า ส่วนอีกมือแกล้งขยับรุกบ้างถอยบ้าง ยั่วให้เจ้าตัวเล็กกระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น
ลูกหมาสีเทาดำหันซ้ายขวามองตามฝ่ามือที่ถูกยื่นออกมาอย่างรวดเร็ว อุ้งเท้าน้อยๆ ตะปบตามไปอย่างไม่ยอมแพ้ ดวงตากลมโตฉายประกายสนุกสนานออกมาเต็มที่
หลังเล่นกันจนเริ่มหอบเหนื่อยขึ้นมาหน่อยๆ วาลเรียสปล่อยให้เจ้าลูกหมานอนฟัดผ้าที่เริ่มขาดเป็นรูอยู่บนพื้น ขณะที่ตัวเองปีนขึ้นมานั่งพักเหนื่อยอยู่บนโซฟา
เด็กหนุ่มมองตามก้อนขนที่ขยับดุ๊กดิ๊กไปมาบนพื้นด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม หนังสือที่เปิดค้างอยู่บนตักถูกมองเมินไปอย่างหาได้ยาก
วาลเรียสนั่งเหม่ออยู่นานกว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้ เขาใช้เวลาช่วงก่อนนอนพลิกหาข้อมูลบางอย่างมาหลายวันแล้ว
แม้ว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้จะขาดแคลนอะไรหลายๆ อย่างรวมไปถึงห้องสมุดสาธารณะสักแห่ง แต่โชคดีที่เด็กหนุ่มค่อนข้างสนิทสนมกับตาลุงนิสัยพิลึกคนหนึ่ง
ชายวัยกลางคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก อีกฝ่ายหมกหมุ่นอยู่กับการสะสมหนังสือมากมายเอาไว้ในบ้านของตนเอง ก่อนจะหายตัวไปตั้งแต่หลายปีก่อน ทิ้งบ้านร้างที่เต็มไปด้วยหนังสือเอาไว้หลังหนึ่ง
วาลเรียสเข้าไปจัดการปัดกวาดให้บ้างตอนที่ว่างเว้นจากการทำงาน แลกกับการหยิบยืมหนังสือออกมาอ่านเพื่อคลายความเบื่อหน่าย
เมื่ออีกฝ่ายหายตัวไป หนังสือที่ถูกทิ้งไว้ให้เหล่านี้จึงกลายเป็นทั้งเพื่อนและที่พึ่งในยามยากของวาลเรียส
แม้จะจัดเรียงหนังสืออย่างยุ่งเหยิงจะทำให้การค้นหากินเวลานานไปบ้าง แต่สุดท้ายเขาก็พบสิ่งที่ต้องการ
"เอ ไหนดูสิ วิธีตรวจสอบสถานะของมอนสเตอร์…"
เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งตัวตรงขณะพึมพำคำพูดกับตัวเอง ดวงตาสีเขียวกวาดไปตามข้อมูลที่เขียนไว้บนหน้าหนังสือ
"จับตัวเป้าหมายไว้ ระหว่างที่สัมผัสตัวสามารถเรียกหน้าต่างสถานะขึ้นแสดงได้ แต่การบังคับตรวจสอบผู้กระทำต้องมีเลเวลสูงกว่าเป้าหมาย…"
วาลเรียสเหลือบมองเจ้าหมาที่เดินกลับมานั่งตรงหน้า ลูกสุนัขตัวสูงแค่ครึ่งขา แต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะมีเลเวลมากกว่า…
เจ้าก้อนขนเงยขึ้นมองคนที่มีสีหน้าหดหู่อย่างฉงนใจ มันเห่าสั้นๆ คำหนึ่งขณะยื่นอุ้งเท้ามาด้านหน้า
"ว่าไงครับคนเก่ง โอ๊ะ?"
เด็กหนุ่มยื่นมือออกไปกุมเท้าหน้าของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะต้องอุทานเบาๆ เมื่อหน้าต่างสีฟ้าใสกางออกตรงหน้า
[ชื่อ : ฟิลัน]
[เผ่าพันธุ์ : หมาป่า****เทา**&^*#%&@-]
[เลเวล : 3]
[สกิล : !%($#*+^$%*@]
[สถานะปัจจุบัน : *@&%$%#@&!$]
.
.
.
เทียบกับข้อมูลเพิ่มเติมมากมายซึ่งกลายเป็นภาษาที่อ่านไม่ออก วาลเรียสจ้องค้างอยู่ที่บรรทัดแรกด้วยความตกตะลึง
เจ้าตัวเล็กมีชื่อด้วย?
"ฟิลัน?"
เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
"โฮ่ง!"
ลูกสุนัขเห่าตอบ พวงหางสีเทาดำสะบัดไปมาด้านหลังอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่เล่นกันเมื่อครู่เสียอีก
วาลเรียสก้มลงมองอุ้งเท้าน้อยๆ ที่ยังคงกำอยู่ในมือของตนเอง
นี่หรือว่า…
"พยายามบอกชื่อของตัวเองให้ผมรู้เหรอ? ขอบคุณนะฟิลัน "
เจ้าของชื่ออ้าปากน้อยๆ ลิ้นสีชมพูห้อยลงมาด้านข้างเมื่อลูกสุนัขเอียงคอไปด้านข้างด้วยท่าทีน่าเอ็นดู จนวาลเรียสอดใจไม่ไหว อุ้มเจ้าก้อนขนขึ้นมาฟัดพุงจนหนำใจไปยกหนึ่ง
ฟิลันน่ารักขนาดนี้ จะเป็นลาสต์บอสได้ยังไงกัน!
.
"ช่วงนี้มีเรื่องดีๆ เหรอ?"
คำถามที่ถูกส่งมากะทันหันทำให้เด็กหนุ่มหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
"ครับ? ก็…"
วาลเรียสใช้หลังมือเช็ดเหงื่อที่หยดลงมาถึงปลายคาง เขาเงยหน้าขึ้นมองนายจ้างของวันนี้ซึ่งยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ยาว ก่อนจะคลี่ยิ้มสดใสเมื่อนึกถึงหน้าของเจ้าก้อนขนบางตัวซึ่งกำลังรออยู่ที่บ้าน
"จะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ!"
"อ้อ ดีจริง…"
หญิงชราซึ่งเปิดร้านขายอาหารแห้งยกยิ้มใจดี รู้สึกยินดีไปกับคนตรงหน้าซึ่งช่วงนี้มีท่าทีร่าเริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"เห็นว่าช่วงนี้หนูวาลเก็บตัวอะไรมาเลี้ยงอีกแล้วใช่มั้ย? ตกลงคราวนี้เป็นตัวอะไรน่ะ น่ารักหรือเปล่า?"
เสียงของหญิงสาวอีกคนดังขึ้นด้านหลัง ดวงตาของเจ้าหล่อนแทบจะทอประกายวิบวับด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"คือผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นพันธุ์อะไร แต่น่ารักมากๆ เลยครับ!"
วาลเรียสยิ้มเจื่อนเมื่อนึกถึงหน้าจอสถานะที่อ่านแทบจะไม่รู้เรื่องของอีกฝ่าย สรุปแล้วก็ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน
แต่เรื่องที่ฟิลันน่ารักน่ะเป็นความจริงอย่างแน่นอน!
"ตายแล้ว พูกแบบนี้ฉันก็อยากเห็นหน้าเจ้าหนูคนนั้นไปด้วยเลย ว่างๆ ก็พาออกมาโชว์ตัวหน่อยสิ?"
"อ้า เรื่องนั้น…"
เด็กหนุ่มหาทางหลบเลี่ยงอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะยอมเดินออกจากร้านไป เขาถอนหายใจพลางสะบัดเสื้อแรงๆ เหงื่อออกโชกยิ่งกว่าตอนปีนขึ้นไปเอาของบนชั้นให้ลูกค้าเสียอีก
มัวแต่คิดเรื่องความน่ารักของฟิลัน ความเกือบแตกแล้วมั้ยล่ะ!
ต่อให้ตัดเรื่องภารกิจสีแดงแปร๊ดที่เด้งเตือนเป็นจังหวะอยู่ตรงปลายสายตานี่ออกไป วาลเรียสไม่แน่ใจว่าหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้จะยินดีอาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์นักล่าอย่างหมาป่าไหม
ถึงตอนนี้มันจะเป็นแค่ลูกหมาก็เถอะ
"ไงเจ้าหนู ว่างหรือยัง?"
วาลเรียสเงยขึ้นมาเจอคนคุ้นเคยซึ่งเดินผ่านมาหน้าร้าน
"ครับ? ก็ใกล้แล้ว"
เมื่อเห็นสายตาที่มองมาด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเอ่ยถึงวัตถุประสงค์ของคำถามเมื่อครู่ให้อีกฝ่ายฟัง
"เควสที่เพิ่งปักบนกระดานเมื่อกี้ดูดีเลย วันนี้ฉันต้องรีบกลับไปซ่อมหลังคาที่บ้าน เลยมาบอกเผื่อว่านายจะสนใจ"
"ขอบคุณครับ ไว้เสร็จงานแล้วผมจะแวะไปดู"
วาลเรียสก้มศีรษะให้คนที่วนเวียนรับภารกิจในหมู่บ้านพร้อมกันบ่อยๆ จนคุ้นหน้าค่าตากัน อีกฝ่ายโบกมือลาขณะเดินจากไป
เด็กหนุ่มจัดเรียงข้าวของทั้งหมดและปิดร้านก่อนถึงเวลาบ่ายแก่ หลังจากเดินไปส่งหญิงชราที่บ้านของนางแล้ว เขาจึงมุ่งตรงไปยังกระดานภารกิจของหมู่บ้าน
ดวงตาสีเขียวกวาดไปบนไม้กระดานซึ่งมีรอยตะปูตอกเรียงกันจนแทบไม่เหลือช่องว่าง กระดาษที่ยังใหม่แผ่นหนึ่งดูโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางใบประกาศซึ่งซีดจางไปตามกาลเวลา
หมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ไม่ค่อยมีภารกิจมากมายมาแต่ไหนแต่ไร ยังดีที่จำนวนคนซึ่งต้องพึ่งพารางวัลจากเควสเหล่านี้เพื่อเลี้ยงชีพก็มีแค่เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นคงหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันอย่างเมืองที่มีนักผจญภัยแวะเวียนไปมาอยู่เสมอได้ยาก
วาลเรียสยืนลังเลอยู่ครู่หน่ึง งานเก็บผลไม้นั้นไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร ซ้ำยังให้ค่าตอบแทนไม่น้อย แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน
ถ้าเริ่มงานตอนนี้ เขาไม่แน่ใจว่าจะกลับถึงบ้านก่อนฟ้ามืดทันไหม
มองดูจำนวนเหรียญเงินที่เป็นรางวัลจากการทำภารกิจ เด็กหนุ่มกลั้นใจดึงประกาศแแผ่นนั้นลงมาจากกระดาน
ถึงวันนี้จะกลับบ้านช้าไปหน่อย แต่ก็ทำให้ไม่ต้องรับเควสช่วงเย็นไปได้อีกหลายวัน!
.
"...ใกล้เสร็จแล้วเจ้าหนู เหลืออีกนิดเดียว!"
เสียงของคนที่ยืนรออยู่ด้านล่างดังแว่วมาเข้าหูของวาลเรียสเพียงครึ่งหนึ่ง เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุดยึดกิ่งไม้ใหญ่เอาไว้พลางเอี้ยวตัว เอื้อมไปเด็ดผลไม้สีม่วงสวยที่อยู่อีกฝั่งของต้นไม้
วาลเรียสก้าวลงบันไดมาสองขั้นพลางพักหายใจ มือหนึ่งส่งผลไม้ที่เพิ่งเก็บมาลงในตะกร้าที่สะพายอยู่ด้านหลัง เงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งเริ่มมืดลงทุกขณะผ่านเงาไม้สูง
ลูกพีชสีม่วงที่สุกกำลังดีส่งกลิ่นหวานจางอยู่ในตะกร้า เนื้อของมันก็มีรสชาติดีไม่ต่างกัน แต่เหตุผลที่ทำให้มันไม่เป็นที่นิยมในแถบนี้ก็คือความลำบากในการเก็บเกี่ยว
นอกจากลำต้นสูงชะลูดจนไม่มีทางเดาได้ว่าผลไม้ที่อยู่ด้านบนสุกหรือยังจนว่าจะปีนขึ้นไป จำนวนของผลที่สุกจนเก็บได้ของแต่ละต้นนั้นยังน้อยจนชวนให้รู้สึกท้อแท้
วาลเรียสที่ปีนขึ้นลงบันไดสูงมาตลอดช่วงบ่ายแทบจะลงไปคลานกับพื้น ขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของเควสตรวจนับจำนวนลูกพีชในตะกร้าหลายใบด้วยสีหน้าพึงพอใจ
"เท่านี้ก็ครบแล้ว! ขอบใจนายมาก เท่านี้ฉันก็ขนผลไม้พวกนี้ไปส่งเควสได้สักที"
เสียงของคนด้านข้างทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย
"ส่งเควส? คุณไม่ใช่เจ้าของภารกิจนี้เหรอครับ?"
"เปล่าหรอก ฉันก็รับงานมาอีกทีเหมือนกัน ภารกิจของฉันคือเอาผลไม้พวกนี้ไปส่งที่หมู่บ้านถัดไปน่ะ"
ชายหนุ่มหัวเราะพลางเอ่ยตอบ อีกฝ่ายขนตะกร้าผลไม้ขึ้นไปบนเกวียนลากคันเล็กท่ามกลางสายตางุนงงของวาลเรียส
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ที่นี่คงไม่ค่อยมีคนตั้งภารกิจซ้อนเท่าไหร่ล่ะสิ? สบายใจเถอะ รางวัลของนายน่าจะถูกส่งมาให้ก่อนจะกลับถึงบ้านซะอีก…โชคดี!"
วาลเรียสทำได้เพียงมองคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นนายจ้างของตนเองลากตะกร้าผลไม้จากไป เขาถึงกับคลี่กระดาษภารกิจออกมาดูอีกครั้ง รู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดยามเดินไปบนถนนสายเล็ก
ป่านนี้แล้ว ไม่รู้ว่าฟิลันจะเป็นยังไงบ้าง…
เด็กหนุ่มมุ่งหน้ากลับบ้านท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน
รอยเท้าจางๆ ที่ประทับบนพื้นดินแห้งคล้ายจะมีจำนวนมากกว่าที่เคย วาลเรียสขมวดคิ้วมุ่นเมื่อสังเกตเห็นร่องรอยเหล่านั้นโดยบังเอิญ
เสียงแจ้งเตือนที่คุ้นเคยดังขึ้นแผ่วเบา เด็กหนุ่มเรียกหน้าต่างภารกิจขึ้นมาตรวจสอบ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอกึ่งโปร่งใส
[ภารกิจ : เก็บผลพีชสีม่วง]
[ประเภท : ทั่วไป, สาธารณะ]
[รางวัล : 20 เหรียญเงิน]
[สถานะ : สำเร็จ, นำส่งรางวัลแล้ว]
.
.
.
[ผู้ตั้งภารกิจ : ระบบ]