Chereads / ROYAL ONE บทชายผู้ตกต่ำ / Chapter 36 - Chapter 28 เหรียญที่มีทั้งสองด้าน

Chapter 36 - Chapter 28 เหรียญที่มีทั้งสองด้าน

เวลาก่อนหน้านี้...

ไมร่าที่โผล่เข้าข้างหลังกำลังเตรียมที่จะแทงเรเปียร์เข้าที่หัวของเฮนรี่ ในเสี้ยววินาทีนั้นเธอก็ถูกของแข็งบางอย่างฟาดเข้าที่แขนจนเรเปียร์นั้นหลุดออกจากมือ เมื่อหันไปมองก็เห็นอลิซที่ใช้เก้าอี้เป็นอาวุธ

"ฉันไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นหรอก.....!" อลิซพูดน้ำเสียงที่ดูห้าวหาญ

"แม่งเอ้ย!" ไมร่าอุทานออกมาอย่างอารมณ์เสียและกำลังจะมุดกลับเข้าไปในกระจก ขณะนั้นเองอลิซก็วิ่งเข้าไปคว้าเรเปียร์ที่ไมร่าทำตกแล้วทำการเสียบจากทางด้านหลัง

"ไม่....จริง....!" เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีเรเปียร์นั้นก็แทงทะลุหัวใจของตัวเองเสียแล้ว ร่างกายเธอเริ่มค่อยๆแน่นนิ่งไปทีละนิด ดวงตาเปิดกว้าง รูม่านตาขยาย อุณหภูมิร่างกายค่อยๆเย็นเฉียบ และแล้วเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น....

...หมายเลข 08 ไมร่า มิลเลอร์ ถูกกำจัดแล้ว...

อลิซที่เห็นว่ามีแจ้งเตือนว่าไมร่านั้นตายแล้วเธอรีบทิ้งเรเปียร์อย่างทันที แล้วกำลังจะไปวิ่งไปดูอาการของเฮนรี่ที่ยังนอนอยู่ ในตอนนั้นเองที่เธอก็ได้สังเกตเห็นเด็กสาวในชุดสีดำกำลังนั่งยองๆลงตรงหน้าของเฮนรี่ พร้อมกับสัมผัสไปที่เขาอย่างเบาๆ

อลิซที่เห็นดังนั้นเลยวิ่งเข้าห้ามอย่างสุดกำลัง แต่จู่ๆเฮนรี่ก็เริ่มแสดงอาการแปลกออกมา เขาเริ่มปวดหัวอย่างรุนแรง เขาดิ้นอย่างทุกข์ทรมาน กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด อลิซรีบเข้าไปเขย่าเรียกสติของเขากลับมาแต่เหมือนจะไม่เป็นผล เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดในตอนนั้นได้ ในตอนที่ตัวเองจมอยู่ในภาพลวงตานั้นก็มีเสียงหนึ่งช่วยเธอไว้ ในตอนที่ได้สติกลับมาเสียงนั้นกำชับกับเธอไว้ว่า...

...ห้ามให้สิ่งนั้นเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด....!!!

"ใจเย็นไว้! ที่นายเห็นมันไม่ไชใช่ความจริง!" อลิซทำการเขย่าที่ตัวของเฮนรี่แล้วพยายามเรียกสติของเขา

"อ๊ากกกกกกกกกก.....!!!" เฮนรี่ยังคงกรีดร้องออกมาอย่างทรมาน เขาเริ่มเอามือจกเข้าที่ใบหน้าจนเลือดค่อยๆซึมออกมา

อลิซเลยพยายามที่จะดึงมือของเขาออก แต่ในช่วงนั้นเฮนรี่ที่ทำการใช้พลังผลักตัวของอลิซ กระเด็นออกไป "อ๊ากกกกกก....!!! หนี!...ไป!" จนร่างกายของอลิซนั้นไปชนกับเคาน์เตอร์ที่อยู่ตรงโถง

ทันใดนั้นเองเสียงร้องของเฮนรี่ก็หยุดลง เขาค่อยลุกขึ้นยืนเอียงคอไป-มา "รู้สึกสดชื่นดีชะมัด!"

บรรยากาศเริ่มน่าขนลุก อลิซรับรู้ได้เลยว่าไม่ใช่เสียงอย่างปกติที่เธอเคยได้ยินจากเฮนรี่ เสียงมันดูมีน้ำหนักราวกับคนที่มีอายุมากกว่าเขา

อลิซรีบพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล "แกเป็นใครกัน? ไม่น่าจะใช่เฮนี่ที่ฉันรู้จักแน่ๆ!!"

"นั่นสินะ...ถ้าไม่รีบแนะนำตัวจะเป็นการเสียมารยาทกับสุภาพสตรี" เขาทำการก้มตัวน้อมลงราวกับผู้ดี "นัมเบอร์หมายเลข 13 เจชัวร์ วีคอยด์ เองครับ"

"นัมเบอร์...คน...สุด...ท้าย" อลิซอึ้งจนพูดแทบไม่ออก แต่เมื่อมองไปที่ฝ่ามือแล้ว มือข้างหนึ่งของเขามีหมายเลข 13 อยู่จริงๆ

"ใช่ครับ! อีกตัวตนหนึ่งของเฮนรี่ วีคอยด์ เปรียบเสมือนเหรียญอีกด้านของเขา ตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นจากความอ่อนแอภายในใจ"

ในระหว่างที่เจชัวร์นั้นกำลังพูดอยู่ อลิซก็กำลังจะใช้พลังเพื่อหลบหนี แต่ทางนั้นก็รู้ทันเลยใช้พลังลมฟันขู่มาที่เธออย่างรุนแรงจนเคาน์เตอร์ข้างหลังขาดครึ่ง "เรามาทำข้อตกลงกัน ช่วยลืมว่าเรื่องราวนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แล้วทำเหมือนว่าฉันเป็นเฮนรี่คนเดิม ต่อหน้าเขาคนนั้นได้ไหม?"

"แล้วฉันจะได้อะไร?"

"ผมจะรับประกันว่าคุณนั้นจะปลอดภัยจนจบการคัดเลือก นอกจากนั้นแล้คุณยังได้สิ่งที่คุณต้องการอีกด้วย ว่าไงครับ...?"

"แล้วนายจะได้อะไร...!? สิ่งที่นายต้องการจริงๆคืออะไรกันแน่!?"

"...ผมต้องการทำให้เขาสมบูรณ์ เขาเป็นชายที่ผมนับถือ ไม่ใช่แค่เฉพาะความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตัดสินใจในยามคับขัน แต่ถึงอย่างนั้นทำๆไมกัน? ทั้งๆที่เขามีมันตั้งขนาดนั้นแล้วแท้ แต่กลับโยนสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป กลับเลือกที่จะเอาคนอื่นขึ้นมาก่อนตัวเอง ไม่สนใจสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ถ้าเกิด...ถ้าเกิด ในตอนสุดท้ายแล้วสิ่งที่ตัวเขานั้นตั้งความหวังไว้กลับมาทรยศเขาเสียเอง เขาจะแสดงสีหน้าแบบไหนออกมากันนะ?"

อลิซได้ยินจุดมุ่งหมายของเจชัวร์แล้วก็นิ่งไปสักพักหนึ่ง เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยถอนลมหายใจออก ".....โทษที แต่ฉันขอปฏิเสธ!!!" เธอพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

"อย่างนั้นเองหรอ? ช่างน่าเสียดาย" ทันทีที่เขาพูดจบก็ทำการสะบัดมือออกไป เกิดเป็นคลื่นดาบลมที่คมและรวดเร็ว

อลิซรีบกระโจนออก แล้วรีบทำให้ตัวเองล่องหนไป เธอวิ่งไปรอบตัวของเจชัวร์โดยอาศัยที่อีกฝ่ายมองตัวเธอไม่เห็นเพื่อที่จะลอบโจมตี เธอทำการปาโทรศัพท์บ้านที่อยู่บนเคาน์เตอร์ ซึ่งสิ่งนั้นถูกทำให้ล่องหนด้วยพลังของเธอแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทางของเจชัวร์นั้นก็สามารถใช้พลังทำการปัดมันออกไดอย่างง่ายดาย

"ไร้สาระ....! ของแค่นี้มันจะไปทำอะไรได้!!!" เจชัวร์ทำการกระทืบเท้าอย่างแรงเกิดเป็นลมคลลื่นกระแทกออกเป็นวงกว้าง แรงลมกระแทกอลิซจนกระเด็นไปกระแทกกับผนังของตึก

การล่องหนของอลิซคลายออกอย่างทันที ทันใดนั้นเจชัวร์ก็รีบฟันคลื่นดาบลมออกมาที่ตัวเธออย่างทันที อลิซที่รู้อย่างนั้นจึ้งรีบออกจารกที่ตรงนั้นแล้วกลับไปล่องหนแบบเดิม ความแรงที่และคมของคลื่นดาบลมนั้นทำให้คอนกรีตแข็งๆเป็นรอยได้อย่างง่ายดาย อลิซที่เห็นแล้วจึงรู้ได้โดยสัญชาติญาณเลยว่าถ้าเกิดโดยเข้าไปไม่รอดแน่ๆ แต่ถ้าหากหนีก็ไม่รูว่าจะรอดไปจนเจอกับจินไหม? เธอจึงตัดสินใจกำจัดเจชัวร์ซะที่นี่!

อลิซวิ่งไปรอบแบบเดิม จนเธอไปชนกับเครื่องกดน้ำ ซึ่งทางเจชัวร์นั้นที่ได้ยินเสียงจึงรีบฟันคลื่นดาบออกไปจนแกลลอนน้ำที่อยู่ข้างบนแตกออกน้ำแตกกระจายเต็มทั่วทั้งพื้นสิ่งนั้นเองที่ทำให้เขาแน่ใจว่าอลิซอยู่นะที่ตำแหน่งไหน เพราะจากรอยเท้าที่เปียกของเธอ

"ถ้ายอมรับข้อตกลงของฉัน เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้ว ดันทำอะไรที่มันเปล่าประโยชน์เสียได้" ในเมื่อเจชัวร์นั้นสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของอลิซได้แล้ว เขาไม่รีรอที่จะทำการโจมตีโดยทันทีทำการสะบัดมือออกเกิดเป็นคลื่นลมดักหน้า ซึ่งทางอลิซในสภาพล่องหนนั้นก็รีบเอาสิ่งของที่เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์มาขวางไว้ แต่อย่างนั้นก็ไม่เพียงพอที่จะหยุด การโจมตีนั้นฟันจนสิ่งของที่เอามากันขาดครึ่งออกจากกันอย่างายดาย ทำให้อลิซนั้นได้รับบาดแผลเป็นรอยฟันที่ท้อง

"ฉลาดดีนี่ พยายามลดความรุนแรงของมันลงเพื่อให้ได้รับบาดเจ็บน้อยลง"

พลังของอลิซเริ่มค่อยๆอ่อนลงจนเห็นตัวเธอที่สภาพนั้นเต็มไปด้วยเลือด เธอไม่มีทางเลือกจึงวิ่งเข้าหาเจชัวร์อย่างทันทีทั้งอย่างนั้น

"โง่หรือเปล่า?" เจชัวร์นั้นยิงกระสุนลมไปที่อลิซนับหลายนับด้วยกัน ทางอลิซนั้นพยายามยกมือข้างหนึ่งเพื่อกันการโจมตีเอาไว้อย่างสุดชีวิต มีกระสุนหนึ่งนัดเข้าที่ดวงตาข้างหนึ่งของเธอจนตาข้างนั้นบอดสนิท แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่หยุดวิ่งเข้าหาเจชัวร์ เธอวิ่งอย่างสุดชีวิตด้วยแรงทั้งหมดที่มี

ทางเจชัวร์นั้นเห็นว่าอลิซเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยก็เตรียมการที่จะผลักให้เธอกระเด็นและหลังจากนั้นก็ทำการจบชีวิตเธอด้วยการใช้คล่นลมตัดเข้าที่คอ และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เจชัวร์หวังไว้อลิซยังคงสิ่งเข้ามาหาเขา แต่ในขณะนั้นที่เขากำลังจะผลักตัวของเธอออกไปนั้นเอง อลิซก็หยุดอย่างกะทันหันก่อนที่จะถึงตัวของเขา เธอเหมือนทำการโยนสิ่งๆหนึ่งออกมาตรงหน้า สิ่งนั้นคืนจากสภาพล่องหนกลายเป็นกระดาษปึกนึ่งที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเธอและมีรอยถูกตัดอยู่ด้วย ดุเหมือนว่าตัวของเธอจะใช้สิ่งนั้นในการลดความเสียหายที่ได้จากการโจมตีของเจชัวร์ กระดาษทุกใบนั้นบดบังวิสัยทัศน์ของเขาจนหมด ซึ่งทางเจชัวร์เองก็รีบใช้พลังในการปัดมันออกจนหมด และในตอนนั้นเองอลิซก็มีเรเปียร์อยู่ในมือแล้วกำลังจะแทงเข้าไปที่หัวใจ

ในตอนแรกเธอรู้ดีอยู่แล้วว่าพลังของเธอนั้นถ้าฟังเสียงดีๆนั้นก็สามารถรู้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ตัวเธอนั้นไม่ได้มีฝีมือในการต่อสู้ระยะประชิดอย่างจิน อีกทั้งไม่ได้มีพลังในการทำลายเหมือนดั่งเฮนรี่ เธอจึงสร้างการโจมตีหลอกขึ้นมาหนึ่งครั้ง เพื่อให้ทางนั้นระวังตัวเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในมือของเธอ และรับการโจมตีที่อาจจะทำให้ถึงตายได้หนึ่งครั้ง ให้อีกฝ่ายลดการป้องกันหลังจากที่เห็นบาดแผล และไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ใต้เท้า สิ่งที่เธอเตะเอาไว้ตอนที่เจชัวร์ทำการฟันแกลลอนแตกเพื่อให้เสียงมันกลบกันอย่างพอดิบพอดี

"ฉันจะทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อหยุดนาย" อลิซทำการแทงเข้าไปที่หัวใจของเจชัวร์อย่างทันทีด้วยเรเปียร์

...แต่ถึงอย่างนั้นทางของเจชัวร์นั้นก็ใช้เพียงแค่มือข้างเดียวในการรับการโจมตีของอลิซได้อย่าง่ายดาย และหลังจากนั้นเขาก็ทำการถีบตัวของเธอออกไป แล้วดึงเรเปียร์ที่คาอยู่ในมือทิ้งออกไป "เล่นซะแทบแย่เลยนะเนี่ย ถ้าหากฉันตอบสนองช้าไปนิดเดียวมีหวังได้โดนเจาะรูที่หัวใจแน่ๆ"

"สัตว์ประหลาดชัดๆ"

"จะถือว่านั่นเป็นคำชมละกัน แต่ถ้าเทียบกับเขาคนนั้นแล้วแค่นี้ยังเด็กๆ" พอพูดจบเจชัวร์ก็ทำกาเคลื่อนที่ตัวเองให้เข้าหาตัวของอลิซเละทำการแตะไปที่ตัวของเธอเกิดแรงลมอัดบริเวณท้องผลักกระเด็นทะลุไปยังห้องหนึ่ง

สภาพของอลิซตอนนี้นั้นร่างกายบอบช้ำเต็มไปด้วยบาดแผล ดวงตาบอดไปหนึ่งข้าง มีแผลบริเวณที่ท้อง แรงก็แทบไม่มีที่จะยืนไหว เธอได้ยินเสียงเท้าเข้าใกล้มาเรื่อยๆเหมือนดั่งที่ว่าถ้าตนเองไม่รีบหนีมีหวังได้ตายแน่ เธอพยายามควบคุมสติและมองหาวิธีที่จะรับมือ

ทางด้านของเจชัวร์ที่ใช้พลังผลักตัวของอลิซจนไปกระแทกกับกระจกห้องหึ่งจนทะลุนั้นเองเขาก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาอย่างใจเย็น แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกก็พบกับอลิซที่ยืนประจันหน้ากับเขา

"น่าชื่นชมจริงที่ไม่หนี แต่ก็มาได้แค่นี้แหละ!"

อลิซพูดออกมาอย่างเสียงดังตรงหน้าของเจชัวร์ "ฉันจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว!!!"

เจชัวร์ไม่รอช้าเขาทำการปล่อยคลื่นดาบลมไปที่อลิซอย่างทันที ในตอนนั้นเองที่อลิซก็ได้ทำท่าเหมือนกับยกบางสิ่งที่หนักมากๆถังดับเพลิงอีกถังที่ถูกทำให้อยู่ในสภาพล่องหน ถูกฟันจนเป็นรอยรั่วเกิดเป็นม่านควันฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง เจชัวร์รีบทำการสะบัดแขนเพื่อสร้างลมให้พัดม่านควันนั้นให้กระจายออก ในเสี้ยววินาทีนั้นเองที่เขาก็รู้สึกตัวตรงหน้าของเขาเห็นอลิซที่ถือขวานดับเพลิงขนาดใหญ่กำลังง้างโจมตีมาที่เขา ทำให้เขานั้นต้องรีบใช้พลังผลักตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นเหมือนว่าในระหว่างที่ทำการหลบออกมาเท้าของเขาได้ถูกฟันจนเป็นแผลเหวอะ

เมื่อเจชัวร์หลบการโจมตีและออกมาจากม่านควันได้นั้น เขาก็ระดมยิงกระสุนลมไปในม่านควันอย่างต่อเนื่อง แต่ทางของอลิซนั้นก็ใช้ขวานดับเพลิงนั้นเป็นโล่กำบังวิ่งผ่านมาได้อย่างง่ายดาย และเธอกำลังง้างโจมตีครั้งต่อไป ซึ่งทางเจชัวร์นั้นรีบใช้พลังดันตัวเองออกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับยิงกระสุนลมอย่าต่อเนื่อง

อลิซรีบยกขวานดับเพลิงกันกระสุนลมที่พุ่งเข้ามาได้ทุกนัด แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะใช้พลังของเธอในการทำให้ขวานเล่มนั้นล่องหนไป จึงทำให้ทางเจชัวร์นั้นเองก็ระวังตัวมากขึ้นหลังจากที่เธอตัดสินใจแบบนั้น

อลิซรีบพุ่งเข้าใส่เจชัวอย่างทันที หลังจากนั้นเธอก็โจมตีด้วยระยะของขวานที่มองไม่เห็นอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ถึงอย่างไงก็ตามเจชัวร์นั้นก็สามารถหลบได้ไม่ยากนัก และเขาก็โจมตีสวนเข้ามาด้วยคลื่นดาบแต่ทางอลิซนั้นก็สามารถเอาขวานนั้นรับการโจมตีได้ ดูเหมือนว่าขวานเล่มนั้นมันจะแข็งกว่าที่เขาคิดที่จะตัดให้มันขาดได้

อลิซทำท่าทางลากขวานวิ่งไปหาที่เจชัวร์อย่างรวดเร็ว แล้วกระหน่ำโจมตีอย่างเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าต่อให้เธอจะโจมตีไปเท่าไหร่ดูเหมือนว่าเขาจะยังสามารถหลบได้อย่างไม่ยากเย็น

เจชัวร์ก็พยายามโจมตีสวนกลับมาเรื่อยแต่ก็เหมือนกันอลิซสามารถใช้ขวานรับการโจมตีได้หมด การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการวัดพลังเรื่องเกี่ยวกับความอดทนในสถานการณ์ที่ว่าใครพลาดก่อนคนนั้นได้ตาย...

ในตอนนั้นเองเจชัวร์ก็โจมตรีสวนเข้ามาโดนเข้าที่ซี่โครงจนเกิดเป็นรอยแผลเปิดกว้าง เลือดออกมาเป็นบริเวณกว้าง เขาก็เริ่มรู้สึกตัวถึงความผิดปกติได้อย่างทันที อลิซนั้นปกติจะสามรถยกขวานเล่มนั้นขึ้นมากันได้ตลอดเวลา แต่ทำไมในครั้งนี้ถึงโดน ทันทีที่เห็นสีหน้าของอลิซยิ้มออกมาอย่ามีเล่ห์นัย

"นี่หลอกฉันมาโดยตลอดอย่างนั้นหรอ?" เจชัวร์มองขึ้นไปบนฟ้าก็พบกับขวานเล่มหนึ่งที่กำลังหมุนอยู่กลางอากาศและมันกำลังลงมาที่เขาอย่างรวดเร็ว เขารีบใช้พลังปัดวิถีของขวานนั้นออกจนพ้นได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งในตอนที่เขากำลังสนใจการโจมตีจากบนฟ้านั้นเอง อลิซก็ง้าง เรเปียร์อย่างสุดแรงและกำลังจะแทงมาที่หัวใจของเขา

...

...

ทุกอย่างก็หยุดนิ่ง เรเปียร์ที่กำลังจะแทงไปที่หัวใจของเจชัวร์นั้นปลายของมันได้หยุดอยู่ก่อนที่จะทิ่มเข้าด้วยซ้ำ ร่างกายของอลิซก็ขยับไปไหนไม่ได้เหมือนราวกับถูกอะไรบางอย่างจับไว้

"ไม่จริง!? นายทำอะไรลงไป?"

"คุณลืมไปแล้วอย่างนั้นหรอ? ผมก็เป็นหนึ่งในนัมเบอร์เหมือนกัน ถึงแม้จะอยู่ในร่างเดียวกันก็ตามไม่ใช่ว่าจะมีพลังแค่อย่างเดียวเสียหน่อย" เจชัวร์ทำการขยับนิ้วเพียงแค่นิ้วเดียวเท่านั้น เรเปียร์ที่กำลังจะทิ่มเข้าที่หัวใจของเขาก็หักลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่องรอยเหมือนถูกสิ่งของที่คมมากๆตัด "ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ก็เถอะว่าใครกันแน่ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ตั้งหลายครั้ง" แค่เจชัวร์ขยับมือยกขึ้นร่างกายของอลิซก็ค่อยๆลอยขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ "คุณนะไม่มีทางเอาชนะผมตั้งแต่แรกแล้ว เพราะว่าผมนั้นได้วางกับดักไว้ก่อนที่เราจะเริ่มสู้กันเสียอีก"

"อย....." อลิซพยายามจะอ้าปากพูดขึ้น แต่เจชัวร์ก็ใช้พลังของเขารัดที่ลิ้นและทำการตัดลิ้นของเธอทิ้ง เพื่อไม่ให้อลิซพูด

"ผมไม่อยากที่จะฟังคุณแล้ว เอาเป็นว่าผมมีวิธีดีๆที่จะเอาคุณไปใช้ต่อแล้ว" หลังจากพูดจบเจชัวร์ก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย "คุณไม่จำเป็นต้องเห็น ไม่จำเป็นต้องรู้สึกใดๆ เพียงแค่เต้นรำตามที่ผมกำกับก็เพียงพอ"

...

...

...

ในเวลาปัจจุบัน...

"ทำไมนายถึงรู้ว่าฉันเป็นนัมเบอร์คนสุดท้ายล่ะ อุส่าห์จะทำให้ตกใจเล่นสักหน่อย"

"........." จินไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมาเพียงแต่ทำสีหน้านิ่งเฉย

"จะไม่บอกจริงๆอย่างนั้นสินะ แต่ก็ช่างเถอะเพราะว่าคนที่รู้เรื่องนี้มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น"

"นี่ขอถามที่เถอะ...นายเป็นใคร? จะให้ฉันเรียกนายว่าอะไรดี?"

..

...

...ทางด้านของอูลที่ยังดูการแข่งขันอยู่ข้างนอกเช็นเตอร์ ตอนนี้พวกของเซร่าและจิลก็เริ่มกระวนกระวายกัน ทั้งสองต่างก็พากันอยู่ไม่สุข

"มันเกิดอะไรขึ้น!? หัวหน้าช่วยอธิบานมาทีได้ไหม? ว่าทำไมพวกเขาที่ร่วมมือกันอยู่ดีๆถึงต้องมาต่อสู้กันเองด้วย" เซร่าหันไปถามกับโลแกนพร้อมกับเขย่าตัวเขาอย่างแรง

"ใจเย็นก่อน...เรื่องนี้ฉันเองก็มารู้ได้ไม่นานนี้เอง"

"หมายความว่าไง?" อูลพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

"หนึ่งวันก่อนที่การคัดเลือกจะเริ่มขึ้น เขาได้ให้ฉันไปหาข้อมูลเกี่ยงกับเพื่อนของเขา พร้อมกับยื่นเมมโมรี่การ์ดมาให้กับฉัน เมื่อลองเปิดดูในนั้นก็มีชื่อเพื่อนของเขาในประวัติการรักษาโรคทางจิตเวทอยู่ด้วย ถ้าเอาไปผนวกรวมกับเรื่องที่มีตระกูลพรีสกับเจมินี่ที่มักจะอยู่ด้วยกันเสมอนั้นก็เข้าใจได้"

"ทำไมนายถึงเอามาบอกป่านนี้?"

"เพราะมันไม่จำเป็นต้องบอกไงล่ะ?"

"นายหมายความว่าไง? ถ้านายบอกก่อนที่การคัดเลือกจะเริ่มมันจะช่วยให้พวกฉันช่วยคิดแผนการรับมือได้ไม่ใช่หรือไง?"

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง" โลแกนพูดด้วยสรหน้าที่ดูมั่นใจ พร้อมกับหันไปมองที่เซร่า "เธอยังจำตอนที่เขาฝึกครั้งแรกได้ไหม? ตอนที่เธอบอกเองว่าตัวเขานั้นไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย"

เซร่าพยักหน้าตอบพร้อมกับกลืนน้ำลายเสียงดัง... "อึก!"

"ทำไมพลังของเขาแค่คนเดียวที่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนการใช้งาน"

อูลเลยพูดแย้งขึ้นอย่างทันที "ก่อนที่งานคัดเลือกจะเริ่มนายก็เคยบอกไว้นี่ว่าถ้าเกิดเร่งการใช้พลังเกินเส้นเลือดของเขาจะรับภาระไม่ไหวและค่อยๆปริแตกออก"

"ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เขาพยายามยับยั้งมันต่างหากมันเลยแตกออก เขาไม่เคยได้ใช้พลังของตัวเองอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาควบคุมขีดจำกัดของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เธอคิดว่าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"

ตอนนั้นเองเซร่าก็นึกออก "ตอนที่เขาพลั้งมือฆ่าคนเป็นครั้งแรก"

"ใช่เพราะว่าเขาไม่อยากจะทำแบบนั้นอีกแล้ว เขาเลยควบคุมตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้คุ้มคลั่ง นั่นแหละที่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพลังของเขาถึงมีข้อจำกัดแบบนั้น" โลแกนมองไปที่หน้าจอที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ "บางทีตอนนี้เราอาจจะได้เห้นเขาในสภาพที่สมบูรณ์อีกครั้งก็ได้ สภาพที่ใช้พลังได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์" โลแกนพูดและหันกลับมายิ้มกับพวกอูล

ทันใดนั้นจิลก็พูดสวนกลับไปว่า "หัวหน้ารู้ไหม? ว่าทำหน้าตาแบบนั้นมันดูโรคจิต"

"งั้นหรอ?"

อีกด้านหนึ่งดีลเลอร์ที่กำลังนั่งฟังพวกเหล่าผุ้มีอำนาจที่มาเข้าชมการคัดเลือกครั้งล่าสุดคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

-แบบนี้จะตัดสินอย่างไง?

"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ถ้าเกิดเขาชนะท่านก็จะได้รับราวัลตามปกติ" ดีลเลอร์พูดเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

-ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป

-อะไรกัน กะอีแค่ทองคำไม่กี่ออนซ์ ถึงเสียไปก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่

-เรื่องเสียมันอีกเรื่อง แต่การที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะท่ามกลางเหล่าผู้แพ้นี่มันรู้สึกสุดยอดไปเลยไม่ใช่หรือไง?

-ใจเย็นก่อนนะคุณลุง พอดีคนที่ผมลงเดิมพันไปนั้นก็ยังอยู่

-ไอ้ชายล่ำบึกคนนั้นอะนะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็ไม่สามารถต่อกรกับคนที่มีพลังถึงสองอย่างได้หรอก

"เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่นะครับ" ดีลเลอร์พูดขัดการสนทนา "เพราะว่าอะไรที่คาดไม่ถึงมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ"

-แกพูดเหมือนกับคนที่รู้เห็นทุกอย่างเลยนะกรรมการ

"ไม่ครับ....! เพราะผมเองนั้นก็ไม่รู้เรื่องราวข้างหน้าเหมือนกัน ฉะนั้นแล้วเชิญพวกท่านรับชมกันต่อจะดีกว่า"